บทที่ 215 เกาะนั้นใช่ไหม!!
“นี่คุณ!!...อะ...อ้าว” ฉันที่เตรียมจะแว้ดใส่คนด้านข้างเพราะคิดว่าเขายังนั่งอยู่บนรถคันนี้ แต่ทว่า...ฉันกลับต้องพบกับความว่างเปล่า เนื่องจากเขาได้เดินไปที่ริมทะเลตั้งแต่รถได้จอดเทียบหาดแล้ว
ฉันที่ได้เห็นดังนั้นก็รีบเตรียมเดินไปหาเขาด้วยใจที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง แต่ด้วยส้นสูงที่ใส่ไว้ก่อนหน้านี้ทำให้ฉันเดินได้ไม่ถนัดนักบนพื้นทราย จึงทำให้ฉันตัดสินใจทิ้งรองเท้าหรูเอาไว้บนรถเขาแทน จากนั้นก็รีบจ้ำเท้าก้าวเดิน เพื่อขอสวดเขาสักบทสองบทให้หนำใจ
“นี่ไอ้คุณมาคินทร์...เป็นหมอประสาอะไรเนี้ย ขับรถแบบนี้กลัวแก่ตายหรือไงห๊ะ!!” ฉันระเบิดอารมณ์ที่กำลังเดือนปุด ๆ ใส่เขา พร้อมกับจ้องไปยังใบหน้าหล่อใสที่ตอนนี้กำลังเหม่อมองออกไปยังท้องทะเลที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา โดยไม่มีท่าทีสะทกสะท้านต่อคำต่อว่าของฉันเลย
“เกาะนั้นใช่ไหม...” จู่ ๆ เขาก็เอ่ยถามฉันขึ้นมา โดยที่เขาก็ยังไม่ได้ตอบคำถามของฉันเช่นเคย
“เอ๊ะ!!...” ฉันถึงกับงงในสิ่งที่เขาพูด พร้อมกับมองตามสายตาของเขาออกไป
และเมื่อได้มองตามสายตาของเขาไปแล้ว ตัวฉันเองก็ถึงกับบางอ้อในทันที ก็ว่าทำไมฉันถึงรู้สึกว่าที่นี่มันดูคุ้น ๆ แต่เพราะความกลัวจากการนั่งรถด้วยความเร็วสูงท้านรกมา บวกกับอารมณ์โมโหที่เกิดขึ้น ทำให้ฉันไม่ทันได้สังเกตเลยว่า...
...ที่นี่คือชายฝั่งที่ใช้สำหรับขึ้นเรือเพื่อไปยังเกาะส่วนตัวของตระกูลธิพัฒน์เดชะไพศาล...
“อืมมม...” ฉันที่แม้จะไม่สบอารมณ์เพราะยังขุ่นเคืองเขาอยู่ แต่ก็ยอมตอบเขาไปแต่โดยดี
สิ้นคำตอบของฉัน จู่ ๆ เขาก็ทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นทรายพร้อมกับชันเข่าแล้วเอาใบหน้าขาวใสซุกซบลงไปทันที
ฉันได้แต่ยืนอึ้งกิมกี่ทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรจะทำตัวอย่างไรดี ก่อนที่สุดท้ายจะตัดสินใจหย่อนตัวลงนั่งด้านข้างตามเขา แล้วค่อย ๆ เอื้อมมือบางออกไปแตะไหล่ที่สั่นเทาของเขาเบา ๆ เพื่อปลอบโยน...
ในวันนั้นเราทั้งสองคนต่างนั่งอยู่ข้าง ๆ กันจวบจนถึงเช้า เพราะต่างคนต่างก็รู้ดีว่าความรู้สึกที่รักเขาแต่เขาไม่รักตอบมันเป็นอย่างไร
...และหลังจากวันนั้น...
จู่ ๆ ฉันก็เริ่มรู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไป เขาเริ่มที่จะติดต่อฉันบ่อยขึ้น เริ่มมาหาฉันบ่อยขึ้น และถ้าหากว่าฉันไม่คิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไป ฉันรู้สึกว่าเขากำลังจีบฉันอยู่
จากภาพเหตุการณ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นในห้วงเวลานั้นพอได้ฉายวนซ้ำเข้ามาเพื่อตอกย้ำความรู้สึกของฉัน มันก็ทำให้ความรู้สึกข้างในหัวใจเริ่มที่จะเปลี่ยนไป นั่นก็เพราะว่าไม่ใช่แค่เขาที่รู้สึกแบบนั้นกับฉัน แต่ว่าฉันเองก็เริ่มที่จะรู้สึกหลาย ๆ อย่างแบบเขา
ฉันที่เริ่มคิดถึงเขามากขึ้น อยากเจอเขามากขึ้น เฝ้ารอโทรศัพท์จากเขา น่าแปลกที่เวลาเพียงสั้น ๆ ก็ทำให้เกิดความรู้สึกได้มากมายขนาดนี้
และสุดท้ายสิ่งที่ฉันเริ่มจะรู้สึกนั่นก็คือ...ฉันเริ่มที่จะ...
เหตุการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้นกับฉันในหลายวันที่ผ่านมา มันทำให้ฉันถึงกับต้องตัดสินใจที่จะมาเจอกับเอลิซผู้หญิงที่เป็นรักแรกของเขา และเธอยังเป็นเพื่อนใหม่ของฉันอีกด้วย แบบนี้ก็ลงล็อก เพราะนอกจากฉันจะได้ปรึกษาเรื่องความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับเธอแล้ว ฉันอาจจะได้ความมั่นใจเรื่องที่ว่าเธอเองก็ไม่ได้คิดอะไรกับเขาเพิ่มขึ้นอีกด้วย
เนื่องจากฉันที่แทบจะไม่มีเพื่อนผู้หญิงคนอื่นเลยโดยเฉพาะในประเทศที่ไม่ใช่บ้านเกิดของฉันแบบนี้ มันจึงทำให้ฉันนึกถึงแต่เธอที่น่าจะพอให้คำปรึกษาถึงสถานการณ์ที่ฉันเจอ ณ เวลานี้ได้
และฉันก็ต้องการที่ปรึกษาเรื่องความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในหัวใจของฉันโดยด่วน...
(อร๊ายยย >///< ไม่นะๆๆๆ เลิกคิดถึงเขาได้แล้วนะไอ้เรน่า ก็แค่เขามาป้วนเปี้ยนด้วยบ่อย ๆ เธอจะมานั่งคิดถึงแต่เขาไม่ได้นะ ^///^) ฉันสบถกับตัวเองในใจ ยามที่ใบหน้าตี๋กวนโอ๊ยโผล่ขึ้นมาในห้วงความคิดจนให้ใบหน้าสวยเห่อร้อน
ความรู้สึกว้าวุ่นในหัวใจมันทำให้ฉันมายืนอยู่ ณ ที่แห่งนี้....
ฉันมาถึงหน้าคอนโดหรูอันเป็นที่อยู่ของเพื่อนสาวที่ฉันตั้งใจจะมาหา เพราะอยากจะมาปรึกษาถึงคนที่เพิ่งจะขับรถมาส่งฉันเมื่อสักครู่นี้ หัวใจที่เต้นตึก ๆ ตัก ๆ หลังจากที่เขาเพิ่งได้เคลื่อนรถออกไปได้ไม่นาน แม้มันจะเป็นสัญญาณได้ดีว่าฉันรู้สึกกับเขาแบบไหน แต่ทว่า...ถึงยังไงเวลานี้ฉันก็อยากจะได้ที่ปรึกษาอยู่ดี
หลังจากที่ฉันมองรถหรูของคนที่ทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงขับจากไปจนลับตา ก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่สายตาของฉันได้หันไปเห็นร่างหญิงสาวที่คุ้นเคยที่ฉันกำลังอยากเจอพอดี...
“อะ...เอ...ลิซ” ฉันที่กำลังจะเอ่ยปากเปล่งเสียงเรียกเธอคนนั้น พร้อมกับพยายามโบกไม้โบกมือเป็นสัญญาณให้เธอได้เห็น
ภาพตรงหน้าถึงกับทำให้ฉันต้องหยุดชะงักการกระทำลงทันที...
เมื่อฉันได้เห็นถึงความผิดปกติบางอย่างที่เกิดขึ้น จนทำให้คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันเป็นปม...
ภาพเบื้องหน้าเป็นภาพของหญิงสาวที่คุ้นตาที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนใหม่ของฉัน กำลังถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ฉุดกระชากลากถูให้ขึ้นรถตู้ปิดฟิล์มทึบไปกับพวกเขา
ฉันเบิกตากว้างตกใจทำอะไรไม่ถูก ก่อนที่ตัวเองจะรีบตั้งสติแล้วหาโทรศัพท์เพื่อโทรหาอดีตรักแรกของฉันทันที
“ทำไมไม่รับสายนะเซฟ รับสายซิ...รับสาย” เสียงสัญญาณโทรศัพท์ที่ตอบกลับมาบ่งบอกว่าไม่มีคนรับสาย และสิ่งนั้นมันกลับยิ่งทำให้ฉันร้อนรนทำอะไรไม่ถูก นั่นก็เพราะเหตุการณ์ตรงหน้าที่ฉันเห็นนั้นดูจะบีบคั้นหัวใจเสียเหลือเกิน
แต่แล้วสถานการณ์ข้างหน้ากลับยิ่งเลวร้ายมากยิ่งขึ้น เมื่อภาพที่เห็นเอลิซเพื่อนของฉันเธอกำลังถูกทำให้สลบ และนั่นยิ่งทำให้ฉันสติแตก...
‘ไม่นะไม่ ทำยังไงดีว่ะเรน่า คิดซิคิด’ ฉันที่เดินวนเป็นหนูติดจั่นทำอะไรไม่ถูก เพราะนอกจากเซฟจะไม่รับโทรศัพท์ฉันด้วยแล้ว เอลิซก็ดูท่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายสุดขีด
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหันตรงหน้า ทำให้ฉันที่ยืนอยู่ตรงนั้นตัดสินใจไม่รอช้าสั่งการให้ขาเรียวสาวเท้าก้าวเดินไปข้างหน้าเพื่อช่วยเหลือเธอที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนของฉันทันที
“ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้นะ...” ฉันตวาดลั่น พร้อมกับเขาไปยื้อยุดฉุดแขนเอลิซที่กำลังไม่ได้สติให้เขามาหาตัวเอง
และการกระทำที่บ้าบิ่นของฉัน มันก็ทำให้ฉันไม่ทันระวังตัว...
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 10
แสดงความคิดเห็น