ตอนที่ 854 พลังงานที่คุ้นเคย
ตอนที่ 854 พลังงานที่คุ้นเคย
ฉัวะ!
บลัดบิวเทียสถูกตวัดฝังเข้าไปภายในร่างเลวี่ ทำให้พลังงานปริมาณมหาศาลถูกดูดซับเข้ามาภายในร่างกายของชายหนุ่มอย่างรุนแรง และทำให้เขารู้สึกเบาสบายไปทั่วทั้งตัว
เมื่อร่างเลวี่หลงเหลือเพียงแต่เศษซากโครงกระดูก ชายหนุ่มก็ถีบร่างของชายชราให้แตกออกเป็นชิ้น ๆ จากนั้นเขาก็หันใบหน้าจ้องมองไปยังวิลโล่ที่ยังคงติดตามเขามาในระยะไกล
ตอนนี้นักรบผู้ใช้กฎมิติทุกคนถูกสังหารไปจนหมดแล้ว ซึ่งมันก็หมายความว่าไม่มีใครสามารถหยุดยั้งเซี่ยเฟยจากการมุ่งหน้าเข้าไปหาชิ้นส่วนของอาร์คได้
“หากใครมาขวางฉัน ตาย!” เซี่ยเฟยร้องคำรามพร้อมกับระเบิดจิตสังหารออกมาอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งแรงกดดันที่ถูกปลดปล่อยออกไปนั้นมันก็ทำให้แม้แต่วิลโล่หรือโอโร่ต่างก็รู้สึกตกตะลึง
ใครจะคิดว่าชายหนุ่มคนนี้สามารถสังหารจักรพรรดิกฎ 2 คนและราชากฎอีกสามคนที่ขวางทางเขาได้อย่างง่ายดาย ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เขายังเข้าใกล้จุดศูนย์กลางของซีเครดสปริง จนยากที่จะมีใครมาหยุดยั้งชายหนุ่มเอาไว้ได้แล้ว
วิธีการที่เซี่ยเฟยใช้ในก่อนหน้านี้ต่างก็ล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์และความโหดร้าย แต่ชายหนุ่มก็ไม่เคยสนใจความคิดเห็นของคนอื่นเลย เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือวิธีการเหล่านี้ยังคงทำให้เขามีชีวิตอยู่และทำให้ศัตรูที่ขวางทางตกตายตามกันไปทุกคน
ตราบใดก็ตามที่มันช่วยให้เขาสังหารศัตรูได้ เขาก็ไม่เคยเกี่ยงวิธีการมาตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว!
“ถ้าหากว่าแกกล้าทำอะไรตุกติก ฉันจะทำลายซีเครดสปริงลงทั้งหมด!” เซี่ยเฟยตะโกนเสียงดังขณะชี้นิ้วไปยังดาวเคราะห์ที่เต็มไปด้วยต้นไม้
ทันทีที่เขาพูดจบเขาก็มุ่งหน้าตรงต่อไปยังดาวเคราะห์ตรงหน้า โดยไม่สนใจราชันย์กฎผู้ทรงพลังที่กำลังพยายามไล่ตามเขาอยู่เลย
วิลโล่ทำได้เพียงแต่กัดฟันด้วยความโกรธ แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรเซี่ยเฟยจากระยะนี้ได้ ท่าทางของเซี่ยเฟยทำให้เขารู้สึกโกรธจนแทบจะหมดสติลงไปจริง ๆ ยิ่งไปกว่านั้นแม้แต่ขนอุยก็ยังแลบลิ้นใส่เขาจากบนไหล่เจ้านายของมัน
เมื่อได้เห็นร่างของเซี่ยเฟยเดินทางเข้าไปภายในดาวที่เต็มไปด้วยต้นไม้ เขาก็จำเป็นจะต้องระงับความโกรธเอาไว้ จนทำให้มันมีเลือดไหลออกมาจากปาก เนื่องมาจากว่าเขากำลังกัดฟันของตัวเองอย่างรุนแรง
เวลาต่อมามันก็มีร่างของนักรบอีกสองคนพุ่งเข้ามาหาวิลโล่จากระยะไกล โดยคนหนึ่งเป็นชายร่างสูงขณะที่อีกคนเป็นชายร่างเตี้ย แน่นอนว่าพวกเขาก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกเสียจากฮูอาและคูรู จักรพรรดิกฎทั้งสองคนที่โดยปกติรับผิดชอบในการเฝ้าทางเข้าซีเครดสปริงนั่นเอง
ฮีธฟิลด์สร้างความวุ่นวายตามแผนการมาสักพักหนึ่งแล้วเขาจึงถอนตัวกลับไป ฮูอากับคูรูจึงสามารถปลีกตัวมายังสถานที่แห่งนี้ได้ แต่การปะทะกับนักรบไลอ้อนฮาร์ทก็ทำให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน ส่วนกองทัพของพวกเขาก็เรียกได้ว่าประสบกับความสูญเสียอย่างรุนแรง
ก่อนที่พวกเขาจะมีเวลาคิดว่าทำไมพวกไลอ้อนฮาร์ทถึงมาจู่โจมซีเครดสปริง พวกเขาก็ได้รับข่าวการเสียชีวิตของแฮมเบิร์ก ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงรีบมุ่งหน้าตรงมายังแกนกลางซีเครดสปริงเป็นอันดับแรก
ทันทีที่พวกเขามาถึงที่นี่พวกเขาก็ได้ยินคำประกาศอันหยิ่งผยองของเซี่ยเฟยเข้าพอดี ยิ่งไปกว่านั้นแม้แต่จักรพรรดิกฎระดับสูงอย่างเลวี่ก็เสียชีวิตลงไปแล้วด้วยเช่นเดียวกัน
ฮูอากับคูรูมองหน้ากันพร้อมกับขมวดคิ้ว เพราะเขาไม่เข้าใจว่าเซี่ยเฟยสามารถหลบหนีจากเงื้อมมือของวิลโล่ไปได้ยังไง เป็นไปได้ไหมที่ราชันย์กฎผู้นี้จะมีสติปัญญาอันโง่เขลา จนถึงขนาดปล่อยให้มนุษย์เพียงคนเดียวสามารถเข้าไปยังพื้นที่แกนกลางอันสำคัญของซีเครดสปริงได้
“พวกเราควรจะทำยังไงดี?”
“พวกเราปล่อยให้มนุษย์เข้าไปในดาวแกนกลางได้ยังไง?”
“ฉันควรจะไปฆ่ามันเลยดีไหม? ไม่อย่างนั้นมันก็อาจจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อซีเครดสปริงขึ้นมาก็ได้”
ฮูอากับคูรูต่างก็ถามคำถามออกมาซ้ำ ๆ และพวกเขาก็ต้องการที่จะเคลื่อนที่ออกไปเพื่อสังหารเซี่ยเฟยในทันที
ดาวแกนกลางคือชื่อที่พวกเขาตั้งให้กับดาวเคราะห์ที่เต็มไปด้วยพืชดวงนั้น และมันก็เป็นดาวที่คอยปล่อยพลังงานออกมาเลี้ยงดูซีเครดสปริงเป็นเวลาหลายล้านปี ดาวแกนกลางจึงทำหน้าที่เป็นเสมือนกับหัวใจที่คอยหล่อเลี้ยงซีเครดสปริงเอาไว้ตลอดเวลา
“อย่าพึ่งทำอะไรบุ่มบาม ไอ้บ้านั่นมันบ้ามากกว่านักรบสกายวิงทั่วไปด้วยซ้ำ” วิลโล่กล่าวด้วยสีหน้าที่เย็นชา
“มันเป็นคนจากสกายวิงงั้นเหรอ?” ฮูอารีบถามด้วยความตกใจ
“ถ้าแบบนี้พวกเราก็ลำบากแล้ว พวกสกายวิงขึ้นชื่อว่าเป็นพวกบ้าและไร้เหตุผลยิ่งกว่าใคร ถ้าเราเกิดไปแตะต้องคนของพวกมันขึ้นมา บางทีพวกมันอาจจะเรียกระดมพลมาถล่มซีเครดสปริงเลยก็ได้” คูรูกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
อย่างไรก็ตามทันทีที่เขาพูดจนจบเขาก็นึกเสียใจขึ้นมาในทันที เพราะเขาลืมสิ่งสำคัญเรื่องหนึ่งไปว่าตระกูลของวิลโล่ก็เคยถูกตระกูลสกายวิงกวาดล้างมาในอดีตด้วยเช่นกัน ในคราวนั้นมีเพียงวิลโล่คนเดียวที่รอดชีวิตกลับมาได้ แล้วเขาก็จำเป็นที่จะต้องหาที่หลบซ่อนเปลี่ยนชื่อเพื่อปกปิดตัวตนจนทำให้เขารอดชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาวิลโล่ก็พยายามเก็บตัวฝึกฝนอย่างบ้าคลั่ง โดยหวังว่าในวันหนึ่งเขาจะกลับไปแก้แค้นสกายวิงที่บังอาจมาพรากครอบครัวไปจากเขา
ด้วยเหตุนี้เองเมื่อวิลโล่พบว่าเซี่ยเฟยคือสมาชิกของสกายวิง เขาจึงพยายามสังหารศัตรูอย่างบ้าคลั่ง ถึงขนาดที่เขาไม่เสียดายชีวิตสหายที่ถูกจับเป็นตัวประกันด้วยซ้ำ ซึ่งมันก็บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเขาคนนี้รู้สึกเกลียดชังสกายวิงมากแค่ไหน
ใบหน้าของวิลโล่เต็มไปด้วยความโกรธมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อคำพูดของคูรูได้ไปสะกิดแผลเก่าที่พยายามถูกฝังกลบเอาไว้มาเป็นเวลานาน
วิลโล่จ้องมองไปทางคูรูอย่างไม่พอใจ ก่อนที่เขาจะหันหลังกลับไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ นี่ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าวันนี้ซีเครดสปริงสูญเสียไปเยอะมากแล้ว ราชันย์ผู้นี้คงจะลงมือสังหารคูรูที่กล้ามาสะกิดแผลเก่าของเขา
“พวกแกสองคนเฝ้าอยู่นี่” วิลโล่ออกคำสั่งอย่างเย็นชา ก่อนที่เขาจะพึมพำกับตัวเองขึ้นมาเบา ๆ ด้วยความโกรธเกรี้ยว
“อย่าคิดว่าการซ่อนตัวอยู่ในดาวแกนกลางจะทำให้แกปลอดภัย ไม่ว่ายังไงคราวนี้ฉันก็จะต้องสังหารแกไปให้ได้!” ทันทีที่พูดจบวิลโล่ก็จากไปด้วยความโกรธ
“อย่าบอกนะว่าเขาจะไปหาคนพวกนั้น?” ฮูอากับคูรูหันมามองหน้ากันพร้อมกับกลืนน้ำลายลงไปอึกใหญ่
—
“นายไม่ควรจะไปยั่วยุมันเลย อย่าลืมนะว่านายพึ่งฆ่าคนของมันไป ตอนนี้วิลโล่น่าจะโกรธจนแทบจะระเบิดแล้ว” โอโร่กล่าวขึ้นมาพร้อมกับขมวดคิ้ว ขณะที่เซี่ยเฟยเคลื่อนที่เข้ามาในดาวแกนกลาง
“ศัตรูแข็งแกร่งกว่าผมมาก หากเผชิญหน้ากันในสถานการณ์ปกติผมย่อมไม่สามารถต่อต้านศัตรูแบบนี้ได้ กลยุทธ์ที่ผมพอจะทำได้คือการกระตุ้นความโกรธของศัตรูเท่านั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่ศัตรูขาดสติเมื่อนั้นมันก็จะเป็นโอกาสของผม” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เวลาแบบนี้ยังจะมีแผนอีกงั้นเหรอ?”
โอโร่ไม่รู้จริง ๆ ว่าในหัวของเซี่ยเฟยมีอะไร เขาจึงสามารถคิดค้นกลอุบายออกมาได้อย่างต่อเนื่อง การเคลื่อนไหวของชายหนุ่มดูเป็นเพียงการเคลื่อนไหวธรรมดา ๆ แต่การเคลื่อนไหวธรรมดาเหล่านั้นกลับมีแผนการซุกซ่อนเอาไว้ทุกขั้นตอน
“ไม่ว่าจะยังไงซีเครดสปริงก็จะต้องถูกทำลาย” เซี่ยเฟยพูดขึ้นมาอีกครั้ง
“ทำไม?” โอโร่ขนลุกขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อได้เห็นท่าทางอันจริงจังของชายหนุ่ม
“สักวันวิลโล่จะต้องมุ่งเป้าไปที่สกายวิงแน่ ๆ ในเมื่อมันเป็นศัตรู ฐานที่มั่นของมันก็จะต้องถูกทำลายลงไปด้วยเหมือนกัน” เซี่ยเฟยตอบกลับอย่างเฉยเมย
วิลโล่แอบซ่อนตัวอยู่ในซีเครดสปริงและคอยสังเกตการณ์สกายวิงจากมุมมืดอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่ใช่เพราะเซี่ยเฟยปรากฏตัวขึ้นมา ศัตรูคนนี้ก็อาจจะลงมือจู่โจมสกายวิงก่อนที่ใครจะทันได้ตั้งตัว
ดังนั้นเมื่อชายหนุ่มสามารถยืนยันตัวตนของศัตรูได้แล้ว เขาก็ไม่เคยมีความคิดที่จะปล่อยให้ศัตรูหนีรอดกลับไป ไม่ว่าจะยังไงเขาก็จะต้องทำลายฐานที่มั่นของศัตรูลงไปให้ได้ ในฐานะของหมาป่าเดียวดายที่ต้องคอยปกป้องตระกูล
ดาวแกนกลางเต็มไปด้วยต้นไม้จำนวนนับไม่ถ้วนที่แย่งกันขึ้นจนแน่นขนัด และมีช่องว่างเพียงแค่เล็กน้อยให้เขาได้แทรกตัวเข้าไปเท่านั้น
โชคดีที่เซี่ยเฟยมีวิชาเล่ห์กายาจนทำให้เขาสามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยท่าทางที่ผิดแปลกไปจากธรรมชาติ เส้นทางไหนที่ดูคล้ายจะผ่านไม่ได้ชายหนุ่มก็สามารถที่จะผ่านเส้นทางเหล่านั้นไปได้อย่างง่ายดาย จนทำให้เหล่าบรรดาแมกไม้ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับเขาเท่าไหร่เลย
ขณะเดียวกันพืชพรรณเหล่านี้ก็กระตุ้นความสงสัยภายในใจของเขามาก ชายหนุ่มจึงเก็บตัวอย่างพืชพรรณไปเป็นจำนวนมาก เผื่อที่ว่าเขาจะได้นำพวกมันไปตรวจสอบในอนาคต
สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการตามหาชิ้นส่วน และถ้าหากว่าอาร์คเป็นยานที่เดินทางมาจากนอกประตูจักรวาลจริง ๆ ชิ้นส่วนเล็ก ๆ เพียงแค่ชิ้นเดียวก็อาจจะนำพาไปสู่ความลับของประตูอันแปลกประหลาดและความลับเรื่องต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิต
เซี่ยเฟยเดินไปตามเส้นทางอันซับซ้อนเพื่อพยายามเข้าสู่พื้นที่ใจกลางดาวเคราะห์ แต่ยิ่งเขาพยายามขุดลึกลงไปมากเท่าไหร่ เส้นทางมันก็ยิ่งแน่นหนามากขึ้นไปเท่านั้น เส้นทางที่เคยมีช่องว่างอยู่บ้างก็ค่อย ๆ บีบแคบลงจนทำให้เขาจำเป็นจะต้องถางต้นไม้บางส่วนออกไปเพื่อเปิดเส้นทาง
ไม่กี่นาทีต่อมาเซี่ยเฟยก็ไปถึงแกนกลางของดาวเคราะห์ได้ในที่สุด ซึ่งมันเป็นรากของต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ขึ้นปกคลุมเศษโลหะสีเข้มที่นอนนิ่งอยู่เงียบ ๆ
“นี่น่ะเหรอชิ้นส่วนอาร์ค?” โอโร่อุทานขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
เมื่อเดินทางมาจนถึงตรงนี้เซี่ยเฟยก็ไม่สามารถระงับความตื่นเต้นของตัวเองเอาไว้ด้วยเช่นกัน แต่เขาก็ไม่ได้รีบเข้าไปใกล้ชิ้นส่วนอาร์คอย่างประมาท โดยเริ่มแรกเขาได้ใช้สายตาสังเกตชิ้นส่วนโลหะอย่างระมัดระวังก่อน
มองจากภายนอกชายหนุ่มก็ได้รู้ว่าเศษโลหะชิ้นนี้ไม่ได้ทำขึ้นจากโลหะใด ๆ ที่เขารู้จัก และมันก็ยังมีพลังงานอันผันผวนถูกปลดปล่อยออกมาจากเศษโลหะตลอดเวลา
ความผันผวนของพลังงานภายในเศษโลหะมีความใกล้เคียงกับความผันผวนของพลังงานภายในสมองของชายหนุ่มมาก เพียงแต่ว่าความผันผวนของพลังงานภายในเศษโลหะมีมากกว่าภายในสมองของเขาเท่านั้น
“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมวิลโล่ถึงไม่อยากให้ใครมาแตะต้องดาวดวงนี้ ที่แท้ชิ้นส่วนอาร์คมันก็อยู่ในสภาวะที่ไม่เสถียรนี่เอง” เซี่ยเฟยพึมพำขึ้นมาเบา ๆ
ชายหนุ่มใช้นิ้วแตะลงไปบนแหวนเพื่อหยิบเครื่องตรวจจับพลังงานต้นกำเนิดออกมา แต่หลังจากที่เขาทำการทดสอบพลังงานตรงหน้าเบา ๆ เครื่องกลับทำงานหนักเกินไปจนถูกทำลายในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาที
“ทรงพลังมาก!” เซี่ยเฟยอุทานพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ทำไมคลื่นพลังงานของมันคล้าย ๆ กับคลื่นพลังงานภายในสมองของนาย?” โอโร่ถามขึ้นมาอย่างสงสัย
“ผมก็รู้สึกได้เหมือนกัน แค่ความผันผวนของพลังงานของมันมากกว่าในสมองของผมเท่านั้น” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
ก่อนหน้านี้ชายหนุ่มเข้าใจมาโดยตลอดว่าเม็ดพลังงานสีรุ้งภายในสมองของเขาเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างแปลกประหลาด และไม่มีใครสามารถเลียนแบบพลังงานภายในสมองของเขาได้ แต่จู่ ๆ เขากลับได้พบกับพลังงานที่มีคลื่นความถี่ใกล้ ๆ กัน เซี่ยเฟยจึงพยายามเข้าไปใกล้เพื่อสำรวจชิ้นส่วนอาร์คมากกว่านี้
***************
เอาละไง ชิ้นส่วนอาร์คกับพี่เฟยจะมีความสัมพันธ์กันยังไงเนี่ย?
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 331
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น