Realm of Tales : Road To Fantasy Warfare (AU) บทที่ 9 เคมีคอลเอ็กซ์

Realm of Tales : Road To Fantasy Warfare (AU)

-A A +A

Realm of Tales : Road To Fantasy Warfare (AU) บทที่ 9 เคมีคอลเอ็กซ์

หมวดหนังสือ: 

“เรื่องมันเริ่มจากตอนนั้น...ตอนที่ผมเจอสิ่งของนั่น...”

 

        “เจ้านายคิดดีแล้วเหรอ?” แจ้ถาม

        “เอ้า ก็เมื่อกี๊นายบอกเองว่านายพร้อมจะไป” ลีพูด

        “ใจพร้อม แต่กายไม่พร้อมอะไรสักอย่างน่ะสิ” แจ้พูด

        “เงียบก่อนเด็ก ๆ ได้ยินเสียงอะไรไหม?” ลุงพีกระซิบแทรก

        “เออใช่ ผมก็ได้ยิน” ลีตอบ จากนั้นก็เปิดประตูออกไปข้างนอก ปรากฏว่าเจ้าซอมบี้หมวกเหล็กถืออีเต้อมาถึงหน้าบ้านแล้วเรียบร้อย

        “โอ้โห! ลุงพี มันมาแถวบ้านแล้ว” ลีบอก จากนั้นก็ไล่ฟันซอมบี้หมวกเหล็กไม่ให้มันบุกมา

        “เจ้านายไม่ต้องกลัวนะ ผมจะจัดการให้” แจ้บอก

        “แล้วนายจะช่วยอะไรได้?” ลีถามแจ้

        “ช่วยเป็นกำลังใจให้เจ้านาย” แจ้ตอบ

        “ขอบคุณมากเลยช่วยได้เยอะเลย” ลีประชด จากนั้นก็ออกไปจัดการซอมบี้หมวกเหล็กทันที

        ลุงพีก็เอาด้วย เขาชักดาบเอ็นเดอไรต์ออกมาแล้วต้อนซอมบี้หมวกเหล็กให้จนมุม แต่มันก็บุกเข้ามาขุดทั้งประตูและโต๊ะคราฟติ้งพังหายไปหมดแล้ว

        “ผมว่านะ อยู่ข้างนอกก็ไม่ปลอดภัย ข้างในยังไม่ปลอดภัย เจ้านายไปที่สบาย ๆ เถอะ” แจ้บอก

        “ฉันว่าที่สบายที่สุดของพวกเราน่าจะอยู่ข้างใต้” ลีพูด “แต่มันก็ขุดข้างใต้ดินได้นี่นา”

        “เอาเป็นว่าจะเอายังไงดีกับวันนี้ล่ะ?” ลุงพีถาม

        “ผมจะไม่พาลุงกับแจ้ไปละกัน ถ้าไม่พาไปคงจะดีมากเลยเพราะผมไม่อยากจะพาไปเสี่ยงด้วย” ลีตอบ “ฝากดูแลบ้านด้วยได้ไหมครับ?”

        “ได้เลย ฉันจะดูแลบ้านเท่าที่ฉันจะดูแลได้” ลุงพีตอบ

        ดังนั้น ลีจึงปิดบ้านด้วยบล็อก ไม่ใช่ประตู จะได้ไม่ให้ใครเข้ามาได้ง่าย ๆ และก่อนที่เขาจะไป เขาทิ้งท้ายว่า “มีอะไรเอสโอเอสมาหาด้วยนะ”

        “ได้เลย เดี๋ยวฉันจะส่งวิทยุไปหา” ลุงพีตอบ

        “มีเครื่องรับส่งวิทยุด้วยเหรอ?” ลีถาม

        “พูดไปงั้นแหละ!” ลุงพีตอบ

        ระหว่างทาง ลีก็ได้ช่วยชีวิตไก่ที่อยู่บนบ่อน้ำแล้วฝากให้ดูแลบ้านของเขาด้วย ก่อนที่เขาจะจากไปทันที

        หลังจากผ่านไปได้ครึ่งทาง ลีกลับคิดพึมพำไปว่า...

        “คิดดีแล้วเหรอเนี่ยที่ปล่อยให้แจ้อยู่กับลุงพี แต่ก็ดีแล้วล่ะ ขืนพาออกมาตอนนี้จะอันตรายเปล่า ๆ แต่จะว่าไปแล้วเราตรวจสอบตัวเราดู มันเหมือนเราไม่พร้อมยังไงชอบกล ๆ แฮะ ขอกลับบ้านไปเตรียมใจก่อน เอาของไปเก็บก่อน ขืนไปทั้งอย่างนี้มีหวังซวยแน่นอน ไม่สิ ๆ เรายังไม่ออกไปตอนนี้ เราต้องสร้างบ้านเป็นที่กำบังให้แน่นหนา มีอยู่สองสิ่งที่ไม่สามารถทำพังได้และใช้เวลานาน...หินออบซิเดียนและเบดร็อก...ใช่...”

        จากนั้นลีก็กลับมาบ้านและเปิดช่องทางออก

        “อ้าว กลับมาแล้วเหรอ?” ลุงพีทัก

        “ก็ใช่สิครับ” ลีตอบ

        “เจ้านายขี้ขลาดหรือเปล่า?” แจ้ถาม

        “ไม่ได้ขี้ขลาด แต่มาเตรียมใจ” ลีตอบ

        “นั่นแหละขี้ขลาด” แจ้บอก

        “เอาอะไรมาเป็นมาตรฐานวะเนี่ย?” ลุงพีถาม

        “เตรียมใจกับขี้ขลาดมันมีเส้นบาง ๆ คั่นไว้อยู่นะลุง” แจ้บอก

        “ตรรกะไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่ ไป ๆ” ลีบอกและไล่แจ้กลับไปข้างใน แต่แจ้ดันออกมาข้างนอกเสียก่อน เลยรีบผลักแจ้กลับไป “อย่าออกมา! กลับ ๆ ๆ ๆ ๆ!”

        “ผมเป็นไก่นะไม่ใช่เป็ด มากลับ ๆ ๆ อะไร?” แจ้ถาม

        ใช่แล้ว มุกไก่ ๆ กลับมาอีกแล้ว ลีกับลุงพีพร้อมใจกันส่ายหน้าไม่รับมุกของแจ้เลย

        “อยู่ที่นี่ไปแหละ” ลีพูด จากนั้นก็อุดบ้านตัวเองให้มิด “เอาเป็นว่าพวกเราจะกักตัวไว้ที่นี่สักวันหนึ่งนะครับ จะอยู่กันอย่างนี้แหละ”

        “โอเค ระหว่างนั้นก็ไปขุดหาของแล้วกัน” ลุงพีแนะนำ

 

        เช้าวันต่อมา ลีขุดให้ออกทางอื่นแล้วจากนั้นเขาก็ไปตัดไม้เพิ่มอีกครั้ง

        “ยังมีข้อสงสัยอยู่หลายข้อเลยว่า ทำไม คนในเมืองถึงหายไป และ...” ลีพึมพำระหว่างตัดไม้ “แปลกจัง มีแค่เรากับลุงพีที่รอด มีอะไรอยู่เบื้องหลังเหรอ...”

        “ว่าแต่เจ้ามิกกี้หายไปไหนเนี่ย บอกว่าจะไปหาอาหารกิน ไปหาไกลมากเลยนะเนี่ย” ลีพูด จากนั้นเขาก็เดินไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเขาพบกับถ้ำขนาดเล็ก ๆ และเจอกับหมูตัวหนึ่งด้วย ซึ่งพอคุยไปคุยมา ลีสงสัยว่าหมูตัวนี้อาจจะไม่ใช่มิกกี้ เพราะเขาพูดถึงครอบครัวและบ้านของตัวเขาด้วย แต่เจ้าหมูตัวนี้ไม่มีอะไรในหัวสักอย่าง ดังนั้น ลีจึงคิดว่าน่าจะหาของในถ้ำนี้ดีกว่า แน่ล่ะว่าลีได้ถ่านหิน (Coal) และเหล็ก (Iron Ore) เยอะแยะเลย

        ยิ่งมาลึก ลีก็พบกับหมูอีกเยอะแยะจนสงสัยว่านี่มันรังหมูหรือเปล่าเนี่ย แต่เขาก็คิดว่าเขาต้องการที่จะสร้างออบซิเดียนให้มาก ๆ โดยต้องการแหล่งลาวาให้เยอะ ๆ เพื่อสร้างหินออบซิเดียน แต่นอกจากนี้ต้องหาเพชรหรือไม่ก็เนเธอไรต์เพื่อที่จะขุดออบซิเดียนให้แตกได้ หรือไม่ก็ต้องนำเบดร็อกมาป้องกันซะ เพราะไม่มีอะไรสามารถทำให้เบดร็อกแตกได้ แต่การจะขนย้ายบล็อกเบดร็อกนั้นมันอีกเรื่องหนึ่ง ในเมื่อไม่มีอะไรทำให้เบดร็อกแตกได้ แล้วทำยังไงถึงจะเอามันออกมาได้

        หลังจากกลับมาแล้ว ลีก็กลับมาทำของอะไรอีกเพิ่มโดยตอนนี้จะต่อประตูเพิ่มอีกสองชั้นเพื่อความปลอดภัย ก่อนที่เขากลับไปยังถ้ำหมูอีกครั้งเพื่อดูให้แน่ใจว่าหนึ่งในนั้นคือมิกกี้จริง ๆ

        “สวัสดี เจอกันอีกแล้ว” มิกกี้ทักลี

        “อ้าว แล้วตัวที่ฉันเจอเมื่อกี๊ล่ะ?” ลีถาม

        “อ๋อ ที่นี่คือหลุมหลบภัยของพวกเรา” มิกกี้ตอบ

        “อืม นายน่าจะกลับไปอยู่บ้านของพวกเราได้แล้วนะ” ลีพูด

        “โทษที คือผมมาไกลไปหน่อย แถมขึ้นไม่ค่อยได้ด้วย” มิกกี้พูด

        “ก็แค่เดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้ว” ลีตอบ “เดี๋ยวฉันทำทางให้นายออกมาได้นะ อย่าลืมไปแวะด้วยล่ะ”

        ว่าแล้ว ลีก็กลับไปบ้านเพราะรู้สึกว่าจะค่ำแล้ว แต่ทันทีที่ออกมาจากถ้ำ ปรากฏว่าเขาเห็นซอมบี้หมวกเหล็กถืออีเต้อโผล่มาตั้งแต่ไกล ลีจึงรีบเข้าไปในบ้าน

        “เกิดอะไรขึ้นรึลี?” ลุงพีถาม

        “ก็ไอ้ซอมบี้หมวกเหล็กมันมาอีกแล้วสิครับ” ลีตอบ

        “งั้นฉันก็เตรียมลุยเลยดีกว่า” ลุงพีพูดพร้อมกับชักดาบเอ็นเดอไรต์ออกมา “มันมาทางไหน?”

        “มันมาข้างนอกครับลุง” ลีตอบ “รอดูว่ามันมาจากทางไหน”

        “เอาล่ะ ฉันจะตบมันเอง” ลุงพีพูด

        “ไอ้ตัวนี้มันไม่ได้มาทำร้ายเราเลย มันมาขุดอย่างเดียว” ลีพูด และเฝ้าดูลุงของเขาจัดการตบซอมบี้หมวกเหล็กถืออีเต้อจนร่วง “ไม่มีอะไรทำใช่ไหมเนี่ย ขุดเขาไปทั่ว”

        “ไม่ได้การแล้ว เราต้องเปิดรูรับแสงแล้วล่ะ จะได้เห็นว่าตัวอะไรมาทางไหนบ้าง” ลีพูดพร้อมกับเจาะช่องเป็นหน้าต่างให้เขาพอมองเห็นรอบด้าน

        “มันมาบุกอย่างนี้แสดงว่ามันรู้แล้วสิว่าเราอยู่ที่ไหน” แจ้พูด “เลยไปแจ้งหัวหน้าใหญ่ของมัน”

        “ไม่ต้องห่วงหรอก มันมาแค่ทีละตัว ไม่ได้มายกใหญ่เหมือนตอนอยู่ในเมือง” ลีพูด

        จากนั้นลีก็ไปขุดหินอยู่ในโพรงข้างล่างในบ้านอีกครั้ง คราวนี้เขามาเพื่อหาเหล็ก และเมื่อเขาได้เจอกับกรวดเขาก็ใช้พลั่วหิน (Stone Shovel) ขุดจนมีการดร็อปหินฟลินต์ (Flint) เมื่อได้มาแล้ว ลีก็ได้ฤกษ์ทำไฟแช็กเสียเลย (Flint And Steel)

        “ผมว่านะพวกนี้จะมาทำลายหีบหรือเปล่า เพราะผมกลัวว่าจะไม่มีที่เก็บ” ลีถามลุง

        “ไม่รู้สิ แล้วยังไงล่ะ?” ลุงพีถาม

        “แล้วแร่เอ็นเดอไรต์ของลุงนี่ทำอะไรได้เหรอครับ?” ลีถาม

        “ก็...ไม่รู้สิ ถ้าเป็นมิติเนเธอร์ (Nether Dimension) ก็มีแร่เนเธอไรต์ (Netherite Ore and Ingot) มิติดิเอ็นด์ (The End Dimension) ก็น่าจะมีแร่เอ็นเดอไรต์ (Enderite Ore and Ingot) และถ้ามียันมิติเอเธอร์ (Aether Dimension) ก็อาจจะมีแร่เอเธอไรต์ด้วยก็ได้ (Aetherite Ore and Ingot)”

        “ผมถามเรื่องแร่เอ็นเดอไรต์ก่อน” ลีพูด “ใช้คราฟต์เครื่องมือและชุดเกราะอย่างเดียวเหรอครับ?”

        “ไม่น่าจะทำแค่นั้นได้หรอกนะ” ลุงพีตอบ “เพราะถ้าเนเธอไรต์สามารถหลอมรวมกับเครื่องมือและชุดเกราะเพชรได้ เอ็นเดอไรต์และเอเธอไรต์ก็ไม่น่าจะต่างเท่าไหร่ มีทั้งหลอมรวมกับชุดเกราะและเครื่องมือเพชรได้ หรือคราฟต์เพียว ๆ ไปเลยก็ยังได้”

        “อ๋อ อย่างนี้นี่เอง” ลีพูด

        หลังจากนั้นลีก็ลงไปขุดข้างล่างหวังจะเอาเหล็กอีกครั้ง บางครั้งถึงกับต้องท่องคาถา “เหล็กจงมา เหล็กจงมา” แล้วก็มาจริง บางทีอาจจะมาน้อยเกินกว่าที่คิด พอลีบ่นนิดหน่อยก็เจออีก ซึ่งช่วงนี้ก็เจอเหล็กบ่อยจริง ๆ

        และเมื่อกลับมา ลีก็กลับมาเผาเหล็ก พร้อมกับพิจารณาว่า ระหว่างชุดกับดาบเหล็กอันไหนสำคัญกว่ากัน แต่ระหว่างที่เผา แจ้ก็อยู่ใต้เตาเฟอร์แนนซ์ที่กำลังเผาไฟอยู่ด้วย

        “แจ้! ไม่ร้อนเหรอ?” ลีถาม

        “ไม่ร้อน กำลังอุ่นดี” แจ้ตอบ

        “ถ้าเกิดว่าตัวโดนเผาไหม้ก็ไม่รู้ด้วยนะ” ลีพูด

        “ช่างเถอะ” แจ้บอก

        “ไหนก่อนหน้านี้บอกไม่อยากให้ตาย คนมันเปลี่ยนใจกันง่ายขนาดนี้เลย” ลีพูด

 

        และด้วยความที่ลีเริ่มหิวแล้ว (ท้องร้องก็คงไม่แปลก) ลีจึงคิดจะไปปลูกที่บ่อน้ำใกล้ ๆ แต่ดันเจอกับไก่ตัวใหม่เสียก่อน และบังเอิญว่าลีไปทักซะด้วย เรื่องใหญ่จึงบังเกิด เมื่อไก่ตัวนั้นดันเข้ามาบ้านซะด้วย

        “หืม เกิดอะไรขึ้น?” ลุงพีถาม

        “คุยกับไก่ข้างนอก...นั่นไงเขาเข้าบ้านแล้ว” ลีตอบและชี้ไก่อีกตัวที่มาจากรูหน้าต่าง

        “ใครวะ! เข้ามาทำไมวะ! นี่บ้านฉันนะเว้ย!” แจ้โวยวายใส่ไก่ที่จะเข้ามา

        “อยากมาเห็นเฉย ๆ” ไก่ตัวนั้นตอบ

        “ไปเถอะลูกเอ๊ย เรามีไก่แล้ว” ลุงพีกล่อมไก่ตัวนั้น

        “สงสัยไก่ตัวนี้เป็นตัวเมีย” แจ้บอก

        “เหรอ??” ลีถาม “ฮั่นแน่!! รักครั้งแรกหรือเปล่าเนี่ย!”

        ทันใดนั้นไก่ตัวเมียที่ว่าก็เดินเข้ามาชนหน้าลีเต็ม ๆ แล้วก็เดินออกจากบ้านไป

        “เจ้านายให้เขาจูบหน้าเรอะ!” แจ้ร้อง

        “เปล่า! เขาเดินมาชนเอง!” ลุงพีตอบ

        “ผมไม่ชอบผู้หญิงแบบนี้ หลายใจ” แจ้พูด

        “แล้วเอาอะไรมาตัดสินว่าหลายใจ?” ลุงพีถาม “มันอาจจะเผอิญก็ได้ที่มาจูบลี”

        “ไม่เผอิญหรอก อยู่ดี ๆ ก็มาจูบโดยไม่เตือน มันน่าจะปิ๊งเจ้านายตั้งแต่แรกละ เจ้านายไปทำอะไรเขาหรือเปล่า?” แจ้ถาม

        “ก็แค่ฉันไปหามิกกี้ เสร็จแล้วก็กลับมาทำไร่ทำนา ตอนทำนาเนี่ยแหละเจอไก่ตัวนี้พอดี ฉันทักไปและบอกว่าให้มาพบแจ้ สงสัยมาหาฉันมากกว่าละมั้ง” ลีบอก

        “ผมงอนแล้ว” แจ้เบือนหน้าหนี

        “ทำไม?” ลุงพี “งอนแล้วจะได้อะไร?”

        “นี่จะย้อนศรผมอีกแล้วเหรอ?” แจ้ถามกลับ

        “แจ้” ลีเรียก

        “เจ้านายก็รู้นี่ว่าผมรักเจ้านาย!” แจ้โวยวาย

        “ฉันเพศอะไร?” ลีถาม

        “ชาย” แจ้ตอบ

        “ลุงพีเพศอะไร” ลีถาม

        “ชาย” ลุงพีตอบ

        “แจ้เพศอะไร ก็ชาย” ลีพูด

        “หญิง”

 

        ช็อกทั้งแผ่นดินเพราะคำพูดของแจ้ เพราะทั้งลุงทั้งหลานก็รู้ดีว่าแจ้เป็นเพศชายมาตลอด แต่แจ้กลับมากลับคำแบบนี้มันเริ่มเสียความรู้สึกอย่างหนัก

        “ฉันเลี้ยงนายมาตลอดห้าปี ฉันนึกว่านายเป็นผู้ชายมาตลอด!” ลีพึมพำ

        “นั่นสิ” ลุงพีพึมพำตามหลาน หน้าของทั้งลุงทั้งหลานสีเหมือนกระดาษมากขึ้นทุกทีแล้ว

        “อ้าว เจ้านายกับลุงเพิ่งรู้เหรอ ผมเป็นหญิง...” แจ้พูด จากนั้นก็กระโดดโลดเต้นพร้อมกับบอกว่า “หญิงที่ไหนเล่าล้อเจ้านายเล่น ผมเป็นชายต่างหากเจ้านาย ยะฮู้!!”

        มุกไก่ ๆ มาอีกแล้ว แน่ล่ะทั้งลุงทั้งหลานไม่ขำทั้งคู่ และโกรธที่แจ้ดันมาเล่นอะไรไม่เข้าท่า

        “หัวใจเกือบวาย!!” ลุงพีสบถ

        “อย่ามาโกหกแบบนี้” ลีพูด “การโกหกไม่ดี เป็นบาป”

        “ผมขอโทษ” แจ้บอก

        “เอ๊ะ ว่าแต่ เธอเป็นชาย แต่ออกไข่ได้ยังไง?” ลุงพีตั้งข้อสังเกต

        “มันเป็นกรรมพันธุ์ กลายพันธุ์อ่ะรู้จักหรือเปล่า?” แจ้ถาม

        “เดี๋ยว จะบอกว่านายกลายพันธุ์เป็นไก่ตัวผู้ที่ออกไข่ได้?” ลีถาม “แสดงว่า...คือ...นายจะบอกว่านายได้ทั้งสองเพศเลยเหรอ?”

        “ใช่” แจ้ตอบ

        “หมายความว่านายเป็นทั้งหญิงและชายในตัวเดียวกัน?” ลีถาม หน้าเริ่มซีดลง

        “ใช่”

        “มิน่า ทำไมบอกรักเราตลอดเลย!” ลีร้องด้วยความช็อก “หึงหวงตลอดเลยช่วงนี้!”

        “เอาน่า สัตว์ในโลกนี้มันก็เป็นได้ทั้งสองเพศแหละ” ลุงพีตอบ “ไม่ต้องไปถือสามาก ขนาดแกะ วัว หมู ยังไม่รู้ว่าเพศไหน แต่สามารถผสมพันธุ์กันแล้วสามารถคลอดลูกได้ และขนาดไก่เป็นสัตว์ที่ออกไข่ได้ยังสามารถคลอดลูกเป็นตัวเหมือนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมได้เลย!”

        “ไม่ยักกะรู้มาก่อนเลยเรื่องสิ่งมีชีวิตในโลกนี้อ่ะ” ลีพูด “ผมชักจะไม่มั่นใจซะแล้วว่าทำไมถึงต้องเป็นแบบนั้น”

        จากนั้นลีก็ได้เผาทรายให้เป็นบล็อกกระจกแล้วเอาไปติดที่ช่องที่จะทำให้เป็นหน้าต่าง และไม่กล้าที่จะคุยกับแจ้อีกแล้วหลังจากรู้ความจริงจากแจ้และลุงพี

        “จะออกไปหาอาหารละ เดี๋ยวมา” ลีพูด

        “รีบ ๆ มานะที่รัก” แจ้พูด

        “แจ้!!!” ลุงพีร้อง

        “บรึ๋ย!! ขนลุก!” ลีร้องลั่น “รู้ไหมว่าตอนที่ฉันถามและได้รู้ว่านายเพศอะไรเนี่ยฉันก็รู้สึกดีใจนะแจ้ ที่นายพูดกับฉันเมื่อกี๊ แต่เดี๋ยวนี้นายพูดคำเดิมทำให้ฉันรู้สึกเสียวสันหลังวาบ ๆ”

        “รีบ ๆ กลับมาล่ะเจ้านาย” แจ้บอก

        “ดีขึ้นมาหน่อย” ลีพูด

 

        จากนั้นลีก็ไปหาอาหารด้วยการล่าเนื้อ เขาเริ่มจากการฆ่าไก่ไปเรื่อย ๆ โดยที่เขาไม่ควรถือเนื้อไก่ให้แจ้เห็น จากนั้นลีก็ได้คิดว่าจะสร้างแคมป์ไฟร์โดยตั้งไว้ข้างนอกบ้านและจากนั้นก็ตั้งไว้ข้างนอกบ้านแล้วเผาเนื้อไก่ไปเลยส่วนหนึ่ง จากนั้นเขาก็ลงมือตั้งเตาสโม้กเกอร์และบลาสต์เฟอร์แนนซ์ไว้ข้างในเผื่อจะเผาอาหารและแร่เพิ่มอีก

 

        หลังจากล่าไก่ไปได้สักพักลีก็กลับมาและเห็นเจ้าซอมบี้หมวกเหล็กตัวใหม่มาอีกแล้ว

        “โหย เล่นตอนเราไม่อยู่ซะด้วย” ลีพึมพำแล้วเรียกลุงพีว่า “ลุงพีครับ!! ไอ้ตัวใหม่มันมาแล้ว ข้างนอกน่ะ!”

        “ไหน ๆ อะไร?” ลุงพีถาม และเขากำลังจะออกไปข้างนอกพร้อมกับดาบเอ็นเดอไรต์ในมือ

        ปรากฏว่าลีเห็นว่ามันผ่านบ้านของเขาไปในจังหวะที่ลุงพีออกมาอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นมันก็กลับมาทำร้ายลุงพี แต่เขาป้องกันตัวไว้ได้ก่อน

        “พี่ ๆ ไม่ใช่ทางนี้พี่” ลีกล่อมซอมบี้ตัวนั้น “ไปขุดบ้านตรงฝั่งโน้นไป ฝั่งโน้นสวยกว่า”

        “มัวแต่กล่อมอยู่นั่นแหละ จะช่วยฉันไหม?” ลุงพีถามระหว่างที่สู้

        “อ่ะ สู้ครับ” ลีตอบแล้วเข้าไปจัดการสู้กับซอมบี้ตัวนั้นด้วยจนสามารถฆ่าซอมบี้หมวกเหล็กได้แล้ว

        “อุตส่าห์หลอกได้แท้ ๆ เลย มันดันรู้ทันอีก” ลีพึมพำ

        “เมื่อกี๊มีอะไรเหรอ?” แจ้ถาม

        “เมื่อกี๊ซอมบี้บุกมาน่ะสิ” ลีตอบ จากนั้นเขาก็ออกไปเพื่อเก็บเนื้อไก่ที่เผาได้แล้วออกมากินโดยไม่ให้แจ้เห็น

        “ทำอะไรกัน?” ลุงพีถาม

        “ไม่มีอะไร ผมแค่กินเนื้อเท่านั้นเอง” ลีตอบ จากนั้นก็เดินออกไปหาของในถ้ำต่อ โดยลีคิดว่าวันต่อมาจะต้องไปหาของในเมือง และระหว่างทางเขาได้ทักมิกกี้และลงไปขุดในถ้ำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วก็กลับมา

        “ผมรู้ว่าเจ้านายทำอะไร ไปคุยกับมิกกี้ใช่ไหม?” แจ้ถาม

        “ก็มิกกี้หลงลืมนี่นา” ลีบอก

        “ถ้าผมรู้ว่าเจ้านายไปคุยกับมิกกี้อีกผมจะงอนเจ้านายอย่างถาวร” แจ้บอก

        “เออ ก็ดี” ลีตอบ

        “อ้าว ไม่ง้อผมเหรอ?” แจ้ถาม

        “ใครจะไปง้อ ไม่เมกเซนส์สักนิด” ลีบอก

        “อะไรไม่เมกเซนส์? ต้องให้ผมไปตามจิกใช่ไหม?” แจ้ขู่

        “นี่ ใช้คำนี้ นี่เธอกับลีเป็นแฟนกันหรือยังไง?” ลุงพีถาม

        “ถ้าเป็นได้ก็ดี” แจ้ตอบ

        เกิดความเงียบไปครู่หนึ่ง

        “อ้าว เงียบทำไม?” แจ้ถาม

        “ไม่รู้เหรอว่าตอนนี้ลุงเกลียดพฤติกรรมตอนนี้ของเธออยู่” ลุงพีถาม “และลุงไม่ขำด้วยนะ ไม่ขำสักนิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องนี้ลุงไม่ขำเลย”

        “คือ...” ลีอ้าปากจะพูด

        “รู้ไหมลี ฉันโกรธมากที่แจ้เป็นแบบนี้ หึงหวงอย่างกับเป็นคู่รักกัน ตอนนี้ฉันปวดหัวกับการต้องสืบหาเบื้องหลังความผิดปกติระหว่างการผจญภัยของพวกเรา แล้วก็ต้องมาปวดหัวเรื่องแจ้อีก อะไรของเขากันนะ” ลุงพีบอก

        “ลุง อย่าไปถือสาผมเลย ผมก็เป็นแบบนี้แหละ” แจ้ตอบ

        “ทำไมจะไม่ให้ลุงถือสา ในเมื่อพฤติกรรมของเธอยังไม่ดีขึ้นเลย” ลุงพีบอกแจ้

        “โอย ผมว่า ข้ามเรื่องแจ้ไปดีกว่าครับ” ลีพูด “เพราะว่า พวกเราต้องเอาตัวรอดจากเหตุการณ์นี้ไปให้ได้นะครับ”

        “โอเค” ลุงพีตอบ “รีบไปรีบกลับนะ”

 

        หลังจากกลับมาจากการหาของในถ้ำ

        “เจ้านายไปถ้ำนั้นบ่อยจัง” แจ้บอก “มิกกี้อยู่ตรงนั้นใช่ไหม?”

        “เอะอะ ๆ ก็มิกกี้” ลีพูด จากนั้นเขาก็เอาหินที่เขาขุดได้หุ้มบ้านสองชั้นจนกว่าหินจะหมด ระหว่างหุ้มก็ระแวงว่าจะมีตัวอะไรมาทำร้ายอีก จากนั้นก็ลงไปขุดหินใต้ดินต่อเลย

        พอได้หินในจำนวนที่ลีพอใจ เขาก็กลับขึ้นมาแล้วมานอนทันที แถมมีระแวงเสียงแปลก ๆ อีก

        ระหว่างนอนลีพบว่าแจ้อยู่บนหน้าอกของลี แจ้บอกว่าจะนวดให้ แต่ลีไม่อยากให้ทำแบบนั้น เพราะเขากลัวว่าจะเหมือนผีอำ

 

        เช้าวันต่อมา ลีก็ได้ออกเดินทางไปยังเมืองเป็นครั้งแรกทันที โดยระยะทางจากบ้านของเขาถึงตัวเมืองก็ไม่ใช่ใกล้ ๆ เลย มันไกลเอาเรื่อง และระหว่างทางลีได้ผ่านร่องที่เป็นเหวลึกลงไป ซึ่งโชคดีที่เขาไม่ลงไป ไม่อย่างนั้นคงจะลำบากแน่เลย

        เมื่อลีมาถึงตัวเมือง เขาผ่านตึกสีเขียว และสังเกตว่ามีใครบางคนเดินอยู่ในตึก และสงสัยว่าอาจจะมีคนรอดอยู่ในนั้นก็ได้ เขาจึงกระโดดปีนข้ามรั้วที่เป็นพงไม้เข้าไปข้างในตึก แล้วตะโกนเรียกผู้รอดชีวิต เผื่อจะเจอมนุษย์หลงเหลือสักคน

        แต่ถึงแม้จะได้ยินเสียงคนเดิน แต่ลีกลับไม่เจอคนเลย แม้แต่ของก็ไม่มีอยู่ในหีบหรือในถังไม้เลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งเสียงคนเดินนั้นมาจากด้านบน ซึ่งลีเดินขึ้นไปสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งขึ้นไปจะถึงชั้นห้าแต่คั่นกลางตรงนั้นกลับมีรอยผุพังบางอย่างที่อาจจะเป็นอุบัติเหตุก็ได้ ซึ่งพอมาถึงชั้นห้า ลีได้ไปเข้าห้องหมายเลขสิบ พบว่ามีการถล่มลงมาตั้งแต่ชั้นแปดขึ้นไป ลีสงสัยว่ามันมีอะไรไม่ชอบมาพากล จึงขึ้นไปชั้นหก และพบกับหีบใบหนึ่งที่ป้ายเขียนว่า ‘Last left...’ และเมื่อเป็นข้างในดู ก็พบกับขวดยาที่ติดฉลากไว้ว่า เคมีคอลเอ็กซ์ (Chemical X) ซึ่งรีดอย่าไปนึกถึงยาจากการ์ตูนเพาเวอร์พัฟเกิร์ลนะ ไรต์รู้นะว่ารีดคิดอะไรอยู่

        เมื่อลีไม่รู้ว่ามันคืออะไร เขาจึงเก็บมันมาแล้วออกไปจากตึกทันที เขาคิดว่ายานี้ถ้าใช้กับแจ้อาจจะแข็งแกร่งขึ้นก็ได้

        ระหว่างทางเขาแวะไปดูสถานที่อื่นก่อน เขาเห็นว่ามันร้างมาก ไม่มีใครอยู่ข้างในเลยสักนิดเดียว และลีคิดว่าน่าจะต้องแวะบ้านสักหลังก่อนที่เขาจะกลับไป แต่ไม่ทันไรเขาก็ได้เจอกับซอมบี้ตัวใหญ่กล้ามโตกำลังพังบ้าน และจู่ ๆ ก็มาพบกับลีที่กำลังเดินผ่านมา มันจึงเดินเข้ามาหาลีหวังจะทำร้าย และใช้กำปั้นของมันทุบพื้นเป็นคลื่นกระแทกอย่างหนัก ลีรีบหนีทันทีเพราะเขาทำอะไรเจ้าซอมบี้ตัวใหญ่กล้ามโตแทบไม่ได้เลย ลีรีบวิ่งไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเห็นว่ามันเสกลูกสมุนมาด้วย ซึ่งซอมบี้ปกติก็ไม่สามารถอยู่ในที่กลางแจ้งตอนกลางวันได้อยู่แล้ว ดังนั้นมันจึงถูกเผาตาย แต่มันก็ไม่ได้ถูกเผาได้นานหรอก เพราะว่ามันจะมืดค่ำแล้ว ดังนั้นลีจึงรีบหนีทันทีในขณะที่ระยะห่างระหว่างซอมบี้ตัวใหญ่กล้ามโตกับลีนั้นห่างมากขึ้นจนมันไม่ตามเขามาแล้ว ลีรีบกลับไปบ้านทันทีเพื่อไปบอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้แจ้กับลุงพีฟัง โดยหวังว่าทั้งสองจะมีคำตอบเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

        เมื่อกลับมาถึงบ้าน

        “เป็นอะไรมาหน้าถอดสีมาเชียว” ลุงพีถาม

        “พอดีว่า ระหว่างที่ผมเข้าไปในเมือง ผมเจอขวดยาเคมีคอลเอ็กซ์” ลีตอบ จากนั้นก็ถือขวดยาให้ลีกับแจ้เห็น

        “ผมรู้!” แจ้ร้อง “เพาเวอร์พัฟเกิร์ลใช่ไหม?” แจ้ถาม

        “คนละอย่างกันแล้ว” ลุงพีพูด “ไปเจอมันได้ยังไงน่ะลี?”

        “มันเป็นยา เอ็กซ์เหมือนเป็นกระดูกไขว้” ลีพูด “ผมจะเล่าให้ลุงฟังว่าผมได้มายังไง แล้วนี่แจ้จะฟังไหม?”

        ประโยคสุดท้ายลีถามหลังจากที่เห็นแจ้ไปมุดอยู่ใต้ดิน

        “ฟังสิ ๆ ผมแค่หิวไส้เดือนเฉย ๆ” แจ้ตอบ “เอ๊ยไม่ใช่ ผมแค่มาดูต่างหาก”

        “ลุงพีครับ คือว่าผมเห็นเหมือนมีคนเดินอยู่ในตึก ผมขึ้นไป ก็เจอเคมีคอลเอ็กซ์ แต่จริง ๆ แล้วมันไม่มีคนและในตึกมีซากอะไรพังทลายลงมาแล้ว ผมก็เลยเก็บขวดยาแล้วก็ลงมา ผมตั้งใจจะกลับไปละ แต่เห็นว่าบ้านข้าง ๆ มันน่าสนใจ ผมก็เลยลองเข้าไปดู พอเห็นบ้านเท่านั้นแหละ ซอมบี้ครับ! ตัวใหญ่กล้ามโตอย่างกับเดอะฮัล์ค!!”

        “นี่เธอไปเจอมาแล้วเหรอ?” ลุงพีถาม

        “เจอจริง ๆ เต็มสองตาเลยครับ!!” ลีตอบ “แล้วมันปล่อยคลื่นกระแทกทุบทีเดียวแทบกระจุย ตอนนี้ยังขนลุกซู่ยังไม่หายเลย”

        “ทำไม?” ลุงพีถาม

        “ปวดอึ” ลีตอบ

        “ฮ่วย!” ลุงพีสบถและกุมขมับ

        “เมื่อกี๊พูดเล่นครับ เอาเป็นว่า มันต้องมีคำตอบแน่ ๆ ครับ” ลีพูด

        “ฉันว่านะ” ลุงพีพูด “ก่อนหน้าที่อุกกาบาตมันหล่น มันต้องมีอะไรก่อนหน้านี้แน่นอนเลย”

        “มีอะไร?” ลีถาม

        “ดีไม่ดีอาจจะมีตั้งแต่หลังจากที่เรานั่งเรือไปจากเมืองได้ไม่นานด้วยซ้ำ” ลุงพีบอก “มันน่าจะต้องมีใครบงการให้เรือที่เรานั่งมาล่ม พร้อมกับทำให้ทุกคนในเมืองหายไปหมดในเวลาไล่เลี่ยกันแน่ ๆ”

        “ผมว่าเราต้องหาคำตอบกับเรื่องพวกนี้แล้วล่ะ ต้องมีใครอยู่เบื้องหลังเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ กับคนที่หายไป ซอมบี้ที่ตัวใหญ่ และกับเรือที่ล่ม” ลีบอก “ถ้าเกิดว่าเคมีคอลเอ็กซ์เป็นตัวแปร – แหม พูดอย่างกับเป็นทฤษฎีเชียว ถ้าเกิดว่าเคมีคอลเอ็กซ์เป็นตัวแปรทำให้เกิดเรื่องพวกนี้ ถ้าใช้กับซอมบี้ ซอมบี้จะตัวใหญ่...เอาเป็นว่า พรุ่งนี้เช้าเราจะไปหาคำตอบกันในเมือง”

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.