รักสองชาติ บทที่ 1

รักสองชาติ

-A A +A

รักสองชาติ บทที่ 1

บันทกสะดุ้งตื่นลืมตาขึ้น มองไปรอบๆ นี่ที่นอนของเขา ฝันไปหรือนี่ หากเหมือนจริงราวไม่ใช่ความฝัน เขารำพันกับตนเอง 

ความฝันซ้ำๆ วนเวียนอยู่กับสถานที่เดิมคล้ายตอกย้ำเตือนใจ บรรยากาศอึมครึมของพระราชวังร้างทำให้เขาหวาดหวั่น ยิ่งนานหลายปี ฝันนั้นยิ่งทำให้ใจหม่นมัวขึ้นเรื่อยๆ

บันทกลุกจากเตียงเดินไปยังหน้าต่าง มือแข็งแรงผลักบานไม้ออกไป ก่อนเท้ามือกับขอบหน้าต่าง ทอดสายตาออกไปไกลแสนไกล นัยน์ตาเขาฉายแวววุ่นวายสับสนเต็มหัวไปหมด  ชายหนุ่มจมอยู่กับความปั่นป่วนนั้นครู่หนึ่ง จึงค่อยได้สติ หันสายตากลับเข้ามาในห้อง แล้วก็สะดุดกับซองจดหมายสีชมพูหวานที่วางอยู่บนโต๊ะอ่านหนังสือใกล้ๆ สิ่งนั้นทำให้ความอ้างว้าง เดียวดาย หนาวเหน็บ และเจ็บปวดเข้าจู่โจมใจซ้ำอีกระลอก

ซองสีหวานแว๋วนั้นบรรจุการ์ดแต่งงานของใครคนหนึ่ง ซึ่งมีความสำคัญมากสำหรับหัวใจเขา แล้วภาพหลายภาพที่เกี่ยวกับเธอก็ปรากฏขึ้นกลางสมอง ไม่ว่าภาพตอนเธอยิ้ม ยืน เดิน นั่ง หรือเจรจา ก็ผุดขึ้นมาเป็นฉากๆ ราวกับฟิล์มภาพยนตร์

 

บันทกรีบจ้ำอ้าวพร้อมกับกระเป๋าโน้ตบุ๊กมุ่งตรงไปตึกคณะโบราณคดี ขณะที่ผ่านตึกชมรมกลาง  ใจก็หวนนึกถึงสถานที่หนึ่งซึ่งเป็นที่ที่เขาได้พบหญิงสาวคนนั้นครั้งแรก สองขาพาก้าวตรงไปข้างหน้า เขารู้ปลายทางที่จะไป ที่นั่น ห้องชมรมกลางดนตรีสากล

ภาพแรกที่เขาได้พบเธอยังคงติดตรึงในห้วงความรู้สึกส่วนลึกในใจเขา

คะนึงนิจ เด็กสาวผู้เพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติ จิตใจอันดีงาม ความเป็นกุลสตรี มีความรู้ ความสามารถ ทรัพย์สมบัติ และวงษ์ตระกูลที่มีเกียรติ

เขาพบเธอครั้งแรกขณะเดินผ่านห้องชมรมกลางดนตรีสากลของมหาวิทยาลัยที่เขาและเธอศึกษาอยู่

 

เสียงฟลุ๊ตดังมาจากห้องหนึ่งซึ่งบันทกจำได้ว่าเป็นห้องชมรมสำหรับนักศึกษาที่รักในดนตรีสากล ทำนองนั้นแว่วหวานชุ่มเย็น ได้ยินครั้งแรกขาที่ก้าวอยู่ก็ต้องชะงักฟังด้วยความสนใจ

นักศึกษาหนุ่มยืนเงี่ยหูฟังเสียงนั้นดีๆ อีกครั้ง ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกประทับใจในการบรรเลงของคนเล่น จนต้องหันมองตามเสียงนั้นไป ก่อนสายตาจะปะทะกับร่างระหงของนักศึกษาสาวคนหนึ่ง ที่กำลังยืนเป่าฟลุ๊ตคู่กันกับนักศึกษาหนุ่มนักเปียโนอีกคนอยู่ในห้องชมรม

ท่วงท่าของเธองามสง่า ทั้งกายขาวกระจ่างคล้ายเปล่งรัศมีน้อยๆ ออกมา ดวงหน้าหญิงสาวงามกระจ่างจับตา คิ้วเรียวได้รูปราวจิตรกรวาด ตากลมโตสดใสบริสุทธิ์ดุจตากวาง จมูกโด่งงามเข้าที กับริมฝีปากบางอมชมพูได้รูป

ภาพเธองดงามจนเขายากถอนสายตาได้ กว่าจะกลับมามีสติอีกครั้ง ก็ต่อเมื่อการบรรเลงดนตรีคลาสสิกจบลง แล้วเธอคนนั้นก็หันมามองทางเขาเข้าพอดี เด็กหนุ่มเห็นอย่างนั้นก็สะดุ้ง แต่เธอกลับส่งยิ้มสวยเป็นมิตรมาให้ ทำเอารู้สึกอดเขินขึ้นมาไม่ได้

 

หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านไป เขาก็ไม่เคยลืมใบหน้างามพริ้มเพรานั้นแม้สักวัน ภาพตอนหญิงสาวยืนเป่าฟลุ๊ต ภาพเธอส่งยิ้มให้เขา ยังคงติดในใจไม่รู้ลืม จนเขาถึงกับสามารถนำมาวาดเป็นภาพเหมือนของเธอเก็บไว้ดูยามระลึกถึงได้

แล้ววันหนึ่ง บันทกก็ได้มีโอกาสร่วมงานกับหญิงสาวโดยไม่คาดคิด เมื่อชมรมจิตอาสาที่เขาอยู่มีโครงการทำเวลาว่างของน้องให้เกิดประโยชน์ โดยกลุ่มเป้าหมายคือ เด็กในสถานสงเคราะห์แห่งหนึ่งของรัฐในตัวจังหวัด  ทุกคนประชุมและลงความเห็นว่าจะชวนน้องๆ มาเรียนทำขนมกินกัน ซึ่งจะใช้ระยะเวลาดำเนินโครงการหนึ่งเดือน และจะเข้าไปจัดกิจกรรมกันทุกๆ วันอาทิตย์

"แล้วใครจะสอนน้องทำขนมล่ะ" สมาชิกคนหนึ่งในชมรมถามขึ้นในที่ประชุม

"เรื่องนี้ฉันพอรู้จักคนที่ทำเป็นอยู่ และสามารถสอนน้องๆ ได้แน่นอน" นักศึกษาสาวสมาชิกชมรมอีกคนบอก

"อย่างนั้นฝากอุ๋ยช่วยจัดการด้วยแล้วกัน" บันทกซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธานชมรมคนปัจจุบัน ฝากงานให้เพื่อนในชมรมไปทำ

 

และนั่นเอง ทำให้เขาได้มีโอกาสใกล้ชิดเธอ เมื่อมาทราบว่าคนที่เพื่อนพามาช่วยงานครั้งนี้ไม่ใช่ใคร เขาจึงได้รู้อีกว่า นอกจากหญิงสาวจะมีความสามารถด้านดนตรี ก็ยังมีฝีมือทางคหกรรมด้วย เพราะเพื่อนคนดังกล่าวโอ้อวดเพื่อนสาวของตนยกใหญ่ ทั้งเรื่องทำอาหาร ขนมทั้งไทยและนานาชาติอร่อย เธอก็ยังสามารถเย็บปักถักร้อยได้งดงามมากอีกด้วย นั่นยิ่งเพิ่มความประทับใจในตัวเธอขึ้นไปอีก

 

วันจัดกิจกรรมครั้งแรกมาถึง คะนึงนิจออกไปยืนด้านหน้าศาลากิจกรรมของสถานสงเคราะห์ สอนวิธีทำขนมให้เด็กๆ ทีละขั้นตอนด้วยความใจเย็น

เมนูขนมหวานของสัปดาห์นี้คือ ขนมวุ้นหลากสี เด็กๆ ตื่นเต้นกันใหญ่ ทุกขั้นตอน เธอจะคอยลงไปตรวจความเรียบร้อยให้แก่เด็กแต่ละคนอีกรอบหนึ่ง หลังจากที่พี่เลี้ยงอาสาหลายคนก็ลงไปช่วยตรวจให้ทีหนึ่งแล้ว

บันทกแอบมองหญิงสาวเกือบทุกอิริยาบถ มารยาท รอยยิ้ม และการพูดจา แม้น้อยคำแต่ก็สัมผัสได้ถึงความอารีที่มีให้เด็กๆ ทุกคนเสมอกัน ได้ใกล้ชิดมากเท่าใด เขาก็รู้สึกชื่นชอบในตัวเธอมากขึ้นเท่านั้น

"ตอนนี้ใครทำยังไม่เสร็จบ้างคะ ยกมือให้พี่ดูหน่อย พี่จะลงไปช่วย!" คะนึงนิจถามเด็กๆ ทุกคนด้วยสำเนียงช้าชัดอย่างคนเรียบร้อยที่ถูกอบรมมาดี พลางก็กวาดสายตาหาเด็กบางคนที่อาจยกมือขอความช่วยเหลือ

"หนูค่ะพี่นิจ!" เด็กหญิงคนหนึ่งยกมือขึ้น ก่อนจิตอาสาคนหนึ่งจะเข้าไปหาน้อง หญิงสาวเองก็เช่นกัน

"หนูด้วยค่ะ!" เสียงดังขึ้นมาอีกทางหนึ่ง คะนึงนิจจึงต้องหันไปมองว่าเป็นใคร

"พี่อาสาช่วยดูน้องยุ้ยด้วยค่ะ เดี๋ยวนิจเข้าไปช่วยดูให้อีกที!" หญิงสาวอ่านป้ายชื่อที่ห้อยคอเด็กหญิงแล้วหันไปบอกกับจิตอาสาคนอื่นๆ ต่อเมื่อเห็นว่าเด็กคนดังกล่าวมีคนมาประกบแล้ว เธอก็หันมาช่วยเด็กคนแรกก่อน จนเมื่อขนมของเด็กคนนี้ผ่านไปด้วยดี เธอจึงค่อยไปดูเด็กอีกคนหนึ่ง

"ตอนนี้มีใครยังไม่เสร็จอีกบ้างคะ!" เธอถามเด็กๆ อีกครั้งเพื่อตรวจความเรียบร้อย เมื่อเห็นว่าไม่มีใครยกมืออีก ก็พูดต่อ

"เดี๋ยวให้น้องๆ ต่อแถวเดินยกพิมพ์วุ้นไปหาพี่กวยจั๊บตรงนั้นได้เลยนะคะ พี่กวยจั๊บจะเอาขนมที่น้องๆ ทำใส่ถาด แล้วไปแช่เย็นให้ รอจนวุ้นของทุกคนจับตัวดี พวกเราก็จะได้ทานพร้อมกัน!"

แล้วก็ถึงเวลาจัดแถวให้เด็กๆ เข้าแถวนำพิมพ์วุ้นที่ตนเองทำไปให้จิตอาสาอีกคนนำลงถาดเพื่อไปแช่เย็น นั่นก็เป็นการหมดหน้าที่ของหญิงสาวในช่วงแรกแล้ว และหลังจากเด็กๆ ทุกคนนำส่งพิมพ์วุ้นของตนเองเรียบร้อย ก็เป็นคราวที่รุ่นน้องในชมรมของบันทกจะต้องขึ้นมาจัดสันทนาการให้เด็กๆ เพื่อฆ่าเวลาขณะรอวุ้นแข็งตัว

"เอาล่ะค่ะน้องๆ ระหว่างรอขนมวุ้นของพวกเราเย็นจนจับตัวกัน พี่ๆ จะมาสอนทุกคนร้องเพลง และเต้นประกอบกันดีกว่า ใครอยากเอาด้วยบ้าง ส่งเสียงหน่อย!" รุ่นน้องในชมรมเดียวกันกับบันทกออกไปสันทนาการให้เด็กๆ

"เฮ่!" เด็กเล็ก เด็กโตต่างพากันส่งเสียงตอบรับด้วยความตื่นเต้น

"เพลงที่พวกพี่จะมาสอน ชื่อเพลง ชีวิตนี้สั้นจะตาย ของพี่ดา เอ็นโดรฟิน เย่! ปรบมือๆ" รุ่นน้องของบันทกทำหน้าที่ต่อไป โดยมีสมาชิกชมรมคนอื่นๆ เข้าช่วยทำให้กิจกรรมครึกครื้นขึ้น

ส่วนคะนึงนิจ ตอนนี้เธอขอหลบมาเป็นฝ่ายนั่งสังเกตการณ์แทน เพราะเหนื่อยจากการต้องคอยพูด คอยตามตรวจความเรียบร้อยของเด็กทุกคนเกือบชั่วโมงครึ่ง บันทกเห็นใจเธอจึงหยิบน้ำเปล่าเย็นๆไปให้ถึงที่

"เอ่อ น้ำเปล่าครับนิจ"

คะนึงนิจหันมามองหน้าเขา เมื่อเห็นว่าเป็นใคร เธอก็ยิ้มสวยให้อย่างเคย ก่อนเอื้อมมือมารับแก้วน้ำจากเขาไปพร้อมกล่าวขอบคุณ

"เด็กๆ น่ารักดีนะคะ ขอบคุณบันทกที่ให้นิจได้มีโอกาสมาให้ความสุขพวกเขานะคะ" หญิงสาวกล่าวด้วยรอยยิ้มและท่าทางเรียบร้อย

ทั้งคู่ได้รู้จักกันอย่างเป็นทางการครั้งแรก ก็ตอนที่เพื่อนในชมรมของเขาพามาแนะนำตัว ว่าเธอคนนี้แหละที่จะมาช่วยเป็นครูสอนทำขนมให้เด็กๆ

"ยินดีครับ ถ้าชมรมไม่ได้นิจมาช่วย โครงการวันแรกของพวกเราคงไม่ผ่านไปด้วยดีอย่างนี้" บันทกกล่าวชมด้วยความจริงใจ

"ไม่หรอกค่ะ ทุกคนช่วยกันต่างหาก ทุกอย่างจึงออกมาเรียบร้อยดีแบบนี้" คะนึงนิจถ่อมตัว

"ว่าแต่ บันทกไม่เข้าไปช่วยเพื่อนๆ สอนน้องร้องเพลงหรือคะ" เธอถามอย่างชวนคุย

"เดี๋ยวก็จะไปครับ ผมเอาน้ำมาให้นิจก่อน คิดว่าคงเหนื่อย" ชายหนุ่มบอก

"เล็กน้อยค่ะ นิจยินดี" คะนึงนิจกล่าวจากใจ

แล้วไม่นานนักบันทกก็ต้องลุกออกไปช่วยสมาชิกชมรมคนอื่นสอนน้องร้องเพลง ทว่าจะให้เขาสอนเด็กๆ เต้น เห็นทีจะไม่ถนัด เพราะนอกจากจะเต้นไม่เก่ง ก็ยังค่อนข้างขี้อายในบางครั้งอีกด้วย โดยเฉพาะจะต้องมาเต้นต่อหน้าคนจำนวนมากอย่างนี้ยิ่งแล้วใหญ่

เด็กๆ ผู้หญิงค่อนข้างชอบเขา เพราะบันทกแม้หน้าตาจะไม่ได้หล่อราวดาราดังของเมืองไทย แต่ก็เป็นคนดูดี น่ารัก น่าเข้าใกล้ไม่น้อย พวกเด็กๆ จึงติดแจ

บางครั้งชายหนุ่มก็แอบเห็นคะนึงนิจมองมาพลางหัวเราะน้อยๆ ให้ เวลาเขาถูกเด็กๆ เกาะแกะเกือบตลอดจนนึกปวดหัว แต่เขาชอบเวลาเธอมีความสุข มันทำให้โลกสดใสมากกว่าเวลาใด จิตใต้สำนึกร้องบอกใจว่า อะไรที่ทำให้เธอยิ้มได้ ก็จะยินดีทำทุกอย่าง

 

วันกิจกรรมแต่ละอาทิตย์ก็จะดำเนินไปคล้ายๆ กัน คือ ให้คะนึงนิจเป็นคนสอนทำขนมก่อน ซึ่งแต่ละสัปดาห์ เมนูขนมก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ สำหรับอาทิตย์ที่สอง สาม และสี่ ก็จะเป็น ลูกชุบ ทับทิมกรอบ ตบท้ายด้วยบัวลอยมะพร้าวอ่อน

เสร็จจากเรียนทำขนม เพื่อนๆ ในชมรมของบันทกก็จะออกมาสอนน้องๆร้องและเต้นประกอบเพลงจนกว่าจะจบเพลง และสัปดาห์สุดท้ายจะให้น้องๆ จับกลุ่มพากันออกมาเต้นประกวด กลุ่มไหนเต้นดีจะมีโอกาสเลือกของรางวัล ซึ่งก็จะมีทั้งนม ตุ๊กตา และของเล่น ของใช้หรืออุปกรณ์ในชีวิตประจำวันของพวกเด็กๆ มาแจกให้

"ตอนนี้กำลังรอบัวลอยสุก พี่จะส่งช่วงต่อให้พี่ปีโป้กับพี่กุ๊กกิ๊กแทนนะคะ ส่วนขนม เราจะมากินกันช่วงการแสดงของทุกคนค่ะ!" คะนึงนิจบอกกับเด็กๆ ทุกคนหลังจากหน้าที่วันนี้ของเธอสิ้นสุด แล้วขาเรียวก็เดินออกมานั่งพักข้างๆ บันทกยังริมศาลาแทน

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของโครงการทำเวลาว่างของน้องให้เกิดประโยชน์ บันทกรู้สึกเศร้าเล็กน้อย เมื่อคิดว่าหลังจากนี้เขาอาจไม่ได้ใกล้ชิดคะนึงนิจอย่างนี้อีก นับวันที่รู้จักหญิงสาว หัวใจก็ชอบเธอขึ้นเรื่อยๆ หากเขาทำได้เพียงคอยดูแลตามสมควร และทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีของเธอเท่านั้น มิบังอาจกล้าอาจเอื้อมไปมากกว่านี้ เพราะรู้ดีว่าเธองดงามและมีค่าแค่ไหน

"เสียดายจังนะคะ วันนี้เป็นวันสุดท้ายของโครงการแล้ว" คะนึงนิจเอ่ยขึ้นเมื่อนั่งลงกับเก้าอี้แล้ว ตอนนี้ตรงนั้นมีเขานั่งอยู่แค่คนเดียว บันทกจึงรู้ว่าเธอกำลังคุยด้วย

"ครับ" บันทกตอบได้แค่นั้น ทว่าในใจมีคำมากมายกว่านั้นซ่อนอยู่ แต่ไม่สามารถพูดออกมาได้ เขาลอบมองเธอ ขณะที่ดวงตาคู่งามดุจตากวางน้อยนั้นจับอยู่ที่กิจกรรมที่กำลังดำเนินไปเบื้องหน้า

"ไม่รู้จะได้มีโอกาสมาทำกิจกรรมด้วยกันอีกหรือเปล่านะคะ" หญิงสาวพูดโดยไม่หันมองหน้าเขา

        บันทกอยากคิดเข้าข้างตัวว่า เธอคงอยากกลับมาทำกิจกรรมร่วมกับเขาอีก แต่ก็คงไม่หรอก คำว่า ‘ด้วยกัน’ ของเธอ อาจหมายถึงทุกคนในชมรมของเขาและเด็กๆ ที่นี่ก็ได้

"โครงการนี้ผ่านไปค่อนข้างดีมากครับ ไม่แน่เทอมหน้าอาจจัดอีก" บันทกบอก หลายวันที่ได้อยู่ใกล้ พูดคุย นอกจากความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อหญิงสาว เขายังรู้สึกคุ้นเคยราวกับรู้จักเธอมาเนิ่นนานแต่หนใดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย

"อย่างนั้นอย่าลืมบอกนิจด้วยนะคะ ถ้าสะดวกนิจจะขอมาร่วมด้วยอีก" ประโยคนี้เธอหันมาพูดกับบันทก

ได้ฟังอย่างนั้นเขาก็ค่อยรู้สึกดีขึ้นบ้าง เมื่อคิดว่าอาจมีโอกาสได้ใกล้เธออีก เขาจึงรับคำแทบจะทันที

 

หลังจากวั้นนั้นผ่านไป แม้ชายหนุ่มจะไม่ได้ร่วมทำกิจกรรมกับเธอแบบนี้อีก แต่วันไหนที่ว่างมาก เขาก็จะแวะเวียนไปเดินใกล้ๆ ห้องชมรมกลางดนตรีสากล ที่เคยพบคะนึงนิจที่นั่น เผื่อจะได้เจอเธออีก ได้เห็นอยู่ไกลๆ บ้างก็ยังดี

แต่เวลาพบเธอจริงๆ เขาก็ขลาดจนไม่กล้าเข้าไปทัก ยามเธอหันมามอง เขาก็มักจะรีบหลบ แล้วทำเป็นไม่เห็นเธอ ก่อนเดินหนีออกมาเสียอย่างนั้น

#ผู้แต่ง Mr.TJaw & ครองใจ เมตต์พิรุณ

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.