บทที่ 13 ปรากฏ  2/2

มนตราสะท้านโลกา

-A A +A

บทที่ 13 ปรากฏ  2/2

บทที่ 13 ปรากฏ  2/2

ในขณะที่เธอกำลังตกตะลึงพรึงเพริด หญิงสาวก็พบว่าตอนนี้พวกผีดิบได้ล้อมเธอไว้เป็นวงกลม 

อาสึนะมองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หญิงสาวตัดสินใจที่จะทำบางสิ่งบางอย่าง แต่ก่อนที่เธอจะได้ทำอะไรนั้นผีดิบก็กระโจนเข้ามาข้างหลัง เธอหันหลังพร้อมกับผนึกพลังฟันไปยังผีดิบดังกล่าวอย่างรวดเร็ว กูลกระเด็นไปไกลนับ 2 เมตร แต่กลับไม่ปรากฏความเสียหายที่ควรจะเกิดขึ้น 

“แม้งเอ้ย เสือกยกโล่ขึ้นมากันได้อย่างนั้นหรอ เป็นแค่ผีดิบชั้นต่ำแท้ๆแต่กลับมีสติปัญญา จำนวนขนาดนี้นี่แหละที่เป็นปัญหา”

เปลวเพลิงโหมกระหน่ำขึ้นมาเรื่อยๆ ความร้อนของเปลวไฟทำให้หญิงสาวตัดสินใจที่จะทำอะไรบางอย่าง เธอนำมีดไว้ข้างลำตัว ก่อนที่จะพึมพำ แต่ทว่าเหมือนกับสัตว์อสูรตรงน่าจะรู้ ปีศาจร้ายไม่คิดจะให้เธอได้ร่ายเวทมนต์ พวกมันพร้อมใส่พุ่งตรงมายังเด็กสาว 

อาสึนะยกมีดขึ้นมาอีกครั้ง เธอผนึกเวทย์เสริมกำลังเข้าไปที่มีด ก่อนที่จะฟันไปยังผีร้ายที่อยู่ใกล้ที่สุดโดยไม่คิดจะปราณี

“ตายไปซะ”

มีดเรืองแสงก่อนที่จะมีคลื่นขนาดเล็กปรากฏขึ้น หลังจากนั้นคลื่นขนาดเล็กปะทะร่างกายของกูลเข้าอย่างจัง ผีร้ายตนไหนที่สามารถยกอาวุธเข้ามาป้องกันร่างกายก็ไม่ได้รับความเสียหายมากมายนัก แต่กลับกันต้นไหนที่ไม่ได้มีเครื่องป้องกันร่างกายกับต้องตกตายอย่างน่าอนาถ พวกมันบ้างถูกฟันขาดครึ่ง บ้างแขนหลุดขาหลุด หญิงสาวไม่คิดจะหยุดมือเธอรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าถ้าหากหญิงสาวหยุดมือเธอนี่แหละจะเป็นคนที่พ่ายแพ้ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

ถึงแม้การใช้กระบวนท่านี้จะส่งผลทำให้พลังเวทย์ร่อยหรอ แต่ว่ามันก็เป็นสิ่งที่ไม่มีทางเลือก

 เด็กสาวกัดฟันอดทนเมื่อพบว่า พลังของเธอเริ่มหมดลง 

“บ้าที่สุดเลย ว่าแต่หมอนั่นจะเป็นอย่างไรบ้าง”

ผีดิบที่ล้อมรอบเธออยู่ตอนนี้ตกตายเป็นจำนวนมาก แต่หญิงสาวก็รู้ดีว่าถ้าหากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้เธอก็คงไม่สามารถชนะก่อนที่หญิงสาวจะได้ตัดสินใจทำอะไรเธอก็รู้สึกถึงบางอย่าง 

“มัวทำอะไรอยู่ที่นี่ยัยหนูน้อย ฉันคาเสะมินาโตะจะมาช่วยเธอเอง”

อาสึนะมองไปยังด้านบนที่มีหญิงสาวผมเขียวกำลังใช้เวทลมลอยตัวอยู่ เส้นผมของเธอปลิวไสวไปตามแรงล้ม แต่คำพูดของหญิงสาวกับสร้างความหงุดหงิดใจให้กับเธอ

“ช่วยอย่างนั้นหรอ ใครขอให้เธอมาช่วยไม่ทราบจะไปไหนก็ไปเลยเรื่องแค่นี้ฉันจัดการเองได้”

“จริงหรอเหงื่อท่วมตัวขนาดนี้แถมยังพลังเวทย์ใกล้จะหมดอีกต่างหาก ให้ฉันช่วยดีกว่านะเดี๋ยวเธอจะตายอยู่ที่นี่แล้วคู่มั่นของฉันจะโกรธเอา”

หญิงสาวเก่าแต่ในขณะเดียวกันสายตาที่เธอมองก็เป็นสายตาที่แสดงถึงความเหยียดหยาม หญิงสาวเบ็ดปากก่อนที่จะกล่าว “หรือว่าจะปล่อยให้เธอตายอยู่ที่นี่ดีนะ ฉันจะได้ไม่มีคู่แข่ง”

“ที่พูดนั่นหมายถึงไบรท์สินะ แล้วอีกอย่างพวกเราทั้งสองคนไม่ได้เป็นคู่รักกันเธออยากจะจีบหมอนั่นก็จีบไปเลย แล้วอีกเรื่องไม่จำเป็นต้องมาช่วยฉันก็ได้ถ้าคิดแบบนั้นจะไปที่ไหนก็ไป” อาสึนะตอบโต้

คาเสะพยักหน้่ารับ 

“ใช่ แต่ว่าฉันคงปล่อยให้เธอตายไม่ได้หรอกยิ่งรู้ว่าไม่ใช่คู่แข่งความรักยิ่งปล่อยไม่ได้ใหญ่”

“ถ้าอย่างนั้นเธอไม่จำเป็นต้องเสียเวลามาช่วยฉันหรอก ไปช่วยคู่หมั้นของเธอดีกว่า นายนั่นของเธอถูกนกยักษ์ลากตัวไปแล้ว”

สิ้นคำกล่าวหญิงสาวผมเขียวก็เบิกตากว้างอย่างตกตะลึง “หา จริงดิ เป็นไปได้ยังไงเมื่อกี้ฉันก็ยังสัมผัสพลังเวทย์ของหมอนั่นได้”

อาสึนะฟันผีดิบที่โจมตีใส่เธออีกครั้ง ก่อนที่จะเงยหน้าไปมองหญิงสาว 

“ตอนแรกพวกเราจะสู้เพื่อฝ่าผีดิบพวกนี้ออกไปพร้อมกัน แต่ว่าหลังจากที่ฉันละสายตาก็มีนกประหลาดมาเอาตัวของหมอนั่นไป”

“แสดงว่าคนที่ใช้เวทย์ไฟอลังการนี่ก็คือหมอนั่นสินะ”

อาสึนะพยักหน้ารับ “ใช่แล้วเรื่องนี้เป็นฝีมือของฉันกับของไบรท์”

“พวกเธอตัดสินใจได้แย่มาก พวกเธอรู้หรือเปล่าว่าการทำแบบนี้มันส่งผลกระทบอะไรบ้าง” คาเสะเริ่มเทศนา

“ถึงแม้ว่าพวกเธอจะสามารถรอดออกไปได้ก็จริง แต่ว่าระบบนิเวศของป่านี้ก็เสียหาย”

หญิงสาวผมเขียวมองไปยังซากของสัตว์อสูรร้ายที่นอนทอดล่างอยู่ไม่ห่าง แล้วเธอก็หันไปมองสัตว์จำนวนมากที่กำลังหนีตายออกไปจากป่าแห่งนี้ 

“ สัตว์จำนวนมากต้องพัดจากถิ่นที่อยู่ของมันบางตัวอาจจะต้องล้มตาย สัตว์อสูรที่เธอกำจัดน่าจะเป็นสัตว์อสูรงูยักษ์สินะอสูรตัวนั้นมันเคยอยู่ในทวีปมืดของพวกเรา จริงอยู่ที่เวทมนตร์ที่ได้ผลมันจะเป็นเวทไฟแต่ว่าการใช้เวทย์ไปบวกกับเวทลมก็ควรที่จะคำนวณเรื่องพื้นฐานให้ได้”

“สถานการณ์แบบนั้นใครจะมานึกถึงอยู่ พวกฉันโดนทั้งสัตว์อสูรตัวนั้นโจมตีหลังจากนั้นพวกฉันก็ต้องการที่จะรอดชีวิต พวกฉันไม่รู้หรอกว่าพวกเธอมาอยู่ที่นี่ด้วย ถ้ารู้หมอนั่นก็คงใช้เวทย์อัญเชิญเธอมาแล้ว แต่การที่หมอนัดไม่ใช้เวทย์อัญเชิญแสดงว่าหมอนั่นไม่รู้”

“หรือไม่สามารถใช้ได้ ฉันถามแล้วรู้สึกว่าหมอนั่นจะได้สู้กับบางสิ่งบางอย่างทำให้พลังเวทลดลง หมอนั่นถนัดแค่เรื่องของเวทไฟอย่างเดียวดังนั้นการโจมตีจึงเป็นในรูปแบบของไฟ แทนที่เธอจะมาบ่นหรือเทศฉันช่วยหาวิธีทำให้พวกเราสามารถออกไปจากสถานการณ์แบบนี้ได้ จะเป็นประโยชน์มากกว่า”

คาเสะพยัีกหน้ารับ “งั้นฉันจะใช้เวทย์น้ำแข็ง  ไม่สิสถานการณ์แบบนี้ใช้เวทน้ำจะปลอดภัยกว่า”

หญิงสาวค่อยๆลดระดับการลอยตัวเพียงไม่นานก็มายืนเคียงข้างอาสึนะ ก่อนที่จะหันมามองยังเด็กสาวผมน้ำตาลเป็นเชิงถาม

“ฉันควบคุมเวทมนต์บทนี้ไม่ได้ ดังนั้นหลังจากที่ฉันใช้เวทมนต์บทนี้เธอต้องพาฉันออกไปที่นี่ให้เร็วที่สุดถ้าไม่อย่างนั้นพวกเราอาจจะต้องตากฝนจนเปียกปอน ถ้าเปียกปอนในสถานการณ์แบบนี้พวกเราอาจจะเป็นหวัดทำให้การเดินทางเป็นไปได้อย่างล่าช้า”

อาสึนะพยักหน้ารับ “รับทราบ ว่าแต่จะเอายังไงกับผีดิบพวกนี้ฉันสู้มันไม่ได้มากเท่าไหร่”

“ไม่ต้องเป็นห่วงฉันจะจัดการมันภายในรวดเดียว  เวทมนต์ของฉันจะมีฤทธิ์ประมาณ 20 นาที”

หลังจากที่หญิงสาวกล่าวจบเธอก็เริ่มสวดเพื่อร่ายเวทย์ในทันที เพียงไม่นานวงเวทสีฟ้าก็ปรากฏขึ้นในอากาศมันท้อแสงอำพัน ก่อนที่ฝนจะค่อยโปรยปรายลงมายังพื้น 

แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นหญิงสาวผมเขียวกลับไม่หยุดกล่าว

“โปรดมอบพลังโปรดมอบน้ำบริสุทธิ์ให้แก่ข้าท่านเทพอควา จงนำน้ำมาเผาผลาญขี้ร้ายให้สิ้นน้ำศักดิ์สิทธิ์จากสรวงสวรรค์ จงช่วยปลดปล่อยพวกมันร้ายให้กลับสู่เทวา”

พิมพ์ไม่นานพวกผีดิบที่โดนน้ำศักดิ์สิทธิ์ ก็ค่อยๆล้มลงและสิ้นใจตายไปตรงหน้า ในขณะเดียวกันหญิงสาวทั้งสองก็รีบเดินทางออกจากที่แห่งนี้อย่างรวดเร็ว ไฟที่เกิดจากเวทมนตร์ของไบรท์และอาสึนะนั้นดับลงในไม่นาน

หญิงสาวผมเขียวหันมามองยังอาสึนะ “ฉันใช้พลังไปเยอะระหว่างนี้ช่วยคุ้มครองให้ฉันหน่อยก็แล้วกันนะ ได้หรือเปล่าคู่หู”

“ม้ายกระดับชั้นที่เป็นคู่หูเลยอย่างนั้นเหรอ ได้อยู่แล้วคู่หู ว่าแต่หลังจากที่มายังโลกใบนี้เธอเจอใครหรือยัง”

“เจอแล้วมีลิงอุรังอุตัง 2 ตัว ไม่สิ 4 ตัวเป็นครอบครัวเลย”

อาสึนะมองหน้าของหญิงสาวยังงงๆ เพราะสิ่งที่เธอถามก็คือได้เจอคนหรือไม่ 

ในขณะที่หญิงสาวทั้งสอง กำลังเดินทอดน่องสัตว์อสูรร้ายที่พวกเธอคิดว่ามันได้ตายไปแล้วก็ค่อยๆปรือตาอย่างช้าๆ มันอ้าปากกว้างกว่าที่จะเลื้อยอย่างรวดเร็ว ก่อนที่พวกเธอจะได้รู้สึกตัวมันก็โผล่มายังเบื้องหลังและ หน้าปากกว้างเตรียมตัวที่จะเขมือบหญิงสาวทั้งสอง 

 

ณ พื้นที่ที่อยู่ห่างไกลผู้คน ต้นไม้ใบหญ้าล้วนต้องสั่นไหว บ้านก็โค่นล้มล้มตายเบิ่งก็สามารถอยู่รอดได้ สภาพอากาศที่แปรปรวนไปจากเดิมทำให้พื้นที่แห่งนี้ไม่ค่อยมีคนเข้ามาเยี่ยมเยือนมากนัก แต่ทว่าสถานที่แห่งนี้ก็ไม่ได้ปราศจากสิ่งมีชีวิต 

รูรุงงงวยกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เขามองซ้ายมองขวาเมื่อพบว่าตอนนี้ตนเองกำลังอยู่ในที่ที่แปลกประหลาด เขารีบจ้ำอ้าวเดินทางอย่างรวดเร็วโดยไร้จุดหมาย ก่อนที่ท้องฟ้าจะมีแสงสีครามปรากฏขึ้น จู่ๆก็เกิดเมฆดำทะมึนฝนได้ตกกระหน่ำทำให้ร่างกายของชายหนุ่มเปียกปอน แรงลมที่โหมกระหน่ำทำให้ต้นไม้โค่นล้ม

แสงสว่างจากเปลวไฟดับลงอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าเพราะเม็ดฝนที่หนา ทำให้เขาไม่สามารถมองไปยังจุดหมายได้ง่ายนัก เขาเดินคำทางมาเรื่อยๆจนกระทั่งเห็นคนสองคนกำลังเดินทอดน่อง แต่ว่าข้างหลังของหญิงสาวมันคือสัตว์อสูรร้ายที่กำลังค่อยๆคืบคลาน

ใช้นมผงฟ้าไม่ต้องคิดให้มากความเขายกปืนขึ้นแล้วเล็ง ฝึกใจเด็กหนุ่มขึ้นเหนี่ยวไกอย่างรวดเร็ว เสียงปืนดังกัมปนาทกึกก้องไปทั่วป่า ไม่ใช่แค่งูยักษ์ที่ตกตะลึงและตกใจ หญิงสาวทั้งสองก็ผงะเช่นเดียวกัน 

พวกเธอมองมายังเขาก่อนที่จะหันหลังไปยังสัตว์อสูรร้าย ครั้งนี้ค่ะ 0 ร้ายไม่รอดจากความตาย หากถามว่าอะไร เป็นสาเหตุสำคัญนั่นก็อาจจะเป็นเพราะว่าอาการบาดเจ็บที่มันได้รับมาอยู่แล้ว ทำให้การลงมือปิดชีพของเขาในครั้งนี้สามารถทำได้อย่างง่ายดาย 

 

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.