บทที่ 11 (รีไรต์)

ความรู้สึกนี้หรือ...คือรัก

-A A +A

บทที่ 11 (รีไรต์)

บทที่ 11

 

คนจำนวนไม่น้อยต่างเริ่มทะยอยกันเดินเข้าไปในโรงภาพยนตร์กันบ้างแล้ว ด้วยภาพยนตร์ในรอบนี้เป็นภาพยนตร์รักที่กำลังเป็นที่นิยม ดังนั้นคนที่ซื้อตั๋วเข้าชม จึงเป็นวัยหนุ่มสาวเสียส่วนใหญ่

 

วินและมายด์ยืนรอภูมิและแอมอยู่ไม่ไกลจากทางเข้าโรงภาพยนตร์มากนัก ดูจากเวลาอีกไม่นานโฆษณาก่อนที่ภาพยนตร์จะเริ่มฉายคงเหลืออีกไม่มากแล้ว ทว่าถึงกระนั้นเพื่อนของเด็กหนุ่มและเด็กสาวทั้งสองก็ยังไม่มา เสียงแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนเตือนขึ้น วินเลยหยิบขึ้นมาดู เมื่อเขาได้อ่านแชทที่ภูมิเพิ่งส่งให้เสร็จเรียบร้อย เขาจึงเก็บสมาร์ทโฟนเข้ากระเป๋ากางเกง

 

“สองคนนั้นคงไม่มาแล้วแหละ” วินพูดกับเด็กสาวข้างๆ ที่ยืนเงียบอยู่

 

“อ้าว ทำไมเหรอ ไหนว่าแค่ไปเอากระเป๋าเงินไง?” มายด์มีท่าทีประหลาดใจไม่น้อย เพราะก่อนจะมา แอมเป็นคนชวนเธอดูหนังรอบนี้เองด้วยซ้ำ แล้วตอนนี้ทำไมถึงเปลี่ยนใจเอาดื้อๆ แบบนี้

 

“เห็นภูมิบอกว่าจู่ๆ เพื่อนของมายด์ก็เกิดเปลี่ยนใจอยากไปกินไอติมขึ้นมาอย่างกะทันหันน่ะ ภูมิเลยตัดสินใจอยู่เป็นเพื่อน”

 

‘มันต้องเป็นแผนของยายแอมแน่ๆ แล้วแบบนี้เราจะทำยังไงดี?’ มายด์คิดกับตัวเอง เพราะเด็กสาวไม่เคยคาดคิดว่าเธอจะต้องมาดูหนังกับวินสองคนแบบนี้มาก่อน

 

“เราจะทำยังไงดี?” มายด์ตัดสินใจเอ่ยถามความเห็นของวิน ส่วนตัวเธอเองยังสองจิตสองใจอยู่ เพราะภาพยนตร์รอบนี้เป็นเรื่องที่เธออยากดูพอสมควร อีกอย่างตอนนี้ก็ซื้อตั๋วไปแล้วด้วย แต่จะให้ไปดูหนังกับวินสองคนเธอก็ยังกังวลและรู้สึกเขินอาย จะให้ทำไงได้ ก็ตั้งแต่เกิดมา เด็กสาวยังไม่เคยไปดูหนังกับผู้ชายมาก่อนในชีวิต ยิ่งเป็นคนที่เธอรู้สึกดีด้วยแล้ว แค่คิดถึงตรงนี้ หัวใจของเธอก็เต้นเร็วขึ้นอย่างห้ามไม่ไหว

 

“ยังไงเราก็ซื้อตั๋วไปแล้ว ถ้างั้นเราก็ดูก่อนเถอะ เพราะทางนั้นบอกไม่รีบ ให้เราดูหนังก่อนได้เลย ไม่ต้องไปหาก็ได้” วินให้คำตอบ

 

ถึงแม้ว่าเด็กหนุ่มไม่ได้ตังใจจะมาดูหนังสองต่อสองกับคนตัวเล็กที่อยู่ข้างๆ ในทีแรก แต่เขาก็ปฏิเสธความรู้สึกตัวเองไม่ได้ ว่าการที่ได้รับโอกาสในครั้งนี้ มันทำให้เขารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก หากถามว่าเขารักมายด์หรือเปล่า เขาคงตอบไม่ได้ในตอนนี้ แต่หากถามว่าเขารู้สึกดีกับเธอหรือเปล่า เขาตอบได้แน่นอนว่า...ใช่

 

ครั้นมายด์ได้ยินคำตอบ หัวใจในอกข้างซ้ายก็เต้นตึกตักขึ้นมาอย่างประหม่า ไม่คิดเลยว่าวันที่เธอกับเขาจะได้ดูหนังด้วยกันสองคนจะมาเร็วขนาดนี้ มายด์แอบมองสีหน้าของวินอย่างพินิจ เมื่อเธอมองไม่เห็นถึงความอึดอัดใจที่เขาต้องมาดูภาพยนตร์กับเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนเรียวปากจิ้มลิ้มอย่างไม่รู้ตัว

 

“อื้ม งั้นเราก็เข้าไปข้างในกันเถอะ ป่านนี้หนังคงจะเริ่มฉายแล้วด้วย” มายด์พูดด้วยเสียงเครือหวาน ก่อนจะออกเดินนำไปก่อน

 

วินพยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ แล้วออกเดินตามมายด์ไปด้วยระยะที่ไม่ห่างกันมากนัก ทำไมกันนะ วินไม่เคยคิดเลยว่าแค่เขามองผู้หญิงคนหนึ่ง จะทำให้เขามีความสุขได้ถึงขนาดนี้

 

เนื้อหาของภาพยนตร์ เป็นเนื้อหาที่เกี่ยวกับวงดนตรีวงหนึ่งซึ่งตัวเอกของเรื่องร่วมงานอยู่ด้วยกัน เนื้อเรื่องกล่าวถึงความรักของคนสองคน ระหว่างเด็กสาวผู้เป็นนักร้องประจำวง และพระเอกซึ่งเป็นมือกีตาร์ ด้วยเนื้อหามีฉากหลักๆ เกี่ยวกับดนตรี ดังนั้นซาวด์เพลงที่ใช้ประกอบ จึงพิถีพิถันกว่าภาพยนตร์รักเรื่องอื่นๆ ซึ่งก็ดูเหมือนมายด์จะชอบในจุดนี้อยู่ไม่น้อย

 

ทางด้านของวิน เขากลับดูบ้างไม่ดูบ้าง เพราะแค่ได้มองการเปลี่ยนอารมณ์ไปมาของมายด์ในเวลาที่เธอดูเนื้อหาบนจอ แค่นั้นเขาก็พอใจมากแล้ว

 

ขณะที่ภาพยนตร์ฉายไปได้ครึ่งเรื่อง ด้วยอากาศในโรงภาพยนตร์ที่ค่อนข้างเย็นจัด ทำให้มายด์ถูมือทั้งสองเพื่อเพิ่มความอบอุ่น ถึงกระนั้นก็ยังช่วยอะไรไม่ได้มาก เด็กสาวจึงเผลอห่อไหล่ พลางกอดตัวเองด้วยความหนาว

 

“มายด์หนาวเหรอ?”

 

เมื่อวินเอ่ยถาม มายด์จึงตอบกลับไปด้วยเสียงติดจะสั่นนิดๆ จากผลของเครื่องปรับอากาศที่เย็นกว่าปกติ

 

“ก็นิดหน่อย จริงๆ ก่อนมามายด์เตรียมเสื้อกันหนาวเอาไว้แล้วแหละ แต่ตอนออกจากบ้านดันลืมนี่สิ” เด็กสาวยิ้มแหยๆ ส่งให้คนถาม แต่จะทำยังไงได้ ถึงจะหนาวก็ต้องทน เพราะเธอทำตัวเองแท้ๆ

 

วินถอดเสื้อแจ็คเก็ตที่สวมอยู่ออก ก่อนจะนำไปคลุมลงที่ไหล่ของคนตัวเล็ก เมื่อมายด์เห็นเช่นนั้นจึงรีบเอ่ยปฏิเสธ

 

“ขอบคุณนะ แต่ไม่เป็นไรหรอก วินเอากลับไปใส่เถอะ มายด์ไม่เป็นไร อากาศไม่ได้หนาวขนาดนั้น” จะให้เธอรับเสื้อของเขามาใส่ได้อย่างไร เพราะถ้าเขาเอาเสื้อมาให้เธอใส่ วินคงต้องหนาวแทนเธอแน่นอน ถึงแม้เขาจะเป็นผู้ชายก็จริง แต่ผู้ชายก็หนาวเป็นเหมือนกันนี่นา

 

วินส่ายหน้า “มายด์ใส่เถอะ วินไม่หนาวหรอกน่า อากาศเย็นแค่นี้ทำอะไรวินไม่ได้หรอก”

 

มายด์ทำท่าจะปฏิเสธอีกรอบ แต่เพราะวินดูมีสีหน้าจริงจังขึ้น เธอเลยต้องยอมใส่แจ็คเก็ตของเขาในที่สุด ไออุ่นจากเจ้าของเสื้อที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ประกอบกับความอบอุ่นจากหัวใจดวงน้อยของเธอเอง ทำให้อาการหนาวของเด็กสาวดีขึ้นอย่างประหลาด

 

“ขอบคุณนะ” มายด์เอ่ยด้วยรอยยิ้มสดใส พลางกระชับแจ็คเก็ตของเด็กหนุ่มแนบกาย ถึงแม้ไฟในโรงภาพยนตร์จะสลัว แต่เขาก็มองเห็นรอยยิ้มนั้นได้ชัดเจน

 

“ไม่เป็นไร” วินเอ่ยตอบ “ดูเหมือนมายด์จะชอบหนังเรื่องนี้มากนะ?”

 

“อื้ม อาจเป็นเพราะมายด์เล่นเปียโนด้วยละมั้ง มายด์เลยชอบเนื้อหาของหนังเป็นพิเศษ อีกอย่างเพลงประกอบก็เพราะดีด้วย” มายด์บอกสิ่งที่เธอคิดออกไป

 

“โห มายด์เล่นเปียโนด้วยเหรอ?” วินพูดด้วยความประหลาดใจ เพราะตัวเขาเองก็เคยคิดจะเล่นเครื่องดนตรีให้ได้สักชิ้น แต่แค่ลองยืนกีตาร์โปล่งของเพื่อนมาเล่นได้แค่ไม่กี่ครั้ง เขาก็ต้องยอมแพ้ไป เพราะดูแล้วเขาคงไม่ถนัดทางสายนี้สักเท่าไหร่

 

“ใช่ มายด์หัดเล่นมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ทีแรกก็แค่ชอบฟังเสียงเปียโนเฉยๆ ต่อมาเลยลองหัดเล่นเองบ้าง พอลองเล่นแล้วชอบ ก็เลยเล่นมาตั้งแต่ตอนนั้น” มายด์พูดถึงสิ่งที่ตัวเองภูมิใจอย่างมีความสุข เรียกได้ว่าเปียโนคือเพื่อนของเธอเลยก็ว่าได้

 

“แล้ววินล่ะ ชอบทำอะไรเหรอ?” เด็กสาวถือโอกาสถามกลับ การได้รู้ข้อมูลของคนที่แอบชอบมากขึ้นอีกนิด แค่นั้นก็ทำให้เธอพอใจมากแล้ว

 

“วินชอบเกี่ยวกับพวกการทำเว็บไซต์น่ะ ชอบมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วเหมือนกัน” เขาพูดไปตามตรง

 

“สุดยอดเลย ถึงมายด์จะไม่รู้เรื่องพวกนี้ แต่มายด์รู้ว่ามันคงไม่ง่ายแน่ๆ” เธอหันมาส่งยิ้มให้ ก่อนที่จะหันกลับไปดูภาพบนจอตามเดิม

 

ระหว่างนั้นเนื้อหาของภาพพยนตร์ก็เริ่มสนุกขึ้นเรื่อยๆ บทสนทนาจึงเงียบไป ด้วยความเย็นจากเครื่องปรับอากาศ ถึงแม้วินจะไม่รู้สึกหนาวสักเท่าไหร่ แต่ก็ทำให้นิ้วมือชาได้เช่นกัน เขาจึงถูมือเข้าหากัน เพื่อทำให้นิ้วหายจากอาการชาจากความเย็น

 

ระหว่างนั้นเอง คนตัวเล็กข้างๆ ก็ยื่นมือมากุมมือของวินเอาไว้ แวบแรกเขารู้สึกตกใจเพราะความคาดไม่ถึง แต่พอเขาได้มองเห็นอาการเขินอายของเธอ ประกอบกับมือสั่นๆของเจ้าตัว เขาเลยอดส่งยิ้มให้ไม่ได้

 

“วะ...วิน อะ...อุ่นขึ้นระ...หรือเปล่า?” เสียงเครือหวานเอ่ยถามเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน ตัวคนถามเองก็ไม่กล้าหันไปสบสายตากับเขา ทำได้เพียงจ้องไปยังจอภาพยนตร์อย่างไม่รู้จะทำอะไรไปมากกว่านั้น

 

จะให้ทำยังไงได้ ในเมื่อเขาเองก็ยังมอบเสื้อของเขาให้เธอใส่ การที่เธอกุมมือของเขาเพื่อให้ความอบอุ่นบ้าง มันก็คงไม่ผิดอะไร ถึงแม้การทำแบบนี้ มันจะทั้งให้เธอรู้สึกหัวใจเต้นแรง ทั้งยังมีอาการร้อนวูบวาบตามร่างกายและพวงแก้มก็เถอะ

 

“อุ่นสิ ขอบคุณมากนะ” วินเอ่ยอย่างอ่อนโยน...แค่การได้รับไออุ่นจากมือของคนข้างๆ แค่นี้มันก็ทำให้ความรู้สึกดีๆ ท่วมท้นในหัวใจของเขาแล้ว

 

สำหรับบางคน แค่การจับมือมันอาจถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่หากคนที่จับมือเขาเป็นเด็กสาวข้างๆ สิ่งที่มองว่าเป็นความธรรมดา มันก็กลายเป็นสิ่งที่พิเศษสำหรับเด็กหนุ่มแล้ว

สารบัญ / นำทาง

ความคิดเห็น

รูปภาพของ Racss

พล็อตแบบนี้เบสิคมากกกก น่ารักค่ะ ดีใจที่กลับมานะคะ

รูปภาพของ เพียงเรียงรัก

ขอบคุณครับ

ตอนที่แต่งเรื่องนี้ ก็อยากจะให้มันง่ายๆ อ่านแล้วยิ้มได้แบบนี้ละครับ 55+

บางครั้งเรื่องที่มันธรรมดาทั่วไป แต่ว่าถ้ามันเกิดขึ้นกับคนที่เรารู้สึกพิเศษ แค่เรื่องธรรมดา ก็กลายเป็นเรื่องพิเศษได้ครับ (วินได้กล่าวไว้ //ยิ้ม)

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.