Realm of Tales : Road To Fantasy Warfare (AU) บทที่ 18 ปิดตายอุกกาบาตลูกที่สอง

Realm of Tales : Road To Fantasy Warfare (AU)

-A A +A

Realm of Tales : Road To Fantasy Warfare (AU) บทที่ 18 ปิดตายอุกกาบาตลูกที่สอง

หมวดหนังสือ: 

        วันต่อมา

        “เอาล่ะ ทำเบ็ดตกปลาดีกว่า เผื่ออาหารเราจะไม่พอ” ลีพูด แล้วจากนั้นเขาก็ได้ทำเบ็ดตกปลาเพิ่มทันทีแล้วก็ทำการตกปลา

        “วันนี้เจ้านายมาแปลกนะ” แจ้พูด “อ๋อ ที่ผมฟังที่ลุงพีเล่าเรื่องถุงมือนี่ผมก็ว่าอยู่ว่าทำไมช่วงนี้เจ้านายถึงผอมแห้งจัง”

        “ก่อนที่เราจะจัดการ เราต้องหาปลาให้ได้เสียก่อน” ลีพูด “จงติดเบ็ด จงขึ้นมา จงติดเบ็ด”

        การที่เขาจะได้อะไรที่เบ็ดเกี่ยวได้นั้นต้องมีละอองน้ำบางอย่างเข้าไปหาเหยื่อถึงจะสามารถได้ของไปได้ แต่จริง ๆ ไม่จำเป็นต้องตกปลาอย่างเดียวก็ได้ เพราะว่าปลาแซลมอนและปลาค็อดก็ว่ายอยู่รอบ ๆ แถวนี้เอง ก็แค่ใช้ดาบตีไปซะก็จบแล้ว แถมตกไปตกมาบางครั้งอาจจะได้ของที่ไม่ใช่ปลาอีกต่างหาก เช่น หอกสามง่าม หนัง ปลาปักเป้า และเปลือกหอยอีก

        “เอาล่ะนะ ผมจะเผาละนะ” ลีพูด จากนั้นก็นำปลาส่วนหนึ่งไปเผาไว้ที่แคมป์ไฟร์ ส่วนที่เหลือไปเผาไว้ที่เตาสโม้กเกอร์

        “เออแจ้ ฉันได้แท่งนี้มาหลายอันละ” ลีบอกแจ้ จากนั้นก็ถือหอกสามง่ามให้แจ้และทุกคนดู “ฉันจะเอาส้อมนี้เอาไปทำอะไรดี?”

        “เจ้านายเรียกซะเสียเลยนะ” แจ้พูด “เขาเรียกว่าหอกสามง่ามนะเจ้านาย”

        “แล้วมันใช้ทำอะไร ใช้ตีซอมบี้ได้เหรอ?” ลีถาม

        “เธอนี่ไม่รู้อะไรซะแล้ว” ลุงพีอธิบาย “เจ้าหอกนี้น่ะนอกจากใช้ตีศัตรูได้แล้วยังสามารถขว้างไปได้ด้วยนะ”

        “หา!! อย่างนั้นเหรอ?” ลีร้อง

        “ใช่” ผู้พันมาร์คัสตอบ “เจ้านี่ก็สามารถเอ็นชานต์ได้ไม่ต่างจากเครื่องมือและชุดเกราะอื่น ๆ ด้วยนะ”

        “อย่างนี้นี่เอง” ลีพูด “งั้นผมจะเอ็นชานต์มันละนะ”

        “เออ อย่าลืมเอาอันนี้ไปด้วยแล้วกัน” ลุงพีพูด จากนั้นเขาก็ยื่นหน้าไม้ (Crossbow) ให้ลี

        “หน้าไม้เหรอ?” ลีถาม

        “ใช่แล้ว” ลุงพีตอบ “ลองใช้กับพลุดอกไม้ไฟดู บางที มันอาจจะตัดกำลังเจ้าบอสนั่นก็ได้นะ”

        “โห เท่ากับว่าผมได้อาวุธเทพเยอะมากเลยสินะเนี่ย ได้ของเอ็นชานต์เยอะแยะเลย ทั้งชุดเกราะเนเธอไรต์ ดาบเนเธอไรต์ ขวานเนเธอไรต์ ธนู (Bow) หน้าไม้ โล่ แล้วก็หอกสามง่ามอีก” ลีพูด

        “มันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอเจ้านาย ที่เจ้านายได้ของฟาร์มมาเยอะเนี่ย” แจ้พูด

        “แต่ที่ฉันห่วงคือไอ้ถุงมือนี้น่ะ” ลุงพีพูด “ฝากไว้กับฉันดีไหม?”

        “อ๋อ ไม่เป็นไรครับ” ลีตอบ

        “เอาเถอะ” ลุงพีพูด “ไปถล่มไอ้พวกนั้นเถอะ”

        “ได้ครับ” ลีพูด

        “เสร็จแล้วอย่าลืมมารับผมด้วยนะ” แจ้เตือน

        “แน่นอน เดี๋ยวฉันจะกลับมารับนายนะแจ้” ลีตอบ “เดี๋ยวฉันกลับมา”

        “โชคดีครับเจ้านาย” แจ้พูด

        “โชคดี” ลีพูด “เออว่าแต่ท่านผู้พันจะส่งคนไปด้วยไหม?”

        “อ๋อ ส่งสิ” ผู้พันมาร์คัสตอบ

        “โอเค ผมจะได้มีคนช่วยสู้เป็นเพื่อนหน่อย” ลีตอบ จากนั้นก็บินออกไปทันที

        ระหว่างทางลีก็แวะบ้านเดิมสักหน่อยเพราะเขาจะปลูกข้าวเพิ่ม ซึ่งคราวนี้ข้าวในแปลงในบ้านเริ่มโตขึ้นแล้ว ดังนั้นลีจึงเก็บเกี่ยวข้าวมาทำเป็นขนมปังสักสองสามชิ้นแล้วจากนั้นก็บินไปยังประภาคารเพื่อรำลึกถึงความหลังก่อน จากนั้นก็ไปเผชิญหน้ากับบล็อกเวลเดอร์ตัวสุดท้ายทันที แต่เขาก็เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าก่อนที่จะจัดการบล็อกเวลเดอร์ได้ เขาต้องทำลายหลุมดำบนอุกกาบาตก่อน และเมื่อลีไปถึงจุดที่อุกกาบาตตก ลีจึงเข้าไปจัดการทำลายบล็อกที่เปิดหลุมดำให้แตกสลาย และทำให้ซอมบี้หมวกเหล็กไม่มาบุกโลกนี้อีกเป็นการถาวร

        แต่พวกถือดาบก็ยังตามราวีไม่เลิกอีก ดังนั้น ลีจึงใช้อาวุธที่เขาฟาร์มมาจัดการปราบพวกหมวกเหล็กให้หมดเกลี้ยง แต่ความที่เขาไม่คุ้นชินกับพลัง ดังนั้น ลีจึงกลับมาเตรียมใจด้วยการดื่มยาฮีลลิ่ง (Healing Potion) และยารีเจนเนอเรชั่น (Regeneration Potion) แล้วจากนั้นเขาก็ดูดไฟวิญญาณจากคบเพลิงวิญญาณ

        “ไฟวิญญาณคุ้มครองเราละ” ลีพูด แล้วเขาก็หันมามองข้างล่างดู ปรากฏว่ามันต่อตัวขึ้นมาได้ เขาไม่รู้ที่จะต่อกรกับมันยังไงดี แต่ลีเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเขามีหอกสามง่ามที่เอ็นชานต์อิมพาลิ่งเลเวลห้า (Impaling 5) ลอยัลลิตี้เลเวล 3 (Loyality 3) และแชนเนลิ่งเลเวล 1 (Channeling 1) ดังนั้น ลีจึงลองขว้างหอกใส่พวกหมวกเหล็ก ปรากฏว่าได้ผล หอกแทงโดนพวกหมวกเหล็กหนึ่งตัว แล้วมันก็ถูกเชือกที่เชื่อมระหว่างเจ้าของและตัวหอกดึงกลับเข้าตัวแล้วด้วย

        ลีได้ใช้ถุงมืออนุภาควิเศษจัดการกับพวกหมวกเหล็กถือดาบไปทีละตัว ๆ จนหมดแล้วเรียบร้อย จากนั้นลีก็มาพบกับมิกกี้ต่อเลย

        “มิกกี้ พอจะรู้จักศูนย์วิทยาศาสตร์อะไรบ้างไหม?” ลีถาม

        “เดินตรงไปเรื่อย ๆ ทางเหนือครับ” มิกกี้ตอบ

        ระหว่างนี้ลีก็เตรียมใจก่อน เขาพยายามค้นหาอาหารไปทั่วเพื่อเตรียมตัวในการจะจัดการกับบอสให้ได้ ดังนั้น ลีจึงใช้หอกในการล่าอาหารไปก่อน จากนั้นเขาก็ใช้บ้านเก่าที่ถูกขุดจนพรุนจนเกือบหมดแล้วในการสร้างของให้พร้อมเสียก่อน จากนั้นเขาก็ได้เสกทั้งไฟธรรมดา ไฟวิญญาณ เรดสโตน และน้ำ เมื่อพร้อมแล้ว ลีก็ได้ออกไปลุยทันที

 

        การต่อสู้ระหว่างผู้ถือครองถุงมืออนุภาควิเศษทั้งสองเริ่มต้นขึ้นแล้ว ลีพยายามหลบใต้ต้นไม้เพื่อไม่ให้โดนลูกไฟจากบล็อกเวลเดอร์ และพยายามล่อให้บล็อกเวลเดอร์ตกลงร่องผาลึกให้ได้แต่ก็ไม่สำเร็จสักเท่าไหร่นัก ดังนั้น ลีจึงต้องรอจนกระทั่งมันตกไปแล้วจริง ๆ ด้วย ลีได้โอกาสจึงตัดสินใจขุดทางให้น้ำไหลลงมายังผาลึกและพยายามทำทุกวิถีทางที่จะเข้าไปจัดการกับบอสตัวนี้ และความแพ้ภัยตัวเองของบล็อกเวลเดอร์อาจเป็นโอกาสดีที่ลีจะสามารถจัดการกับเจ้าตัวนี้ได้ง่ายหน่อย

        แต่มันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเลย เพราะว่าเขาเองก็ได้เจอฝูงไก่ที่มารวมพลกันที่ก้นผาโดยไม่ทราบจุดประสงค์ ซึ่งก็อยู่ใกล้กับบล็อกเวลเดอร์เสียด้วย ดังนั้น ลีจึงพยายามที่จะเข้าถึงบล็อกเวลเดอร์ให้ได้โดยไม่ต้องบาดเจ็บ ลีสั่งให้บล็อกเวลเดอร์ยอมแพ้ให้ได้เพราะไม่มีหนทางที่มันจะหยุดเขาได้อีกต่อไปแล้ว

        ลีสังเกตว่าเจ้าบล็อกเวลเดอร์เหมือนจะเริ่มขังตัวเองแล้ว ลีจึงค่อย ๆ ลงไปให้ได้ แต่ถึงจะระวังตัวมากแค่ไหน ลีก็โดนบล็อกเวลเดอร์อัดลูกไฟจนตายได้อยู่ดี

        เมื่อลีกลับมา ลีจึงขว้างไข่ที่แจ้ออกมาลงกับพื้น แต่คราวนี้มันฟักออกมาเป็นตัวได้!

        “ขอบคุณครับเจ้านาย! ระหว่างนี้ผมจะได้เลี้ยงลูกละ” แจ้พูด

        “มีไปเถอะ” ลีบอก

 

        ลียังคงถูลู่ถูกังกับการโจมตีกับบล็อกเวลเดอร์ พร้อมกับสงสัยว่าไก่พวกนี้มาได้ยังไง แต่เมื่อลีล้มเหลวหลาย ๆ ครั้ง ดังนั้น ลีจึงตัดสินใจย้ายเตียงไปนอนใกล้จุดเกิดเหตุเสียเลย

        หลังจากล้มเหลวมาหลายรอบ ในที่สุด มันก็พลาดท่าขังตัวเองอยู่ใกล้กับทางน้ำไหลจนได้ ดังนั้น ลีจึงหยิบหน้าไม้ที่เขาค้นจากศพตัวเองจากการตายครั้งก่อน ๆ มาบรรจุดอกไม้ไฟแล้วยิงใส่บล็อกเวลเดอร์หลาย ๆ รอบ แต่แรงระเบิดของดอกไม้ไฟไม่ค่อยจะเพียงพอที่จะทำให้บล็อกเวลเดอร์บาดเจ็บหนักได้ แต่ไก่ฝูงนี้ก็มามองทั้งลีทั้งบล็อกเวลเดอร์อย่างกับว่าบล็อกเวลเดอร์เป็นเจ้านายของพวกมัน จนกระทั่งเจ้าบล็อกเวลเดอร์ขาดอากาศหายใจเพราะมันอยู่ใต้น้ำมากเกินไป ช่วงเวลาแห่งการรอให้ตัวบอสตายจึงเริ่มต้นขึ้น

        “อันนี้ฉันปล่อยไปตามยถากรรมละ ฉันจะเอาถุงมืออันใหม่จากแก จะได้สวมเป็นคู่ไปเลย” ลีพูด “ว่าแต่ทำไมไก่อยู่ที่นี่เยอะแยะเต็มไปหมดเลย”

        “ไม่รู้สิ ผมโดนสั่งมา” แจ้ตอบ “ให้มาคุ้มกันเจ้านายของพวกเรา”

        “ไม่อีกต่อไปแล้ว” ลีพูด “มันจบแล้ว ทุกอย่างมันเป็นของฉันแล้ว”

        “เจ้านายของพวกเราตายแล้ว!!” ฝูงไก่ร้อง

        “หยุด!! ฟังนะพวกไก่น้อยทั้งหลาย!” ลีสั่งฝูงไก่ทั้งหมด (รวมทั้งถือเมล็ดปลูกข้าวล่อด้วย) “เจ้านายของพวกแกตายไปแล้ว ไม่มีปีศาจอะไรทั้งนั้นอีกแล้ว มีแต่ฉัน แยกย้าย กลับบ้านไป เข้าใจไหม?”

        “ครับ” ไก่แต่ละตัวตอบ

        “ยังไงฉันก็ต้องมุ่งหน้าไปศูนย์วิทยาศาสตร์อยู่ดี” ลีพูด “หนึ่งในพวกนายมีใครรู้บ้างไหมว่าศูนย์วิทยาศาสตร์มุ่งหน้าไปทางไหน?”

        “เขาบอกว่าไปทางเหนือนะครับเจ้านาย” แจ้ตอบ

        “ขอบใจมาก” ลีตอบ จากนั้นก็ใช้ถุงมือทั้งสองข้างนั้นเติมพลังน้ำแล้วบินขึ้นไปบนพื้นดิน แต่ด้วยการบังคับที่ยากพอสมควร ดังนั้นลีจึงว่ายน้ำขึ้นไปแทนจะง่ายกว่า

        พอขึ้นมาข้างบนแล้ว เขายังไม่รู้ว่าทิศเหนืออยู่ทางไหนกันแน่ ดังนั้นลีจึงไปถามสัตว์ในละแวกนั้นเช่นแกะ

        “ทิศเหนืออยู่ไหน?” ลีถาม

        “ก็อยู่ทางซ้ายจากทิศที่ดวงอาทิตย์ขึ้น 90 องศาไง” แกะตอบ “ไปทางนั้นเดี๋ยวก็ถึงเอง”

        “โอเค” ลีตอบ “ขอบคุณมากครับพี่”

        จากนั้นลีก็มุ่งหน้าตรงไปทางเหนือเพื่อไปสู่ศูนย์วิทยาศาสตร์...

 

บันทึกครั้งที่หนึ่ง : หลังจากเดินไปได้เกือบครึ่งทาง รู้ตัวอีกทีก็เหมือนลืมอะไรบางอย่าง ที่ไหนได้ลืมไปรับไก่แจ้กับลุงพี แล้วจะเอายังไงกับไอ้ขวดยาเคมีคอลดี...

 

        ขณะเดียวกันที่กระท่อมชายหาด ผู้พันมาร์คัส ลุงพี แจ้ และลูกของแจ้ กำลังอยู่ในบ้าน ซึ่งไม่มีทีท่าว่าลีจะกลับมาเลย

 

“เจ้านายหายไปนานเลย สงสัยลืมเราแล้วมั้ง” - แจ้

“ไม่หรอก เขาไม่น่าจะลืมพวกเราง่าย ๆ หรอก ใช่ไหมครับท่านผู้พัน” - ลุงพี

“แน่อยู่แล้วล่ะ” - ผู้พันมาร์คัส

 

        ในที่สุด ลีก็มาถึงกระท่อมชายหาดพอดี

 

“มาแล้ว เรารีบไปกันเถอะ ฉันแวะมาเอาของด้วย” - ลี

 

        ลี แจ้ และลุงพีได้ฤกษ์เดินทางออกไปจากตัวเมือง ทิ้งให้ผู้พันมาร์คัสและเหล่าทหารฟาร์คิงดอมอยู่ประจำการที่เมืองนี้จนกว่าจะไม่มีภัยคุกคามใด ๆ มารุกรานเมืองอีกต่อไป (รวมถึงลูกของแจ้ด้วย...)

 

บันทึกครั้งที่สอง : เดินเหนื่อยมาไกลมาก ๆ แต่ก็เชื่อว่ามันต้องอยู่ข้างหน้าเพราะพี่แกะบอกให้ตรงไปเรื่อย ๆ ได้หนังสือมาสองเล่มจะพยายามเล่าให้หมดนะ

 

        และในที่สุด...

 

...ต่อจากเมื่อกี๊ ในที่สุดก็มาถึงแล้ว

ว่าแต่ มันคือศูนย์วิทยาศาสตร์แบบไหนกัน?

 

        เมื่อสามสหาย (มั้ง) มาถึงห้องทดลองหมายเลขที่ 3 เซ็กเตอร์ 03 พวกเขาก็ต้องพบกับความประหลาดใจ เพราะมันเป็นห้องทดลองที่โล่ง ไม่มีใครอยู่เลย

 

“ทำไมมันเงียบขนาดนี้?” - แจ้

“ไม่รู้สิ”- ลุงพี

“ลองเดินเข้าไปดูกัน” - ลี

 

        สภาพของห้องทดลองนี้มันถูกทิ้งร้างมานานนับทศวรรษ ทั้งหยากไย่และเถาวัลย์เกาะไปตามที่ต่าง ๆ ของห้อง

 

“อยากรู้จริง ๆ ว่าใครคือเจ้าของและผู้ก่อตั้งศูนย์วิทยาศาสตร์แห่งนี้กันแน่” - ลุงพี

 

        ทันใดนั้น ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากชั้นบน มันเป็นเสียงของปีศาจ แต่ต้นเสียงกลับมีรูปลักษณ์เป็นมนุษย์ สวมเสื้อสีน้ำเงินอมเขียว กางเกงขายาวสีน้ำเงินอมม่วง และนัยน์ตาสีขาว...

 

“มาช้าจังเลยนะ ตัวทดลอง 303” - บุคคลปริศนา

 

        เสียงนี้ ทำให้ทั้งสามตกใจและหันมามองบุคคลปริศนาผู้นั้น ลุงพีชี้มาที่บุคคลปริศนาและตะโกนก่อนเลยว่า

 

“นี่แก... มาที่นี่เพื่อที่จะทำอะไรกัน!” - ลุงพี

 

        ส่วนลีก็ตะโกนตามลุงของเขาว่า

 

“แกเป็นใคร! แกต้องการอะไร!” - ลี

 

        แต่บุคคลปริศนากลับตอบมาว่า

 

“คำถามที่มีอยู่เก็บไว้ ฉันจะเล่าให้แกฟัง” - บุคคลปริศนา

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.