Element King (My Hero Academia-Realm of Tales AU) บทที่ 11 วีรกรรมวันสอบเข้า และอื่น ๆ

Element King (My Hero Academia-Realm of Tales AU)

-A A +A

Element King (My Hero Academia-Realm of Tales AU) บทที่ 11 วีรกรรมวันสอบเข้า และอื่น ๆ

หมวดหนังสือ: 

            “ในที่สุด พวกเราก็มาถึงซะที” อีธานพูด “นี่แหละ คือโรงเรียนที่พวกเราจะไป เพื่อที่จะเป็นให้ได้เหมือนพ่อของฉันให้ได้”

            “เอาล่ะ” เฮนรี่บอก “ถ้าอย่างนั้น เราจะทำยังไงดีน้า”

            “เข้าไปเลยดีกว่า” ชิกะอิจิตอบ “เนอะ มิโดริยะ”

            “ช..ใช่” อิซึคุตอบ

            “ถอยไปซะเดกุ!” คัตซึกิสั่งจากข้างหลังทั้งห้า “ขวางทางฉันอยู่ได้ เดี๋ยวปั๊ดตบกลิ้งซะเลย”

            “คัตจัง! อรุณสวัสดิ์ ไว้เรามาพยายามด้วยกันนะ...” อิซึคุพยายามจะทักทายแต่คัตซึกิไม่สนใจและเดินผ่านอิซึคุไปเฉย ๆ

            “เขาไปแล้วล่ะ” เฮนรี่ตอบ

            “โอเค งั้นเดินไปกันเถอะ” อีธานพูดแล้วเดินนำไปทันที

            แต่จังหวะนั้นอิซึคุสะดุดขาตัวเองจะล้มแล้ว แต่กลับไม่หน้าทิ่มพื้นเพราะมีเด็กหญิงคนหนึ่งช่วยไว้ เขาจึงลอยกลางอากาศ

            “ใครน่ะ?” อีธานถาม

            “สวัสดีจ้ะ” เด็กหญิงอายุเท่าทั้งห้าคนตอบ และพยุงอิซึคุให้กลับมายืนได้ “อัตลักษณ์ของฉันเองแหละ โทษทีนะที่มายุ่ง แต่ถ้าเกิดสะดุดล้มไปก็ดูไม่ดีใช่ไหม ตื่นเต้นจังเลยนะ”

            อิซึคุที่ได้เห็นเด็กหญิงคนนั้นก็ทำอะไรไม่ถูกล่ะครับ เขินไงครับเขิน

            “มาพยายามไปด้วยกันนะ ไปล่ะ” เด็กหญิงอวยพรก่อนจะเดินเข้าไปในอาคาร

            ห้องเสวนาของอาจารย์ฮิซาชิ

            “สวัสดีผู้เข้าสอบทุกคน” อาจารย์ฮิซาชิประกาศ “ยินดีต้อนรับสู่ไลฟ์ของฉัน EVERYBODY SAY HAY!!!

            กริบ... ไม่มีเด็กคนไหนตามน้ำเลย (เล่นใหญ่เกินไปหรือเปล่าอาจารย์ฮิซาชิ!!)

            “ใจดำชะมัด” อาจารย์ฮิซาชิพูด “ถ้างั้นฉันจะแนะนำแนวทางการสอบให้ผู้เข้าสอบได้รับทราบแล้วกัน ARE YOU READY? YEAH!!!

            กริบอีกแล้ว ผมบอกแล้วไงว่าอย่าเล่นใหญ่เกินไป!!

            “เอาคนใบ้มาสอบกันเหรอ?” อาจารย์ฮิซาชิคิดในใจ

            “ดูเหมือนว่าอาจารย์แกเล่นใหญ่จนไม่มีใครตามน้ำเลยนะเนี่ย” อีธานพูด

            “นั่นสิ” เฮนรี่บอก

            “ตามที่แจ้งไว้ในเอกสารการสอบเข้า” อาจารย์ฮิซาชิพูด “ทางเราจะให้ทุกคนต่อสู้กันในเมืองจำลองเป็นเวลาสิบนาที จะเอาอะไรไปก็ได้ หลังจากจบการอธิบายก็นำใบสอบไปยังสนามสอบที่กำหนดไว้ในใบสอบของตัวเอง โอเค?”

            “สอบที่เดียวกันซะด้วย” อีธานว่า

            “ใช่” เฮนรี่บอก “พวกเราอยู่สนามสอบซีเหมือนกันเลย”

            “ในสนามสอบจะมีหุ่นวิลเลินจำลองสามประเภทที่คอยขัดขวางผู้เข้าสอบไว้ โดยจะนับคะแนนสอบตามจำนวนวิลเลินที่ผู้เข้าสอบได้ทำลายไป ใช้อัตลักษณ์ของผู้เข้าสอบทำให้หุ่นจำลองไม่สามารถสู้ต่อได้ รวบรวมคะแนนที่กำหนดเอาไว้ก็จะสอบผ่าน” อาจารย์ฮิซาชิอธิบาย “และแน่นอนการทำตัวเป็นแอนตี้ฮีโร่หรือทำร้ายคนอื่นถูกสั่งห้ามเด็ดขาด”

            “ขอถามหน่อยนะครับ” หนุ่มแว่นที่อายุแก่กว่าอีธานหนึ่งปียกมือถามขึ้น “ในใบแจ้งมีหุ่นวิลเลินอยู่สี่ประเภท ถ้ามันผิดพลาดถือเป็นความเสียหายให้กับยูเอที่เป็นหนึ่งในของญี่ปุ่น พวกเราผู้เข้าสอบต้องการจะได้รับการชี้นำผู้สั่งสอนที่ถูกต้องจากเหล่าฮีโร่ที่อยู่ที่นี่ แล้วก็นายคนนั้นที่หัวฟู ๆ สีเขียวน่ะ” เขาชี้ไปที่อิซึคุ ทำให้อีธานหันมามองอิซึคุด้วย “เอาแต่พึมพำ ๆ อะไรอยู่ได้ น่ารำคาญ ถ้าจะมาเที่ยวเฉย ๆ ล่ะก็ ออกจากการสอบนี่ไปซะ!”

            “โอเค ๆ” อาจารย์ฮิซาชิตอบ “ขอบใจที่ช่วยเตือนความจำนะ หุ่นตัวที่สี่มีศูนย์คะแนน ว่าง่าย ๆ คือมดปลวก หน้าที่ของมันคืออาละวาดไปทั่วสนามสอบเท่านั้น จะทำลายทิ้งก็ได้แต่ไม่ได้ช่วยเพิ่มแต้มให้เธอ งั้นขอแนะนำว่าให้เลี่ยงเท่าที่จะทำได้แล้วกัน”

            “ขอบคุณมากครับแล้วก็ขออภัยด้วยจริง ๆ” หนุ่มแว่นบอกแล้วนั่งลงไป

            “มันก็เป็นอะไรประมาณนี้ล่ะนะ” อาจารย์ฮิซาชิพูด “สุดท้ายนี้จะขอฝากคติประจำโรงเรียนเอาไว้ให้แล้วกัน ซึ่งวีรบุรุษในอดีต นโปเลียน โบนาปาร์ตเคยกล่าวเอาไว้ว่า วีรบุรุษที่แท้จริง แม้โชคชะตาจะเลวร้าย แต่จะต้องก้าวข้ามไปสู่อีกฟากของขีดจำกัดให้ได้ พลัสอัลตร้า!!! ขอให้โชคดีนะจ๊ะ”

            อีธาน เฮนรี่ ชิกะอิจิ และเอลซ่า อยู่ที่สนามสอบซี และเข้าไปต่อสู้กับหุ่นยนต์สี่ชนิดตามที่อาจารย์ฮิซาชิบอกไว้ และแน่นอน เมื่อฝูงหุ่นยนต์วิลเลินพร้อมจะรุมกินโต๊ะชิกะอิจิ เฮนรี่ อีธาน และเอลซ่า พวกเขาก็ต้องทำงานกันเป็นทีม โดยชิกะอิจิเสกกำแพงออบซิเดียนมาเป็นกำบังป้องกันหุ่นยนต์ จากนั้นก็ใช้คำสั่งเชนจ์อินเวนทอรี่เพื่อเสกหน้าไม้ ใช้คำสั่งเอ็นชานท์เพื่อเอ็นชานท์หน้าไม้ให้มีควิกชาร์จระดับ 3 และมัลติช็อตระดับ 1 และเสกจรวดพลุดอกไม้ไฟเพื่อบรรจุเป็นกระสุนแล้วยิงใส่หุ่นยนต์ให้หมด ส่วนที่เหลือนั้นก็มีวิธีรับมือเป็นของตัวเอง ดังนี้

            เฮนรี่ชักดาบแห่งธาตุขึ้นมา แล้วบัฟพลังตัวเองในการใช้วิญญาณดินเพื่อเอาหินถล่มหุ่นยนต์ทุกตัว ส่วนเอลซ่านั้นเปลี่ยนแขนทั้งสองข้างของเธอให้เป็นปืนใหญ่แล้วยิงเข้าไปที่หุ่นยนต์ทุกตัวที่มารุมทึ้งเธอ และแน่นอนลูกชายผมอย่างอีธานมีทีเด็ดกว่านั้น ด้วยความที่เขามีเจ็ดอัตลักษณ์ ดังนั้น เขามีสิทธิ์ที่จะใช้พลังทั้งหมดที่เขามีได้ แต่ตอนนี้เขาขอใช้อัตลักษณ์ที่ได้จากพ่อของเขาก่อน นั่นคือมายากลไพ่ ที่เขาจั่วสารพัดไพ่ออกมาเพื่อล้มหุ่นยนต์ทุกตัวจนกว่าจะหมดรอบ

            ที่ห้องสังเกตการณ์ของเหล่าอาจารย์

            “ในการสอบครั้งนี้ไม่มีการบอกที่ตั้งและจำนวนของวิลเลินที่แน่นอน เพราะมีเวลาจำกัดแถมยังมีอาณาเขตที่กว้าง นักเรียนก็จะได้โชว์ทีเด็ดกันตอนนี้แหละ” อาจารย์ใหญ่พูด “ทั้งการอาศัยทักษะในการรวบรวมข้อมูลก่อนใครเพื่อน การเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วเพื่อให้เหมาะกับสถานการณ์ ไม่ว่าจะเจอภัยอันตรายแบบไหนก็ยังสุขุมเยือกเย็น แล้วก็พลังในการต่อสู้แบบเพียว ๆ ทักษะพื้นฐานแบบนี้จำเป็นต่อการปกป้องความสงบสุขและนำมาประยุกต์เพื่อเก็บคะแนนสอบ”

            “ปีนี้ดูเหมือนจะมีตัวเต็งหลายคนแฮะ” อลันพูด

            “แหม ยังฟันธงไม่ได้หรอก การจะเห็นพลังที่แท้จริงน่ะคือจากนี้ไปต่างหาก” โทชิโนริบอก แล้วจากนั้นก็กดปุ่มเพื่อเสกหุ่นยนต์ศูนย์คะแนน

            สำหรับเจ้าหุ่นยนต์ศูนย์คะแนน แม้จะปราบง่ายแต่ตัวมันใหญ่เอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะ ดังนั้น ทั้งสี่คนที่อยู่ในสนามสอบซีจึงต้องใช้วิธีตัดกำลังไม่ให้มันเสียหายไปมากกว่านี้ และหาวิธีที่จะหลีกเลี่ยงให้ได้ แต่ทันใดนั้นทุกอย่างก็ชะงักลงเมื่อเกิดเสียงระเบิดตูมดังลั่นจากสนามบี และทั้งสี่ก็ได้เห็นอิซึคุใช้วันฟอร์ออลกระโดดขึ้นไปต่อยหุ่นยนต์ศูนย์คะแนนจนพังทลาย

            “ม...มิโดริยะ!!” อีธานอุทาน “แม่เจ้าโว้ย! ต่อยแรงขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย!!”

            นั่นแหละมันสร้างความตกตะลึงให้กับทุกคนโดยรอบ ทั้งในและนอกสนามสอบ แม้แต่ผมกับอลันที่อุตส่าห์ดูลูกตัวเองเข้าร่วมกับสอบเข้าโรงเรียนในห้องสังเกตการณ์เหมือนกับอาจารย์คนอื่น ๆ ก็ยังต้องหันไปมองดูอิซึคุที่กระโดดเข้าไปชกหุ่นยนต์เป็นชิ้น ๆ ไม่เหลือซากเลย

            “ใช่แล้ว นี่แหละคือการเติบโตอย่างสง่างาม คุณสมบัติที่ฮีโร่ต้องมี นั่นก็คือจิตวิญญาณแห่งการเสียสละ” โทชิโนริพูดในห้องสังเกตการณ์

            หนึ่งนาทีสุดท้าย อิซึคุค่อย ๆ ร่วงลงมา ถ้าเขามีวันฟอร์ออลเพียว ๆ ละก็ แขนขาที่เขาชาร์จมาคงจะหักและใช้การไม่ได้แน่ ๆ เลย แต่กลับมีพลังอื่น ๆ ที่เขามีอยู่ที่ชดเชยอาการบาดเจ็บให้แขนยังคงสามารถใช้การได้ประมาณแปดสิบเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ต่อให้แขนจะเสียหายยังไงก็ยังคงใช้การได้อยู่ แม้มันจะไม่สมบูรณ์เหมือนตอนปกติก็ตาม

            “เออใช่ เราได้พลังจากทั้งออลไมท์และก็เอเลเมนท์คิงรัชกาลแรกนี่นา” อิซึคุคิดในใจ “ถ้าเราใช้เอเลเมนท์คิงลงจอดล่ะก็ เราก็จะสยายปีกออกมาล่ะนะ ว่าแต่ จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย กางปีก กางปีก!”

            แต่ปีกแห่งธาตุยังไม่ทันจะกางออกมาจากหลังของอิซึคุเพื่อทำการลงจอดเลย แต่เด็กหญิงที่ถูกช่วยกลับตบหน้าเขาซะก่อนเพื่อใช้พลังของเธอให้เขาลงได้นุ่มนวล แต่ก็ต้องแลกมากับการที่เธอเมา เวียนหัว และอาเจียนลง

            แน่นอนพออิซึคุลุกขึ้นมาได้ (ก็มีโซเซกันบ้างแหละ)

            “เธอคนนั้นปลอดภัยเหรอ? ไม่ได้บาดเจ็บงั้นสินะ ดีจังเลย” อิซึคุคิดในใจ แล้วรีบเดินเข้าไปหาเด็กหญิง “ยังไงก็...ขอบคุณนะ! ขอแค่คะแนนเดียวก็ยังดี!”

            ทว่า...

            “เวลา หมดแล้วจ้า!!!” อาจารย์ฮิซาชิประกาศ

            ทุกอย่างหยุดชะงักและจบลงในทันที อิซึคุที่หมดหวังก็ทรุดลงกับพื้น และคนในสนามสอบบีก็ได้เข้ามามุงดูอิซึคุและวิจารณ์ถึงวีรกรรมครั้งนี้ ที่พุ่งเข้าใส่ตัวศูนย์คะแนนด้วยอัตลักษณ์เพิ่มพลังที่โหดเอาเรื่อง ตรงข้ามกับบุคลิกที่กระจอกงอกง่อย ราวกับว่าเขาทำตัวเสียของว่างั้นเถอะ

            แต่กลับมีคนหนึ่งที่รู้ถึงเบื้องหลังวีรกรรมครั้งนั้น นั่นก็คือหนุ่มแว่นเจ้าระเบียบคนนั้น ที่เคยวิจารณ์อิซึคุมาตลอด แต่พอเห็นว่าอิซึคุได้ช่วยชีวิตเด็กหญิงคนนั้นเอาไว้ เขาก็เข้าใจทุกอย่าง

            ไม่นาน คุณชูเซ็นจิ ชิโยะ (ชื่อฮีโร่ รีคัฟเวอรี่เกิร์ล) ก็มาเพื่อช่วยรักษาอิซึคุให้เป็นปกติ เพราะแค่เอเลเมนท์คิงอย่างเดียวมันรักษาร่างกายได้ไม่หายขาดหรอก ต้องมีการรักษาภายนอกด้วย แต่วิธีรักษาคือการจุมพิตผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่วิธีเท่านั้นที่เธอจะรักษาให้หายขาดได้

            ส่วนอีธาน เฮนรี่ ชิกะอิจิ และเอลซ่า ที่หลังจากตกตะลึงกับวีรกรรมใหม่ของอิซึคุ พวกเขาก็เตรียมตัวเพื่อที่จะสอบรอบเขียน และพอผ่านสอบรอบเขียนผ่านไป ก็รอฟังผลสอบว่าจะได้เข้าไปในยูเอด้วยหรือเปล่า

            ในที่สุด โทชิโนริ ก็เป็นผู้ประกาศผลสอบของเด็กแต่ละคน โดยทั้งสี่ที่ผมกล่าวไปนั้นก็ผ่านทั้งรอบปฏิบัติและรอบเขียน และก็เตรียมพร้อมที่จะเข้าไปในยูเอได้ ซึ่งทั้งผมกับอลันก็ยินดีมากที่เฮนรี่กับอีธานสอบผ่าน ทุกอย่างที่ผ่านมาถือว่าไปได้สวยสำหรับว่าที่ราชาแห่งธาตุรัชกาลที่ 162 อย่างเฮนรี่

            แต่กับอิซึคุ เกือบจะสอบตกซะแล้วสิ แม้รอบเขียนจะทำได้ดี แต่รอบปฏิบัติ หุ่นที่อิซึคุต่อยมีแค่ตัวเดียวคือหุ่นศูนย์คะแนนเพื่อปกป้องเด็กหญิงที่เคยช่วยเขา แต่ยังไงก็ตาม โทชิโนริได้เล่าให้อิซึคุฟังว่า เด็กหญิงที่เขาช่วยนั้นได้ขอให้อาจารย์ฮิซาชิในการแบ่งปันคะแนนไปให้อิซึคุเพราะวีรกรรมปกป้องคน แม้จะไม่มีคะแนนจากการปราบศัตรู แต่คะแนนจากการช่วยเหลือที่โดดเด่นกว่าใครเพื่อน ทำให้อิซึคุสอบผ่านแบบฉิวเฉียดเลย

            “หลังจากที่ได้อัตลักษณ์ไปแล้ว การกระทำของเธอก็ได้ขับเคลื่อนผู้คน” โทชิโนริพูด “การสอบเข้าเมื่อสัปดาห์ก่อนไม่ได้นับคะแนนแค่การปราบวิลเลินอย่างเดียวหรอกนะ แผนกฮีโร่ที่ปฏิเสธเพราะแค่ทำเรื่องที่ถูกทำนองคลองธรรมน่ะ มันไม่มีอยู่ได้หรอกจริงไหม ใครจะว่าโลกสวยก็ช่างมันเถอะ เพราะหน้าที่ของฮีโร่คือการเสี่ยงชีวิตเพื่อทำให้สิ่งที่ฝันกลายเป็นจริง

            “คะแนนการช่วยเหลือ เป็นแบบตัดสินโดยกรรมการ นั่นคือทักษะที่ยูเอคอยเฝ้าหา เธอสอบผ่านแล้วนะ หนุ่มน้อยมิโดริยะ มาสิ ที่นี่คือฮีโร่อะคาเดเมียของเธอ”

            “ครับ” อิซึคุตอบและซาบซึ้งในผลสอบของเขา

 

            ในระหว่างรอเปิดเทอม คืนนั้น อิซึคุนัดมาพบกับโทชิโนริอีกครั้งที่ชายหาดที่ได้ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว แค่เจอกันครั้งนั้นก็เกือบโป๊ะแตกซะแล้ว...

            “ออลไมท์!!!” อิซึคุตะโกนที่ได้เห็นโทชิโนริ

            “ใครกันล่ะนั่น!” โทชิโนริร้อง

            “ออลไมท์เหรอ? อยู่ไหนเนี่ย!” คนที่หูดีจากที่ไกล ๆ ถามและพยายามหันมาหาโทชิโนริ ดังนั้น

            “รีพีตอาฟเตอร์มี : อ๊าก! ตาฝาดไปซะได้!” โทชิโนริบอกหนุ่มผมเขียว

            “อ๊ากกก! ตาฝาดไปซะได้!” อิซึคุร้องตาม

            “อะไรกันเนี่ย ตาฝาดเองเหรอเนี่ย” พวกหูดีบอก โล่งไปทีนะ

            “ยินดีด้วยนะที่สอบผ่าน” โทชิโนริพูด “แต่ฉันขอบอกไว้ก่อนว่า ฉันไม่ได้เล่าเรื่องการฝึกของเธอให้ทางโรงเรียนได้รู้เลย เพราะว่าเธอชอบคิดว่าการทำแบบนั้นมันก็ถือว่าโกงนี่ ก็เลยไม่ได้พูดอะไรออกไป”

            “ขอบคุณมากนะครับที่เป็นห่วง” อิซึคุพูด “แต่ว่ามันก็เซอร์ไพรส์มากนะครับที่คุณได้เป็นอาจารย์ที่ยูเอ ก็เลยมาที่เมืองนี้สินะครับ ก็แหม ที่ทำงานของออลไมท์น่ะอยู่ที่ย่านโระโคงิ เขตมิโกโตะ กรุงโตเกียว...”

            “พอได้แล้ว!” โทชิโนริห้าม “มันก็ไม่แน่หรอกจนกว่าทางโรงเรียนจะประกาศเองนั่นแหละ ระหว่างที่ฉันกำลังหาผู้สืบทอดอยู่เนี่ย ก็บังเอิญมีงานมอบหมายมาจากทางยูเอเท่านั้นเอง”

            “วันฟอร์ออล” อิซึคุพูด “แค่ต่อยเตะทีเดียวก็ทำเอาร้าวไปทั้งตัวแล้วล่ะครับ ผมควบคุมมันเอาไว้ไม่อยู่ ถ้าไม่ได้พลังอื่นชดเชยการสะท้อนของอัตลักษณ์นี่ ผมคงไม่ไหวแน่”

            “มันก็ช่วยไม่ได้หรอกนะ” โทชิโนริพูด “ที่จู่ ๆ ก็บอกให้คนที่เพิ่งจะงอกหางออกมาใช้หางตัวเองวาดรูป ก็คงจะทำอะไรไม่ได้แม้แต่จะงอหางด้วยซ้ำ”

            “เอ๋?” อิซึคุถาม “แสดงว่าคุณรู้อยู่แล้วเหรอครับว่าจะเป็นแบบนั้น?”

            “ก็ไม่มีเวลาอธิบาย” โทชิโนริตอบ “แต่ถ้าทุกอย่างออลไรต์ ลงท้ายก็ออลไมท์นั่นแหละ ถึงตอนนี้จะยังครึ่ง ๆ กลาง ๆ แต่ถ้าเกิดว่าปรับจูนจนร่างกายคุ้นชินกับพลังแล้ว เธอก็จะสามารถควบคุมมันได้ในที่สุด

            “ถ้าภาชนะที่รองรับนั้นทนทานมากพอ ก็จะยิ่งควบคุมพลังได้ดีมากขึ้น แบบนี้ยังไงล่ะ” โทชิโนริอธิบาย จากนั้นก็บีบกระป๋องสเปรย์ด้วยร่างกล้ามให้อิซึคุดู

            “นั่นมันออลไมท์จริง ๆ ด้วย!!” พวกตาดีจากระยะไกลดันเห็น ดังนั้น โทชิโนริจึงต้องพาอิซึคุออกไปจากที่อื่นก่อน

            พอพ้นสายตาคนแล้ว...

            “เคล็ดลับในการควบคุมก็คือ...” โทชิโนริพูด “ใช้ฟิลลิ่งยังไงล่ะ!!!

            “ว้าว!! สมแล้วที่เป็นออลไมท์!” อิซึคุร้อง

            “เธอสามารถดึงพลังออกมาได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มแล้ว” โทชิโนริพูดและลงฮุกลมให้อิซึคุดู

            “แต่ว่ามันทำให้ร่างกายสาหัสมากนะครับ” อิซึคุว่า

            “นี่ยิ่งดีใหญ่เลย” โทชิโนริตอบ “เธอน่าจะจำความรู้สึกนั้นได้นะ มันเป็นยังไงบ้าง”

            “เหมือนจะ ปี๊ป! หรืออาจจะ ปู๊ป! หรืออาจจะราว ๆ...” อิซึคุตอบ “อ๋อ! รู้แล้ว! เหมือนเอาไข่ไปใส่ในเตาไมโครเวฟ”

            “อ้า!! ง่าย ๆ แต่ได้ใจ!” โทชิโนริร้องและกระอักเลือดออกมา “ถ้านี่คือภาพในหัวของเธอ ก็ลองลดอุณหภูมิหรือร่นเวลาลงก็ได้ นึกถึงภาพอะไรก็ได้ที่จะไม่ทำให้ไข่มันแตกก็พอแล้ว เหลืออีกสามสัปดาห์ก่อนเปิดเทอม พยายามนึกถึงภาพในหัวของเธอเอาไว้ให้ได้ แค่ข้ามวันข้ามคืนอาจจะช่วยอะไรไม่ได้ แต่สักวันหนึ่งเธอจะต้องทำได้แน่ ๆ”

 

            แต่ว่าพอถึงสัปดาห์ครึ่งก่อนเปิดเทอม มันก็มีเรื่องน่าประหลาดใจอีกอย่างที่พวกเราไม่เคยเจอมาก่อน ไม่มีใครรู้มาก่อนเลยว่าจะมีมิติหรือจักรวาลอื่นอยู่ด้วย เพราะในที่สุด พวกเราก็ได้มาพบกับเด็กหนุ่มที่ออกมาจากประตูมิติซึ่งกำลังสู้กับวิลเลินตัวหนึ่งอยู่ ซึ่งเขาเป็นหนุ่มผมดำที่สวมชุดฮีโร่สีน้ำเงิน รองเท้าบู๊ตสีเหลือง นอนสลบอยู่กับอีกคนที่เป็นวิลเลินหัวกระทิง แต่นั่นก็ไม่สำคัญเพราะยังไงมันก็ต้องลงเอยด้วยการถูกจับเข้าคุกอยู่ดี

            ส่วนหนุ่มที่สู้กับวิลเลินจนหมดสติ ก็ไปถูกหามส่งโรงพยาบาล และคนที่มาเยี่ยมเขาก็คือ ผม อีธาน อลัน เฮนรี่ โทชิโนริ อิซึคุ และชิกะอิจินั่นแหละ พอหนุ่มคนนั้นตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในโรงพยาบาล และพอเจอกับโทชิโนริเท่านั้นแหละเขาก็ปล่อยโฮออกมาราวกับว่าไม่คิดว่าจะได้เจอกับโทชิโนริอีกครั้ง

            และในที่สุด พวกเราก็ได้รู้ว่าหนุ่มคนนี้ชื่อว่า จอห์น ลาร์สัน (ชื่อฮีโร่ เจ-จัสติซ) เป็นนักเรียนยูเอที่มาจากมิติอื่น และไม่คุ้นเคยกับโลกของพวกเรามาก่อน ดังนั้น จอห์นจึงต้องทำความรู้จักกับคนอื่น ๆ ที่มากับโทชิโนริด้วยให้ได้เสียก่อน และจากนั้น ผมก็ได้มาคุยกับจอห์นเป็นการส่วนตัวว่าโลกที่เขาจากมานั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง และนี่คือบทสนทนา

            “เอาล่ะ ลาร์สันซัง” ผมบอกจอห์น “ฉันขอถามหน่อยนะ โลกที่เธอจากมานั้นมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง”

            “โลกที่ผมจากมาเหรอครับ เอเลเมนท์เมจิกเชี่ยน?” จอห์นพูด “ถ้าเท่าที่ผมจำได้ ผมได้พบกับออลไมท์จากโลกของผม แล้วก็ได้รับอัตลักษณ์วันฟอร์ออลมาด้วย เขาเลือกให้ผมเป็นผู้สืบทอดอัตลักษณ์วันฟอร์ออลคนที่เก้าในโลกของผมน่ะครับ...”

            และหลังจากนั้น ผมก็ได้เข้าใจแล้วว่าโทชิโนริจากโลกที่จอห์นจากมานั้นมีความสำคัญต่อจอห์นแค่ไหน

            “ผมได้รับการฝึกมาจากออลไมท์อย่างใกล้ชิดเพื่อที่ผมจะได้เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพคนใหม่ในอนาคต” จอห์นอธิบาย “แต่แล้ว ออลฟอร์วันก็มาทำให้ทุกอย่างพังทลายลง และผมกับออลไมท์ก็ได้ไปสู้กับออลฟอร์วันด้วยกัน แต่ด้วยความที่ผมยังไม่แข็งแรง ก็เลย...” หลังจากนั้น จอห์นก็ซบหน้าลงบนฝ่ามือและร้องไห้อีกครั้ง

            “ผมต้องเสียออลไมท์ไปในการต่อสู้ครั้งนั้น” จอห์นคร่ำครวญ “ถ้าผมแข็งแกร่งกว่านี้ ผมคงจะสามารถพลิกเกมและเอาชนะออลฟอร์วันไปได้แล้ว”

            “มันไม่ใช่ความผิดของเธอหรอก” ผมพูด “ที่ออลไมท์จากโลกของเธอทำแบบนี้น่ะ ไม่ได้แค่ล้มออลฟอร์วันเท่านั้น แต่ยังช่วยเธอจากความเสี่ยงที่จะตายในการต่อสู้นี้ด้วย เขารู้ว่านั่นไม่ใช่เวลาตายของเธอ เขาไม่ได้แค่จะต้องปกป้องเธอ แต่เพื่อจะสานต่อมรดกของเขา ฉันรู้ดี ถ้าเขามองเธออยู่เขาคงจะภูมิใจนะ”

            จอห์นมองหน้าผมเหมือนจะเข้าใจดีทั้งน้ำตา

            “เอาน่า ลาร์สันคุง” ชิกะอิจิพูด “อย่างน้อยที่โลกนี้ก็ไม่ได้มีแค่ออลไมท์หรอก ดูสิ ทั้งออลไมท์ เอเลเมนท์คิงรัชกาลที่ 161 และเอเลเมนท์เมจิกเชี่ยน พวกเขาคือกลุ่มท็อปทรินิตี้ ฮีโร่สามคนที่อยู่ในระดับสูงสุดของโลก แทบจะไม่มีใครที่จะสามารถโค่นล้มพวกเขาได้อีกต่อไปแล้ว”

            “ใช่” อีธานพูด “และฉัน มิโดริยะคุง ลีพุงคุง และเฮนรี่ คือตัวเต็งฮีโร่ระดับสูงสุดรุ่นต่อไป ฉะนั้น ถ้าจะมีนายเข้ามาด้วยก็คงไม่เหลือบ่ากว่าแรงหรอก”

            “ขอบใจมากนะ มิโดริยะคุง ซุเนริคุง ลีพุงคุง และเฮนรี่” จอห์นหันไปขอบคุณเด็ก ๆ ทั้งสี่คน

            “จะว่าไป เจ้าไม่ได้สังเกตใช่ไหมว่า ระหว่างที่เจ้าหมดสติไป ข้าก็ได้ให้อัตลักษณ์เอเลเมนท์คิงแก่เจ้าเพิ่มไปให้แล้ว?”

            เสียงที่ผมคุ้นเคยซึ่งปรากฏขึ้นเมื่อยามที่มีเด็กที่ถูกเลือกเพิ่มมาใหม่ดังขึ้น พร้อมกับการปรากฏตัวของวิญญาณเอเลเมนท์คิงรัชกาลที่ 1 สร้างความตกตะลึงให้กับผู้ที่อยู่ในโรงพยาบาลด้วยกัน (ถ้ามีอัตลักษณ์เอเลเมนท์คิงด้วยน่ะนะ)

            “เสียงนั้น...ผมจำได้!” จอห์นอุทาน และได้มองมาที่วิญญาณกษัตริย์ทันที “ท่านคือคนที่ให้พลังผมตอนที่ผมหมดสติอย่างนั้นเหรอ?”

            “ใช่แล้ว” วิญญาณกษัตริย์ตอบ “แสดงว่าเจ้าจำได้ว่าเจ้าอยู่ในปรภพแห่งธาตุ ที่มีวิญญาณราชาแห่งธาตุรุ่นเก่าแก่ที่เสียชีวิตไปแล้วอยู่ที่นั่น พวกเขารู้ว่าจะต้องมีคนใหม่ ๆ เข้ามาด้วยกัน และเจ้าก็ได้ถูกเลือกให้มารับพลังราชาแห่งธาตุ จอห์น ลาร์สัน ข้าหวังว่า อัตลักษณ์นี้ จะสามารถรับมือกับภัยร้ายที่อยู่ในโลกนี้ต่อไปได้นะ”

            “ครับ” จอห์นพูด “ว่าแต่ ผมยังไม่รู้เลยว่าศัตรูที่มาคุกคามโลกนี้คืออะไร”

            “งั้นเหรอ?” ผมพูด “งั้นเอาเป็นว่า ก่อนเปิดเทอมครั้งนี้ ฉันจะเล่าอะไรให้ฟังว่า สงครามอัตลักษณ์ระหว่างราชาแห่งธาตุกับจอมมารนั้นมีที่มายังไงบ้าง”

            “ครับ” จอห์นพูด

 

            ใช่ครับ จอห์นต้องเรียนรู้ว่าในโลกใหม่นี้ ศัตรูที่จอห์นจะต้องรับมือไม่ใช่แค่ออลฟอร์วันเท่านั้น แต่จอมมาร หรือเจ้าแห่งนรกลูซิฟิรอส ก็เป็นศัตรูสำคัญที่จอห์นจะต้องรับมือด้วยเช่นกัน

            “การปรากฏตัวของมัน มักจะทำให้เอเลเมนท์คิงรัชกาลใหม่ ๆ ไม่ทันได้ตั้งตัว และไม่ได้คุ้นเคยกับมัน ดังนั้น ระวังมันให้ดี ๆ” ผมพูด “และอีกอย่างคือ อย่าให้มันให้อัตลักษณ์เธอเด็ดขาด ไม่ว่ามันจะให้ข้อเสนออะไร จงปฏิเสธมันให้ถึงที่สุด ตอนนี้ฉันกำลังศึกษาอัตลักษณ์นี้อยู่ว่ามันทำงานกันยังไง ถ้าฉันได้คำตอบแล้ว ฉันก็จะบอกเธออีกที เข้าใจนะ ลาร์สัน”

            “เข้าใจครับ” จอห์นพูด

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.