[SF] My Flower, I love you. [Vocaloid Fukase x Flower]Part2: Call me, Hana.

[SF] My Flower, I love you. [Vocaloid Fukase x Flower]

-A A +A

[SF] My Flower, I love you. [Vocaloid Fukase x Flower]Part2: Call me, Hana.

หมวดหนังสือ: 

หลายวันผ่านไป ฟลาวเวอร์ก็เริ่มเปิดใจกับคนอื่นมากขึ้น แต่ก็ยังไม่มีเพื่อนที่สนิทมากเป็นพิเศษ จะมีก็แต่ฟุคาเสะที่รู้จักกันครั้งแรกที่ร้านดอกไม้เท่านั้น ส่วนคนอื่นก็คุยได้เรื่อยๆ

ช่วงนี้ยังคงอยู่ในฤดูหนาว หิมะโปรยปรายลงมาไม่ขาดระยะ ฉันไม่ชอบเอาซะเลย นอกจากจะหนาวแล้วยังต้องมาทนกับกลิ่นดอกบ๊วยที่เริ่มปลิวมาตามลมอีก ปลายเดือนกุมภาแบบนี้ต้นไม้บางส่วนเริ่มจะผลิใบอ่อนบ้างแล้ว

ความสัมพันธ์ของฉันกับเพื่อนๆ เริ่มพัฒนาขึ้นบ้าง ฉันไม่เกร็งเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นอีกแล้วละ

“ดีจังเลยน้า ฟลาวเวอร์จังเองก็ไม่ใช่คนน่ากลัวนี่นา” มิกุเปิดประเด็นขึ้นในเย็นวันหนึ่ง ขณะฉันกับเพื่อนๆ บางส่วนไปเดินเล่นอยู่ในสวนสาธารณะใกล้สตูดิโอ

“ฉันเห็นด้วย ถึงจะขี้อายไปหน่อยก็เถอะ แต่จริงๆ แล้ว ฮานะจังเป็นคนน่ารักนะ รู้ตัวหรือเปล่า” ลูกะออกความเห็น

“เอ่อ…อย่าเรียกฉันลงท้ายว่า จัง ได้มั้ย? ฉันรู้สึกแปลกพิลึกเวลาโดนเรียกแบบนี้น่ะ”

“อ้าว ฮานะจัง น่ารักดีออก ผู้หญิงอย่างเราๆ ไม่คิดอะไรเลยนะเวลามีคนเรียกลงท้ายแบบนี้น่ะ” มิกุแย้ง

“ใช่ มันแสดงถึงความสนิทสนมและความเอ็นดูน่ะจ้ะ” มิซึกิพูดบ้าง เธอหันมองรุ่นน้องข้างๆ อย่างสนเท่ห์

‘เฮ่อ ฮานะจังเนี่ยน้า ไม่เหมือนคนอื่นเค้าแบบนี้แล้วใครจะเข้าใจละเนี่ย? ความคิดซับซ้อนจริงๆ’

“ยังไงก็เถอะ อย่าเรียกฉันลงท้ายด้วยคำว่า จัง อีกนะ” ฟลาวเวอร์พูด

“เอ๋? ไม่ชอบหรอ?” มิกุถาม

“มะ…ไม่ใช่ ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่..”

“แสดงว่า เธอเป็นผู้ชาย?” ฝ่ายนั้นยังคงล้อต่อไป

“ไม่ใช่นะ! ฉันเป็นผู้หญิง!” คราวนี้เธอเปลี่ยนจากพูดปกติกลายเป็นตะโกน โดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่หลังจากที่มิกุพูดประโยคนั้นออกมา เธอก็รีบวิ่งออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว

‘ไม่เข้าใจเลย ทำไม แค่เรื่องคำลงท้าย พวกผู้หญิงต้องซีเรียสขนาดนั้นด้วยนะ?’

ใบหน้าของฟลาวเวอร์มีแววหม่นเศร้า เธอเดินกลับบ้านด้วยจิตใจที่หนักอึ้งระคนไม่เข้าใจ แม้แต่ตัวเองยังไม่เข้าใจตัวเอง แล้วคนอื่นที่ไหนจะมาเข้าใจเรา คำพูดนี้คงจะเหมาะสมกับเธอมากที่สุดแล้วในยามนี้ พลันใจดวงน้อยก็ลอยไปหาใครคนหนึ่ง

ฟุคาเสะ...

“อ้าว ฟลาวเวอร์จัง” เสียงที่คุ้นเคยร้องทัก เธอหันไปก็เจอกับเขาพอดี ฟุคาเสะกำลังเดินมาทางนี้ เธอเดินเข้าไปหาเขาทันที

“อ่า…ฟุคาเสะคุง มาทำอะไรตรงนี้ล่ะ”

“มาเดินเล่น กำลังจะกลับแล้วละ ฟลาวเวอร์จังล่ะ”

“เหมือนกัน”

“งั้นเหรอ...” เขาหยุดพูดไปครู่หนึ่ง สังเกตสีหน้าของหญิงสาวตรงหน้า ผู้หญิงที่ดูยังไงก็เหมือนผู้ชาย ชุดที่สวมใส่อยู่ก็เป็นโทนสีเข้มไม่สดใส จะมีก็แต่ผมตรงยาวที่บ่งบอกเพศเท่านั้นว่าเธอเป็นผู้หญิง แต่เขาจับแววไหวระริกบางอย่างในดวงตาของเธอได้

“เป็นอะไรหรือเปล่า ไม่ร่าเริงเลย”

“อะ…อืม” เธอพยักหน้า ก่อนจะเดินเข้าไปหาเขาใกล้ๆ

“หรือว่า ยังเครียดเรื่องนั้นอยู่” นี่คงจะเป็นประโยคประจำตัวเขาไปแล้ว เจอกันทุกครั้งก็มักจะพูดประโยคนี้ หรือสีหน้าของเธอเวลาเจอกับเขามันให้อารมณ์แบบนั้นกันนะ

“เอ่อ…ฟุคาเสะคุง”

“อะไรเหรอ?”

“ทำไม ผู้หญิงส่วนใหญ่ ต้องเรียกฉันลงท้ายด้วยคำว่า จัง ด้วยนะ?”

“เอ๊ะ ฟลาวเวอร์จัง พูดเรื่องอะไรน่ะ” เขาถาม

“ฉันหมายความตามที่พูดเลย ฟุคาเสะคุง เรารู้จักกันมาสักพักแล้ว นายน่าจะเข้าใจความคิดฉันได้ไม่ยากนะ”

“ฉันเข้าใจ ฟลาวเวอร์จัง” ชายหนุ่มพูดช้าๆ “ทุกคนอยากเป็นเพื่อนกับเธอ เพราะจริงๆ เธอก็ไม่ใช่คนน่ากลัวอย่างที่ใครเขาคิด ที่เขาเรียกลงท้ายแบบนั้นเพราะเขาเอ็นดูเธอไงล่ะ”

“งั้นเหรอ” แสดงว่าเขาก็เข้าใจอย่างที่ฉันเข้าใจสินะ “ฉะ...ฉันมีอะไรอยากบอกฟุคาเสะคุงนะ”

“อะไรเหรอ”

“ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้วันนั้น”

“ช่วยอะไร”

“ช่วยให้ฉันมีความกล้ามากขึ้น ถ้าไม่ได้นายวันนั้น ฉันคงจะไม่มีเพื่อนเลยสักคนเหมือนวันนี้หรอก”

“ถ้าเรื่องนั้นละก็ ไม่เป็นไรหรอก จริงๆ ฉันไม่ได้ช่วยอะไรเลยด้วยซ้ำ ฟลาวเวอร์จังคิดไปเองหรือเปล่า”

ใบหน้าของฟลาวเวอร์เริ่มมีรอยยิ้มเล็กน้อย เธอเริ่มรู้สึกดีกับเขาอย่างบอกไม่ถูก บางที ฉันอาจจะคุยกับเขาได้อย่างสนิทสนมคนเดียวเลยก็ได้ เธอมองเขานิ่ง ดวงตาสีแดงโกเมนที่เธอปรารถนา มีแววอ่อนโยนอยู่ในดวงตาคู่นั้นชัดเจน หลังจากเจอกันที่ร้านดอกไม้เธอก็สานสัมพันธ์กับเขาเรื่อยมา แต่ก็เป็นความสัมพันธ์แบบคนรู้จักกันเท่านั้น แต่พอมาเวลานี้ เธอเริ่มจะแน่ใจแล้วว่าเธอคงจะชอบเขาเข้าแล้วกระมัง

ความเงียบโรยตัวเข้าปกคลุมคนทั้งคู่ ก่อนทั้งสองจะเดินตามกันไปนั่งพักที่ม้านั่งที่อยู่ใกล้ที่สุด ฟลาวเวอร์เดินตามเขาไปแต่ตายังจ้องอยู่ที่ใบหน้าของเพื่อนหนุ่มข้างกายแบบไม่กระพริบ นั่นจึงทำให้เซจนเกือบจะล้ม

“อะ!…” มือเรียวประคองร่างบางให้นั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ พลางถามไถ่อาการไปพลาง

“เป็นอะไรหรือเปล่า ฟลาวเวอร์จัง”

“มะ…ไม่เป็นไร ขอบคุณนะ แค่เซนิดหน่อยน่ะ”

[Fukase]

ผมมองร่างบางที่นั่งอยู่ข้างๆ สีหน้าของเธอยามปกติจะเป็นอย่างไรผมไม่รู้ แต่ที่เห็นได้ชัดเจนคือ เธอไม่ค่อยยิ้มเลย และดูเหมือนจะเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูด ซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไร มันอาจเป็นธรรมชาติของเธอก็ได้

ผมกับฟลาวเวอร์รู้จักกันมาสักพัก เธอเองก็เป็นคนอัธยาศัยดีคนหนึ่ง ภายนอกดูห้าว แข็งแกร่ง เย็นชา แต่ภายในของเธอนั้นเปราะบางมาก ทำไมผมถึงคิดแบบนี้ เพราะแววเศร้าในดวงตาสีอะเมทิสต์ของเธอไงล่ะที่ผมสังเกตเห็นชัดเจน

“เป็นอะไรหรือเปล่า ดูเศร้าๆ นะ” ผมเริ่มพูดหลังจากเงียบไปนาน จริงๆ รอให้เธอพูดก่อน แต่คิดว่าเธอคงจะเป็นคนพูดไม่ค่อยเก่ง ผมจึงเป็นคนทำลายบรรยากาศเสียเอง

“อืม…” เธอพยักหน้าเบาๆ “ฟุคาเสะคุง”

“อะไรเหรอ”

“คิดว่าฉัน... เหมือนผู้ชายหรือเปล่า?” เสียงห้าวต่ำนั้นเอ่ยถามเรียบๆ

“มะ…ไม่เหมือนซะทีเดียวนะ” ผมตอบเลี่ยงๆ

“หมายความว่า?..”

“ฟลาวเวอร์จังน่ะ ดูยังไงก็เป็นผู้หญิง ตอนเห็นหน้าครั้งแรกฉันก็คิดว่าเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลยนะ”

“แสดงว่า นายไม่คิดว่าฉันแปลกเหมือนคนอื่นๆ ใช่มั้ย?”

“ใช่ ไม่แปลกเลย ฟลาวเวอร์จังก็คือฟลาวเวอร์จัง เป็นตัวของตัวเองเข้าไว้ อย่าอ่อนไหวกับคำพูดของคนอื่นเลยนะ เขาจะว่ายังไงก็ช่างเถอะ แต่ขอให้รู้ไว้ ฉันจะอยู่ข้างๆ เสมอนะ”

รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าที่เย็นชานั้น เป็นรอยยิ้มที่มีความสุข และมาจากใจจริง ฟลาวเวอร์มองผม ก่อนที่น้ำตาของเธอจะเริ่มไหล

“อ้าว…ฟลาวเวอร์จัง เป็นอะไรน่ะ”

“ฮือ…ฟุคาเสะคุง ขอบคุณที่เข้าใจฉันนะ แต่..ฉันควรทำตัวให้เหมือนผู้หญิงมากกว่านี้อีกมั้ย? ฉันต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใครอีกมั้ย? แล้วฉัน..ควรทำยังไงต่อไปดี?” คำถามมากมายหลั่งไหลออกมาจากปากของร่างบาง พร้อมกับน้ำตาหยดหนึ่งที่ร่วงลงมา ผมเอามือวางบนหัวของร่างบางเบาๆ เป็นเชิงปลอบใจ “ไม่ต้องทำยังไงหรอก แค่ใช้ชีวิตปกติก็พอ”

“งั้นเหรอ ขอบคุณนะ” เธอเริ่มหยุดร้องไห้ แล้วลุกขึ้น “ฉันต้องกลับแล้ว ไปก่อนนะ แล้วเจอกัน”

“แล้วเจอกันนะ” ผมโบกมือลาก่อนจะเดินกลับบ้านของตัวเองบ้าง

เวลาผ่านไป ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็พัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ วันหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิ ฟุคาเสะและฟลาวเวอร์มาชมความงามของดอกไม้ยามเย็นที่สวนสาธารณะแห่งเดิมที่พวกเขาเคยเจอกัน ฟุคาเสะมองหญิงสาวที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเขาไม่วางตา ฟลาวเวอร์ในชุดกระโปรงสีม่วงพลิ้วไหวไปตามแรงลม เส้นผมสีม่วงอ่อนยาวสลวยถูกมัดรวบไปทางหนึ่งเพื่อไม่ให้เกะกะ ใบหน้างามเรียบเฉยไม่แสดงความรู้สึกใดหากแต่มีเสน่ห์บางอย่างชวนหลงใหล ชายหนุ่มมองอยู่สักพักก่อนจะเอ่ยขึ้นเป็นประโยคแรก

“ฟะ…ฟลาวเวอร์จัง ใส่ชุดนี้ก็ไม่เลวนะ”

“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะใส่ชุดนี้นะ แต่ พวกมิกุน่ะสิ…” หญิงสาวแก้ตัวพัลวัน ความจริง เธอไม่ได้อยากมาที่นี่เลยด้วยซ้ำ แต่เพราะเสียงเรียกร้องบางอย่างในหัวใจ เธอจึงชวนเขามาที่นี่เพื่อบอกความรู้สึกที่แท้จริงแก่เขา คนที่เธอแอบชอบมานาน

“ไม่หรอก เหมาะดีนะ ใส่ชุดแบบนี้ ดูดีขึ้นเยอะเลย” ฟุคาเสะเอ่ยชม เขาแอบหวั่นไหวเล็กน้อยเมื่อสบตากับดวงตาสีอะเมทิสต์คู่นั้น “ว่าแต่ เรียกฉันมาที่นี่ คงไม่ใช่แค่มาชมดอกไม้หรอกนะ”

“อะ…อืม” ฟลาวเวอร์พยักหน้า สายตามองยังต้นไม้ที่ปลูกอยู่เรียงรายเบื้องหน้า ต้นไม้ซึ่งผลิใบเขียวขจีดูสบายตา เหมาะกับบรรยากาศยามเย็นเสียจริง

“น่าเสียดายนะ ช่วงนี้เพิ่งต้นฤดู ซากุระยังไม่บานเลย” ฟุคาเสะเอ่ยขึ้นเบาๆ

“เดี๋ยวก็คงบานเองแหละมั้ง”

“เดี๋ยวน่ะเมื่อไหร่?”

“ก็เดี๋ยวนั่นแหละ”

“หมายความว่ายังไงน่ะ?” ชายหนุ่มขมวดคิ้วมองหญิงสาวเบื้องหน้า เธอเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่ยอมพูดเสียที “มีอะไรหรือเปล่า ฟลาวเวอร์จัง”

“คะ…คือ ฉันรู้สึกว่า ตั้งแต่เราเจอกันครั้งแรกจนถึงวันนี้ หลังจากที่นายช่วยฉันในหลายๆ เรื่อง ฉันรู้สึกว่า ได้สนิทกับฟุคาเสะคุงเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยละ” ฟุคาเสะยืนนิ่ง เขากำลังตั้งใจฟังว่าเธอจะพูดอะไรต่อไป “ตอนนี้ ฉันแน่ใจกับความรู้สึกของตัวเองแล้ว”

หญิงสาวหลับตา หายใจเข้าจนเต็มปอดก่อนจะพูดประโยคหนึ่งออกมาอย่างแน่วแน่ “ฉัน..ชอบ ฟุคาเสะคุงนะ”

ฟุคาเสะนิ่งค้างไปชั่วขณะ เขารู้สึกทั้งตกใจและดีใจระคนกัน เขาเองก็แอบชอบเธอมาสักพักแล้วเช่นกัน แต่เขาก็ไม่คิดมาก่อนว่าเธอจะเป็นคนสารภาพก่อนเช่นนี้ ชายหนุ่มควบคุมสติ ก่อนจะตอบกลับไปอย่างระมัดระวัง

“ทะ…เธอ ล้อเล่นหรือเปล่า ฟลาวเวอร์จัง?”

“มะ…ไม่ใช่ ฉัน..จริงจังนะ ฉัน ชอบฟุคาเสะคุงจริงๆ นะ หรือว่า..นาย ไม่เชื่อคำพูดของฉันเลย!”

“ไม่ใช่นะ ฟลาวเวอร์จัง ฉันเชื่อ” ฟุคาเสะขัดขึ้นทันควัน “แต่ว่า ฉัน..ยังไม่แน่ใจกับความรู้สึกของตัวเองก็เท่านั้น”

“งะ…งั้นเหรอ ที่ผ่านมา นายพอจะบอกได้มั้ย? ว่านาย คิดกับฉันยังไง” ฟลาวเวอร์ถามเสียงสั่น ตอนนี้ ถึงเขาจะยังไม่ให้คำตอบใดๆ แต่เธอก็อยากรู้ว่าเขาคิดกับเธอแบบไหน

จะได้เผื่อใจไว้บ้าง ในวันที่เขาไม่ได้รักเธออีก...

หรืออาจจะเป็นแค่เพื่อนสนิท ก็ไม่เป็นไร

ฟุคาเสะมองหน้าของเพื่อนสาว ดวงตาของฟลาวเวอร์ที่มองเขาฉายแววกังวลแบบไม่ปิดบัง เขาหลับตา ก่อนจะเอ่ยความรู้สึกที่มีต่อเธอออกมาช้าๆ

“ตอนที่เห็นฟลาวเวอร์จังครั้งแรก ฉันคิดว่าเธอเป็นคนหยิ่ง เย็นชา ไม่สุงสิงกับใคร ฉันคิดว่าเธอเป็นผู้ชาย เพราะดูจากบุคลิกแล้วเหมือนผู้ชายมากเลยละ แต่พอมาเจอกันที่ร้านดอกไม้ นั่นทำให้ความรู้สึกของฉันเปลี่ยนไป” เขาพักหายใจสักครู่ก่อนจะพูดต่อ “ตั้งแต่ฟลาวเวอร์จังมาขอคำปรึกษากับฉันเรื่องการใช้ชีวิต แล้วเราเริ่มสนิทกัน ฉันก็เห็นว่า ฟลาวเวอร์จังไม่ใช่คนเย็นชา แต่เป็นคนอัธยาศัยดีมากคนหนึ่ง นั่นทำให้ฉันรู้สึกดีกับฟลาวเวอร์จังมากขึ้น”

ฟลาวเวอร์พยักหน้า เธอรู้สึกตื้นตันกับคำพูดของเพื่อนหนุ่มตรงหน้าเหลือเกิน ในคอเหมือนจะมีก้อนแข็งๆ บางอย่างแล่นขึ้นมาจนพูดอะไรไม่ออก ดวงตาเริ่มร้อนผ่าว หญิงสาวพยายามกล้ำกลืนก้อนสะอื้นแล้วฟังเขาพูดต่อ

“จนตอนนี้ ตอนที่คุยกันอยู่นี่ ฉันเริ่มจะเข้าใจความรู้สึกของตัวเองแล้วละ” ดวงตาสีแดงโกเมนมองสบกับดวงเนตรสีอะเมทิสต์อย่างแน่วแน่ “ว่าฉันไม่ได้ชอบฟลาวเวอร์จัง” หญิงสาวชะงักค้าง น้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้เริ่มไหลพราก “แต่ฉัน รัก ฟลาวเวอร์จังต่างหาก”

ฮือ…ฮือ..ฮือ

บัดนี้ หญิงสาวที่ภายนอกดูเข้มแข็งและเย็นชา กลับร้องไห้สะอึกสะอื้นจนแทบไม่เหลือมาดเดิม ฟุคาเสะดึงร่างบางเข้ามากอดพลางใช้นิ้วหัวแม่มือปาดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน บัดนี้เกราะน้ำแข็งที่เธอสร้างไว้กลับถูกทำลายเสียแล้ว ด้วยคำพูดของเขาเอง

“ขะ…ขอบคุณนะ ฟุคาเสะคุง ที่เข้าใจ แล้วก็..ฮึ..ไม่เคยทิ้งฉันไปไหน และอยู่เคียงข้างฉันเสมอเลย” หญิงสาวกล่าวทั้งน้ำตา ฟุคาเสะยิ้มอ่อนโยนก่อนพูดขึ้นเบาๆ “ไม่เป็นไรหรอก ฟลาวเวอร์จัง ไม่ต้องร้องไห้หรอกนะ แล้วจากนี้ไป ไม่ต้องวางมาดอีกแล้ว แสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมาเลย ไม่จำเป็นต้องทำตัวเข้มแข็งทั้งๆ ที่ในใจร้องไห้อีกแล้วนะ”

หญิงสาวเริ่มสงบลง เธอหันมายิ้มให้เขาทั้งน้ำตาอาบแก้ม ฟุคาเสะยื่นผ้าเช็ดหน้าลายดอกไม้ส่งให้ “เช็ดน้ำตาซะนะ ฟลาวเวอร์จัง”

“อะ…เอ่อ ฟุคาเสะคุง” หญิงสาวพยักหน้าก่อนยื่นมือไปรับผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตาแต่โดยดี

“อะไรเหรอ”

“จากนี้ไป ไม่ต้องเรียกฉันว่าฟลาวเวอร์แล้วนะ เรียกว่า ฮานะ ดีกว่า ชื่อนี้ ฉันให้เรียกได้เฉพาะคนพิเศษเท่านั้นนะ”

ฟุคาเสะยิ้ม เขารู้สึกดีใจอย่างประหลาดเมื่อเธอให้เรียกนามที่น้อยคนนักจะได้เอ่ยเช่นนี้ และมันก็ฟังดูอ่อนโยนและไพเราะมากกว่าชื่อเดิมหลายเท่า “เข้าใจแล้วละ ฟะ..ฮานะจัง”

“อะ…จ้า” ฟลาวเวอร์ยิ้มหวาน วันนี้เธอมีความสุขมากเมื่อได้สารภาพความรู้สึกของตนเองออกไป และได้รับรักตอบกลับมาเช่นนี้ ทั้งสองยืนมองต้นไม้เขียวขจีเบื้องหน้าที่ดูเหมือนจะเป็นพยานรักของพวกเขา ก่อนจะยิ้มให้กัน

“จากนี้ไปก็ขอฝากตัวด้วยนะ ฟุคาเสะคุง”

“อืม…ฮานะจัง”

(ความในใจของฟลาวเวอร์)

ในที่สุด ฉันก็หาเจอสักที คนที่ฉันรัก และรักฉัน สัญญาเลยว่าต่อจากนี้ฉันจะต้องเป็นคนที่ดีกว่านี้ให้ได้ และเป็นตัวของตัวเอง จะไม่วางมาดแบบเมื่อก่อนอีกแล้วละ

(ความในใจของฟุคาเสะ)

ในที่สุด ผมก็รู้ใจตัวเองเสียที ถ้าเธอไม่มาสารภาพก่อนแบบนี้ ผมก็คงไม่แน่ใจอยู่เช่นเดิมว่ารู้สึกกับเธอยังไงกันแน่

ดอกไม้ที่ดูภายนอกแล้วสวยงาม แต่ถ้าสัมผัสแรงไปอาจบอบช้ำจนไม่เหลือความงามอีก เช่นเดียวกับดอกไม้ดอกนี้ ที่ภายนอกดูเข้มแข็ง แต่ภายในช่างเปราะบางเหลือเกิน

ต่อจากนี้ไป ผมสัญญาเลยว่า ผมจะเป็นคนดูแล และปกป้องดอกไม้ดอกนี้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตราบใดที่เธอยังเป็นดอกไม้ของผมอยู่ จะไม่ทำให้เธอต้องเสียน้ำตาแน่นอน

I’ll protect you, don’t worry.

And I love you, my Flower.

[The end.]

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.