Porpiang Writer 1 : The Superhero Arc บทที่ 12 พลังและอาวุธของพอเพียง

วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน ค.ศ. 2020

บ้านเลขที่ 303/18 ซอยไฮเอคโค่ 86 หมู่บ้านเดอะแรบบิท เมืองเซ็นเตอร์ซิตี้ กรุงเทพมหานคร

 

        หลังจากเหตุการณ์วางระเบิดครั้งนั้น พอเพียงกับมานั่งไตร่ตรองที่บ้านของเขา เพื่อหาวิธีรับมือกับเจ้าแฮกเกอร์ร้ายคนนั้น ที่น่าจะอันตรายที่สุดในโลกแล้ว

        เขารีบกลับไปปรึกษาเอไอทั้งสอง แฮมิลตัน และเรย์นะ

        “เรื่องใหญ่แล้ว” พอเพียงพูด “เดอะแบล็คกำลังเถลิงอำนาจอย่างหนัก”

        “พวกเราเข้าใจแล้วล่ะ” แฮมิลตันพูด “เพราะวันนั้นพวกเราก็โดนแฮกเหมือนกัน ใช่ไหมครับคุณเรย์นะ”

        “ใช่ค่ะ” เรย์นะเสริม “ขนาดดิฉันสร้างระบบป้องกันไว้อย่างแน่นหนาแล้ว ก็ยังโดนเดอะแบล็คเจาะเข้ามาได้ ดิฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำยังไงแล้วค่ะ”

        “ถ้าอย่างนั้นผมว่า” พอเพียงบอกเรย์นะ “ต้องมีวิธีที่จะเข้าถึงให้ได้ แหล่งกบดานนั้น ต้องเข้าถึงมันให้ได้”

        “งั้นเดี๋ยวดิฉันจะค้นหาที่อยู่ของเขาให้นะคะ” เรย์นะตอบ จากนั้นก็กำลังทำการเปิดแผนที่โลกสามมิติและค้นหาตำแหน่งที่ตั้งของแหล่งกบดานของเดอะแบล็ค ระหว่างนั้นพอเพียงก็ได้ขอให้แฮมิลตันบอกรายละเอียดเกี่ยวกับเดอะแบล็ค ว่าเขามีประวัติความเป็นมายังไง และมีพลังอะไรบ้าง เขาจะได้รับมือให้ถูก ๆ ซึ่งผลลัพธ์ที่พอเพียงไม่อยากจะเชื่อเลยก็คือ

        “เพ้นท์” แฮมิลตันพูด “ฉันได้ข้อมูลเกี่ยวกับเดอะแบล็คมาแล้ว แต่ขอโทษนะที่ปัญหาก็คือ ประวัติความเป็นมาของเขาน่ะ ดูเหมือนว่าจะถูกพลังงานบางอย่างรบกวนทำให้ฉันไม่สามารถบอกนายได้เลย แต่พลังและความสามารถของมัน ฉันพอจะบอกนายได้อยู่นะ เขาสามารถควบคุมอุปกรณ์ไอทีได้ทุกอย่าง รวมถึงสามารถปล่อยเชื้อไวรัสให้เข้าไปได้เลย”

        “งั้นเหรอ?” พอเพียงถาม แม้จะผิดหวังที่เขาไม่สามารถรู้ความเป็นมาของศัตรูรายนี้ได้ แต่พลังของศัตรูทำให้พอเพียงต้องคิดหนัก

        “ใช่” แฮมิลตันตอบ “และฉันสืบไปสืบมาฉันก็ช็อก เพราะว่าไม่ใช่แค่มัลแวร์คอมพิวเตอร์เท่านั้น มันยังมีการทำเชื้อไวรัสที่เป็นโรคระบาด พร้อมกับสร้างสัตว์ประหลาดขึ้นมาเป็นกองทัพอีก พวกมันคือ มัลแวร์ลีเจี้ยน (Malware Legion) กองทัพที่อันตรายที่สุด ประกอบไปด้วย มัลแวร์โซลเจอร์ (Malware Soldier) ซูเปอร์โซลเจอร์ที่ได้รับพลังจากไวรัสที่เจ้าแฮกเกอร์สร้างขึ้น รวมไปถึงยานพาหนะล้ำยุคพอ ๆ กับหน่วยไอดีพีเอ็มซะด้วย

        “อีกประเภทหนึ่งก็คือสัตว์ประหลาด มันถูกตั้งชื่อตามประเภทของมัลแวร์คอมพิวเตอร์ เช่น เวิร์ม (Worm) ถูกตั้งชื่อตามมัลแวร์ที่แพร่กระจายตามเครือข่าย แบ่งได้เป็นไมโครเวิร์ม (Microworm) เป็นหนอนขนาดเล็กที่จะสามารถเป็นปรสิตได้ถ้าเข้าไปในหู จมูก หรือปากของสิ่งมีชีวิต กับเมก้าเวิร์ม (Megaworm) ใช่! นายฟังไม่ผิดหรอก ถ้าไมโครเวิร์มเป็นหนอนขนาดเล็ก เมก้าเวิร์มก็จะเป็นหนอนขนาดยักษ์มหึมา! พลังทำลายล้างก็น่าจะโหดเอาเรื่องเลย

        “ต่อมาคือโทรจันทรูเปอร์ (Trojan Trooper) ชื่อนี้มาจากม้าโทรจัน มีความสามารถในการแทรกซึมแล้วล้วงข้อมูล ซึ่งจะปลอมตัวเป็นมนุษย์คนใดก็ได้ แล้วแพร่เชื้อใส่ศัตรูให้กลายเป็นซอมบี้ดิจิทัล หรือ อันเดดไซเบอร์ (Undead Cyber) นั่นเอง

        “ในขณะที่ เดอะรูตคิต (The Rootkit) คือสัตว์ประหลาดที่อันตรายที่สุด เจ้าหมอนี่แอบเนียนยิ่งกว่าโทรจันทรูเปอร์เสียอีก แถมยังมีร่างกายที่หลากหลายอีก เป็นสายเนียนก็ได้ สายแท็งก์ก็ดี แถมยังมีพลังที่แข็งแกร่งอีก

        “แล้วก็พวกสปายแวร์แมน (Spywareman) จะเป็นการแอบดูข้อมูลส่วนตัวของบุคคลและฝังตัวเข้าไปในร่างกายของศัตรูโดยไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเหมือนกับสัตว์ประหลาดตัวอื่น ๆ และแอดแวร์แมน (Adwareman) ตัวที่ยัดโฆษณาให้ศัตรูก็เช่นกัน ส่วนแรนซอมแวร์แมน (Ransomwareman) อันนี้คือตัวไถ่เงินศัตรูด้วยการล็อกบางส่วนของร่างกายมนุษย์ไม่ให้ทำงานด้วย

        “จริง ๆ หมวดหมู่สัตว์ประหลาดมันยังมีอีกมาก แต่ฉันว่าให้นายไปอ่านเพิ่มเติมอีกทีแล้วกันนะ ฉันจะอัปโหลดลงทั้งคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และโทรศัพท์มือถือทุกเครื่องของนายไว้ให้นะ”

        “โอเค” พอเพียงตอบ และหันไปบอกเรย์นะว่า “แล้วคุณล่ะ หาแหล่งกบดานเจอหรือยังครับ?”

        “อาจจะบอกไม่ได้เต็มปากนะคะว่าเจอแล้ว แต่มันมีสถานที่แห่งหนึ่งที่ไม่มีเครือข่ายสัญญาณรูปแบบไหน คลื่นไหน ความถี่ใดก็ตามเข้าถึงได้ นั่นคือที่เกาะควอลาสทาร่า (Qualastara Island)” เรย์นะตอบ “แม้จะเป็นแบบนั้น แต่ดิฉันคาดว่าน่าจะเป็นสถานที่กบดานสำคัญของเดอะแบล็คแน่นอนค่ะ”

        “เกาะควอลาสทาร่า?” แฮมิลตันว่า “ถ้าจำไม่ผิด ผมว่าเดิมเป็นหนึ่งในสาขาของฐานทัพองค์กรภารดรภาพแห่งวายร้ายไม่ใช่เหรอครับ?”

        “ใช่ค่ะ” เรย์นะตอบ “แต่เกาะนี้ถูกเดอะแบล็คยึดไปแล้วนี่คะ”

        “ผมกลัวว่าองค์กรภารดรภาพฯ อาจจะเข้ามาแว้งกัดเจ้าแฮกเกอร์แบบไม่ยั้งเลยก็ว่าได้” พอเพียงพูด “ฉะนั้น ผมจึงต้องมีอาวุธสำหรับรับมือกับศึกใหญ่ครั้งนี้”

        “อาวุธเหรอ? นายก็มีพลังวิเศษนี่นา” แฮมิลตันพูด “แล้วทำไมนายยังต้องการอาวุธอีก?”

        “มันไม่พอกับการต่อกรกับเจ้าแฮกเกอร์ร้ายน่ะสิ” พอเพียงตอบ “สิ่งที่ฉันต้องการคือพลังจากเรื่องแต่งต่าง ๆ ที่จะผสมผสานทั้งหมดให้มาเป็นพลังเดียวกันให้ได้”

        “เดี๋ยวนะ นายกำลังจะบอกว่า นายอยากได้พลังแบบเดียวกับอัตลักษณ์ออลฟอร์วัน (All For One Quirk) อย่างนั้นเหรอ?” แฮมิลตันถาม

        “ใช่” พอเพียงพูด

        “แต่นายก็มีแล้วนี่” แฮมิลตันบอก “พลังที่จะสามารถใช้พลังวิเศษจากโลกเรื่องแต่งได้ตั้งเยอะแยะเลยล่ะ นายจะเลือกใช้พลังอะไรบ้างล่ะ?”

        “ขอรายชื่อสิ” พอเพียงตอบ

        “ก็ได้”

        สิ้นเสียงแฮมิลตัน เอไอหนุ่มก็ได้ส่งรายชื่อพลังวิเศษทั้งหมดมาให้พอเพียงดู พลังวิเศษที่พอเพียงรู้จักมาตลอดหลายพลัง สุดท้ายพอเพียงก็ได้เลือกพลังดังต่อไปนี้มาใช้...

        1.อัตลักษณ์วันฟอร์ออล (One For All Quirk) จาก มายฮีโร่อะคาเดเมีย (My Hero Academia)

        2.เคออสเอ็นเนอร์จี้ (Chaos Energy) จาก โซนิค เดอะ เฮดจ์ฮ็อก (Sonic The Hedgehog)

        3.อินฟินิตี้เจ็มส์ จาก มาร์เวล

        4.ไครเน็ต นาโนสูต (Crynet Nanosuit) จาก ไครซิส (Crysis)

        นี่คือสี่พลังแรกที่พอเพียงเลือกมาใช้งาน

        “นอกจากพลังแล้ว ฉันจะต้องใช้อาวุธด้วย” พอเพียงพูดกับเอไอหนุ่ม

        “โอเค นายจะเลือกอาวุธไหนบ้าง?” แฮมิลตันถาม

        “เดี๋ยวขอเลือกก่อนนะ” พอเพียงพูด “ขอแบ่งเป็นประเภทอาวุธเลยแล้วกันนะ”

        “ได้” แฮมิลตันพูด

        โดยอาวุธที่เขาเลือกตามหมวดหมู่นั้นจะเป็นดังนี้...

        หมวดปืนพก เขาใช้ซามูไรเอดจ์ทองคำเป็นปืนประจำตัว แถมยังเป็นปืนคู่อะคิมโบอีกต่างหาก

        ปืนกลเบา เขาใช้ปืนเอ็มพี 5 (MP5)

        ปืนคาร์ไบน์และไรเฟิลจู่โจม จะใช้ปืนเอชเค 416 (HK416) ซึ่งติดตั้งปืนยิงลูกระเบิดเอ็ม 203 (M203 Grenade Launcher) และติดตั้งกล้องสโคปซูมสี่เท่า ติดไฟฉายและติดตัวยิงเลเซอร์สีแดงด้วย ส่วนปืนอื่น ๆ ในหมวดหมู่เดียวกันที่พอเพียงจะใช้คือ เอ็ม 4 เอ 1 (M4A1) ที่ติดอุปกรณ์เดียวกัน

        ปืนลูกซองปั๊มแอ็กชั่น จะใช้ปืนสปาส-12 (SPAS-12)

        ซึ่งอาวุธเหล่านี้คือ อาวุธที่มาจากโลกจริง แต่ต่อจากนี้ไปคืออาวุธจากโลกในเกมอย่าง ไครซิส, ฮาล์ฟไลฟ์ (Half-Life), เกียร์สออฟวอร์ (Gears of War), และดูม (Doom) ดังนี้...

        1.กราวิตี้กัน (Gravity Gun) หรือ ซีโร่พอยต์เอ็นเนอร์จี้ฟิลด์แมนิพิวเลเตอร์ (Zero Point Energy Field Manipulator) อาวุธปืนจากเกมฮาล์ฟไลฟ์ที่ใช้จับวัตถุขนาดเล็กและขนาดกลางและผลักออกไป แต่ถ้าเป็นวัตถุขนาดใหญ่และมีน้ำหนักเกินกว่าที่ปืนจะจับได้ ก็จะใช้วิธีการผลักแทน

        2.สการ์ (SCAR) ปืนไรเฟิลจู่โจมจากเกมไครซิสที่ติดตั้งเลเซอร์ ไฟฉาย กล้องซูม และปืนยิงลูกระเบิด

        3.เอฟวาย 71 (FY71) ปืนไรเฟิลจู่โจมจากเกมไครซิสที่ติดตั้งเลเซอร์ ไฟฉาย กล้องซูม และปืนยิงลูกระเบิด

        4.เอ็กซ์เอ็ม 2014/มาร์แชลล์ (XM2014/Marshall) ปืนลูกซองปั๊มแอ็กชั่นจากเกมไครซิส

        5.มาร์ค 3 แลนเซอร์ (Mark 3 Lancer) ปืนไรเฟิลจู่โจมจากเกียร์สออฟวอร์ ที่ติดตั้งเลื่อยยนต์ด้วย

        6.คอมแบตช็อตกัน (Combat Shotgun) เป็นปืนลูกซองปั๊มแอ็กชั่นที่ติดตั้งอุปกรณ์เสริมสองแบบ โดยในที่นี้จะมาจากเกมดูมอีเทอร์นัล (Doom Eternal) ดังนี้ :

        -สติ๊กกี้บอมบ์ (Sticky Bomb) ส่วนเสริมที่จะติดตั้งปืนยิงลูกระเบิดที่จะสามารถยิงลูกระเบิดหุ้มกาวแปะไปที่วัตถุหรือพื้นผิวต่าง ๆ จนระเบิดได้

        -ฟูลออโต้ (Full Auto) ส่วนเสริมที่จะทำให้ปืนลูกซองนี้กลายเป็นปืนกลอัตโนมัติ

        “แล้วนอกจากนี้นายอยากจะใส่อีควิปเมนต์อะไรอีก?” แฮมิลตันถาม

        “พูดถึงอีควิปเมนต์ ฉันอยากประดิษฐ์มันขึ้นมาสวมใส่เองพอดีแฮะ” พอเพียงพูด จากนั้นเขาจึงมุ่งไปที่โต๊ะทำอุปกรณ์เพื่อทำอุปกรณ์สวมใส่ทันที

        สิ่งแรกที่เขาติดตั้งคือ ปีกและไอพ่นแบบเครื่องบิน ที่ช่วยให้เขาบินได้ดีที่สุด แม้เขาจะบินได้โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งอุปกรณ์นั้นก็ตาม แต่เพื่อให้เขาบินได้ดีกว่านี้ เขาจึงจำเป็นต้องติดตั้งปีกติดไอพ่นแบบเครื่องบิน ซึ่งเขาจะต้องติดตั้งปีกนั้นที่หลังของตัวเอง แต่ก็มีลูกเล่นในการซ่อนปีกเวลาที่เขาไม่ได้ใช้ และจะงอกออกมาถ้าเกิดเขาต้องการใช้มัน

        อีกสิ่งหนึ่งที่เขาจะมีติดตัวคือ ดาบพอเพียงเมกะเวอร์ซัลซอร์ด (Porpiang’s Megaversal Sword) ดาบวิเศษใบมีดยาวที่มีช่องบรรจุลูกแก้วเมกะเวอร์ซัลเพิร์ลครบเจ็ดเม็ด ซึ่งเขาเตรียมเจาะช่องเหล่านี้เพื่อถ้าเจอลูกแก้วเมกะเวอร์ซัล เขาจะเอาไปใส่ช่องบนดาบเอง

        สิ่งที่สามที่จะมีติดตัวคือ เครื่องยิงติดหัวไหล่ที่มีลักษณะคล้ายกับอีควิปเมนต์ลอนเชอร์ (Equipment Launcher) ที่ติดตั้งบนไหล่ข้างซ้ายของชุดแพรเตอร์สูต (Praetor Suit) ของดูมสเลเยอร์ (Doom Slayer) จากเกมดูมอีเทอร์นัล แต่ของพอเพียงจะเป็นเครื่องยิงคู่ติดหัวไหล่คู่ไปเลย และเป็นเครื่องยิงที่เคลือบเปลือกสีเทาไม่ใช่สีเขียวเหมือนของดูมสเลเยอร์ โดยสามแบบแรกก็จะเหมือนกับของดูมสเลเยอร์ ดังนี้

        1.เฟลมเบลช์ (Flame Belch) เป็นโหมดปืนพ่นไฟเผาทุกอย่างให้ราบคาบ โดยถ้าเป็นของดูมสเลเยอร์ การใช้ไฟเผาจะดร็อปแต้มเกราะให้กับดูมสเลเยอร์ แต่กับพอเพียงจะไม่ใช่อย่างนั้น

        2.ไอซ์บอมบ์ (Ice Bomb) เป็นโหมดยิงระเบิดน้ำแข็งที่เมื่อตกกระทบที่พื้นผิวหรือวัตถุจะแช่แข็งทุกสิ่งมีชีวิตที่เป็นศัตรูทันที และจะเปิดโอกาสให้พอเพียงสามารถเข้าไปซ้ำเติมศัตรูที่ถูกแช่แข็งจนน้ำแข็งแตกได้

        3.แฟร็กกรีเนด (Frag Grenade) เป็นโหมดยิงลูกระเบิดที่จะยิงลูกระเบิดทรงกลม เมื่อมันตกกระทบพื้นผิวหรือวัตถุใดก็ตาม มันจะไม่ระเบิดในทันที แต่มันจะมีการกลิ้งไปเรื่อย ๆ อยู่เล็กน้อยก่อนที่จะระเบิดในอีกอย่างน้อยห้าวินาทีต่อมา

        นอกจากนี้ยังมีโหมดอื่น ๆ ที่ไม่มีในเครื่องยิงของดูมสเลเยอร์ แต่มีในเครื่องยิงของพอเพียง ดังนี้

        -สโม้กบอมบ์ (Smoke Bomb) เป็นโหมดยิงลูกระเบิดควันที่ถ้ามันตกกระทบที่พื้นผิวหรือวัตถุใดก็ตามมันก็จะปล่อยควันบดบังทัศนียภาพทันที

        -แฟลชแบง (Flash Bang) เป็นโหมดยิงลูกระเบิดแสงที่ถ้ามันตกกระทบกับพื้นผิวหรือวัตถุใดก็ตามมันจะปล่อยแสงทำให้ศัตรูตาพร่าไปได้ชั่วขณะ

        และอันสุดท้ายที่พอเพียงอยากจะติดตั้งคือ ถุงมือวิเศษอย่างพอเพียงกอนต์เล็ตส์ (Porpiang Gauntlets) ถุงมือคู่ที่ได้ติดตั้งทั้งปืนยิงลูกดอก ปืนยิงสลิงฮุก และแน่นอน ใบมีดฮิดเด็นเบลด (Hidden Blade) ซึ่งพูดมาถึงตรงนี้มันก็ทำให้รีดหลายคนนึกถึงฮิดเด็นเบลดจากเกมอัสแซซินส์ครีดซินดิเคตละสิ (Assassin’s Creed Syndicate) จริง ๆ มันก็คล้ายอยู่แหละ แต่ปืนลูกดอกกับสลิงฮุกมันอยู่บนหลังแขนทั้งคู่ แต่ฮิดเด็นเบลดอยู่ใต้แขนเหมือนกับฮิดเด็นเบลดจากเกมชุดอัสแซซินส์ครีด (Assassin’s Creed) ซึ่งที่เขาต้องการอุปกรณ์ชิ้นนี้ก็เพื่อถ้าเกิดจะฆ่าแบบลอบเร้นหรือแทรกซึม เขาก็จะใช้มันในการจัดการศัตรูให้เรียบโดยไม่ให้รู้ตัวนั่นแหละ แต่ความเจ๋งของถุงมือคู่นี้ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะเขาสามารถแปลงถุงมือให้กลายเป็นแขนติดปืนใหญ่ที่สามารถยิงลำแสงเป็นเส้นตรง และมีลักษณะแบบเดียวกับปืนเกาส์แคนนอน (Gauss Cannon) และบัลลิสต้า (Ballista) ผสมกันเสียอีก (ซึ่งก็มาจากเกมดูมภาค 2016 และอีเทอร์นัลตามลำดับ) โดยโหมดนี้เขาก็สามารถติดตั้งส่วนเสริมได้เช่นกันแม้จะเป็นปืนใหญ่ติดแขนก็ตาม โดยส่วนเสริมที่เขาติดตั้งก็มีทั้ง...

        -ไฮเปอร์ดาเมจ (Hyper Damage) จะเป็นโหมดยิงลำแสงที่ทำดาเมจสูงมาก ๆ แม้จะแลกมากับการเคลื่อนไหวที่ช้าลงก็ตาม

        -ซีจโหมด (Siege Mode) เป็นโหมดยิงลำแสงที่เจาะทะลุเป้าหมายได้ แต่ข้อเสียคือจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ถ้าเปิดใช้โหมดนี้

        -เดสทรอเยอร์เบลด (Destroyer Blade) เป็นโหมดที่จะยิงลำแสงเป็นเส้นแนวระนาบ ซึ่งก็แลกมากับการเคลื่อนไหวที่ช้าเหมือนกัน

 

        เมื่อพอเพียงได้สวมใส่อุปกรณ์ที่เขาผลิตขึ้นมาเอง พร้อมกับพกพาอาวุธที่เขาเลือกมาและได้พลังวิเศษที่เขาเลือก เขาจึงบอกแฮมิลตันว่า “เป็นไง?”

        “ก็ได้อยู่นะ” แฮมิลตันพูด “นายดูเท่ไปเลย”

        “คุณดูเท่ไปเลยค่ะ” เรย์นะบอก

        “ขอบคุณที่ชมครับคุณเรย์นะ” พอเพียงพูด

        “แต่อย่างไรก็ตามนะคะ คุณจะลุยเดี่ยวคนเดียวคงไม่พอหรอกค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะให้เหล่าเครื่องจักรกลและหุ่นยนต์ที่อยู่ในเกาะเดดลี่เทคข้ามทะเลมายังเกาะควอลาสทาร่าร่วมด้วยเองค่ะ” เรย์นะว่า

        “ครับ คุณเรย์นะ” พอเพียงพูด จากนั้นก็เปิดแผนที่อีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่า ฐานทัพของเดอะแบล็คไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ และมันก็ยังเป็นเหมือนเดิม

        แต่ทันใดนั้น เสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้น และเบอร์โทรศัพท์ที่โทรออกไปยังเบอร์ของพอเพียงมันก็ไม่คุ้นเสียด้วย เขาจึงคิดจะรับสายเพื่อถามว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แต่วินาทีที่เขารับสาย เขากลับได้รับคำตอบเร็วกว่าที่คิด

        “สวัสดี พอเพียง”

        เสียงของเดอะแบล็คดังขึ้นจากในสาย ทำให้ทั้งพอเพียงและสองเอไอสะดุ้งสุดตัว

        “แกรู้จักฉันได้ยังไงเจ้าแฮกเกอร์?” พอเพียงถาม

        “ความเป็นแฮกเกอร์ของฉันทำให้ฉันได้รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับทุกคน รวมถึงแกด้วย พอเพียง” เดอะแบล็คตอบ “และฉันขอบอกไว้ก่อนว่า ฉันไม่จำเป็นต้องให้เจ้าเซสเตอร์ตอบอีกต่อไปแล้ว ฉันรู้แล้วว่าองค์กรของยอดมนุษย์และวายร้ายมันเกิดมาจากอะไร มันเกิดมาจากการรวมตัวกันของเหยื่อที่ถูกองค์กรซีมเลสฮิวแมนทดลองมาตลอด และโครงการที่ซีมเลสฮิวแมนทดลองกับคนเหล่านั้นก็คือ โปรเจกต์อันโนน และแผนการก็คือ ทำให้โลกใบนี้มีทั้งยอดมนุษย์และวายร้าย และจับทั้งสองฝั่งมาต่อสู้กัน แต่ฉันไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนั้นแน่ ฉันอยากจะกำจัดคนพวกนั้นทิ้งไปเสียด้วยซ้ำ ฉันจึงจับพวกทหารเอสเอชเอสเอส ทหารรับจ้างของซีมเลสฮิวแมนสักสี่หรือห้าคนมารีดเอาข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับแผนขององค์กรนี้ และก็หาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตัวเองด้วย แต่ฉันพึ่งพาหลักฐานบุคคลไม่ได้เลย เพราะไม่ยอมบอกอะไรกับฉันสักนิดเดียว จึงต้องหาหลักฐานวัตถุอย่างเดียวจนฉันรู้ว่า สิ่งที่พวกซีมเลสฮิวแมนกำลังตามหาคือ อดัมกับอีฟ เดลวิน สองฝาแฝดที่เคยถูกทดลองมาตั้งแต่ปี 2000 นั่นเอง ฉันก็เลยจับพวกเขาไปเพื่อเค้นข้อมูลเพิ่มเติมนั่นแหละ”

        พอเพียงได้ยินดังนั้นเขาก็เม้งแตกอย่างรุนแรง นัยน์ตาและข้อมือทั้งสองข้างกลายเป็นสีแดงเพราะความโกรธของเขา

        “แก!!!!” พอเพียงคำรามและทุบโต๊ะที่อยู่ใกล้ตัวอย่างแรง “แกกล้าดียังไง!!!! นั่นเพื่อนของฉันนะ!!!”

        “ฉันไม่สนหรอกว่าจะเป็นเพื่อนของแกหรือไม่ก็ตาม” แฮกเกอร์บอก “แต่ในเมื่อฉันได้พวกเขามาแล้ว ใครหน้าไหนก็เอาพวกเขาออกไปจากป้อมปราการของฉันไม่ได้หรอก!”

        พอเพียงโกรธจัดและกำหมัดข้างที่ว่างเปล่า เพราะนึกไม่ถึงเลยว่าฝาแฝดเดลวินที่เขาจะต้องปกป้องกลับถูกเจ้าแฮกเกอร์ร้ายลักพาตัวไปเสียได้

        “ฉันสนุกมากเลยล่ะที่ได้ยั่วโมโหแก” เดอะแบล็คพูด “และยิ่งสนุกอีกที่แกทำอะไรฉันไม่ได้ด้วย วะฮ่ะฮ่ะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!!”

        “หัวเราะไปเลย!!” พอเพียงพูด “เพราะยังไงซะฉันก็จะทำอะไรแกได้แน่นอน!!”

        “หืม? คิดเหรอว่าแกจะจัดการฉันได้?”

        “คิดสิ” พอเพียงพูดเสียงเลือดเย็น “จากนี้ไปฉันก็จะมาจัดการแกเอง”

        “โอ้ ฉันเจอกับแขกอีกคนหนึ่งด้วยล่ะ” แฮกเกอร์บอก “เขาบอกว่าเป็นชายผู้ที่มีอำนาจจะปรับสมดุลกิกะเวิร์สแห่งเมกะเวอร์เซียสไม่ใช่เหรอ”

        “ว่าไงนะ?”

        “แบรด คอนเนอร์ (Brad Conner)” เดอะแบล็คพูด “ได้ข่าวว่าเกิดในโลกนี้ วันที่ 1 มกราคม ปี 2000 ก็แสดงว่าอายุเท่ากับสองฝาแฝดเดลวินพอดีล่ะสิ”

        เจ้าแฮกเกอร์พูดยั่วโมโหพอเพียงต่อไปโดยไม่สนใจเลยว่าหนุ่มเสื้อเทาจะหมดความอดทนแล้วหรือไม่

        “แกยั่วให้ฉันโกรธไปเลย” พอเพียงพูด “ถ้าฉันหมดความอดทนเมื่อไหร่ฉันจะหักคอแกเป็นชิ้น ๆ เลยคอยดู!!”

        “ก็ลองดูสิ” เดอะแบล็คท้า “ฉันรู้ว่าแกหักคอฉันไม่ได้หรอก ในทางกลับกัน ฉันก็จะหักกระดูกแกทั้งตัวเลย!!”

        เจอการท้าทายแบบคูณร้อยเข้าไป พอเพียงก็ไม่รู้จะทำยังไง เลยทำการตัดสายทิ้งแล้วบอกเรย์นะว่า

        “เตรียมกองทัพของคุณให้พร้อมเลยครับ ผมจะไปถล่มที่เกาะควอลาสทาร่าเอง”

        “ค่ะ คุณมาสเตอร์”

        “แล้วนายล่ะ?” แฮมิลตันถาม

        “ฉันจะเรียกเพื่อน ๆ ของฉันให้เข้าไปโจมตีที่นั่นอย่างสุดฝีมือ” พอเพียงตอบ และมองรูปภาพของเดอะแบล็คก่อนจะบอกว่า “คอยดูให้ดีเถอะเจ้าแฮกเกอร์บัดซบ ฉันจะมาจัดการแกที่นั่นเอง!!”