บทที่ 190 หมดหวัง...
ตึก...ตึก...ตึก
ผมที่อดใจไม่ได้ หลังจากที่พนักงานต้อนรับของโรงพยาบาลนำทางพาเธอไปยังห้องรับรอง ในจังหวะนั้นเองผมก็รีบสาวเท้าก้าวเข้าไปถามพนักงานต้อนรับทันที
‘เอ่อ...หมอขอสอบถามหน่อยครับ คุณผู้หญิงคนเมื่อกี้เป็นอะไรมาหรอครับ’ ผมตรงเข้าไปถามพนักงานตรงเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์
‘สะ...สวัสดีค่ะ ท่านประธาน’ พนักงานคนนั้นลุกขึ้นยืนทำความเคารพผมด้วยอาการตื่นเต้นทันที
‘เรียกผมว่า หมอมาคินทร์ ก็พอครับ’ ผมเอ่ยบอกเสียงเรียบ เนื่องจากผมค่อยชอบให้ใครเรียกผมแบบนี้ แล้วอีกอย่างผมยังแอบบริหารโรงพยาบาลนี้อย่างลับ ๆ
เพราะเรื่องนี้ยังไม่มีใครรู้มากเท่าไรนัก จะมีก็แค่บอร์ดบริหารกับเพื่อนสนิทของผมที่เป็นหมอด้วยกันเท่านั้น ส่วนพนักงานก็จะถูกห้ามบอกถึงการเป็นประธานของผม เนื่องจากตอนนี้ผมเองยังไม่พร้อมที่จะประกาศเรื่องนี้ออกไป โดยเฉพาะคนในตระกูลผม ผมไม่อยากให้พวกเขารับรู้ในสิ่งที่ผมทำ ผมไม่ต้องการให้พวกเขามาแทรกแซงสิ่งที่ผมกำลังสร้างด้วยตัวเอง ก็อย่างที่ผมบอกทุกคนต้องมีหนทางของตัวเอง และนี้ก็คือสิ่งที่ผมกำลังสร้างมันขึ้นมาด้วยมือของผมเอง โดยที่ไม่ต้องพึ่งบารมีใคร
ผมยืนรอฟังคำตอบจากพนักงานต้อนรับของโรงพยาบาลด้วยสีหน้านิ่งเรียบ ก่อนที่คำตอบของพนักงานคนเดิมจะให้ผมถึงกับตัวแข็งทื่อไปไม่เป็น
‘ค่ะ...คุณหมอมาคินทร์ และคุณผู้หญิงท่านเมื่อกี้ เขามาขอตรวจการ...ตั้งครรภ์ค่ะ’
ผมอึ้งทันทีหลังจากที่ได้ยินสิ่งที่พนักงานบอก อาการช็อกชั่วขณะเกิดขึ้นจนทำให้ผมแทบล้มทั้งยืน ก่อนที่ตัวผมจะพยายามตั้งสติและเก็บอาการเอาไว้ พร้อมกับจะเอ่ยถามต่อ...
‘แล้วนี่คุณระบุหมอผู้ที่จะทำการตรวจแล้วหรือยังครับ’ ผมทำทีเป็นถามออกไป โดยที่ตัวเองก็พยายามเก็บสีหน้าไม่สู้ดีเอาไว้
‘กำลังจะระบุค่ะคุณหมอมาคินทร์’ พนักงานเอ่ยตอบ
‘อืม...ถ้างั้นคุณก็ระบุเป็นชื่อผมไปเลยแล้วกันนะครับ’ ผมเอ่ยเสียงเรียบ พยายามไม่ให้ตัวเองดูมีพิรุธ
‘อ่อ...แล้วก็...’ ผมที่โน้มตัวเข้าไปหาพนักงานคนนั้น พร้อมกับพยายามพูดเสียงให้เบาที่สุดเพื่อบอกบางสิ่งที่ต้องการให้พนักงานคนนั้นทำให้
‘ได้ค่ะ’ พนักงานตอบรับ พร้อมกับรีบนั่งลงไปทำตามที่ผมบอกทันที
ผมเดินจากมาด้วยหัวใจที่เต้นระรัว ความวูบโหวงเริ่มเกาะกินหัวใจของผม ถึงแม้ว่าผมจะรู้ดีว่าระหว่างเธอกับเซบาสเธียพวกเขามีความสัมพันธ์อะไรกัน แต่ถึงกระนั้นมันก็ทำให้ผมอดเศร้าใจไม่ได้
นั่นก็เพราะว่า...ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมเองก็ยังแอบมีความหวังอยู่ลึก ๆ ว่าตัวเองยังมีโอกาสที่จะครอบครองหัวใจของเธอ ถึงแม้ว่ามันจะเหมือนกับเป็นการหลอกตัวเองก็ตาม...
ผมนั่งรออยู่ในห้องตรวจด้วยความรู้สึกกระวนกระวายใจ ทั้งที่ถ้าทำได้ผมเองก็อยากจะไปอำนวยความสะดวกและดูแลเธอด้วยตัวเอง แต่เมื่อชั่งใจแล้วผมก็เลือกที่จะนั่งรอเธออยู่ ณ ที่ห้องตรวจแห่งนี้ดีกว่า
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าจนกระทั่ง...เมื่อเวลาที่ผมจะได้เจอเธอมาถึง
ผมที่ประหม่าเกินกว่าจะสามารถนั่งเผชิญหน้ากับเธอได้โดยตรง ทำให้ผมเลือกที่จะนั่งหันหลังเพื่อทำให้จิตใจสงบขึ้นในระหว่างที่รอเธอเดินเข้ามา...
ก๊อก!...ก๊อก!...ก๊อก!
เสียงประตูที่ดังขึ้น แต่ทว่า...ณ เวลานี้มันคงไม่มีอะไรจะดังเท่ากับเสียงหัวใจของผมในตอนนี้แล้ว
ฮึบ ~~
ผมให้กำลังใจตัวเอง ก่อนที่จะเอ่ยปากออกไป
“เชิญครับ” ผมพยายามอย่างที่สุดที่จะควบคุมไม่ให้เสียงตัวเองสั่นด้วยความตื่นเต้น
ตึก...ตึก...ตึก
ผมที่ไม่รู้เลยว่าระหว่างเสียงฝีเท้าของเธอที่กำลังเดินเข้ามา กับเสียงหัวใจของผม อะไรที่มันดังกว่ากัน
“สวัสดีค่ะ...คุณหมอ” เธอเอ่ยทักทายผม
“สวัสดีครับ...คุณเอลิซ” ผมค่อย ๆ หมุนตัวกลับไปเพื่อทักทายเธอ
“อะ...อ้าว...คุณมาร์ค สวัสดีค่ะ...ไม่ยักกะรู้ว่า...” เธอที่ดูอึ้งในทันทีที่เห็นผม ส่งผลให้ดวงตาที่กลมโตอยู่แล้วยิ่งโตมากขึ้นไปอีกเพราะความตกใจ การแสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติของเธอนั่นยิ่งทำให้เธอดูน่ารักมากขึ้นไปอีก จนทำให้ความโหยหาที่อยู่ในก้นบึ้งหัวใจของผมตลอดมาปะทุจนผมเก็บอาการแทบไม่อยู่
“ไม่คิดว่าผมเป็นหมอใช่ไหมครับ...ถ้างั้นผมขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการเลยนะครับ ผม...นายแพทย์มาคินทร์ วงศ์เวชรุ่งเรือง...ครับ” ผมที่พยายามควบคุมความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ เอ่ยไขข้อข้องใจของเธอ ก่อนจะลุกขึ้นยืนพร้อมกับยื่นมือออกไปทักทาย (เอลิซคุณจะรู้ไหมว่าผมต้องพยายามควบคุมตัวเองมากแค่ไหนไม่ให้มือที่ยื่นออกไปสั่น จนอาจจะทำให้ผมเผยความในใจของตัวเองออกไปโดยไม่รู้ตัว...)
“สวัสดีอีกครั้งนะคะ” ใบหน้าสวยที่ยังดูสับสนอยู่เล็กน้อย แต่ยังคงยิ้มหวานยื่นมือบางนุ่มนิ่มออกมาจับทักทาย โดยที่ไม่รู้ถึงความผิดปกติของคนตรงหน้าเลย
“เชิญนั่งครับ” ใบหน้าขาวสะอาดสะอ้านระบายยิ้ม พร้อมกับผายมือเชิญให้คนที่ทำให้หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะนั่ง
“ไม่นึกว่าเป็นคุณหมอ นึกว่าเป็นแค่เภสัชเฉย ๆ หนะค่ะ” เธอพูดขึ้นมาด้วยท่าทีเคอะเขินเล็กน้อยปนสับสนเล็กน้อย
“อ๋อ...พอดีผมเรียนหลากหลายทางน่ะครับ...ก็อย่างว่าคนเราก็ต้องมีทางเลือกกันบ้าง” และนั้นคือคำตอบจากใจจริงของผม ผมที่ไม่ได้อยู่ในตำแแหน่งผู้สืบทอด และไม่ได้อยู่ในตำแหน่งลูกรักของท่านผู้นำ จำเป็นต้องมีทางเดินเป็นของตัวเอง นั่นก็เพราะผมไม่เคยมีความคิดที่อยากจะอยู่ใต้อาณัติ ของตระกูลวงศ์เวชรุ่งเรืองไปตลอดอยู่แล้ว
หลังจากที่เธอดูจะผ่อนคลายขึ้นเมื่อเห็นความเป็นกันเองของผม ทำให้เราสองคนต่างถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันไปมา ก่อนที่ผมจะหยิบเอกสารผลตรวจขึ้นมาเพื่อจะแจ้งผลการตรวจให้เธอทราบ
และเมื่อผมกวาดสายตาเพื่อดูผลทดสอบ ก็ปรากฏว่า...
ผลตรวจการตั้งครรภ์คือ... “...Positive...”
ผมดูผลที่อยู่ในมือด้วยใจที่สั่นระรัว จนเผลอมองผลตรวจสลับกับใบหน้าเธอไปมา ด้วยความรู้สึกหลากหลายผสมปนเป มันมีทั้งความรู้สึกยินดี และความรู้สึกที่ไม่อยากสิ่งที่แสดงผลอยู่ในมือของผมเป็นเรื่องจริง...
แต่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความลุ้นระทึกตื่นเต้นของเธอ ก็ทำให้ผมรับรู้ได้ทันทีเลยว่าผลการตรวจครั้งนี้ มันมีความหมายกับเธอมากแค่ไหน และมันทำให้ผมรู้ตัวแล้วว่า...
...นับตั้งแต่นี้ไปผมไม่มีหวังในตัวเธออีกแล้ว...
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 57
แสดงความคิดเห็น