บทที่ 372: พี่ใหญ่โลกสวย

[จบแล้ว] ขนเสบียงนับล้าน มาเป็นมาร(ดา)ของเหล่าวายร้าย (อ่านฟรีวันละตอน 12.00)

-A A +A

บทที่ 372: พี่ใหญ่โลกสวย

ขณะนี้หูเจียวเจียวมองไปที่ลูกชายทั้ง 4 อย่างขบขัน

 

เธอรู้สึกว่าถังหินที่ใช้อยู่ยังหนักเกินไป

 

มันคงจะดีมากถ้าเธอสามารถตามหาเหมืองเหล็กแบบของเผ่าหมาป่าเจอ แบบนั้นในเผ่าก็จะมีเครื่องมือที่ทำจากเหล็กซึ่งมันใช้งานสะดวกกว่าเครื่องมือหินมาก

 

เวลาผ่านไปไม่นาน จิ้งจอกสาวก็ดึงตัวเองออกจากห้วงความคิด

 

จากนั้นเธอมองไปที่สามีหนุ่มก่อนจะก็พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน 

 

“หลงโม่ เจ้าไปบอกวิธีการขุดบ่อน้ำให้ท่านผู้เฒ่าทราบนะ แล้วก็บอกให้เขานำภูตไปขุดบ่อน้ำเอาไว้ใช้ในเผ่า ผู้หญิงที่ต้องการใช้น้ำก็จะสามารถตักน้ำได้เองแล้วก็ขุดบ่อน้ำที่บ้านด้วยเพื่อที่ทุกคนจะได้ไม่ต้องลำบากไปเจาะน้ำแข็งที่แม่น้ำ” 

 

ปัจจุบันชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในถ้ำไม่สะดวกที่จะจุดไฟ และพวกเขาทำได้แค่ดื่มน้ำที่เย็นจนเป็นน้ำแข็ง

 

แม้ว่าน้ำเย็นจัดจะไม่สามารถฆ่าภูตได้ แต่มันก็เป็นต้นเหตุของความเจ็บป่วยที่พบได้บ่อยเช่นกัน

 

ในอดีต มีแม้กระทั่งภูตที่เกิดอุบัติเหตุพลัดตกลงไปในแม่น้ำโดยไม่ตั้งใจและแข็งตายทุกฤดูหนาว

 

“ตกลง”

 

หลงโม่พยักหน้าตอบรับ เขาไม่ใส่ใจแม้แต่จะเปลี่ยนเสื้อผ้า และแปลงร่างเป็นมังกรบินไปที่บ้านของท่านผู้เฒ่าทันที

 

ในโลกภูต ช่วง 3 เดือนสุดท้ายของยามเหมันต์อากาศจะหนาวที่สุด

 

ดังนั้นชาวเผ่าจำเป็นต้องรีบขุดบ่อน้ำตอนนี้ มิฉะนั้น สภาพอากาศจะเลวร้ายลงจนออกมาทำกิจกรรมข้างนอกได้ลำบากมากขึ้น

 

ในเวลาเดียวกัน หลงอวี้และพี่น้องคนอื่นดูเหมือนจะค้นพบของเล่นแปลกใหม่ พวกเขาผลัดกันตักน้ำด้วยความรู้สึกเพลิดเพลินจนน่าประหลาดใจ

 

มีเพียงหลงเหยาเท่านั้นที่ต้องเขย่งเท้าถึงจะจับแท่งหินหมุนรอกได้

 

แต่เนื่องจากเขาไม่สามารถใช้พละกำลังได้เต็มที่ เขาจึงไม่สามารถตักน้ำได้เลย

 

ขณะนั้นคนตัวเล็กพยายามอยู่ 2-3 ครั้งก็ไม่เป็นผล เขาจึงเดินไปที่ด้านข้างแม่จิ้งจอกอย่างหดหู่ใจ พร้อมกับมุมปากที่คว่ำลง

 

เด็กน้อยคิดว่าตนเองช่างไร้ประโยชน์…

 

พวกพี่ใหญ่ยังตักน้ำได้เลย มีแค่เขาคนเดียวที่ไม่สามารถตักน้ำได้….

 

ทางด้านหลงจงหัวเราะเยาะน้องชายคนเล็ก “เสี่ยวเหยา เนื้อที่เจ้ากินบ่อย ๆ หายไปไหนแล้ว ทำไมมันไม่ไปช่วยเพิ่มความสูงและพละกำลังของเจ้าเลยล่ะ?”

 

คำพูดของพี่ชายคนที่ 3 ทำให้ปากของหลงเหยายิ่งยู่เข้าหากันมากขึ้น และเขากำลังจะลุกขึ้นใช้หมัดทุบอีกคน

 

ด้วยเหตุนี้ หลงจงจึงยื่นมือออกไปดันหัวคนตัวเล็กไว้ มันทำให้กำปั้นของคนตรงหน้าไม่สามารถแม้แต่จะสัมผัสชายเสื้อของเขาได้

 

“ไม่เป็นไรนะเหยาเอ๋อ เจ้าจะทำได้เหมือนพี่น้องคนอื่นเมื่อเจ้าโตขึ้น” หูเจียวเจียวปลอบโยนลูกชายที่ตัวเล็กกว่าพวกพี่ ๆ

 

เนื่องจากหลงเหยาเป็นลูกคนสุดท้ายที่ออกมาลืมตาดูโลกและยังเป็นคนสุดท้ายที่แปลงร่างสำเร็จ ดังนั้นเด็กคนอื่น ๆ จึงมีส่วนสูงปกติ มีเพียงหลงเหยาเท่านั้นที่ยังดูเหมือนเด็กอายุ 3 ขวบ

 

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเจ้าตัวเล็กน้ำหนักลดลงแล้ว เขาจึงดูสูงขึ้นมาก รวมถึงมีสัญญาณชัดเจนว่าเขากำลังเติบโตไล่ตามพี่ ๆ ของเขาไป อีกไม่นานเด็กคนนี้ก็จะมีขนาดตามเด็กมาตรฐาน

 

ถัดมา เด็กน้อยเม้มปากพลางถอนหายใจ “เมื่อไหร่เสี่ยวเหยาจะโต เสี่ยวเหยาอยากโตเร็ว ๆ จัง...”

 

พอโตขึ้นเสี่ยวเหยาก็จะเอาชนะเจ้าจิ้งจอกตัวเหม็น เขาชอบเอาแต่หัวเราะเยาะเสี่ยวเหยา!

 

คอยดูเถอะ! หัวเราะทีหลังดังกว่า!

 

แต่ถึงกระนั้น หลงเหยาก็ลืมสิ่งสำคัญไปอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ แม้ว่าเขาจะเติบโตขึ้น แต่หลงจงก็จะเติบโตเช่นกัน ต่อให้เขาโตกว่าปัจจุบัน เขาก็ยังไม่สามารถเอาชนะพี่ชายได้อยู่ดี

 

“แม่บอกเลยว่าเมื่อเหยาเอ๋อโตขึ้น เหยาเอ๋อจะเสียใจและคิดถึงวัยเด็ก” แม่จิ้งจอกลูบผมนุ่มของลูกชายคนเล็กพลางพูดด้วยรอยยิ้ม

 

“ไม่มีทาง!” เด็กน้อยส่ายหัวอย่างจริงจัง “เสี่ยวเหยาจะโตขึ้นและจะไม่เสียใจ”

 

หูเจียวเจียวที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะพาทุกคนเปลี่ยนเรื่องคุย

 

“เหยาเอ๋อช่วยแม่เอาเมล็ดแตงโมไปส่งให้หลิงเอ๋อกับหยินชางดีไหม?”

 

“ได้ เสี่ยวเหยาจะส่งอาหารให้พี่ ๆ เอง!” หลงเหยาพยักหน้าทันควันเพราะในที่สุดก็มีอะไรที่เขาช่วยเหลือท่านแม่ได้!

 

เวลาต่อมา หูเจียวเจียวกลับเข้าไปที่ครัวเพื่อบรรจุเมล็ดแตงโมคั่วอีก 4 ถุงแล้วนำไปให้คนตัวเล็ก 

 

ในขณะที่พวกหลงอวี้ก็หยิบเมล็ดแตงโมคั่วมุ่งหน้าออกไปหาเพื่อนเล่นพร้อมกัน

 

ทางด้านแม่จิ้งจอกกลับไปที่ครัวเพื่อล้างหม้อ แต่ทันทีที่เธอเข้าไปข้างในก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

 

“น้องเล็ก!”

 

มันเป็นเสียงของหูชิงซาน พี่ชายคนโต 

 

หูเจียวเจียวจึงวางสิ่งที่อยู่ในมือลง ก่อนจะเดินไปเปิดประตูแล้วเห็นพี่ใหญ่ยืนอยู่หน้าประตูอย่างตื่นเต้น พร้อมกับมีโบว์ที่คุ้นเคยผูกไว้ตรงแขน

 

หูกระต่ายนี่… ทำไมมันดูคุ้น ๆ

 

ในโลกภูตเธอเคยสอนหลงหลิงเอ๋อให้ผูกโบว์คนเดียวเท่านั้น แต่ช่วงนี้เด็กหญิงใช้เวลาเกือบทั้งวันในการเรียนกับหมอหนู

 

“พี่ใหญ่ ท่านได้รับบาดเจ็บหรือ?” หูเจียวเจียวเข้าใจสถานการณ์อย่างรวดเร็วขณะที่คิ้วเรียวสวยขมวดน้อย ๆ

 

พี่ใหญ่ไปสารภาพรักอีท่าไหนถึงเจ็บตัวกลับมาได้?

 

จากที่หญิงสาวสังเกตท่าทางของพี่ชายคนโต ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้เสียใจกับการที่รักไม่สมหวัง หรือความจริงแล้วเขาทำสำเร็จ?

 

แต่จิ้งจอกหนุ่มก็ไม่ได้มีความสุขจนล้นออกนอกหน้าเช่นกัน...

 

มันทำให้คนเป็นน้องสาวยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย

 

“ไม่มีอะไร นี่แค่อาการบาดเจ็บเล็กน้อย” หูชิงซานโบกมือแบบไม่ใส่ใจ 

 

“เมื่อวานนี้พี่ฟังคำเจ้า และไปหาเฟิงเฉิงเพื่อแสดงความรู้สึกของพี่ น้องเล็ก มันได้ผลจริง ๆ เจ้าฉลาดมาก ไว้คราวหน้าพี่จะมาขอคำแนะนำจากเจ้าอีก”

 

“ได้ผล? นางตกลงที่จะเป็นคู่ของท่านหรือไม่?” หูเจียวเจียวถามพร้อมกับมีสีหน้าตกตะลึง 

 

พี่ใหญ่ออกตัวแรงมาก!

 

ในการสารภาพรักครั้งแรกเขาก็คว้าใจสาวมาได้แล้ว!

 

ทว่าผู้เป็นพี่ชายคนโตกลับส่ายหัว “ไม่ เฟิงเฉิงไม่ได้ตอบตกลง”

 

อะไรนะ?

 

คำตอบของเขาทำให้จิ้งจอกสาวยิ่งงุนงงมากกว่าเดิม “งั้น… นางก็ปฏิเสธท่าน!?”

 

หูชิงซานพยักหน้าก่อนจะส่ายหัว “ใช่ แต่ก็ไม่เชิง”

 

“งั้นก็หมายความว่านางไม่ได้ตกลงหรือปฏิเสธ พี่ใหญ่ นางบอกอะไรท่านอีก?” หญิงสาวรู้สึกมึนงงจับต้นชนปลายไม่ถูก นี่พี่ชายกำลังเล่นเกมทายปริศนากับเธอหรือ?

 

ทางด้านจิ้งจอกหนุ่มมีรอยยิ้มเขินอายบนใบหน้าหล่อเหลาและซื่อตรงของเขา ท่าทางนั้นเหมือนกับชายหนุ่มที่กำลังมีความรัก จากนั้นเขายกมือเกาหูที่แดงระเรื่อพลางพูดด้วยน้ำเสียงมีความสุข “นางบอกว่านางยังไม่คิดที่จะหาคู่ตอนนี้ เพราะคู่จะส่งผลต่อความสามารถของหมอผี”

 

“พี่คิดเอาไว้ว่าจะรอนาง และเมื่อนางพร้อมมีคู่ครอง นางคงจะยอมรับพี่” 

 

“...” จิ้งจอกสาวนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ

 

พี่ใหญ่นี่โลกสวยจริง ๆ !

 

ดูเหมือนว่าแผนการที่จะทำให้เฟิงเฉิงมาเป็นพี่สะใภ้ของเธอล้มเหลว…

 

“พี่ใหญ่...” ผู้เป็นน้องสาวลูบหน้าผากตัวเองพลางอธิบายอย่างช่วยไม่ได้ 

 

“จริง ๆ แล้วท่านถูกปฏิเสธแบบสุภาพ นี่เป็นข้อแก้ตัวของนางที่ไม่ต้องการเป็นคู่กับท่าน” 

 

ปรากฏว่าพี่ชายคนโตของเธอไม่เข้าใจคำตอบที่แท้จริงของเฟิงเฉิง!

 

“หา!” หูชิงซานตกตะลึงราวกับว่าเขายังไม่เข้าใจและถามพร้อมกับเบิกตากว้าง

 

“เจ้าหมายถึงอะไร?”

 

“มันหมายความว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้จะบอกว่านางไม่อยากหาคู่ในตอนนี้ แต่นางไม่ต้องการเป็นคู่กับท่าน!” หูเจียวเจียวตอบอย่างจริงจัง

 

นั่นน่าจะเป็นวิธีที่หมอผีใช้ปฏิเสธภูตคนอื่น ๆ เสมอ

 

“ท่านลองคิดดู ถ้านางชอบท่านเหมือนกัน ทำไมนางไม่บอกท่านว่าต้องรออีกนานแค่ไหน?” จิ้งจอกสาววิเคราะห์กับพี่ชายคนโตด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด

 

เธอไม่อาจปฏิเสธได้ว่าพี่ใหญ่ของตนเป็นคนซื่อสัตย์แล้วก็บื้อเรื่องความรัก

 

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาจะต้องรอฝ่ายหญิงโดยเปล่าประโยชน์ แล้วโดนบอกว่า ‘ไม่ชอบ’ ทีหลัง ถ้าเป็นแบบนั้นไม่ใช่ว่าเขาต้องเสียทั้งเวลาเสียทั้งความรักหลายปีหรอกหรือ? เธอไม่อาจทนเห็นพี่ชายเจ็บปวดได้

 

ทางด้านหูชิงซานที่ได้รู้ความจริงยืนแข็งค้างอยู่กับที่เหมือนกับหุ่นยนต์ที่ถูกปิดเครื่องโดยแม้แต่ตาก็ไม่กะพริบ

 

ชายหนุ่มต้องใช้เวลาสักครู่กว่าเขาจะหลุดออกจากห้วงความคิด

 

“น้องเล็ก สิ่งที่เจ้าพูดฟังดูเหมือนจะมีเหตุผล...” ยามนี้รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาค่อย ๆ จางหายไป

 

ที่แท้เขาก็ถูกเฟิงเฉิงปฏิเสธแล้วจริง ๆ

 

นี่คือครั้งแรกที่จิ้งจอกหนุ่มบอกความในใจกับผู้หญิง และมันก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า ดังนั้นเหตุการณ์นี้จึงมีผลกระทบต่อเจ้าตัวอย่างหนัก

 

เมื่อหูเจียวเจียวเห็นว่าพี่ชายรู้สึกแย่ เธอก็ตบไหล่เขาและกล่าวปลอบโยนอีกฝ่ายว่า

 

“ไม่เป็นไร พี่ใหญ่ ตอนนี้นางอาจจะยังไม่ชอบท่าน แต่ท่านยังสามารถหาวิธีทำให้นางชอบท่านได้อยู่ มีคนเคยบอกเอาไว้ว่าน้ำหยดลงบนหินทุกวันหินก็ยังกร่อน แล้วใจคนเล่าจะทนได้อย่างไร”

 

หากหญิงสาวไม่ช่วยเติมเชื้อไฟ พี่ชายคนโตจะถอยหนีทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้พยายามทำอะไรเลย

 

อย่างน้อยก็ดีกว่าการรออยู่เงียบ ๆ แบบเปล่าประโยชน์

 

หลังจากหูชิงซานได้ยินคำพูดของน้องสาวคนเล็ก สีหน้าของเขาก็อ่อนลงก่อนที่เขาจะพูดด้วยใบหน้าเศร้าสร้อยว่า

 

“แล้วพี่จะทำให้นางชอบพี่ได้ยังไง?”

 

ก่อนหน้านี้เขาไม่ค่อยได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้หญิง ยกเว้นหูหมินผู้เป็นแม่และหูเจียวเจียว เฟิงเฉิงเป็นผู้หญิงที่เขาพูดคุยด้วยมากที่สุด

 

ขณะนั้นจิ้งจอกสาวขมวดคิ้วนิ่งคิดอยู่พักหนึ่ง

 

ไม่นานเธอก็กระดิกนิ้วเรียกให้พี่ชายคนโตขยับเข้ามาใกล้ ๆ ตน

 

“พี่ใหญ่ ข้าคิดว่า...”

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.