บทที่ 5...2/3

ใจดวงนี้สื่อถึงรัก

-A A +A
อ่านต่อ

บทที่ 5...2/3

ขนมสำหรับลูกค้าในรอบตอนเย็นเสร็จหมดแล้ว ป้าอรกำลังนำข้าวต้มคลุก ทองหยอดและหม้อแกงออกมาวางเรียงในถาด ส่วนป้าพิสมัยมีถาดแป้งบัวลอยมาวางรอ โดยเมษาถือน้ำกะทิหวานๆ หอมๆ ตามมา น้ำกำลังเดือดอยู่ในหม้อรอต้มเม็ดบัวลอยตอนที่ลูกค้าสั่ง อีกทั้งยังมีขนมที่ยังขายไม่หมดอยู่บ้าง ส่วนวิภาอยู่หลังร้านกำลังทำความสะอาดครัวและเช็คสต็อกวัตถุดิบที่ต้องใช้ทำขนม เพื่อที่การทำขนมในแต่ละวันจะได้ไม่สะดุดเพราะวัตถุดิบขาดหรือไม่พอ

ใกล้จะ 5 โมงเย็นแล้ว แต่หมิวยังไม่มา เมษาจึงมาคอยดูแลลูกค้าด้วยตัวเอง พอมีเวลานั่งพัก เมษาจึงมีเวลาได้คิดว่าตอนนี้คนที่มีน่าจะเพียงพอกับงานในทุกวันแล้ว งานของผู้ช่วยทั้ง 3 คนจะเริ่ม 7 โมงเช้าและเลิกงานในเวลา 4 โมงเย็น หากทำนอกเวลาเมษาก็จ่ายเพิ่มให้ตามกำหนดของกฎหมาย บางครั้งขนมที่ต้องส่งพรุ่งนี้ในตอนเช้า เมษาจะโยกให้มาทำในตอนเย็นแล้วอุ่นในตอนเช้าก่อนส่งซึ่งจะช่วยลดความเหนื่อยเพราะตื่นเช้าได้ไม่น้อย  

เสียงโมบายที่ประตูร้านดังขึ้น เมษาเงยหน้าหันไปมอง ก่อนจะยิ้มกว้างด้วยความดีใจ บางทีเธอก็ประหลาดใจในโชคชะตา เมื่อคืนเธอพบกับภาม มาวันนี้ตอนเย็นก็ได้พบกับคุณป้าเนตรา เธอได้อ่านจากข่าวแล้วจึงสบายใจว่าได้พบผู้หญิงที่น่ารักเข้าแล้วจริงๆ อีกทั้งการได้ประสบพบกับตัวเองจึงยิ่งมั่นใจว่าข่าวที่อ่านเป็นความจริงทั้งหมด เหตุผลที่เธอคุ้นหน้าคุณป้าเนตราก็เพราะเคยเห็นในข่าวสังคมผ่านๆ ตานี่เอง

เมษาเดินไปต้อนรับพลางพาเนตรามาที่โต๊ะซึ่งมุมด้านนี้จะเห็นภาพวาดของมีนาด้วย ภาพสวยๆ อาจทำให้รู้สึกสดชื่นได้ หญิงสาวยกมือไหว้พลางเอ่ยว่า

“สวัสดีค่ะคุณป้าเนตรา ขอโทษนะคะที่เมไม่ทราบว่าคุณป้าเป็นใครก่อนหน้านี้”

เนตรายิ้มชอบใจในความอ่อนน้อมของเมษา พบกันครั้งแรกคือความบังเอิญ แต่หากยังได้พบกันอีกคือวาสนาแล้วนั่นเอง

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ป้าเองก็ไม่ได้บอกตั้งแต่แรกเหมือนกัน”

“ที่ร้านเมนาได้รับเลือกจากโรงแรมพริ๊นท์ตันเป็นเพราะคุณป้าเนตราหรือเปล่าคะ” เมษาเลือกถามตรงๆ เพราะหากว่าใช่ เธอจะได้ขอบคุณให้ถูกคน หญิงสาวมั่นใจว่าการเลือกในครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนที่ภามจะรู้ว่าเธอช่วยเขาให้พบกับวิญญาณของพี่ชายได้ ภามไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการคัดเลือกในครั้งนี้

“เรียกป้าว่าป้าเนตรก็ได้นะจ๊ะ” เนตรามักให้คนที่ชอบเรียกชื่อสั้นๆ เมษาก็น่าจะเป็นคนที่นางชอบพอได้ “ป้าชอบชิมไปเรื่อย พอดีว่าทางโรงแรมยกเลิกสัญญากับร้านขนมเดิม ป้าอยากช่วยเลยลองไปที่ร้านต่างๆ จนกระทั่งมาถูกใจรสชาติของขนมที่ร้านของหนูเม เรื่องก็มีเท่านั้นเอง ภูมิใจในตัวเองยิ่งกว่าเดิมได้เลยนะคะ ขนมของหนูเมอร่อยจริงๆ”

เมษาได้ฟังคำตอบแล้วยิ่งใจฟูจึงยกมือไหว้เนตราด้วยความซาบซึ้งใจ ที่ได้รับโอกาสเพราะความสามารถของเธอและผู้ช่วยที่ทำขนมมาด้วยกัน

“ขอบคุณมากนะคะ ตั้งแต่รู้จักกับคุณป้าเนตร เมได้แต่พลังบวกทุกครั้งเลยค่ะ”

เนตรายิ้มรับคำชม นางผ่านการดูคนมามากจึงมองออกว่าเมษาพูดจากใจไม่ใช่การเยินยอเพื่อหวังต่อสิ่งใด

“วันนี้มีขนมอะไรให้ป้าทานบ้างคะ”

“วันนี้มีข้าวต้มคลุกมะพร้าว ทองหยอด หม้อแกงและบัวลอยไข่หวาน ส่วนเบเกอรี่จะมีชีสเค้กซูเฟลกับเค้กมันม่วงค่ะ”

เนตราร้องอ้ออยู่ในใจ ถึงว่าตอนที่เข้ามาในร้านนางได้กลิ่นหอมของมันม่วง วันนี้มีเมนูมันม่วงที่นางชอบคงจะพลาดไม่ได้เสียแล้ว

“น่าทานทั้งนั้นเลย ขอเป็น ข้ามต้มคลุก บัวลอยไข่หวาน ปิดท้ายด้วยเค้กมันม่วง 1 ชิ้นนะคะ”

เมษาอมยิ้มก่อนจะขออนุญาตผู้มากวัยกว่าว่า “ได้ค่ะ แต่ว่าเมขอเลี้ยงตอบแทนนะคะ ทั้งเรื่องดอกไม้กับเรื่องที่เมได้รับเลือกจากคุณป้าเนตร”

เนตรานิ่งไปนิดก่อนตอบว่า “ถ้าป้าบอกว่าจะจ่ายเงินให้ได้ หนูเมคงเสียน้ำใจสินะคะ ถ้างั้นป้ายินดีทานฟรี แต่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ คราวหน้าต้องคิดเงินป้านะคะ”

เมษายิ้มกว้างดีใจที่เนตรายอมให้เธอเลี้ยงตอบแทน หญิงสาวจัดการตักขนมมาเสิร์ฟให้เนตรา โดยรินน้ำลำไยกับน้ำเปล่ามาให้ด้วย ก่อนจะตักขนมบัวลอยไข่หวานใส่ถ้วย แล้วนำไปให้นิพนธ์ซึ่งนั่งรอเนตราอยู่ที่โต๊ะด้านนอก เธอบอกเขาว่าแทนคำขอบคุณที่เขาขับรถพาเนตรามาหาถึงที่ร้าน นิพนธ์รับขนมไปแล้วยิ้มกว้าง แม้ว่าเขาจะสั่งเค้กมันม่วงมาแล้ว

เนตรามองแล้วก็ชื่นใจ ถ้าภามสนใจเมษา นางคงไม่ขัดข้องอะไร แต่จากที่นางเห็น เมษาไม่ได้พยายามแสดงตัวว่าภามให้ความสนใจจนถึงขนาดลงทุนซื้อตึกข้างๆ ทำให้นางอยากสังเกตว่าภามคิดอย่างไรกับเมษากันแน่อีกสักพัก

 

ธีภพเพิ่งร้องเพลงในงานอีเวนท์ที่ผู้จัดการส่วนตัวรับงานมาให้เขาในคืนวันนี้ การมีชื่อเสียงทำให้เขารู้สึกนับถือตัวเองมากขึ้น จากเดิมที่เขาแทบจะไร้ตัวตนในตระกูล การผลักดันและกดดันของพ่อทำให้เขาอยากทำอะไรสักอย่างเผื่อว่าพ่อจะหันมามองเขาด้วยสายตาภูมิใจบ้าง แต่ไม่เลย แม้ว่าตอนนี้เขาจะมีเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าหลายตัว หาเงินได้มากมาย โดยที่ไม่ต้องใช้ความรู้ด้านบริหารเพื่อบริหารโรงแรมอย่างที่พ่อคาดหวัง แต่ในสายตาของเขาพ่อ เขายังคงดูเหมือนลูกชายที่ไม่ได้ดั่งใจ

ชายหนุ่มลงมาจากเวทีพลางเดินตามทีมงานไปห้องแต่งตัว ทว่าระหว่างที่กำลังเดินไปตามเส้นทางสำหรับพนักงานซึ่งไม่มีแฟนคลับ ทำให้เขาพบใครคนหนึ่งที่กำลังเดินสวนไป ที่เขารับงานในวันนี้เพราะคิดว่าต้องได้พบเธอ

ขวัญจิราเป็นหนึ่งในผู้บริหารของบริษัทที่ผลิตเฟอร์นิเจอร์ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลอดเป็นอันดับสอง วันนี้เขาได้พบเธอเสียที แต่ขวัญจิราในชุดสูทสีครีม ผมของเธอซอยสั้นไม่เหมือนครั้งสุดท้ายที่เราเจอกัน เธอตัดผมซอยสั้นในวันที่หมั้นกับภาม แล้วไว้ผมทรงนี้มาตลอดราวกับการตัดผมเป็นการตัดเขาไปจากชีวิตของเธอ

“จะเดินผ่านธีไปเฉยๆ แบบนี้เลยหรือ เราสองคนไม่ได้พบกันนานมากแล้วนะ ตั้งแต่ขวัญถอนหมั้นพี่ภาม 2 ปีแล้วกระมัง” ธีภพเอ่ยขึ้นแล้วขวางทางไม่ให้ขวัญจิราเดินได้ต่อ

“เราสองคนไม่น่าจะมีอะไรต้องคุยกันอีกแล้วนะธี”

ขวัญจิราไม่คิดว่าธีภพจะหยุดเธอไว้ เขาน่าจะรู้ว่าเวลาของเราสองคนได้จบลงแล้วตั้งแต่วันที่เราสองคนเลิกกัน ก่อนเรียนจบไม่กี่เดือน หลังจากกลับจากอเมริกา เขาทำตามความฝันของตัวเอง เธอก็กลับสู่ความเป็นจริง จนกระทั่งเราพบกันอีกครั้งในงานหมั้นของเธอกับพี่ภาม ในตอนนี้เขายังกล้าทักทายเธอเหมือนกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นได้อย่างไร  

“ทำไมขวัญต้องบล็อกการติดต่อทุกช่องทางกับธีด้วย ตอนนี้ขวัญไม่ได้มีพันธะกับใครแล้ว หากเราจะกลับมาคบกัน...”

ตอนนั้นเขากับขวัญจิราเลิกกันเพราะนิสัยที่ยังเด็กด้วยกันทั้งคู่ แต่เมื่อได้ใช้ชีวิตและเติบโตขึ้น ธีภพถึงได้รู้ว่าไม่มีใครเข้ากับเขาได้ดีเหมือนกับขวัญจิรา แต่ว่ามันสายไปเมื่อเขารู้ว่าเธอคือว่าที่คู่หมั้นของพี่ภาม

หลังจากขวัญจิราถอนหมั้นพี่ภามแล้ว เขาพยายามติดต่อเธอ ไปรอเธอที่คอนโดหลายครั้ง แต่เธอจงใจไม่ยอมพบหน้าเขาจนเหมือนเราอยู่กันคนละโลกไปเลย

“ไม่แล้วล่ะธี ขวัญไม่อยากพบเจอกับความเลวร้ายเพราะคนในครอบครัวของธีอีก” รวมทั้งหากธีภพรักเธอจริง เขาควรกล้าบอกกับพี่ภามหรือลุงธนินว่าเขารักเธอ ไม่ใช่ปล่อยให้การหมั้นเกิดขึ้น

“ใครทำอะไรขวัญ พี่ภามหรือเปล่า”

ขวัญจิรายิ้มหยัน “พี่ภามไม่เคยทำแบบนั้น แต่คนอื่นต่างหาก ธีอย่ารู้เลย”

“ทำไมไม่บอกธี เพราะมีใครบางคนทำอะไรขวัญใช่ไหม ขวัญถึงได้ถอนหมั้นกับพี่ภาม”

แม้การหมั้นจะทำให้พี่ภามกับขวัญจิราเป็นคู่หมั้นกันเพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น แต่ธีภพรู้มาว่าพ่อของเขาไม่อยากให้พี่ภามมีรากฐานที่มั่นคงเกินไปนัก หรือว่าคนที่ทำให้ขวัญจิราถอนหมั้นพี่ภามคือพ่อของเขา

ขวัญจิราส่ายหน้าไม่อยากรื้อฟื้นอีก “ขวัญทำตัวเอง ธีเองก็มีส่วน แต่ช่างเถอะ มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากเราเลิกกันในตอนนั้น”

เกิดความเงียบระหว่างกัน ธีภพจนใจเพราะตอนนั้นเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มารู้อีกทีก็ตอนที่ขวัญจิราถอนหมั้นพี่ภามไปแล้ว

“ธีรีบไปเถอะ ผู้จัดการส่วนตัวของธีเรียกแล้ว”

ธีภพคว้าแขนของขวัญจิราเอาไว้หลวมๆ เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะเดินจากไปแล้ว “ปลดบล็อคเบอร์ของธีนะ ธีขอร้อง”

ขวัญจิรายอมพยักหน้าแล้วเดินออกไปจากตรงนั้น ธีภพได้แต่มองตามรู้สึกว่าครอบครัวของเขามีอะไรบางอย่างที่ปิดบังอำพราง รวมถึงตัวเขาเองด้วย สักวันพ่อจะยอมรับในตัวเขา หากเขาทำได้ ขวัญจิราจะมั่นใจในตัวเขาแล้วยอมกลับมาคบกันอีกครั้ง เขามั่นใจเธอไม่มีทางลืมรักแรกอย่างเขาได้หรอก

 

ภามกลับมาที่บ้านด้วยความรู้สึกหนักใจเมื่อได้อ่านแฟ้มที่ปุริมส่งคนไปตามสืบไปรยาจนหมด ไปรยาดูเหมือนว่าจะคบคนอื่นในระหว่างที่แต่งงานกับพี่ภูมิมาแล้ว 3 ปี ความรักของทั้งคู่มีปัญหาที่ไม่มีใครรู้ หากได้พบกันคราวหน้าเขาคงต้องถามว่าก่อนที่ไปรยาจะทำเหมือนว่านอกใจจนพี่ภูมิตัดสินใจจะฟ้องหย่านั้นมีปัญหาอะไรมาก่อน ทั้งคู่อยู่บ้านเดียวกัน แต่แยกห้องนอนกันเป็นปี การรักษาสภาพการแต่งงานไว้ คงเป็นอีกเรื่องที่พี่ภูมิเครียดมาก เขาไม่เคยรู้เลย

เนตราออกมาจากห้องครัวพอดี วันนี้นางอยากทำอาหาร พอเห็นว่าลูกชายกลับมาทันเวลาอาหารเย็นก็ยิ้มดีใจ ตั้งแต่ภามทำงานแทนพี่ชาย การกลับบ้านก่อน 1 ทุ่มดูจะเป็นเรื่องยากไปเสียแล้ว ภามเป็นคนจริงจังและต้องการให้สิ่งที่ดูแลออกมาสมบูรณ์แบบหรือมีข้อผิดพลาดน้อยที่สุด แม้กระทั่งคู่ครองเขาก็เลือกจากความเหมาะสมจึงตกลงหมั้นกับขวัญจิราตามที่ผู้ใหญ่เห็นว่าดีพร้อม แต่สุดท้ายก็จบการหมั้นหมายเพียง 2 เดือนเท่านั้น

แล้วกับเมษาล่ะ ภามคิดอย่างไร?

“เมื่อวานภามไม่ได้นอนที่บ้าน ไม่ได้นอนที่คอนโด แม่ควรถามไหมว่าภามไปอยู่ที่ไหน” เนตราเอ่ยเมื่อสาวใช้ยกอาหารจากครัวมาวางบนโต๊ะจนครบแล้ว

ภามคิดไว้อยู่แล้วว่าแม่ต้องสนใจ ที่ผ่านมาเขาไปนอนที่คอนโดแทนการกลับบ้านอยู่บ่อยๆ แม่ไม่เคยถาม แต่คราวนี้ก็ดูผิดวิสัยของเขาจริงๆ นั่นล่ะ

“นิพนธ์น่าจะรายงานแม่แล้วว่าผมซื้อตึกคูหาข้างๆ ร้านเมนา”

นี่ใช่คำตอบตรงไหนกัน เจ้าลูกชายของนางช่างหลบคำจนนางต้องเล็งให้ตรงเป้า ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้คำตอบ

“ภามชอบหนูเมหรือเปล่า บอกแม่มาตามตรงได้ไหม ถ้าภามอยากเริ่มคบหากับใครสักคน แม่จะได้ช่วยพูดกับป้าลินว่าเลิกนัดบอดให้ภามได้แล้ว”

ภามหรี่ตาใส่แม่จะมีใครในโลกที่รู้ทันเขาเท่าผู้หญิงคนนี้ แต่เขาคงตอบตามความจริงไม่ได้

“ผมอยากรู้จักเมษาให้มากกว่านี้ก่อนครับ ถึงจะตอบคำถามนี้กับแม่ได้ แต่ถ้าแม่ช่วยบอกป้าลินให้เลิกนัดบอดจะเป็นข่าวดีสำหรับผมมากทีเดียว”

ตอบเหมือนต้องไปหาคำตอบเพิ่มเอาเองแบบนี้ ขืนนางไปบอกพี่สาวอย่างที่เจ้าลูกชายต้องการ แล้วสุดท้ายภามลอยชายไปเรื่อย นางก็ถูกพี่สาวบ่นไปด้วยน่ะสิ

“ถ้างั้นแม่คงไม่ต้องรีบ รอดูภามไปก่อนน่าจะดีกว่า”

“แม่รู้ทันผมอีกแล้ว” ภามหัวเราะกลบเหลื่อน เกือบหยุดป้านลินได้แล้วเชียว

เนตราหัวเราะตามแม้จะรู้สึกได้ว่าลูกชายกำลังไม่สบายใจ แต่เรื่องอะไร นางรู้ดีว่าต่อให้ง้างปาก ภามก็ไม่ยอมบอกหรอก ลูกคนนี้เก็บความลับเก่ง แต่ไม่เท่ากับภูมิ ภายใต้รอยยิ้มของลูกชายซ่อนอะไรไว้ การสูญเสียลูกชายคนโตไปทำให้นางอยากช่วยลูกชายคนเล็กในทุกทาง ไม่อยากให้ลูกจากไปโดยไม่ไม่ควรเลยแบบนั้นอีก

ภามรู้ว่าแม่สงสัย แต่เขายังบอกอะไรไม่ได้ แม่เสียพี่ภูมิไปแล้ว ตอนนี้กลับมาสดใสเหมือนแม่คนเดิม แต่เขายังคงห่วง หากแม่รู้ว่าลูกชายคนโตไม่ได้ตายเพราะอุบัติเหตุ เขาไม่กล้าเสี่ยงหากสิ่งที่รู้มาจะทำให้แม่อาการหัวใจกำเริบขึ้นมา

 

ช่างเป็นครอบครัวใหญ่ที่มีความลับเยอะจริงๆ ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ

          บรรพตี

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.