Realm of Tales : Road To Fantasy Warfare (AU) บทที่ 10 เรื่องประหลาดรอบบ้าน และหอสูง

Realm of Tales : Road To Fantasy Warfare (AU)

-A A +A

Realm of Tales : Road To Fantasy Warfare (AU) บทที่ 10 เรื่องประหลาดรอบบ้าน และหอสูง

หมวดหนังสือ: 

        วันต่อมา...

        “เอาล่ะ แล้วจะทำยังไงต่อ?” ลุงพีถาม

        “ก็ต้องไปหาคำตอบสำหรับเคมีคอลเอ็กซ์นะ” ลีตอบ

        “เจ้านายไม่ต้องหาหรอก คำตอบมันก็รู้อยู่แล้วว่ามันคืออะไร จะไปหามันอีกทำไม” แจ้บอก

        “ก็ฉันอยากจะรู้ไงว่าถ้าใช้กับตัวอื่นมันจะเป็นยังไง” ลีบอกแจ้ “ฉันรู้น่าว่าถ้าใช้กับซอมบี้มันจะตัวใหญ่”

        “โอเค ตอนนี้ฉันกำลังจะสืบหาต้นสายปลายเหตุล่ะนะ ว่ามันจะเป็นยังไง” ลุงพีพูด

        “เล่าเรื่องที่ติดค้างไว้ก็ได้นะครับ เรื่องโปรเจกต์ซีซีซีกับฟิกชั่นวอร์น่ะ” ลีบอก

        “ใช่ ๆ ผมอยากฟังจังเลย” แจ้พูด

        “เอ่อ...อันนี้ฉันไม่รู้จะหาเวลาว่างจากที่ไหนมาเล่าดี” ลุงพีบอก

        “อ้อ ผมรู้ละ เราจะไปสร้างบ้านบนฟ้าแล้วกันนะ” ลีออกไอเดีย “สนใจไหม?”

        “ฉันไม่ว่าอะไรหรอก เธออยากจะสร้างก็แล้วแต่เธอ” ลุงพีตอบ

        “แต่เจ้านายไม่ได้ถามอะไรผมสักคำเลย” แจ้บอก

        “อ้าว แล้วทำไมฉันต้องถามนายด้วย?” ลีถามแจ้

        “เจ้านายไม่รู้เหรอว่าผมเป็นโรคกลัวความสูงนะ” แจ้ตอบ

        “เหรอ?” ลีถามด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนไม่เชื่อแจ้

        “อย่าเลยนะขอร้องล่ะ” แจ้พูด

        “ฉันต้องทำนะ” ลีพูด “เพื่ออนาคตของเราทั้งสาม”

        “ถ้าเจ้านายพูดอย่างนั้นเจ้านายก็ทำเลย” แจ้ตอบ

        แต่ก่อนที่จะสร้าง ลีได้เก็บขวดยาเคมีคอลเอ็กซ์ไว้ในหีบใหญ่ โดยกำชับไม่ให้แจ้รื้อหีบนั้น จากนั้นเขาก็ไปสร้างหอสูงทันที โดยจะทำให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่เมื่อหินไม่พอ ลีก็ต้องลงไปขุดใต้ดินอีก และจากนั้นเขาก็จะต่อขึ้นไปเพื่อทำเป็นพื้นรองไว้และได้ต่อบันไดปีน (Ladders)

        แต่ลีก็หันไปคุยกับมิกกี้ครู่หนึ่งจากนั้นก็ลงไปขุดหาแร่ในเหมือง แต่ทันใดนั้นแมงมุมก็มากัดข้างหลังลีเต็มที่ ลีตกใจจึงฆ่าแมงมุมทิ้ง

        “ใกล้แค่ปลายจมูก ไม่ให้สุ้มให้เสียงอะไรเลย” ลีพูด “เล่นซะสะดุ้งเลยทีเดียว เจ้าแมงมุมอันตรายมาก ๆ ถ้าไม่ระวังตัวละก็ มันอาจจะลอบกัดเราเหมือนเมื่อกี๊ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นเราต้องหลังชนฝา! เราต้องระวังอย่างสูงเลย”

        ลีลงมาลึกจนกระทั่งคบเพลิงไม้หมด และขุดแร่จนอีเต้อหินพังพอดี ดังนั้น ลีจึงกลับมา ซึ่งช่วงนี้ลีก็เจอกับแมงมุมบ่อยเป็นพิเศษ

        เมื่อลีกลับมา แจ้ขึ้นเสียงว่า “ผมรู้ว่าเจ้านายไปถ้ำนั้นอีกแล้ว!”

        “ขึ้นเสียงอีกแล้ว?” ลุงพีถาม

        “เจ้านายไปถ้ำนั้นมา ผมรู้ว่าไปหามิกกี้ใช่ไหม?” แจ้ถาม “มิกกี้มีดีอะไรกัน?”

        “มิกกี้คุยถูกคอ” ลีแก้ต่าง

        “แล้วผมคุยไม่ถูกคอหรือไง?” แจ้ถาม

        “แจ้ นายต้องเข้าใจนะ เวลาขบขัน” ลีตอบ

        “คับขัน แหม เอาฮาหรือไง?” ลุงพีแก้ให้ถูก

        “เวลาคับขันอะไรแบบนี้ฉันก็ต้องไปถ้ำเพื่อไปหาแร่” ลีพูด

        “แล้วใต้บ้านไม่มีหรือไง” แจ้ถาม

        “มี แต่แร่ที่นั่นมันมีเยอะกว่า” ลีตอบ

        “จะบอกว่ามิกกี้รวยแร่ใช่ไหม?” แจ้ถาม

        “นี่เธอใช้อะไรเป็นเกณฑ์แยกแยะ?” ลุงพีถาม “คำว่ารวยของเธอมันคืออะไร?”

        “รวยของผมก็คือ...มีบ้าน มีรถหรู ๆ มีเงินเยอะ ๆ มีเครื่องประดับตกแต่ง...” แจ้พึมพำ

        เกิดความเงียบไปครู่หนึ่ง แจ้หันมามองลีแล้วถามว่า “มีอะไรเหรอเจ้านาย หรือเจ้านายไม่เคยรวยมาก่อน?”

        “อะไร ฉันเคยรวยเหรอ?” ลีถามกลับ “อย่ามาทำเป็นรู้ดี”

        “ผมขอโทษ ได้ไหม?” แจ้ถาม

        “แล้วมันจะหายเหรอ?” ลีถาม

        “แล้วจะให้ผมทำยังไงอ่ะ” แจ้ถามต่อ “เพื่อให้เจ้านายหายโกรธ หายงอนผม”

        “ฉันก็ยังคาใจแล้ว ทะเลาะอะไรของพวกเธอสองคนเนี่ย” ลุงพีถามแบบไม่เข้าใจตั้งแต่ต้น

        “นี่ลุงไม่เข้าใจอีกแล้วเหรอ ผมไม่ได้งอน ผมแค่โกรธที่แจ้ว่าร้ายผม ซึ่งมันไม่ดี” ลีตอบลุง

        “แล้ว ยังไง?” ลุงพีถาม

        “อะฮ้า! ได้ข่าวว่านายกลัวความสูงละสิ งั้น...” ลีพูดกับแจ้ ก่อนจะขู่ว่า “ไปอยู่ด้านบน กับฉัน เดี๋ยวนี้!!

        “อ๊ากกกกกกก!!! ม่ายยยยยยยยย!!!” แจ้ร้องโหยหวน

        “ไปอยู่ข้างบนหอ ฉันจะหายโกรธเลย” ลีบอกแจ้

        “จะทำยังไงเธอถึงจะหายโกรธ~” แจ้ร้องเพลงด้วยความเสียใจ

        “ฉันถึงพานายไปไงเจ้าแจ้เอ๋ย~” ลีร้องเพลงตอบ “ตามมาเร็ว~

        “ร้องอะไรของพวกเธอ?” ลุงพีถามและตามลีกับแจ้ไปข้างนอก และเมื่อลุงพีเห็นหอสูงเสียดฟ้าที่มีแค่เสา เขาจึงทักว่า “นี่เธอสร้างหออะไรน่ะ?”

        “อ๋อ มันเป็นหอลอยฟ้าน่ะครับ ไม่ต้องไปสนใจหรอก” ลีตอบ

        “เจ้านาย ผมไม่อยากไป เจ้านาย!!” แจ้ร้องโหยหวนและลอยขึ้นมาเพราะถูกลีที่ปีนบันไดดึงขึ้นมา “โห!! วิวสวยจัง”

        “อย่ามองข้างล่างนะ” ลีเตือนแจ้

        “ทำไมเจ้านาย?” แจ้ถามและลองมองข้างล่าง เท่านั้นแหละ “ว้ากกกกกกกกกกกก ผมกลัวความสูง!!!!

        “บอกแล้วว่าอย่ามองด้านล่างไง!” ลีตอบ

        แต่ทำยังไงลีก็ดึงแจ้ไม่ขึ้นเลย ลีจึงต้องยอมเอาลง แจ้หัวเราะและบอกว่า “สุดท้ายก็พาผมขึ้นไปไม่ได้เลย”

        “ฉันลืมของต่างหาก” ลีตอบ

        “เจ้านายพลาดแล้ว มันเป็นพรหมลิขิต” แจ้บอก “พรหมลิขิตให้ผมได้อยู่ข้างล่างไงล่ะ”

        “ไม่ พรหมลิขิตเราเขียนเองได้ ยังไงนายก็ต้องได้อยู่ข้างบน” ลีพูด

 

        ในที่สุด ลีก็ได้ทำอีเต้อเหล็กมาเพิ่มเสียทีเพื่อทำการขุดหินเพิ่ม จากนั้นก็กลับมาและบอกแจ้ว่า “ยาเคมีคอลเอ็กซ์ฉันเองก็อยากจะใช้กับนายนะ แต่ฉันกลัวนายตายน่ะ”

        “ผมเข้าใจนะที่เจ้านายกลัวการสูญเสีย” แจ้พูด “แต่สักวันหนึ่งเกิดแก่เจ็บตายก็เป็นเรื่องธรรมดา”

        “งั้นลองเลยไหม?” ลีถามพร้อมกับถือดาบในมือขู่ “ลองตายน่ะเอาไหม?”

        “อย่าเลยเจ้านาย ผมไม่อยากตายวันนี้” แจ้ขอร้อง

        “ไหนบอกว่าเกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดา?” ลีถาม

        “ผมเข้าใจว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่ผมไม่อยากตายวันนี้” แจ้บอก “เพราะผมอยากอยู่กับเจ้านายต่อ”

        “เอาซะซึ้งเลย” ลีพูด

        “เอาเถอะ ฉันพอจะนึกออกได้แล้วล่ะว่าเคมีคอลเอ็กซ์มันใช้ทำอะไรได้บ้าง” ลุงพีพูด “จะฟังไหม?”

        “ฟังสิครับ มีอะไรเหรอ?” ลีบอก

        “ยานี้ มันเป็นยาที่ไว้ใช้กับพวกฮอสไตล์ม็อบและพวกโกเล็ม” ลุงพีพูด “ถ้าใช้กับซอมบี้ ก็จะเป็นแบบที่เธอเล่ามา แต่ถ้าเธอใช้กับสโนวี่ลูกสาวของเธอ หล่อนก็จะตัวใหญ่และมีแขนขา พร้อมกับขว้างบอลหิมะที่ใหญ่ขึ้นไปอีก”

        “อ้าว แล้วถ้าผมใช้กับแจ้ล่ะครับ” ลีถาม

        “ไม่ได้!” ลุงพีตอบ “ร่างกายของไก่มันไม่มีภูมิคุ้มกันต่อยาตัวนี้ อาจทำให้แจ้ตายได้นะ”

        “อ้าวเหรอ งั้นผมไม่ใช้ละกัน” ลีพูด “ถ้าผมสร้างสโนวี่เมื่อไหร่ ผมจะใช้ยาเลยละกัน เอาล่ะ ผมนอนก่อนนะ”

        “ได้” ลุงพีตอบ

        “แจ้ พรุ่งนี้พร้อมนะ” ลีพูด

        “อีกแล้วเหรอ?” แจ้ถาม

        “ใช่” ลีตอบ

 

        วันต่อมา

        ลีได้ลากแจ้ขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้เขาต่อเติมหินเพิ่มอีกครั้งเพื่อให้แจ้ขึ้นไปให้ได้ แต่ก็ทำแทบไม่ได้สักที สุดท้ายลีจำเป็นต้องตั้งเสาแล้วผูกเชือกล่ามแจ้ให้แจ้ห้อยต่องแต่งอยู่อย่างนั้น

        “ทำขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย?” ลุงพีถาม “ทรมานสัตว์เพื่อให้เขาอยู่ข้างบนเนี่ยนะ”

        “มันเป็นทางเดียวครับลุงพี” ลีตอบ “มันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว”

        สุดท้าย ลีก็ต้องปล่อยเชือก ซึ่งแจ้ก็รีบหนีออกไป โดยลีรีบล่ามไว้ได้ทัน

        “ฉันอยากให้นายอยู่ด้านบน ฉันเป็นห่วงนาย นายจะได้ปลอดภัย” ลีพูด

        “ปลอดภัยของผมมันคนละอย่างกับปลอดภัยของเจ้านายเลย” แจ้พูด

        “ไม่เข้าใจอย่างนั้นเหรอ เจตนารมณ์ของฉันน่ะ” ลีถามแจ้

        “ผมจะไม่มีวันเข้าใจเด็ดขาด” แจ้ตอบ

        สุดท้ายลีก็จำใจพาแจ้กลับมาที่บ้าน และคิดจะกลับเข้าไปในเมืองก่อนเพื่อไปเช็กให้แน่ใจว่าอาจจะมีอะไรมากกว่าขวดยาเคมีคอลเอ็กซ์ แต่ก่อนจะกลับเข้าเมืองได้เขาต้องไปหาของอะไรให้พร้อมก่อน

        ระหว่างที่ลีไปหาของในถ้ำเขายังต้องระวังว่าเจ้าพวกหมวกเหล็กจะมาอีกหรือไม่ แต่ช่วงนี้มันไม่มาบุกเลย หรือว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างแน่ ๆ ดังนั้น ลีจึงคิดจะหาฟักทองเพื่อที่เขาจะได้ทำสโนว์โกเล็มด้วย จนกระทั่งได้เจอกับปีศาจลำต้นไม้ รูปร่างเป็นต้นไม้แบบกรูต แต่มันใหญ่กว่านั้น และขาของมันคือราก ส่วนแขนคือกิ่งไม้ โดยเมื่อมันเดินไปโดนใบไม้ มันจะทำให้กลายเป็นกรวด ลีกลัวมากจนคิดว่า ป่านี้ไม่สงบสุขอีกต่อไปแล้ว และเมื่อมันมาใกล้ลีทีไรลีกลัวทุกที

        ลีพยายามจะทำความรู้จักกับปีศาจลำต้น และนึกว่าเป็นมิตรกัน แต่ที่ไหนได้เมื่อลีมาใกล้ ๆ เขากลับโดนอะไรในร่างกายของปีศาจลำต้นนี่แหละบาดจนลีสะดุ้งโหยง

        “บ้านไม่ปลอดภัยอีกต่อไป” ลีพูด แล้วบึ่งกลับมาบ้านทันที ประกอบกับมันจะมืดค่ำอีกแล้ว ลีจึงกลับมา

        “เฮ้ย ทำไมเธอหัวตั้งอย่างกับเจอผีมาเลย” ลุงพีถามหลานชาย

        “ไม่ได้เจอผีครับลุงพี” ลีตอบ “คราวที่แล้วคือซอมบี้ตัวใหญ่กล้ามโต คราวนี้มาเป็นต้นไม้ที่มาเป็นท่อน แล้วมันอยู่หน้าบ้านเราด้วย”

        “เจ้านายมั่วหรือเปล่าเนี่ย?” แจ้ถาม

        “ไม่ได้มั่ว ฉันเจอจริง ๆ” ลีตอบแจ้ “ข้างนอกก็มีอะไรที่เรายังหาคำตอบไม่ได้อีก”

        “มันอยู่ข้างนอกอย่างนั้นเหรอ?” ลุงพีถาม

        “ลุงทำอะไรน่ะ?” ลีถามลุงที่มองกระจกข้างนอก

        “ฉันกำลังมองมันอยู่น่ะสิ” ลุงพีตอบ “โอเค ฉันจะเชื่อเธอว่ามันอยู่ตรงแถวถ้ำ แต่มันไม่น่าจะมาบุกบ้านนี้หรอกมั้ง”

        “เจ้านายนอนเถอะ ตื่นขึ้นมาทุกอย่างก็จะโอเค” แจ้บอก

        “ถ้าเธอบอกอย่างนี้ แสดงว่าวันต่อมามันน่าจะไปจากที่นี่แล้วใช่ไหม?” ลุงพีถามแจ้

        “ใช่” แจ้ตอบ

 

        วันต่อมา

        ลีได้กลับไปสำรวจแถวถ้ำอีกครั้ง และสำรวจให้ทั่วรอบภายนอกด้วย เผื่อปีศาจลำต้นจะยังอยู่ และเขาขึ้นไปยันเนินเขาสูง ๆ ด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าปีศาจลำต้นจะไม่แอบอยู่ใต้ป่าฝน หรือลีอาจจะต้องตัดต้นไม้ในป่าให้หมด แต่สุดท้ายลีก็เชื่อแล้วว่ามันไปจากที่นี่แล้วจริง ๆ แต่ก็ยังไม่ปักใจเชื่ออย่างนั้นร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะความเงียบที่ครอบงำนั้นทำให้ใจคอไม่ดี

        เมื่อมาถึงบ้าน

        “มันไปแล้วจริง ๆ ด้วย” ลีตอบ

        “ผมก็บอกแล้ว” แจ้พูด

        ดังนั้น ลีจึงออกไปข้างนอกเพื่อไปดูไร่นาที่เขาปลูก แต่สิ่งที่เขาเห็นตรงหน้าคือยักษ์ภูเขากำลังยืนอยู่ใกล้แปลงข้าว!! ลีผงะซ้ำสองอีกแล้ว ลีจึงค่อย ๆ ย่องไปเกี่ยวข้าวให้ได้โดยไม่ให้ยักษ์ภูเขาทำร้าย แต่ยักษ์ภูเขาตนนี้ไม่ทำร้ายลีเลยสักนิดเดียว ลีจึงได้ใจลองคุยกับยักษ์ภูเขาก่อน ปรากฏว่ายักษ์ภูเขาพูดภาษาที่ลีไม่เข้าใจเลยสักนิดเดียว ดังนั้น ลีต้องพาแจ้กับลุงพีมาข้างนอกเพื่อที่จะได้คุยกับยักษ์ภูเขารู้เรื่อง

        “มีอะไรถึงพาพวกเรามาข้างนอก?” ลุงพีถาม

        “มานี่ก่อนครับ มาที่แปลงข้าวผมก่อน” ลีตอบ

        และเมื่อทั้งสามมาพบกับยักษ์ภูเขา

        “เฮ้ย!! ยักษ์ภูเขานี่หว่า!!” ลุงพีร้อง

        “ยักษ์ภูเขาที่ไหน เปรตชัด ๆ!” แจ้อุทาน

        “ไปว่าอย่างนั้นได้ยังไง!” ลุงพีห้ามแจ้ แล้วบอกลีว่า “นี่ลี ฉันรู้จักสายพันธุ์ของมนุษย์คนนี้ดี มันคือสายพันธุ์ของยักษ์ภูเขาน่ะ”

        “คนอะไรตัวใหญ่จัง” แจ้บอก

        “เขาอาจจะดื่มนมมาเยอะ” ลีตอบ “คือเขาคุยภาษาพวกเราไม่ได้เลยนะแจ้”

        “อย่าบอกนะว่าจะให้ผมเป็นล่ามให้?” แจ้ถาม

        “ถูกแล้ว คุยกับเขาหน่อยนะ” ลีตอบ

        “ก็ได้” แจ้ตอบ

        จากนั้น ลีก็ได้เรียกยักษ์ภูเขาและบอกว่า “พี่ครับ แจ้อยากจะคุยกับพี่น่ะครับ” แต่ยักษ์ภูเขาไม่ค่อยจะมองใครเท่าไหร่นะ

        “ผมว่าคนพวกนี้ไม่ค่อยมีมารยาทเท่าไหร่ เขาไม่หันมามองผมเลย” แจ้บอก

        “เขาอาจจะไม่อยากคุยก็ได้ อ่ะ ลองคุยกับเขาดู” ลีตอบ

        จากนั้น แจ้ก็ได้พูดเป็นภาษาไก่ และยักษ์ภูเขาก็ตอบกลับมาเป็นภาษาของมัน

        “เขาบอกว่าเขาหิวข้าวมาก” แจ้แปล แต่เมื่อเห็นเจ้านายของตนเองถือรวงข้าวดู แจ้บอกว่า “ข้าวของพี่ยักษ์ภูเขาต้องเป็นอะไรอย่างอื่นแน่นอนเลย อาหารของเขาน่ะ”

 

        สุดท้าย ลีต้องลองคุยกับยักษ์ภูเขาด้วยตัวเองให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นภาษาอะไรลีก็พยายามจะเข้าใจให้ได้ และไม่รู้สึกเหงาอีกต่อไปเมื่อมียักษ์ภูเขามาอยู่นอกบ้านด้วย แม้ยักษ์ภูเขาไม่ค่อยสนใจลีเท่าไหร่ แต่ลีกลับขอให้ยักษ์ภูเขาอยู่แถวบ้านของเขาให้ได้ เพราะยักษ์ภูเขาเป็นเหมือนบอดี้การ์ด แต่เรื่องน่าทึ่งก็เกิดขึ้นเมื่อเขาเห็นว่ายักษ์ภูเขาสามารถจัดการกับฮอสไตล์ม็อบได้ นี่ยิ่งทำให้ลีถูกใจสิ่งนั้นเข้าไปใหญ่ ลีอธิบายเรื่องพวกซอมบี้หมวกเหล็กให้ยักษ์ภูเขาฟัง และอ้อนวอนให้มันจัดการกับกองทัพดังกล่าวให้หน่อย แล้วจากนั้นก็กลับบ้านทันทีเพราะว่ามันมืดค่ำเกินไปแล้ว

        “เจ้านายไปทำอะไรพี่ยักษ์ภูเขา?” แจ้ถาม

        “อีกแล้วนะแจ้” ลีบอก “ขอเถอะตัวนี้ อย่าหึง”

        “ทำไม?” แจ้ถาม

        “ฉันอยากให้เขาอยู่ที่นี่อีกนาน” ลีตอบ

 

        วันต่อมา

        “ผมไม่สนใจยาเคมีคอลเอ็กซ์อะไรนั่นละ ผมจะสนใจพี่ยักษ์ภูเขาข้างนอกนั่น” ลีพูด แล้วเดินออกไปหายักษ์ภูเขาทันที

        ลีชักจะสนใจยักษ์ภูเขาเป็นพิเศษ เพราะว่าตั้งแต่ยักษ์ภูเขามาที่นี่ พวกฮอสไตล์ม็อบก็ถูกจัดการจนหมด และคิดว่าถ้าเชือกล่ามได้ป่านนี้ล่ามมันไปยังจุดที่อุกกาบาตตกไปนานแล้ว

        เมื่อลีกลับมาบ้าน

        “เจ้านายเปลี่ยนไปนะช่วงนี้” แจ้พูด “ตั้งแต่เจ้านายเจออะไรพวกนี้ เจ้านายก็ไม่สนใจผมเลย”

        “เอ้า ก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าเราเจอกันบ่อยแล้ว เจอพวกทางโน้นเป็นครั้งแรกจะเป็นอะไรไป” ลีตอบ

        “อย่าให้ผมเจอคนอื่นบ้างละกัน” แจ้ประชด

 

        หลังจากที่ลีกลับมาจากการตัดไม้ ปรากฏว่า เขาไม่เห็นยักษ์ภูเขาอีกเลย นั่นทำให้ลีใจสลายอย่างมาก เพราะไม่นึกว่ามันจะหายไปเร็วขนาดนี้ เขาเสียใจอย่างหนักและอยากจะร้องไห้ออกมาเลย ดังนั้น ลีจึงกลับมาบ้านเพื่อบอกทั้งลุงทั้งไก่ว่า

        “พี่ยักษ์ภูเขาจากที่นี่ไปแล้วอะ”

        “มันต้องครึ่ง-ครึ่งเข้าไว้นะ” แจ้พูด

        “ก็ได้ มันอาจจะเป็นภาพหลอนหรืออะไรก็ได้!” ลีตอบ (แล้วเป็นภาพหลอนแบบอุปาทานหมู่ด้วยนะ ไม่ใช่แค่ลีคนเดียวที่เห็น ลุงพีกับแจ้ก็เห็นด้วย)

        ด้วยความผิดหวังที่ถาโถมเข้ามา ลีจึงตัดสินใจว่า เขาจะไปในเมืองอีกครั้ง

        “ลุงพี ผมจะกลับเข้าไปในเมืองจริง ๆ ละ” ลีพูด

        “ถ้าเธอคิดว่ามันดี เธอก็ไปเลย” ลุงพีพูด

        “ใช่ ผมคิดดีแล้ว! ผมไปแล้ว!” ลีตอบ จากนั้นก็พุ่งออกไปข้างนอกบ้านทันที

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.