ไม่ใช่คุณหนูธรรมดา
ชิวเพ่ยเพ่ยผู้แสนน่ารักตอนนี้โกรธจัดจนกลายเป็นแม่เสือสาวไปเสียแล้ว นางได้ยินว่าคนเลวพวกนี้ต้องการใช้ยาสกปรกครอบครองตัวนางแล้วบังคับท่านตากับท่านยายยกตำหนักนี้ให้พวกเขา หึ พวกมันกำลังฝัน!!!
ชิวเพ่ยเพ่ยแฝงกายเข้าไปอย่างไร้ร่องรอย นางส่งยาพิษสารพัดที่สะสมไว้ในร่างกายด้วยพลังปราณ ไม่ถึงเค่อ คนพวกนั้นต่างอ่อนแรงและกระอักเลือดออกมา แถมพลังปราณที่สะสมไว้ชั่วชีวิตกลับหายไปเสียดื้อ ๆ นี่เป็นพิษที่ร้ายแรงที่สุดที่นางสร้างด้วยตนเอง ในใต้หล้านี้ไม่มีใครแก้ได้แม้แต่หมอเทวดาที่ว่าสามารถยื้อชีวิตคนจากมัจจุราช
กว่าท่านตากับท่านยายจะมาถึง คนพวกนี้ก็กลายเป็นคนธรรมดาไปเสียสิ้น เฮ้อ หลังจากนี้เรื่องน้อยใหญ่ในตำหนักคงไม่พ้นพวกเขาสองสามีภรรยาต้องคอยสะสางเอง คนพวกนี้มีประโยชน์สำหรับเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้นี่แหละ พวกเขาจึงยังไว้ชีวิตอยู่ แต่ใครใช้ให้พวกมันเหิมเกริมถึงขนาดนัดกันพูดคุยอย่างไม่กลัวใครได้ยินแบบนี้เล่า
“ท่านเจ้าตำหนักช่วยพวกเราด้วย” ผู้อาวุโสใหญ่เห็นเขาเหมือนดั่งเทวดาแล้วตอนนี้ จากเมื่อก่อนที่มีฝีมือสูสีกัน แต่ตอนนี้เขาไม่มีแม้แต่พลังปราณพอที่จะยืนเสียด้วยซ้ำ ทำได้แค่ขอร้องคนตรงหน้าอย่างหน้าด้าน ๆ ไม่อย่างนั้นศัตรูของพวกเขาต้องรีบส่งคนมาฆ่าจนไม่เหลือแม้แต่คนส่งศพเป็นแน่
“หึ เจ้าจะให้ข้าช่วยอะไรอีกผู้อาวุโสใหญ่” เตียวหย่งไจ้มองคนที่คุกเข่าตรงหน้าอย่างสมเพชเวทนา
“ข้าไม่รู้ว่าใครกล้าทำเรื่องเลวทรามวางยาพิษพวกข้าแบบนี้ ตอนนี้พลังปราณของข้าไม่มีแม้แต่นิดเดียวภายในร่าง ท่านช่วยขอร้องผู้เฒ่าเซียวฟางรักษาพวกเราได้หรือไม่”
“โอ้วววว นับว่าเป็นบุญหูของเด็กน้อยอย่างข้าเสียจริง ๆ ที่ได้ยินผู้อาวุโสผู้ยิ่งใหญ่ของตำหนักเมฆาดับขอร้องท่านตา เมื่อกี้ข้าอยู่แถวนี้แล้วได้ยินเรื่องดี ๆ เข้าเสียด้วย ข้าจะเล่าให้ท่านตากับท่านยายข้าฟังต่อหน้าพวกท่านดีหรือไม่?”
โดยไม่รอคำตอบรับใด ๆ ชิวเพ่ยเพ่ยเริ่มต้นกล่าวคำทุกคำที่พวกเขาพูดคุยตั้งแต่ที่นางแอบฟัง เตียวหย่งไจ้กับภรรยาที่ยิ่งฟังยิ่งกัดฟันกรอด ๆ พวกเขาโกรธมากกว่าหลานสาวเสียอีก เขาไม่คิดเลยว่าพวกสารเลวนี้จะกล้ายุ่งกับหลานสาวสุดที่รักของพวกเขาจริง ๆ กระทั่งจบเรื่องทั้งหมด ชิวเพ่ยเพ่ยหันไปหาท่านตาท่านยายด้วยแววตาใสซื่อแล้วถามพวกท่านว่า
“พวกท่านยังอยากเก็บคนพวกนี้เอาไว้หรือไม่เจ้าคะ”
“หึ เก็บไว้ทำปุ๋ยต้นไม้เถอะเพ่ยเพ่ย” เตียวหย่งไจ้ส่งสัญญาณให้องครักษ์ล้างบางคนพวกนี้ให้หมด อย่าให้เหลือเอาไว้เป็นเสี้ยนหนามของหลานสาวเขาในภายภาคหน้าอีก
เหล่าคนชั่วที่ขอร้องเจ้าตำหนักเมื่อกี้พอฟังคำสั่งแล้วถึงกับด่าเตียวหย่งไจ้ ภรรยากับชิวเพ่ยเพ่ยรัวเร็วจนแทบฟังไม่เป็นภาษา หลานสาวแสนดีที่จะไม่ทนกับคนที่กล้าด่าว่าท่านตากับท่านยายที่รักนาง นางสาดผงใบ้ใส่พวกเขาในทันใด เพียงแค่ได้กลิ่น คนเหล่านั้นก็ไม่มีเสียงออกจากลำคอแม้แต่คำเดียว เฮ้อ ค่อยสบายหูหน่อย คุณหนูตัวน้อยน่ารักถอนหายใจที่ตัดเสียงน่ารำคาญออกจากรูหูของนางได้เสียที
เตียวหย่งไจ้กับเจียวไฉ่หลานรีบพาหลานสาวกลับตำหนักใหญ่ทันที พวกเขาไม่อยากให้นางได้ยินเรื่องไม่ดีเหมือนก่อนหน้านี้อีก หึ หลานพวกเขายังไม่ปักปิ่นเลย พวกมันยังกล้าวางแผนชั่วได้ขนาดนี้ พวกเขายิ่งต้องระวังคนอื่นที่แฝงอยู่ภายในให้มากขึ้นเสียแล้ว ไม่อย่างนั้นหลานสาวแสนมีค่าของพวกเขามีหวังต้องตกนรกทั้งเป็นแน่ ๆ
ชิวเพ่ยเพ่ยที่หมดอารมณ์สำรวจตำหนักเมฆาดับจึงเดินตามท่านตาท่านยายอย่างเชื่อฟัง นี่ถ้านางไม่มาได้ยินเข้าเสียก่อน มีหวังนางต้องตกเป็นเครื่องมือของคนชั่วพวกนี้แน่ ไม่ได้การแล้ว แบบนี้นางต้องคิดหาสูตรยาแก้กำหนัดโดยด่วน อาจารย์ของนางก็ยังไม่เคยพบยาแรงแบบนี้มาก่อน เขาจึงไม่เคยสอนสูตรยาให้นางน่ะสิ ลำบากนางต้องทดลองเองอีก เฮ้อ อาจารย์นะอาจารย์
ข่าวการกำจัดคนที่กระด้างกระเดื่องกับตำหนักแพร่สะพัดไปทั่วในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม ตอนนี้มีข่าวลือใหม่มาว่า ว่าที่เจ้าตำหนักนั้นไม่ใช่คุณหนูธรรมดาอย่างที่เห็นภายนอก นางโหดเหี้ยมยิ่งกว่าใคร ๆ ขนาดคนที่เพียงวางแผนแต่ไม่ได้ลงมือ นางยังกำจัดได้โดยไม่กระพริบตา ทำให้ตอนนี้ในตำหนักเมฆาดับ ไม่มีใครกล้าลองดีทำตัวเหมือนเหล่าคนพวกนั้นอีกเลย

แสดงความคิดเห็น