กากีบริสุทธิ์ : บทที่ 3 (จบ)

กากีบริสุทธิ์

-A A +A

กากีบริสุทธิ์ : บทที่ 3 (จบ)

บทที่ ๓

 

ขณะเด็กสาวกำลังเกร็งข้อมือเพื่อที่จะฟาดขวดในมือลงมานั่นเอง เสียงสิ่งของบางอย่างตกลงพื้นก็ดังแว่วมาให้ได้ยิน เด็กสาวชะงักไปด้วยอารามตกใจ เธอหมุนตัวไปรอบห้องเพื่อหาสาเหตุอย่างรวดเร็ว สีหน้าแสดงออกถึงความหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด...ไม่นะ ผู้ชายคนนั้นจะกลับมาปู้ยี่ปู้ยำเธออีกหรือไร เธอไม่ยอม เธอจะต้องฆ่าตัวตายเพื่อหนีมัน เด็กสาวจะไม่ยอมให้มันทำแบบนั้นกับเธอได้อีก

 

ทว่าก่อนที่เธอจะตัดสินใจทำอะไรลงไปต่อจากนั้น สายตาเธอก็ไปปะทะเข้ากับเงินกองหนึ่ง ซึ่งเวลานี้กระจายเรี่ยราดอยู่บนพื้น โดยมีอีกส่วนหนึ่งยังวางหมิ่นเหม่อยู่ตรงขอบโต๊ะ

 

ในทีแรกเด็กสาวไม่คิดใส่ใจ แต่เมื่อความคิดเรื่องครอบครัวผุดวาบขึ้นมาในส่วนลึก ประกอบกับมีเสียงของผู้ชายคนนั้นดังย้ำเข้ามาในสมอง มันจึงทำให้เด็กสาวเริ่มหยุดคิดกับตัวเอง

 

’ชะตากรรมของมนุษย์เลือกได้ยาก จำนวนเงินที่ฉันให้ไป น่าจะช่วยครอบครัวเธอได้ไม่น้อย’

 

‘อย่าลืมส่งเงินจำนวนนี้ให้ครอบครัวซะนะ’

 

‘...นั่นสินะ เธอจะตายตอนนี้ไม่ได้ ถ้าเธอเป็นอะไรไป ครอบครัวของเธอใครจะดูแล’ เด็กสาวครุ่นคิดอ ยู่ในใจ ถึงแม้จะมีหลากหลายความคิดแย้งมา แต่เธอก็เลือกเอาความคิดเรื่องการดูแลครอบครัวของตัวเองเป็นหลัก

 

บัวตองก้มหยิบเสดผ้าอีกผืนหนึ่งขึ้นมาจากพื้น เธอใช้มือกวาดเอาธนบัตรทั้งหมดใส่ลงไป แล้วห่อเอาไว้อย่างมิดชิด เธอคิดว่าเสี่ยเต็ก คงไม่ได้บอกใคร เรื่องที่มอบเงินให้เธอในครั้งนี้ ดังนั้นเธอก็จะไม่ให้ใครรู้เช่นกัน

 

บัวตองหมุนตัวเดินออกจากห้องนั้นมาอย่างรวดเร็ว ระหว่างทางเดินกลับห้อง ก็มีพี่พนักงานที่เป็นผู้หญิงหลายคนมาพูดจาแสดงความเห็นใจ พลางบอกเล่าเรื่องราวของตัวเอง ว่าพวกเธอก็โดนมาไม่ต่างกัน มีทั้งยินยอมและไม่ยินยอม แต่เพื่อเงิน จะอย่างไรก็ต้องทำ สิ่งที่เสียไปแล้วก็เสียไป

 

บัวตองไม่ได้เอ่ยตอบคนเหล่านั้นไปแม้แต่คำเดียว เด็กสาวทำเพียงเดินไปเรื่อยๆ ด้วยใบหน้าหมองเศร้าและเงียบขรึม ตัวเธอยังไม่สามารถที่จะยอมรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ได้ หากไม่ใช่เพราะพ่อแม่ที่รออยู่ที่บ้านป่า เธอคงไม่อยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว

 

“ฉันขอโทษนะ”

 

เสียงแหบพร่าของผู้ชายดังขึ้นข้างๆ ทำให้บัวตองชะงักหันกลับไปมองดู เด็กสาวพบแคนยืนก้มหน้าต่ำ สีหน้าของเขาหมองคล้ำ ความเสียใจและอับจนแสดงเห็นชัดบนใบหน้า

 

“ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจดี” บัวตองเอ่ยออกไปอย่างใจคิด ดูจากสีหน้าก็พอรู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าอยากช่วยเธอมากแค่ไหน แต่ด้วยความปลอดภัยของตัวเขาเอง ทำให้เขาต้องฝืนใจไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ อีกอย่าง เด็กสาวกับแคนก็เพิ่งรู้จักกันเพียงไม่นาน ดังนั้นการที่ตัดสินใจออกมาแบบนี้ ทำให้บัวตองยากที่จะโกรธเขาลง

 

แคนมีสีหน้าดีขึ้น “ขอบคุณมากที่เธอเข้าใจฉัน เดี๋ยวฉันไปส่งที่ห้องนะ”

 

บัวตองไม่ว่าอะไร เธอเริ่มออกเดินต่ออย่างไม่เร็วนัก ตลอดทาง คนทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรกันอีก กระทั่งบัวตองเดินเข้าห้องไป ขณะที่แคนกำลังจะหันกลับ เด็กสาวจึงพูดขึ้นว่า “แคน นายช่วยอะไรฉันหน่อยได้ไหม”

 

“เธอจะให้ฉันช่วยอะไร ถ้าฉันช่วยได้ก็จะช่วย” แคนรีบเอ่ย

 

บัวตองส่งห่อผ้า ที่ข้างในคือเงินที่เธอนำติดตัวออกมาจากห้องอาหารด้วยไปให้แคน “นายช่วยส่งเงินที่อยู่ในห่อผ้านี้ไปให้คนที่บ้านฉันหน่อยได้หรือเปล่า เพราะฉันคิดว่า นายน่าจะออกไปข้างนอกได้”

 

“ได้สิ ฉันมาทำงานอยู่ที่นี่ จนแม่เลี้ยงเริ่มวางใจระดับหนึ่งแล้ว แค่เรื่องออกไปข้างนอกสบายมาก” แคนรีบพูดด้วยความยินดี พลางรับห่อผ้าไปถือเอาไว้

 

บัวตองพอยิ้มออกบ้าง “งั้นฉันจะเขียนที่อยู่ให้นะ” เด็กสาวพูด แล้วเดินเข้าไปในห้อง ยังดีที่บิดาของเธอเคยเรียนหนังสือมาบ้าง ดังนั้นจึงสอนเธอให้อ่านและเขียนหนังสือได้ในระดับหนึ่ง

 

หลังจากเด็กสาวเขียนที่อยู่ใส่กระดาษแผ่นเล็กๆ เรียบร้อย เธอจึงส่งให้แคนไป “นายจะต้องไปส่งให้ได้นะ” เธอกำชับ

 

“ได้สิ” แคนรับคำ “งั้นบัวก็พักผ่อนซะนะ เมื่อส่งเงินไปแล้ว ฉันจะกลับมาบอกอีกที...ฉันไปละ” แคนจับมือเด็กสาวมากุมพลางบีบแน่น ก่อนจะหันกายเดินจากไป

 

ตั้งแต่วันที่บัวตองพบเจอกับเหตุการณ์เลวร้าย กระทั่งมาถึงตอนนี้ก็ผ่านมาได้เดือนกว่าแล้ว เนื่องจากเธอเป็นเด็กสาวที่เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ๆ ประกอบกับหน้าตาสะสวยของเด็กสาว รวมถึงความอ่อนวัย ทำให้เธอมีแขกแวะเวียนมาหาอยู่ทุกค่ำคืน

 

หลังจากมอบเรือนร่างขาวผ่องให้ชายเชยชมเพื่อแลกกับเงินแล้ว บัวตองจะกลับมานอนร้องไห้อยู่ที่ห้องแทบทุกคืน เด็กสาวยังคงทำใจรับสภาพแบบนี้ไม่ได้เท่าไหร่นัก แต่เพราะนึกถึงบุญคุณพ่อแม่ เป็นห่วงพ่อแม่ เธอจึงกัดฟันสู้จนมาถึงตอนนี้

 

แคนยังคงแวะเวียนมาพูดคุยให้กำลังใจเธอเสมอ ถึงแม้ว่าบางเรื่องชายหนุ่มจะช่วยเธอไม่ได้มาก แต่หากเป็นเรื่องที่ทำได้ เขาจะไม่ปฏิเสธมันเลยแม้แต่ครั้งเดียว ที่สำคัญก็คือ ถึงแม้เขาจะรู้ว่าเธอทำงานแบบไหน ทว่าเขาก็ไม่เคยมีสายตาที่ดูถูกเธอ กลับกัน มีแต่เพียงความอ่อนโยนและให้เกียรติเท่านั้น ที่เธอสัมผัสได้ ซึ่งก็สร้างความอบอุ่นในหัวใจให้เด็กสาวอย่างมหาศาล

 

ต่อมาเมื่อความรู้สึกของคนทั้งคู่พัฒนามาอยู่ในระดับชู้สาว ทำให้แคนและบัวตองตัดสินใจมีอะไรกันในที่สุด จากความรักที่แคนมีให้เด็กสาวนี่เอง ทำให้เธอเริ่มมีความหวังในการใช้ชีวิตใหม่อีกครั้งหนึ่ง คนทั้งสองตกลงกันว่า หากชายหนุ่มและเด็กสาวหาเงินได้มากพอ จะพากันหนีออกจากที่นี่แล้วไปให้ไกลแสนไกล

 

เมื่อเวลาหมุนเปลี่ยนเวียนไปจนกระทั่งเข้าสู่เดือนที่ 5 บัวตองก็เริ่มมีอาการเจ็บป่วย แคนยังคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง แต่เพราะการที่จะพาเธอไปหาหมอนั้นเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากแม่เลี้ยงพรรณีไม่อนุญาต ถึงแคนจะอ้อนวอนไปแล้วก็ตาม มิหนำซ้ำยังขู่อีกว่า หากแคนวุ่นวายมากไปกว่านี้ แม่เลี้ยงจะไล่ชายหนุ่มออก ด้วยความเป็นห่วงเด็กสาวที่ตนรัก แคนจึงไม่กล้าทำอะไรมากไปกว่านั้น เพราะหากแม่เลี้ยงไล่เขาออกไปจริงๆ แล้วใครจะคอยดูแลเด็กสาว อีกประการหนึ่งที่สำคัญ เขายังมีหน้าที่บางอย่างที่ยังไม่เสร็จลุล่วงดี หากภารกิจครั้งนี้ผิดพลาด การลงทุนมาหลายเดือนก็จะเสียเปล่าไปในทันที

 

นับวันอาการของบัวตองยิ่งแย่ลง จากความรู้ที่แคนมี ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า บัวตองได้ติดโรคร้ายแรงทางเพศสัมพันธ์เสียแล้ว มิหน้าในพักหลังๆ เด็กสาวจึงไม่ยอมมีอะไรกับเขา เพราะเธอกลัวเขาติดโรคไปด้วยนี่เอง

 

ในที่สุดวันที่เป็นความหวังของแคนก็มาถึง เมื่อเขาแฝงตัวมาหาเอาหลักฐานจนมากพอที่จะทะลายซ่องค้าประเวณีแห่งนี้ได้แล้ว ชายหนุ่มจึงรีบติดต่อไปหาหน่วยงานที่เขาสังกัดอยู่ในทันที ผู้กองเพชรซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยของเขาตอบรับอย่างยินดี พลางยกกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายบุกเข้าทะลายรังค้ามนุษย์ในวันต่อมา จนเกิดการต่อสู้ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและสมุนของแม่เลี้ยงพรรณีขึ้นขนานใหญ่ ซึ่งเพราะแคนเป็นเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องเข้าร่วมกระบวนการทะลายแหล่งค้าประเวณีในครั้งนี้ด้วย

 

ชายหนุ่มทั้งปฏิบัติหน้าที่อย่างกล้าหาร ทั้งร้อนใจเพราะเป็นห่วงบัวตองที่นอนป่วยอยู่ที่ห้อง การต่อสู้ระหว่างเจ้าหน้าที่กับเหล่าร้ายผ่านไปหลายชั่วโมง มีเจ้าหน้าที่ล้มตายไปไม่น้อย แต่ก็แลกมาด้วยแหล่งความชั่วร้ายที่พังทลายลง ลูกสมุนของแม่เลี้ยงพรรณีตายเกือบหมด บางส่วนยอมมอบตัว บางส่วนโดนจับกุม ตัวแม่เลี้ยงพรรณีเองพยายามจะหนี สุดท้ายด้วยเพราะความรีบของคนขับรถ จึงทำให้รถเสียหลักเข้าข้างทาง เป็นเหตุให้จับตัวได้ในที่สุด

 

เรื่องร้ายๆ จบลง แคนรีบบึ่งมายังห้องของบัวตองในทันที ทว่าเมื่อเขาเปิดเข้ามา ก็ต้องยืนตะลึงจังงังไปกับภาพที่สายตามองเห็น

 

ร่างของเด็กสาวนอนคว่ำหน้าอยู่กับที่นอน รอบข้างเต็มไปด้วยเศษอาหารปนเลือด ที่เกิดจากอ้วกของเธอ ร่างนั้นแลดูสนิทนิ่ง ไม่มีอาการตอบสนองกับการเข้ามาของเขาเลยแม้แต่น้อย ไม่รู้ว่าเป็นหรือตายเสียแล้ว

 

แคนรีบโผเข้าไปหาเด็กสาวอย่างไม่คิดชีวิต ไม่ได้รังเกียจเลยว่า รอบตัวของเด็กสาวจะเต็มไปด้วยความสกปรกอย่างใด เขาคิดเพียงว่า หญิงที่ตนรักจะต้องไม่เป็นอะไร...เขาจะต้องมาทันเวลา

 

“บัว...บัว! บัวพูดกับแคนสิบัว!” ชายหนุ่มเขย่าร่างเด็กสาวซ้ำๆ ทว่า...ร่างนั้นจะมีปฏิกิริยาใดก็หาไม่ ตัวเธอยังคงนิ่งสนิทตามเดิม

 

ชายหนุ่มใจเสียลงไปทุกขณะ แคนรีบเอื้อมมือไปสัมผัสตรงริมจมูกของบัวตอง ก่อนแขนของเขาจะตกห้อยลงอย่างหมดเรี่ยวแรง... ไม่ มันต้องไม่เป็นความจริง! ไม่ไม่ไม่ไม่ มันจะต้องไม่ออกมาเป็นแบบนี้!...ตอนจบจะต้องไม่เป็นแบบนี้!

 

ชายหนุ่มพูดซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น ร่างกายสั่นเทิ้ม ความรู้สึกหลายอย่างตีกันในสมองมั่วไปหมด มีทั้งความเสียใจ ความโกรธ โกรธให้ตัวเองที่ช้าไป โกรธให้ไอ้พวกกระบวนการค้ามนุษย์บัดซบนั่น!

 

แคนรั้งร่างเย็นชืดเข้ามาแนบอก เขายกมือปาดน้ำตา ระหว่างนั้นเองกระดาษแผ่นหนึ่งก็ร่วงตกลงมาจากร่างของเด็กสาว แคนรีบหยิบขึ้นมาดูอย่างรวดเร็ว เมื่ออ่านจบ ชายหนุ่มก็นิ่งไปหลายอึดใจ เขาถอนหายใจหนักๆ...โอ้อนิจจา แม้แต่จดหมายเขียนลาบิดามารดา หญิงคนรักของเขาก็ยังไม่มีโอกาสจะได้เขียนให้จบ ทั้งแผ่นกระดาษมีเพียงลายมือที่อ่อนแรงจนแทบอ่านไม่ออก แคนอ่านได้เพียงคำว่า ‘ถึงพ่อแม่ บัวคิดถึงพ่อแม่จ้ะ บัวอยากกลับไปหาพ่อแม่’ เพียงเท่านั้น สำหรับที่เหลือ เป็นเพียงรอยดินสอลากไปกับแผ่นกระดาษ จนยากจับใจความได้

 

แคนสอดจดหมายไว้ตรงอกเสื้อ ก่อนจะอุ้มร่างไร้วิญญาณของหญิงคนรักขึ้น “พี่จะพาบัวกลับบ้าน กลับไปอยู่กับพ่อแม่ตามที่บัวตั้งใจ บัวไม่ต้องห่วงนะ พี่จะดูแลพ่อแม่บัว ให้เหมือนกับพ่อแม่ของพี่เอง”

 

ชายหนุ่มกระซิบข้างหูร่างของเธอด้วยความระทมทุกข์ แล้วเดินโซซัดโซเซออกไป พร้อมร่างไร้วิญญาณของคนรัก

 

 

 

บรรยากาศในบ้านป่าในวันนี้ดูเงียบกว่าทุกวัน ยิ่งในความรู้สึกของนางผินและคำปัน สองผัวเมียนั่งกอดห่อผ้าสีขาวพร้อมกับร่ำไห้ออกมาด้วยน้ำตานองหน้า โดยมีแคนคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ชายหนุ่มได้ทำตามความตั้งใจสุดท้ายของหญิงคนรัก คือพาเธอกลับมาที่บ้าน...บ้านที่เธอเคยอยู่มาตั้งแต่เด็ก

 

เมื่อบิดาและมารดาของเด็กสาวเห็นห่อผ้าบรรจุอัฐิของบุตรสาว ประกอบกับได้ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากแคน คนทั้งคู่จึงตกอยู่ในสภาพนี้ ทั้งสองโทษตัวเองว่าไม่หน้าเห็นแก่เงิน ไม่หน้าเห็นแก่ความสะดวกสบายชั่วครั้งชั่วคราว จนทำให้เสียบุตรสาวไปตลอดกาลเช่นนี้ ชายหนุ่มเข้าใจและทำได้เพียงปลอบใจเท่านั้น

 

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้แคนได้รับผลงานไปไม่น้อย จนทำให้ได้เลื่อนขั้น เพราะเหตุนี้ เขาจึงขอย้ายมาประจำที่อำเภอใกล้เคียงกับหมู่บ้านให้มากที่สุด ทั้งนี้นอกจากจะเป็นการได้มาดูแลพ่อแม่ของคนรักดังที่ได้ตั้งใจเอาไว้แต่แรก เขายังมีความตั้งใจจะมาปราบปรามพวกค้ามนุษย์ที่อยู่แถบนี้อีกทางหนึ่งด้วย

 

ส่วนฝั่งบิดาและมารดาของเขา แคนไม่ห่วงมากนัก เพราะยังเหลือน้องชายและพี่ชายคอยดูแลอยู่ โดยก่อนแคนจะมา ก็ได้เล่าเรื่องราวให้ท่านฟังหมดทุกอย่างแล้ว ท่านทั้งคู่แสดงความเข้าใจ และไม่ได้ว่าอะไรกับการตัดสินใจในครั้งนี้

 

เมื่อนึกถึงตอนนี้ ชายหนุ่มก็หยิบรูปใบหนึ่งขึ้นมาดูอย่างทะนุถนอม ภายในนั้นคือรูปเด็กสาวร่างเล็กคนหนึ่ง กำลังส่งยิ้มออกมาอย่างสดใส มันเป็นรูปที่บิดาของบัวตองพาเธอไปถ่ายรูปในเมืองเมื่อปีที่แล้ว เพราะเห็นถึงความรักระหว่างเขากับบัวตอง ดังนั้นคำปันจึงได้มอบรูปใบนี้ และใบอื่นๆ ให้ชายหนุ่ม

 

เขายิ้มกับรูปนั้น “พี่ไม่เสียใจที่ตัดสินใจแบบนี้เลย บัวเห็นหรือเปล่า ตั้งแต่พี่ย้ายมาอยู่ที่นี่ พวกค้ามนุษย์ก็ถูกจับไปหลายรายแล้ว บัวต้องเป็นกำลังใจให้พี่ด้วยนะ” แคนกระซิบกับรูปของเด็กสาว พลางจูบลงไปเบาๆ ขณะนั้น ก็มีสายลมแผ่วเบาพัดมาต้องกายชายหนุ่มอย่างอ่อนโยน...ไม่รู้ว่าเกิดจากอุปาทานของชายหนุ่มเอง หรือเกิดจากสิ่งใดดลบันดาลกันแน่ เพราะเมื่อสายลมนั้นพัดมาโอบร่างชายหนุ่มเอาไว้ เขาก็กลับรู้สึกได้รับกำลังใจบางอย่างขึ้นมาอย่างมากมาย

 

จบบริบูรณ์

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.