บทที่ 135 ความอดทนที่ขาดสบั้น
คำสั่งกร้าวยิ่งทำให้คนที่โดนหมายหัวถึงกับตัวสั่น...
“ตาเซฟ นี่แกไม่เห็นหัวฉันเลยใช่ไหม...ฮึ” ป้าเธซ่าเองก็ไม่ยอมเช่นกัน และดูท่าจะไม่พอใจที่เขาออกโรงปกป้องฉันด้วย
“อีเนื้อนวลมึงอย่าให้กูพูดซ้ำเป็นครั้งที่สองนะ” เขาที่ไม่สนใจคำพูดของป้าเขาเลยสักนิด ยังคงคาดคั้นให้ผู้หญิงคนนั้นขอโทษฉันอยู่ดี
“หึ...มันจะมากไปแล้วนะ ทำแบบนี้นี่คือไม่ไว้หน้าฉันเลยใช่ไหม..ไป เนื้อนวล...กลับ” ป้าเธซ่าลุกขึ้นเตรียมตัวที่จะกลับ พร้อมกับแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่พอใจมากและดูท่าจะโกรธ (ฉัน) มากด้วยเช่นกัน เพราะดูจากสายตาที่คอยแต่จะเหลือบมองมาทางฉันอย่างคาดโทษ
“มะ...ไม่เป็นไรค่ะท่านหญิงเธซ่า เนื้อนวลผิดเองที่ไม่เจียมตัวไปส่งเสียงให้คุณนายเขาขุ่นเคืองใจ เนื้อนวลขอโทษก็ได้ค่ะ ท่านหญิงเธซ่า กับนายท่านเซบาสเธียอย่าทะเลาะกันเพราะเนื้อนวลเลยนะคะ” เนื้อนวลจับไปที่มือของป้าเธซ่า อีกทั้งยังบีบน้ำตาเรียกร้องความสงสาร
ฉันยืนมองดูฉากตรงหน้าด้วยความตกตะลึงอึ้งจนอ้าปากค้าง ถึงกับอุทานในใจออกมาว่า... อห... ที่ไม่ได้แปลว่าโอ้โห้ นี่ฉันกำลังดูละครน้ำเน่าหลังข่าวอยู่หรือเปล่าเนี้ย หึ แต่ละประโยคที่พูดออกมาคือเหมือนจะโบยความผิดมาให้ฉันทั้งหมด
ไม่ว่าจะกล่าวหาว่าฉันขุ่นเคืองที่เธอส่งเสียงหัวเราะ จนเป็นเหตุให้คุณเซฟกับป้าของเขาต้องทะเลาะกัน แต่นั่นมันก็เพราะว่าเธอหัวเราะเยาะฉันก่อนไม่ใช่หรอ! ฉันยังไม่ได้ทำอะไรให้เธอก่อนเลย แถมเรายังไม่เคยรู้จักกันมาก่อนด้วยซ้ำ ยังจะมีหน้ามาพูดว่าขอโทษก็ได้...เหอะ ฉันไปบังคับให้เธอมาขอโทษฉันหรือไงกัน ตลกสิ้นดี!!
ยังไม่พอ ยังมีการแสดงละครที่ทำตัวเป็นนางเอกผู้เสียสละยอมโดนกระทำอยู่ฝ่ายเดียวเพื่อเรียกร้องคะแนนความสงสาร... สิ่งที่เธอสตรอว์เบอร์รี่มาทั้งหมดฉันดูออกหรอกย่ะ...ชิ
ฉันที่ก่นด่าเธอในใจแม้อยากจะพูดออกมาแค่ไหน แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ฉันรู้ดีว่าทำไปมันก็ไม่มีผลดีอะไรสำหรับตัวฉันเลย ดังนั้นฉันจึงทำได้เพียงแค่สบถอยู่ภายในใจ
แต่เหนือสิ่งอื่นใด ฉันกลับรับรู้ได้ถึงความผิดปกติบางอย่างของเธอ ที่คนอื่นอาจจะไม่ทันได้สังเกตเห็น แต่ขอโทษทีที่มันไม่สามารถหลุดรอดสายตากลมโตของฉันไปได้ นั่นก็คือ คำพูดและสายตาของยัยเนื้อนวลเมื่อยามที่เธอพูดถึงคุณเซฟ หรือยามที่เธอมองมาที่คุณเซฟ มันปกปิดฉันไม่ได้เลยว่า เธอต้องการเขามากแค่ไหน...ใช่...ฉันคิดว่ายัยเนื้อนวลคนนี้แอบรักคุณเซฟของฉัน...ฉันมั่นใจ!!
เมื่อเซ้นส์ของผู้หญิงจับสัญญาณได้แบบนั้น ดวงตากลมโตของฉันก็จับจ้องไปที่เนื้อนวลอย่างไม่วางตาด้วยความระแวดระวังทันที พร้อมกับพยายามกดสีหน้าตัวเองที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจเอาไว้ เพื่อที่จะไม่ให้เธอรู้ตัวว่าฉันรู้ทันเธอและกำลังจ้องจับผิดเธออยู่
โดยในขณะที่สายตายังคงจับจ้องไปยังคนที่คิดไม่ซื่อ และคอยสังเกตการกระทำของเนื้อนวลอย่างไม่วางตา เพราะอยากรู้ว่าเธอจะมาไม้ไหน จะแสดงละครบทใดมาอีก และถ้าเธอจะมาไม้นี้ ถ้าอย่างนั้นก็ได้ ในเมื่อเธอต้องการจะเล่นบทอ่อนแอน่าสงสาร อยากจะเป็นนางเอกในเรื่องนี้ ฉันก็จะยอมรับบทเป็นนางร้ายให้เธอเอง...แต่ฉันจะทำให้เธอได้รู้ว่านางเอกเรื่องนี้ไม่มีวันที่จะได้พระเอกคนที่กำลังกุมมือฉันอยู่ในตอนนี้ไปครอบครอง เพราะฉันเองก็ไม่มีทางที่จะยอมเสียเขาไปให้ใครเด็ดขาด (*^*o)
ยัยเนื้อนวลยังคงร้องไห้กระซิกกระซี้ แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีที่จะขอโทษฉันแต่อย่างใด แม้คุณเซฟจะยังคงแสดงความไม่พอใจส่งเสียงฮึดฮัดและพูดบังคับให้เธอขอโทษฉันให้ได้ แต่เหมือนว่าเธอจะรู้ว่าป้าของเขาให้ท้ายอยู่ จึงได้แต่ทำตัวอ่อนแอโดนรังแกหลบหลังผู้สูงวัยที่จ้องมองมาที่ทั้งฉันกับคุณเซฟอย่างเอาเรื่อง
ฉันที่ไม่อยากให้เรื่องมันบานปลาย เพราะตราบใดที่เขายังคงคอยปกป้องฉันอยู่ แค่นั้นฉันก็รู้สึกอุ่นใจแล้ว เมื่อคิดได้แบบนั้น ฉันก็กระตุกมือเขาเล็กน้อยเพื่อให้เขาใจเย็นยอมโอนอ่อนให้ป้าของเขา เพื่อที่เราจะได้นั่งกินข้าวกันสักที เนื่องจากตอนนี้ท้องของฉันมันเริ่มร้องประท้วงเรียกหาอาหารแล้ว
เขาหันหน้ามามองฉันด้วยสายตาที่อ่อนโยนและรู้สึกผิดในเวลาเดียวกัน ที่เขาไม่สามารถทำให้คนที่มันหัวเราะเยาะดูถูกฉัน มาขอโทษฉันได้ ส่วนฉันเองก็ได้แต่ส่ายหน้าน้อย ๆ กลับไป เชิงเป็นคำตอบให้เข้าได้สบายใจว่าฉันไม่เป็นไรจริง ๆ นั่นจึงทำให้เขายอมที่จะถอยให้กับป้าของเขา
แต่ถึงกระนั้นเขาในฐานะท่านเซบาสเธียผู้ไม่เคยยอมลงให้ใคร ก็ยังไม่วายยกนิ้วขึ้นชี้หน้าหมายจะคาดโทษให้คนที่ยืนหลบอยู่ด้านหลังของป้าเขา โดยที่ไม่สนใจว่าจะทำให้ผู้เป็นป้าโมโหขึ้นมาอีก
“ตาเซฟ...!!อย่าหลงผู้หญิงให้มาก จนถึงขั้นไร้มารยาทกับป้าขนาดนี้นะ!!” ป้าเธซ่าแผดเสียงลั่นด้วยความโกรธ และก็ไม่พ้นที่จะหันมาแขวะฉันอีกจนได้
ฉันได้แต่ก้มหน้าอย่างไม่รู้จะทำตัวอย่างไรดี ตอนนี้ความประทับใจแรกในตัวฉันสำหรับป้าของเขาคงจะติดลบอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ถึงยังไงฉันก็ยังไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรป้าเขาถึงได้ไม่ชอบหน้าฉันมากขนาดนี้ ทั้งที่ฉันก็มั่นใจว่าไม่เคยเจอกับป้าเขาที่ไหนมาก่อน
คุณเซฟที่เหมือนจะรับรู้ได้ถึงความอึดอัดของฉัน รีบกระชับมือของฉันที่กุมอยู่ให้แน่นขึ้น ก่อนจะเอ่ยบอกป้าสายที่ยืนรอจัดอาหารขึ้นโต๊ะ โดยที่ไม่หันหน้าไปมองป้าเธซ่าที่กำลังหน้าดำหน้าแดงเพราะความโกรธอยู่เลยสักนิด
“ป้าสายเดี๋ยวจัดอาหารให้สองชุดแล้วตามเอาไปที่ห้องด้วย” เมื่อบอกเสร็จเขาก็เตรียมจูงมือพาฉันเดินไปให้พ้นจากตรงนี้ โดยที่ฉันรู้ดีว่าเขาน่ะพยายามสกัดกั้นอารมณ์โมโหของตัวเองเอาไว้มากแค่ไหน
เมื่อป้าของเขาได้ยินได้เห็นการกระทำของเขาที่ไม่แยแสต่อญาติผู้ใหญ่เลยสักนิด ถึงกลับโกรธจนเผลอพูดในสิ่งที่ไม่ควรจะพูดออกมา...
“ทำไมยังนอนกกกอดกันไม่หนำใจอีกหรือไง ถึงต้องหอบเอาข้าวเอาปลาเข้าไปกินกันถึงในห้อง หึ...เป็นสาวเป็นแส้หัดมียางอายซะบ้างนะย่ะ...ชิ" ยังไม่ทันที่ฉันกับคุณเซฟจะทันได้ก้าวเท้าเดิน เสียงเหน็บแนมจากญาติผู้ใหญ่ของเขาก็ดังกระแนะกระแหนขึ้นมาทันที
และครั้งนี้ก็เหมือนจะทำให้เส้นอารมณ์ของคุณเซฟขาดสะบั้น...
ผึ่ง!!
ขวับ!!
เขาหันหลังกลับมาเพื่อเผชิญหน้ากับป้าเขาในทันทีที่สิ้นเสียงเหน็บแนม
“ป้าจะเอายังไงกับพวกผม...ห๊ะ!!” เสียงทุ้มกังวานที่แสนเยือกเย็นแผดออกไปกระแทกใส่หน้าป้าของเขาอย่างเหลืออด
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 24
แสดงความคิดเห็น