Porpiang Writer 1 : The Superhero Arc บทที่ 11 ศัตรูใหม่เปิดตัว

Porpiang Writer 1 : The Superhero Arc

-A A +A

Porpiang Writer 1 : The Superhero Arc บทที่ 11 ศัตรูใหม่เปิดตัว

หมวดหนังสือ: 

วันเสาร์ที่ 26 เมษายน ค.ศ. 2020 เวลา 20:34 น.

สี่แยกสามลำกล้อง (Three Caliber Junction) ใกล้ตลาดสามลำกล้อง (Three Caliber Market) บริเวณย่านสถานีสยามของรถไฟฟ้าบีทีเอส

 

        บริเวณนั้นอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้าเซ็นเตอร์เอ็มพิเรียล ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และศูนย์การค้าดัง ๆ อีกมากมาย ซึ่งเป็นย่านที่มักจะเต็มไปด้วยชาวต่างชาติผสมกับชาวไทยมาเดินเล่น (ย่านอื่นก็มีเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยเด่นเหมือนย่านนี้) และพอเพียงมาเพื่อซื้อของที่ตลาดสามลำกล้อง แต่เขาต้องจอดรถชิรอนนัวร์คลาสสิกไว้ในห้างเซ็นเตอร์เอ็มพิเรียลก่อน จากนั้นเขาก็เดินข้ามสี่แยกสามลำกล้องเพื่อเดินไปซื้อของที่ตลาด แต่พอเข้ามาใกล้ตลาด เขาก็เห็นเป้สีดำขนาดใหญ่ใบหนึ่งถูกวางทิ้งไว้อยู่ เขาลองยกเป้ปริศนาขึ้นมา ปรากฏว่ามันหนักผิดสังเกต เขาจึงเปิดกระเป๋าเพื่อดูว่ามีอะไรอยู่ข้างใน ก็พบว่า มันมีระเบิดขนาดใหญ่คับกระเป๋า และมีตัวเลขนับถอยหลังซึ่งยังไม่ได้จับเวลา ตัวเลขมันหยุดค้างอยู่ที่ 00:30:00 (เวลาสามสิบนาที)

        พอเพียงหยิบระเบิดออกมาจากกระเป๋าและพลิกมันดูใกล้ ๆ ซึ่งลักษณะมันคือระเบิดที่ฝ่ายเทอเรอริสต์ใช้เพื่อวางตรงจุดใดจุดหนึ่งในแต่ละแผนที่ของเกมเคาน์เตอร์สไตรค์ แต่จังหวะที่เขายกเอาระเบิดมาอยู่ในระดับสายตาแนวระนาบของเขาก่อนจะพิจารณาลักษณะของระเบิดชิ้นนี้ต่อ มันก็ระเบิดคามือใส่หน้าพอเพียงอย่างจังจนเขาล้มลงไปนอนกับพื้น พร้อมกับเสียงอู้อี้แสนบาดหูดังก้องในหัวครู่หนึ่ง

        ซึ่งศีรษะของเขานั้นเละอย่างมากจนไม่สามารถฟื้นฟูได้แล้ว ตอนนั้นพอเพียงคิดว่าน่าจะตายแน่ ๆ เลย แต่พลังฟื้นฟูตนเองนั้นสามารถทำให้หัวกับมือที่เละ ๆ ของเขากลับมาเป็นปกติ หน้าตาของเขากลับมาหล่อเหลาอีกครั้ง

        ส่วนแว่นตาคู่ใจของเขา มันหลุดจากตาตอนที่โดนแรงระเบิดและมันก็ตกไปไม่ไกลจากตัวเขามากนัก โชคดีที่แว่นตาอันนี้ไม่แตกหักเสียหายจากแรงระเบิดเลยสักนิดเดียว แถมยังไม่โดนใครเหยียบเลยอีกด้วย ซึ่งคนรอบตัวพอเพียงที่รู้จักพลังยอดมนุษย์ของเขาเคยถามเขาหลายครั้งว่า ถ้าความเสถียรของพลังซูเปอร์วิชั่นของเขานั้นดีขึ้นแบบก้าวกระโดดจนถึงขั้นสามารถใช้มันโดยไม่รู้สึกปวดตาได้แล้ว ทำไมยังต้องใส่แว่นอยู่เหมือนเดิมล่ะ แต่คำตอบของพอเพียงคือ แม้เขาจะสามารถใช้ซูเปอร์วิชั่นแบบไม่ต้องแลกมากับการปวดตาอีกต่อไปได้แล้ว แต่แว่นตาอันนี้มีประโยชน์มากกว่าการกรองแสงซูเปอร์วิชั่น แม้ประโยชน์ข้อนี้จะใช้ไม่ได้อีกต่อไป แต่แว่นตาอัจฉริยะอันนี้ยังมีสรรพคุณและลูกเล่นอย่างอื่นให้ใช้ได้อีก ทั้งการแสดงผลแบบโฮโลแกรม และสแกนวัตถุรอบตัวที่เขาเห็นได้ แถมยังมีไมโครโฟนและหูฟังวิเศษด้วย ถ้าเกิดเขาไม่สามารถใช้โทรศัพท์มือถือโทรได้ เขาจะใช้แว่นตาวิเศษนี้ และนาฬิกาข้อมือสมาร์ตวอตช์ เพื่อทดแทนโทรศัพท์มือถือได้

        พอเพียงหยิบแว่นขึ้นมาสวม และหันไปมองรอบ ๆ ที่เกิดเหตุ ตอนนี้จุดที่ระเบิดเริ่มมีไฟไหม้ รวมถึงผู้ได้รับผลกระทบที่มากน้อยแล้วแต่ระยะห่างจากจุดเกิดเหตุ เขาพยายามตั้งสติรับมือกับเหตุการณ์เหล่านี้ ด้วยการไปช่วยปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บด้วยพลังวิเศษเพื่อประคองอาการให้รอดไปได้ในระดับหนึ่ง จากนั้นเขาจึงหยิบโทรศัพท์มือถือมาเพื่อโทรเบอร์ฉุกเฉิน 191 ทันที

        “191 มีอะไรให้ช่วยคะ?” เจ้าหน้าที่เบอร์ฉุกเฉินถาม

        “เกิดเหตุลอบวางระเบิดที่สี่แยกสามลำกล้องครับ” พอเพียงตอบด้วยน้ำเสียงส่อแววกังวล “ช่วยส่งรถฉุกเฉินมาที่เกิดเหตุให้ด้วยนะครับ”

        “รับทราบค่ะ” เจ้าหน้าที่เบอร์ฉุกเฉินตอบ

 

        ต่อไปคือพ่อกับแม่ของพอเพียง...

        “พ่อครับ แม่ครับ” พอเพียงพูด

        “มีอะไรเหรอลูก” มาร์ธาถาม “พ่อกับแม่คิดถึงมากเลยนะ”

        “แม่ครับ เรื่องคิดถึงน่ะไว้ทีหลังนะครับ” พอเพียงบอก “ตอนนี้มีการลอบวางระเบิดที่สี่แยกสามลำกล้องนะครับ มันเป็นระเบิดแบบที่พวกผู้ก่อการร้ายในเกมใช้งาน ผมหยิบมันขึ้นมาดูจนกระทั่งมันระเบิดคามือใส่หน้าผมเลย – เปล่าครับ ผมยังไม่ตาย ผมยังมีชีวิตอยู่ ผมมีพลังฟื้นฟูตนเองได้น่ะครับ คือตอนนี้ผมกำลังสงสัยอยู่ว่าเหตุการณ์นี้ใครเป็นคนบงการกันแน่ เหตุจูงใจของมันคืออะไรกัน เอาเป็นว่าพ่อกับแม่อย่าเพิ่งกลับมาเพราะเป็นห่วงผมนะครับ มันอาจจะเป็นอันตรายกับพ่อแม่ได้นะครับ”

        “เจอเหตุการณ์แบบนี้พวกเราไม่คิดจะกลับอยู่แล้ว” แอนดรูว์พูด “ระวังไอ้พวกผู้ไม่หวังดีจะฆ่าลูกนะ”

        “ครับผม” พอเพียงตอบ จากนั้นเขาก็วางสายลง

 

        กลุ่มต่อไปที่พอเพียงจะโทรคือทีมพอเพียงไรเตอร์ทุกคน

        “ฮัลโหล มีใครอยู่ในสายบ้างไหม?” พอเพียงถาม

        “มี” แอนนาตอบ “ครบทุกคนด้วย”

        “โอเค รีบ ๆ รวมตัวกันที่สี่แยกสามลำกล้องด่วนเลยนะ” พอเพียงพูด “มีเหตุลอบวางระเบิดที่นั่น มันเป็นระเบิดที่ผู้ก่อการร้ายในเกมใช้งาน ตอนที่ฉันตรวจสอบวัตถุระเบิด มันระเบิดคามือใส่หน้าฉันเลย”

        “อะไรนะ!!” โซเฟียร้อง “ตายแล้ว แล้วเธอเป็นไงบ้าง?”

        “ไม่เป็นไร อย่าลืมสิว่าพวกเราเป็นยอดมนุษย์นะ” พอเพียงตอบ “พวกเรามีพลังฟื้นฟูตัวเองได้ ต่อให้ฉันโดนเต็ม ๆ ฉันก็ฟื้นฟูได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความสาหัสของแผลด้วย ถ้าแผลสาหัสมากหรือเหวอะหวะมากก็อาจจะใช้เวลาสักห้านาทีขึ้นไป แต่ถ้าแผลเล็ก ๆ ก็จะฟื้นตัวเร็วภายในเวลาไม่ถึงห้าวินาที”

        “แล้วทำไมพวกเราต้องไปด้วย?” เป้งถาม

        “มาช่วยฉันหาคนที่ก่อเรื่องนี้ไง” พอเพียงพูด “เขาเป็นใคร ทำแบบนี้ทำไมกัน ทำแบบนี้เป็นการกระตุกหนวดเสือแรง ๆ แถมยังเป็นเสือดุอย่างฉันเสียอีก ท้าทายอำนาจมาเฟียใจบุญอย่างฉันมากเกินไปแล้ว ทำไมถึงต้องทำแบบนี้!”

        “แล้วผมต้องไปด้วยไหมครับ?” เล็กซ์ถาม

        “โอย อย่ามาเลยดีกว่า” พอเพียงตอบพร้อมด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่เหนื่อยใจ “นายเด็กกว่าฉันตั้งสามปี และที่แย่กว่าคือ ยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วย ถ้านายมาที่นี่แล้วเกิดไอ้ตัวก่อเหตุมันเข้ามาทำอะไรนายละก็ ฉันแย่แน่ ๆ เลย”

        “โอเค เดี๋ยวพวกเราจะไปนะ” โซเฟียพูด “เธอก็รออยู่ที่นี่ละกันนะ”

        “ได้” พอเพียงพูด จากนั้นก็วางสาย แล้วก็โทรหาทีมเอ็มซีพีเอด้วย

        “โอยเพ้นท์! มีอะไรให้ฉันช่วยอีกเนี่ย อุตส่าห์พักผ่อนอย่างสบายใจอยู่แล้วเชียว” ภัททิต้าครางเป็นเชิงรำคาญนิด ๆ

        “ภัททิต้า อันนี้ฉันขอเลย” พอเพียงตอบ “นายกับเพื่อน ๆ ต้องมาหาฉันยังที่เกิดเหตุโดยด่วน นั่นคือที่สี่แยกสามลำกล้อง”

        “หืม สี่แยกสามลำกล้อง” กวางงากะถาม “มีอะไร”

        “เหตุลอบวางระเบิด” พอเพียงตอบ “ฉันหยิบวัตถุระเบิดขึ้นมาตรวจสอบดู มันคือระเบิดที่ผู้ก่อการร้ายในเกมใช้ลอบวางระเบิด แต่ระหว่างตรวจสอบมันก็ระเบิดใส่หน้าฉัน โชคดีที่ฉันเป็นยอดมนุษย์ฉันเลยฟื้นฟูร่างกายตัวเองได้ ตอนนี้อยากรู้เหมือนกันว่าไอ้ตัววางระเบิดมันทำไปเพื่ออะไรกันแน่?”

        “แล้วจะให้ผมไปด้วยไหมครับ” พึกกาจิถาม

        “อย่าเลย” พอเพียงตอบ “นายอายุไม่บรรลุนิติภาวะนะ ฉันเป็นห่วงนาย กลัวว่านายอาจจะโดนผู้ก่อเหตุทำร้ายนายได้นะ”

        “แล้วเธอเดาได้ไหมว่าใครเป็นคนทำ?” ยินนาถาม

        “ไม่รู้สิ” พอเพียงตอบ “แต่กล้ากระตุกหนวดเสือฉันแบบนี้แสดงว่าคนทำต้องรู้จักฉันแน่นอน ถึงกล้าลงมือทำกับฉันแบบนี้ได้”

        สำหรับสองฝาแฝดเดลวินกับนัตตี้ พอเพียงรีบโทรศัพท์หาพวกเขาอย่างเร่งด่วนเลยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก่อนหน้านั้น เขาเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาดู เข้าไปที่แอปลิเคชั่นทรูไอดี (True ID) และก็เปิดโทรทัศน์ดูสักหนึ่งช่อง เขาดูช่องไทยพีบีเอส ก็พบว่าได้นำเสนอข่าวการวางระเบิดที่นี่พอดีเลย และนักข่าวจากช่องต่าง ๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือต่าง ๆ ก็กำลังทยอยมาที่นี่มากขึ้นแล้ว แต่เพื่อเป็นการเตือน ดังนั้น พอเพียงจึงโทรหาทั้งสามคน

        “ฮัลโหล” พอเพียงเรียก

        “ว่าไงเหรอพี่?” นัตตี้ถาม

        “ดูข่าวหรือยัง?” พอเพียงถาม “ตอนนี้ช่องโทรทัศน์ของประเทศไทยเริ่มรายงานสดข่าวการลอบวางระเบิดที่สี่แยกสามลำกล้องแล้วนะ”

        “งั้นเหรอ?” อดัมถาม “ทำไมล่ะ”

        “ฉันสัมผัสได้ถึงพลังของผู้บงการครั้งนี้” พอเพียงพูด “ฉันว่ารอบนี้อาจจะไม่ธรรมดาแน่ ๆ และอาจจะมาทำร้ายพวกนายได้นะ”

        “อ้าว แล้วเธอล่ะ?” อีฟถาม

        “ไม่ต้องห่วง ฉันไม่เป็นอะไรแน่นอน” พอเพียงพูด “ฉันอยู่ในที่เกิดเหตุ ฉันไม่อยากให้พวกนายตามมาหรอก”

        “แต่ฉันจะไปหานะ” อดัมพูด “ฉันจะไม่ปล่อยให้นายตกอยู่ในอันตรายแน่ ใช่ไหมน้องอีฟ?”

        “เห็นด้วยค่ะพี่อดัม” อีฟตอบ

        “หนูอยากไปหานะ” นัตตี้พูด “แต่หนูต้องขออนุญาตพ่อของหนู รวมถึงชวนแม็กซ์ไปด้วยอ่ะ”

        “ก็ตามใจ” พอเพียงพูด “พวกนายอยากจะมาหาฉันเองนะ ถ้ายังงั้นฉันไม่รับประกันความปลอดภัยของพวกนายแล้วกัน”

 

        สุดท้ายเขาก็ได้ตัดสินใจโทรหาลุงลีผู้เลี้ยงดูเขามาตลอดเป็นคนสุดท้าย

        “ฮัลโหลครับลุงลี” พอเพียงพูด “มาช่วยผมด้วยนะครับ”

        “เกิดอะไรขึ้นเหรอ ทำไมเธอถึงอยากให้ฉันช่วย” ลีถาม

        “มันเกิดเหตุระเบิดที่สี่แยกสามลำกล้องไงครับ” พอเพียงตอบ “หลังจากโทรหาลุงแล้ว ผมจะติดต่อกับไอดีพีเอ็มให้ส่งเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ มาช่วย ระหว่างนี้ลุงลีช่วยมาหาผมด้วยนะครับ”

        “โอเค ฉันจะไป” ลีพูด “สี่แยกสามลำกล้องใช่ไหม?”

        “ใช่ครับ” พอเพียงตอบ

        “เจ้านาย ให้ผมไปด้วยไหม?” แจ้ถามลี

        “แกแน่ใจนะว่าถ้ามาด้วยแกจะไม่ก่อปัญหาให้เขา?” ลีหันไปถามไก่

        “ไม่ก่อปัญหาอยู่แล้วเจ้านาย ผมไม่ได้ก่อความวุ่นวายให้ใครหรอก” แจ้ตอบ

        “งั้นก็ดี” ลีตอบ

 

        หลังจากโทรศัพท์เสร็จแล้วเขายังคงถือโทรศัพท์อยู่ แต่เพื่อเป็นการฆ่าเวลา เขาจึงเปิดแอปแฮมิลตันเน็ตเวิร์กอีกครั้งเพื่อเรียกรถชิรอนที่เขาจอดทิ้งไว้ออกมาหาพอเพียง เพราะเขาจะเอาของสำคัญที่อยู่ในรถ นั่นก็คือ พอเพียงเทค ดีลักซ์บุ๊ค 15 มาร์ค 5 (PorpiangTech DeluxeBook 15 Mark 5) เป็นแล็ปท็อปขนาด 15 นิ้วตามชื่อรุ่น และตัวเครื่องมีสีขาว และรันระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 โฮม (Windows 10 Home) เขาจะใช้แล็ปท็อปนี้เพื่อดูเซฟในกล้องวงจรปิดของสี่แยกนี้

        จนกระทั่ง ทีมพอเพียงไรเตอร์ ทีมเอ็มซีพีเอ ลุงลี นัตตี้ สองพี่น้องเดลวิน และพวกไอดีพีเอ็ม มาถึงที่เกิดเหตุทั้งหมดแล้ว รวมถึงหน่วยงานให้ความช่วยเหลือในประเทศไทยก็มาถึงเช่นกัน

        “โอเค ว่ามา เกิดอะไรขึ้นกับที่นี่?” ลีพูด

        “คือ ผมเดินผ่านสี่แยกสามลำกล้องเพื่อจะไปซื้อของในตลาด แล้วจากนั้นผมก็ไปเจอกับเป้ใบใหญ่ ๆ ใบหนึ่งวางอยู่บนพื้น ตอนแรกผมนึกว่าใครลืมของไว้ กะจะเอาไปคืนอยู่แล้ว แต่พอผมยกดูมันก็หนักผิดสังเกต ผมก็เลยค้นของดู มันมีระเบิดแบบที่ผู้ก่อการร้ายในเกมมักใช้วางระเบิดประจำซ่อนอยู่ในนั้น ผมหยิบพลิกขึ้นมาดู มันก็ระเบิดคามือใส่หน้าผมเลย วินาทีหลังจากนั้น ผมก็ได้ยินเสียงอู้อี้บาดหูในหัว แล้วภาพทั้งหมดก็เป็นสีดำสนิท หลังจากนั้นผมก็ได้ฟื้นฟูตัวเองกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการกระตุกหนวดตระกูลเจ้าพ่อธุรกิจครอบจักรวาลอย่างแรง ผมอยากจะรู้ให้ได้ว่าเขาเป็นใคร ผมจะขอเช็กจากกล้องวงจรปิดแถวนี้แหละครับ”

 

        พอเพียงได้เข้าไปร่วมวงกับเจ้าหน้าที่สืบสวนกับไอดีพีเอ็มคนอื่น ๆ แล้วขอโอนเซฟจากกล้องวงจรปิดในละแวกนี้ด้วยการก็อปปี้ไฟล์มาลงแฟลชไดรฟ์สี่เทระไบต์ของพอเพียง แล้วย้ายไปลงแล็ปท็อปของพอเพียงที่ความจุทั้งฮาร์ดดิสก์สิบหกเทระไบต์ และเอสเอสดีแปดเทระไบต์อยู่ในเครื่อง

        ทั้งหมดได้ดูความผิดปกติในมุมต่าง ๆ ของสถานที่เกิดเหตุที่กล้องวงจรปิดในละแวกนั้นจับภาพได้ จากนั้นพวกเขาก็พบว่ามีมนุษย์คนหนึ่งได้สวมชุดสีดำทั้งตัว ซึ่งดูเผิน ๆ มันก็คล้ายกับพวกลูกกระจ๊อกในองค์กรภารดรภาพแห่งวายร้าย แต่เซนส์ของพอเพียงกลับตอบว่ามันไม่ใช่แน่ ๆ

        ผู้ต้องสงสัยที่มีรูปลักษณ์ที่กล่าวไปข้างต้นนี้ได้ลงจากรถประจำทางสาย 747 มาพร้อมกับกระเป๋าเป้แบบเดียวกับที่พอเพียงเคยตรวจสอบไม่มีผิด ผู้ต้องสงสัยได้ทิ้งกระเป๋าเป้ใบนั้นลงตรงที่หัวมุมตลาดสามลำกล้อง จากนั้นก็ออกมาให้ไกลจากจุดวางระเบิดมากพอที่จะสามารถมองเห็นที่เกิดเหตุได้อย่างแนบเนียนที่สุด เมื่อไกลพอแล้วก็จะทำท่าทีดูเชิงว่าควรจะจุดชนวนเมื่อไหร่ แต่จะรู้หรือไม่ว่า แม้เขาจะอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 18 เมตร แต่ตรงนั้นก็มีมุมที่กล้องวงจรปิดจับภาพผู้ก่อเหตุได้อย่างชัดเจนโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวและไม่ได้มองเลยด้วยซ้ำ แต่นั่นไม่ได้สำคัญเท่ากับตอนที่พอเพียงมาถึงที่เกิดเหตุ แล้วเปิดกระเป๋าดึงระเบิดขึ้นมาดู ท่าทีของผู้ก่อเหตุนั้นเริ่มหวาดกลัวราวกับความลับจะแตก เลยหยิบโทรศัพท์มือถือซึ่งพอเพียงเดาได้ว่าน่าจะเป็นรีโมตที่เชื่อมกับระเบิดมากดจุดชนวนเพื่อหวังจะฆ่าพอเพียงแล้วหนีหายไปจากละแวกนั้นทันที โดยไม่สนใจอีกต่อไปว่าพอเพียงจะรอดหลังจากการระเบิดหรือไม่

        “ไอ้หมอนี่หายไปจากที่เกิดเหตุงั้นเหรอ?” พอเพียงว่า “เดี๋ยวเช็กพิกัดที่มันมุ่งหน้าไปดีกว่า”

        จากนั้นเขาก็เปิดโปรแกรมระบุตำแหน่งบุคคล เขาพบว่า ผู้ก่อเหตุได้มุ่งหน้าไปติดระเบิดที่เสาตรงกลางแยกสะพานอนุกรม (Serial Bridge Junction) สะพานที่ติดกับตึกแฝดปืนใหญ่ (Cannon Twin Building) ที่ทำงานของบริษัทเวิลด์เทรดคอมปานี (World Trade Company) ที่เป็นเหมือนกับคู่แข่งของพอเพียงเอ็นเตอร์ไพรส์ แต่ตอนนี้ถึงจะเป็นแค่บริษัทคู่แข่ง พอเพียงก็ไม่ยอมให้ชื่อเสียงของคู่แข่งต้องเสียหายแน่นอน

        “ไปจัดการกับระเบิดอันที่สอง ที่สะพานอนุกรม!” พอเพียงสั่ง และทุกคนก็รีบขึ้นรถไปจากตลาดสามลำกล้องทันที

 

        สำหรับรถของพอเพียงและภัททิต้าไม่จำเป็นต้องพูดซ้ำอีกรอบ เพราะยังไงรีดก็จำได้อยู่แล้ว ดังนั้น ไรต์ขอสงวนสิทธิ์ในการบอกชื่อรถของตัวละครที่เหลือแล้วกัน

        โซเฟียขับแลมโบร์กินี่ อะเวนทาดอร์ แอลพี 700-4 สีขาว (Lamborghini Aventador LP700-4)

        ธันวา ขับเฟอร์รารี่ ลาเฟอร์รารี่ สีน้ำเงิน (Ferrari Laferrari)

        เป้ง ขับพอร์เช่ 918 สไปเดอร์ สีเหลือง (Porsche 918 Spyder)

        ปอนด์ขับรถคอนิกเซ็กก์ วัน:1 สีบรอนซ์เงิน (Koeingsegg One:1)

        แบงค์ขับรถแม็กลาเรน พี 1 (Mclaren P1) สีดำ

        แอนนาขับรถเฮนเนสซี่ เวน่อม จีที สีเงิน (Hennessey Venom GT)

        ลีขับรถคอนิกเซ็กก์ เจสโก สีขาว (Koenigesgg Jesko) (แจ้นั่งมาด้วย)

        ยินนาขับรถเฟอร์รารี่ 488 จีทีบี สีชมพู (Ferrari 488 GTB)

        ริวคิกขับรถแม็กลาเรน 650 เอส สีน้ำเงิน (Mclaren 650S)

        กวางงากะขับพอร์เช่ 911 เทอร์โบ เอส สีเหลือง (Porsche 911 Turbo S)

        เจียระไนขับแอสตัน มาร์ติน ดีบี 18 สีแดงอ่อน (Aston Martin DB18)

        ปอยขับนิสสัน จีทีอาร์ อาร์ 35 สีบรอนซ์เงิน (Nissan GTR R35)

        ลินดาขับรถโตโยต้า จีอาร์ ซูปรา สีแดง (Toyota Gr. Supra)

 

        ในขณะที่สองฝาแฝดเดลวิน นัตตี้ และแม็กซ์ ก็ได้นั่งรถประจำทางมาเอง ส่วนทอมมี่ที่มาด้วยก็บินด้วยตัวเองเพื่อตามคนอื่น ๆ ไปยังที่เกิดเหตุจุดที่สอง

 

        เมื่อทั้งหมดมาถึงสะพานอนุกรมแล้ว พวกพอเพียงก็ใช้วิธีแยกย้ายกันไปตามหารอบ ๆ แยกสะพานอนุกรม เพราะถ้าหากันเป็นกลุ่มคงจะยากเกินไป และคนที่เจอระเบิดตัวใหม่ก็คือ...

        “เฮ้! มาดูนี่เร็ว!” ภัททิต้าตะโกนเมื่อเห็นระเบิดแบบเดียวกับที่พอเพียงเจอแปะอยู่ที่ตรงเสาใต้สะพานตรงกลางระหว่างทางขึ้นลงทั้งสองข้าง “ฉันเจอระเบิดอันใหม่แล้ว มันติดอยู่ที่เสาใต้สะพานตรงกลาง—”

        ตูม!!!

        “ภัททิต้า!!!

        เสาตรงนั้นเกิดระเบิดขึ้นมา และถนนตรงช่วงนั้นก็ถล่มลงมาทับภัททิต้ารวมถึงรถใต้สะพานที่ดวงไม่ดีร่วมกับเขาด้วย แน่นอนว่ารถที่อยู่บนสะพานที่ดวงไม่ดีพอกันในจังหวะที่พื้นสะพานถล่มก็ร่วงลงมาเหมือนกัน ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตก็ให้มันรู้ไปแล้วกัน

        “พี่ภัททิต้า!!” นัตตี้กรีดร้อง

        “ไม่นะ” ยินนาอุทาน

        พอเพียงไม่คิดชีวิตจึงรีบบอกทุกคนว่า “รีบเอาคนกับรถที่ทั้งโดนทับและตกลงมาออกไปจากที่เกิดเหตุแล้วช่วยซ่อมรถกับปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บพวกนั้นให้ประคองอาการไปได้ในระดับหนึ่งด้วยนะ ส่วนใครที่อยากตามหาภัททิต้า ก็ต้องหาให้เจอว่าภัททิต้าอยู่ตรงจุดไหนของที่เกิดเหตุเพราะเขาโดนสะพานทับจนไม่เห็นตัวแล้ว ถ้าใครเจอเขาก็รื้อหินพวกนั้นออกไปจนกว่าจะสามารถดึงภัททิต้าออกไปได้นะ”

        “แล้วพวกเราจะรื้อหินและรถออกไหวเหรอ?” ริวคิกถาม

        “ก็อย่าลืมสิว่าเราเป็นยอดมนุษย์” พอเพียงพูด “แค่ซากรถกับหินพวกนี้เรายกสบายอยู่แล้ว”

        “แล้วถ้าเกิดว่ามีคนเสียชีวิตล่ะ” ยินนาถาม

        “ฉันจะแยกผู้เสียชีวิตออกจากผู้ได้รับบาดเจ็บ” พอเพียงตอบ “แล้วบริษัทในเครือของฉันจ่ายค่าทำขวัญให้ รวมถึงติดต่อบริษัทประกันที่เกี่ยวข้องในการจ่ายเงินชดเชยผู้ได้รับผลกระทบด้วย”

        “โอเค ถ้าเธอเลือกทางนั้นพวกเราจะจัดการด้วย” โซเฟียบอก

        จากนั้น ทั้งหมดก็ช่วยกันเสกที่กั้นบอกเขตห้ามเข้าวางไว้รอบ ๆ แยกสะพานอนุกรม จากนั้นก็ไปช่วยเอารถที่หล่นลงมาและรถที่ถูกทับออกจากพื้นที่นั้น ซ่อมรถ ปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บที่อยู่ในนั้นด้วยพลังวิเศษ ไม่ว่าจะบาดเจ็บแค่ไหนก็ตาม อย่าทำให้พวกเขาบาดเจ็บร้ายแรงเกินไปก็พอ แต่ถ้าเป็นผู้เสียชีวิตจะถูกแยกจากผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมกับช่วยติดต่อเจ้าหน้าที่ให้มาที่นี่ด้วยเพื่อความต่อเนื่องและลื่นไหลของการช่วยเหลือครั้งนี้

        “เจ้านาย!” แจ้ร้อง “เจ้าภัททิต้าอยู่ในนี้!”

        ที่ตะโกนเรียกอย่างนี้เพราะว่าแจ้นั้นมาถึงจุดที่ภัททิต้าโดนสะพานทับจนมิดหัว เขาจึงเรียกให้เจ้านายอย่างลีไปรื้อสะพาน ซึ่งลีก็ออกแรงรื้อทั้งรถและซากสะพานออกไปให้หมด แต่รื้อไปได้ไม่ทันจะหมดภัททิต้าก็กระโดดผุดขึ้นมาจากซากนั้นโดยที่ไม่เป็นอะไรเลยนอกจากเปื้อนฝุ่นควันตามตัว เขาก็เลยลงพื้นอย่างสวยงามและทำท่าปัดฝุ่นออกจากไหล่ทั้งสองข้าง

        “ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับลุงลี” ภัททิต้าบอกกับลี

        พอเพียงวิ่งตามมาสมทบและถามว่า “เป็นอะไรบ้างไหม?”

        “ไม่เป็นอะไรเลย” ภัททิต้าตอบ “ตอนที่ระเบิดตั้งเวลาระเบิดใส่หน้าฉันนะ อาการเหมือนนายเปี๊ยบเลย ฉันมองไม่เห็นอะไร และได้ยินเสียงอู้อี้บาดหูในหัว แต่ที่ต่างออกไปคือฉันโดนสะพานทับ! กระดูกฉันหักทั้งตัว เจ็บมาก แต่ก็ร้องไม่ออกเพราะหน้าเละเกินไป แต่พลังฟื้นฟูตัวเองของฉันก็ทำให้ฉันหายดีเป็นปลิดทิ้งเลย แม้จะกินเวลาเป็นชั่วโมงกว่า ๆ ก็ตาม”

        เมื่อยินนาเห็นภัททิต้าอยู่ในสภาพที่ครบสามสิบสอง เธอก็รีบพุ่งเข้าไปกอดทั้งน้ำตา

        “เธอยังไม่ตายจริง ๆ ด้วย ภัททิต้า!!” ยินนาร้องเสียงสะอื้น

        “โอเค ไม่ต้องซาบซึ้งมากขนาดนั้นก็ได้” พอเพียงพูด “เรื่องของเรื่องคือพวกเรารีบมาที่นี่โดยไม่ได้ซ่อมแซมตลาดสามลำกล้องเสียด้วยซ้ำไป แต่มันไม่ได้สำคัญเท่ากับว่าเราต้องหาผู้ก่อเหตุให้ได้ว่าที่วางระเบิดแยกสามลำกล้องกับตรงนี้คือคนคนเดียวกันหรือไม่”

        ในที่สุด พอเพียงก็พร้อมจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดในสี่แยกนี้อีกครั้ง เพื่อตรวจสอบว่า ใช่คนเดียวกับที่เคยก่อเหตุที่สี่แยกสามลำกล้องมาก่อนหรือไม่ ปรากฏว่าเป็นชายชุดดำคนเดิมที่เดินทางมาจากสี่แยกสามลำกล้องจริง ๆ ด้วย

        “ใช่จริง ๆ ด้วย” พอเพียงพูดแล้วตบโต๊ะเพื่อแสดงความมั่นใจ “เป็นคนก่อเหตุคนเดียวกันจริง ๆ ด้วย”

        “แล้วเราจะเอายังไงดีล่ะ?” ภัททิต้าถาม

        “ฉันก็จะต้องเอาไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและไอดีพีเอ็มรับทราบเพื่อตามจับกุมเจ้าหมอนี่ให้ได้” พอเพียงตอบ “การกระทำแบบนี้มันเป็นการกระตุกหนวดเสือให้ฉันออกมาดิ้น คงจะไม่รู้จักฤทธิ์เดชของฉันเลยสินะ ภัททิต้า นายไปบอกองค์กรยอดมนุษย์ฯ ให้เร็วที่สุดว่ามันเกิดอะไรขึ้นด้วยนะ”

        “แล้วฉันล่ะ?” ลีถาม

        “ลุงก็รีบบอกคุณจอห์นให้เร็วที่สุดด้วยสิครับ” พอเพียงตอบ

        แต่ยังไม่ทันที่ทุกคนจะทำอะไรต่อ ไม่ว่าจะเป็นป้ายจอโฆษณาขนาดใหญ่ในเมือง จอคอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป แท็บเล็ต สมาร์ตโฟน เครื่องฉายโปรเจกเตอร์ทุกรุ่น รวมถึงจอโทรทัศน์ทุกช่อง และวิทยุทุกคลื่น ถูกแฮกทั่วโลก โดยแม้แต่ระบบของแฮมิลตันและเรย์นะที่ป้องกันไว้อย่างแน่นหนาก็ถูกการแฮกครั้งนี้เจาะทะลุได้อย่างง่ายดาย

        ทุกจอและทุกเครื่องฉายโปรเจกเตอร์ได้ปรากฏภาพเป็นมนุษย์ที่สวมหน้ากากคลุมหัวสีดำสนิท มีดวงตาเรืองแสงสีขาวทั้งสองข้าง สวมมงกุฎสีเทา ลำตัวช่วงบนเป็นเครื่องแบบนายพลสีดำ

        “ใครกัน?” ภัททิต้าถาม

        “ฟังเขาพูดก่อน” พอเพียงตอบ

        “สวัสดี เจ้าพวกมนุษย์ทั้งหลาย” วายร้ายในจอพูด “ฉันคือ เดอะแบล็ค แฮกเกอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในปฐพี (The Black The Greatest Hacker) ถ้าพวกแกได้รับข้อความนี้จากฉันละก็ แสดงว่าพวกแกคงจะรู้แล้วสินะว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นที่สี่แยกสามลำกล้องกับสะพานอนุกรมของประเทศไทย”

        ภาพของทุกจอและทุกเครื่องฉายตัดไปยังเหตุการณ์วางระเบิดที่สี่แยกสามลำกล้องและสะพานอนุกรม

        “อย่าบอกนะว่า เหตุการณ์ที่พวกเราเจอเป็นฝีมือของ...” ภัททิต้าลากเสียง

        เดอะแบล็คหัวเราะเยาะก่อนจะพูดต่อว่า “ใช่ ฉันเป็นคนสั่งให้ลูกสมุนที่รับใช้ฉันมาตลอดเป็นคนวางระเบิดให้ ฉะนั้น นี่เป็นแค่การอุ่นเครื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนที่ฉันจะเอาจริงด้วยการยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์ที่รุนแรงระดับที่แรงกว่าระเบิดซาร์บอมบาของอดีตสหภาพโซเวียตเป็นพันเท่า! โดยจะบรรจุเชื้อไวรัสอันตรายที่จะสามารถเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกใบนี้ให้กลายเป็นอันเดดด้วย! ตอนนี้มันถูกเก็บไว้ที่เขตทะเลทรายที่รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา รอให้ฉันเตรียมปล่อยไปลงที่แอเรีย 51 ก่อน ถ้าพวกแกไม่อยากโดนละก็ พวกแกต้องนำคนที่รู้เรื่องของฉันมากเกินไปมาให้ฉัน คนคนนั้นก็คือ เซสเตอร์ ราชาแห่งกาลเวลา ให้มันตอบคำถามให้กับฉันด้วยว่า ทำไมโลกใบนี้ถึงมีองค์กรใหญ่ถึงสององค์กร องค์กรของยอดมนุษย์และของวายร้าย หึ ฉันไม่ชอบขี้หน้าคนทั้งสองฝ่ายเลย ฉันจะต้องรู้ให้ได้ก่อนว่าพวกมันเหล่านี้เกิดมาจากอะไรกัน ก่อนที่ฉันจะลงมือล้างบางพวกนี้ออกไปให้หมดและยึดครองโลกเสียเอง และถ้าพวกแกไม่ทำตามที่ฉันสั่งละก็ อีกห้าปีข้างหน้าเจอดีแน่!”

        และเขาก็หัวเราะก่อนที่ภาพบนจอและเครื่องฉายจะถูกตัดกลับไปออกอากาศตามปกติแทน

        พอเพียงโกรธจนเลือดขึ้นหน้า เขาตะโกนว่า “ฉันไม่ยอมหรอกน่า!!!

        ส่วนสองฝาแฝดเดลวินกับนัตตี้ เมื่อได้ฟังคำขู่ของเดอะแบล็คแล้ว พวกเขาก็วิตกกังวลอย่างมาก ถ้าเกิดว่าเจ้าแฮกเกอร์รู้ต้นกำเนิดว่าพวกยอดมนุษย์มาจากไหน อาจจะซวยโดนหางเลขไปด้วยเลยก็ได้

        “ดูเหมือนว่าเจ้าหมอนั่นอาจจะร้ายกาจยิ่งกว่านั้น” ภัททิต้าพูด “ยิ่งกว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมากับพวกยอดมนุษย์และวายร้ายเสียอีก อาจจะกลายเป็นศัตรูกับหน่วยอื่น ๆ ด้วยซ้ำ แถมเซสเตอร์ที่เราเจอเมื่อปี 2016 จะรู้เรื่องของเจ้าแฮกเกอร์นี่มากเกินกว่าจะปล่อยไปแล้ว หรือไม่เขาก็อาจจะ—”

        “ประเด็นที่ฉันกังวลยิ่งกว่าคือ” พอเพียงขัดจังหวะ “ถ้าไอ้แฮกเกอร์นั่นมันรู้ถึงการมีตัวตนของจักรวาลอื่น มันอาจจะไม่ใช่แค่หายนะกับโลกเรา แต่มันอาจจะเป็นภัยกับจักรวาลอื่นไปเลยก็ได้ ดังนั้น ถ้าเกิดว่ามันรู้ตัวว่าเซสเตอร์เป็นใครและเคยเดินทางไปที่ไหนแล้วบ้างละก็...”

        “ไม่ได้การแล้ว” ลีพูด “งั้นฉันจะโทรหาคุณจอห์นก่อน ส่วนพวกเธอ บอกว่าเป็นเพื่อนกับสมาชิกองค์กรยอดมนุษย์ฯ ไม่ใช่เหรอ ก็โทรคุยกับพวกเขาซะสิ”

        “ค...ครับ” ภัททิต้าบอก

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.