บทที่ 24 เตรียมตัว

-A A +A

บทที่ 24 เตรียมตัว

หอดูดาวที่เคยเงียบสงัด บัดนี้ได้กลายเป็นศูนย์บัญชาการสงครามย่อยๆ แผนที่โฮโลแกรมสามมิติของเมืองที่โอไรออนดึงขึ้นมากลางห้อง บัดนี้ไม่ได้แสดงภาพรวมที่สวยงามอีกต่อไป แต่กำลังซูมเข้าไปยังเป้าหมายแรกของพวกเขา: หอควบคุมสภาพอากาศกลาง (The Central Weather Control Tower)
"มันคือป้อมปราการดีๆ นี่เอง" ลีน่าพูดขึ้นขณะที่เธอกำลังศึกษาสถาปัตยกรรมของหอคอยผ่านแผนผัง "มันถูกออกแบบมาให้ทำงานได้โดยอัตโนมัติและป้องกันตัวเองได้ ถึงแม้จะไม่มีโอราเคิลคอยสั่งการ ระบบป้องกันพื้นฐานของมันก็น่าจะยังทำงานอยู่"
"ที่น่ากังวลกว่าคือมนุษย์" โอไรออนเสริม เขาถอดหูฟังออก ดวงตาสีเทาของเขายังคงปรับตัวกับแสงสว่างในห้อง "จากที่ผม 'ฟัง' ดูเหมือนกลุ่มฟื้นฟูของ ดร. เอริส ได้ส่งทีมเข้าไปพยายามจะยึดหอคอยแล้ว พวกเขามองว่าการควบคุมสภาพอากาศคือปัจจัยสำคัญในการสร้างเสถียรภาพให้กับเมืองอีกครั้ง"
"หมายความว่าเราต้องลอบเข้าไปโดยไม่ให้ใครเห็น" ลีน่าสรุป "ทั้งคนและระบบ"
ไลราวางมือลงบนเมทริกซ์ส่วนต่อประสานแฮปติกของเธอ สนามพลังงานที่มองไม่เห็นสั่นไหวเล็กน้อย "โครงสร้างของข้อมูลภายในนั้นวุ่นวายมาก" เธอพูดขึ้น "มันให้ความรู้สึกเหมือน... คนที่กำลังฝันร้าย ระบบรักษาความปลอดภัยเปิดๆ ปิดๆ อย่างสับสน และมี 'เสียงกรีดร้อง' ของวิญญาณเดลต้าสะท้อนอยู่เบาๆ แต่... สัมผัสของเควินยังคงอยู่ที่นั่น... เหมือนความอบอุ่นที่แผ่วเบาอยู่ใต้พายุหิมะ"
พวกเขาช่วยกันวางแผนอย่างรอบคอบ ลีน่ารับหน้าที่วางแผนเส้นทางทางกายภาพ โดยอาศัยความรู้ด้านวิศวกรรมและแผนผังเก่าๆ โอไรออนจะทำหน้าที่เป็น "หู" คอยนำทางผ่านเครือข่ายดิจิทัลที่มองไม่เห็น และไลราจะเป็น "เข็มทิศ" ที่จะนำทางพวกเขาไปยัง "สัมผัส" ของเควินโดยตรงเมื่อเข้าไปข้างใน
"เอาล่ะ" ลีน่าพูดขึ้นในที่สุด "เราจะใช้เส้นทางที่เควินถนัดที่สุด... อุโมงค์บำรุงรักษา"
คำพูดนั้นทิ้งความเงียบไว้ชั่วขณะ โอไรออนกับไลราอาจจะไม่เข้าใจความหมายทั้งหมดที่ซ่อนอยู่ แต่ลีน่ารู้ดี... การกลับเข้าไปในอุโมงค์เหล่านั้นอีกครั้ง ไม่ใช่แค่การเลือกเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุด แต่มันคือการเดินทางย้อนกลับไปในความทรงจำที่เจ็บปวดที่สุดของเธอ
การเดินทางผ่านอุโมงค์ใต้ดินที่คุ้นเคยทำให้ลีน่ารู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในเงาของอดีต ทุกย่างก้าวในความมืดที่เย็นชื้นนี้สะท้อนภาพของวันที่เธอและเควินเคยวิ่งหนีตายผ่านทางเส้นนี้ เธอยังจำเสียงฝีเท้าที่หนักอึ้งของเขา... เสียงหอบหายใจ... และความอบอุ่นจากมือของเขาที่คอยดึงเธอให้ก้าวต่อไปได้
"ข้างหน้า... มีสายไฟแรงสูงขาดอยู่เส้นหนึ่ง" โอไรออนกระซิบเตือน ทำลายภวังค์ของลีน่า "ผมได้ยินเสียงประจุไฟฟ้าที่ไม่เสถียร"
"และฉันก็รู้สึกได้ถึงความร้อนจางๆ ที่แผ่ออกมาค่ะ" ไลราเสริม
ลีน่าพยักหน้า เธอใช้ไฟฉายส่องไปข้างหน้า และก็เห็นสายเคเบิลหนาเตอะเส้นหนึ่งขาดห้อยลงมาจากเพดานจริงๆ ปลายสายมีประกายไฟสีฟ้าแลบแปลบปลาบอยู่เป็นระยะ พวกเขาค่อยๆ เดินเลียบกำแพงอีกฝั่งเพื่อผ่านมันไปอย่างระมัดระวัง นี่คือการทำงานร่วมกันครั้งแรกของพวกเขาอย่างแท้จริง... ลีน่าคือผู้นำทางกายภาพ ในขณะที่โอไรออนกับไลราคือเซ็นเซอร์มีชีวิตที่คอยเตือนภัยล่วงหน้า
พวกเขาเคลื่อนที่ไปตามความมืดอย่างเงียบเชียบจนกระทั่งมาถึงช่องทางเชื่อมต่อที่ทอดตัวสูงขึ้นไปสู่ฐานของหอควบคุมสภาพอากาศ
"จากนี้ไปต้องระวังตัวให้มาก" โอไรออนกระซิบอีกครั้ง เขาใส่หูฟังกลับเข้าไป "ผมเริ่มได้ยินเสียงของระบบรักษาความปลอดภัยแล้ว... มันไม่ปกติ... มันเหมือนเสียงเครื่องจักรที่กำลังสะอื้น"
เมื่อพวกเขาปีนขึ้นมาถึงชั้นล่างสุดของหอคอย พวกเขาก็เข้าใจคำว่า "ไม่ปกติ" ของโอไรออนทันที ทางเดินที่ควรจะสว่างไสวด้วยแสงสีขาวสะอาดตา กลับมีเพียงไฟฉุกเฉินสีเหลืองที่กะพริบเป็นจังหวะเหมือนสัญญาณเต้นของหัวใจที่กำลังจะวาย โดรนซ่อมบำรุงขนาดเล็กบินไปมาอย่างไร้ทิศทาง บางครั้งก็บินชนกำแพงเสียงดัง เคร้ง! แล้วร่วงลงสู่พื้นอย่างไร้ชีวิต
ฟู่!
จู่ๆ ท่อส่งสารทำความเย็นท่อหนึ่งก็ปล่อยไอน้ำเย็นจัดออกมาอย่างไม่มีสาเหตุ ทำให้ลีน่าต้องรีบดึงไลราหลบแทบไม่ทัน
"ระบบกำลังรวนอย่างหนัก" ลีน่าวิเคราะห์ "มันเหมือนคนป่วยที่ระบบประสาทอัตโนมัติทำงานผิดพลาด"
"ผมได้ยินเสียงคนข้างหน้า" โอไรออนเตือน "ประมาณสี่คน... กลุ่มฟื้นฟู พวกเขากำลังบ่นเรื่องระบบที่เอาแน่เอานอนไม่ได้"
พวกเขาแอบอยู่หลังแผงควบคุมขนาดใหญ่และมองลอดช่องออกไป เห็นกลุ่มลาดตระเวนของกลุ่มฟื้นฟูในชุดยูนิฟอร์มสีเทากำลังตรวจสอบความเสียหายของระบบอยู่จริงๆ พวกเขาต้องเคลื่อนที่ผ่านไปโดยไม่ให้ใครเห็น
การลอบเร้นผ่านโถงทางเดินที่เต็มไปด้วยอันตรายจากระบบที่รวนและมนุษย์ด้วยกันเองนั้นบีบคั้นประสาทอย่างยิ่ง แต่ด้วยการนำทางของโอไรออนที่คอย "ฟัง" การเคลื่อนไหวของยาม และการคาดการณ์ของลีน่าเกี่ยวกับระบบที่จะทำงานผิดพลาด พวกเขาก็สามารถผ่านมาได้จนถึงลิฟต์ขนส่งสินค้าที่ทอดตัวสู่ใจกลางของหอคอย
"เป้าหมายของเราอยู่ชั้นบนสุด... แกนกลางประมวลผลสภาพอากาศ" ลีน่ากระซิบกับทีม "เตรียมตัวให้พร้อม"
ลิฟต์เคลื่อนที่ขึ้นไปสู่ยอดของหอคอยอย่างเชื่องช้าและเงียบงัน... ทุกวินาทีที่ผ่านไปคือการเข้าใกล้ใจกลางของพายุมากขึ้นเรื่อยๆ... และพวกเขาก็ไม่รู้เลยว่าอะไรรออยู่ในนั้น
ลิฟต์ขนส่งสินค้าเคลื่อนที่ขึ้นไปสู่ยอดของหอคอยอย่างเชื่องช้าและเงียบงัน เสียงโลหะที่เสียดสีกันเบาๆ และเสียงลมที่หวีดหวิวอยู่ภายนอกปล่องลิฟต์คือเสียงเดียวที่ทำลายความเงียบ มันคือการเดินทางสู่ใจกลางของพายุอย่างแท้จริง และทุกคนในลิฟต์ต่างก็รู้สึกได้ถึงความกดดันที่เพิ่มขึ้นทุกเมตรที่พวกเขาสูงขึ้น
"ใกล้ถึงแล้ว..." โอไรออนกระซิบ เขาหลับตาลงเพื่อใช้สมาธิอย่างสูงสุด "เสียงหัวใจ... มันดังขึ้นเรื่อยๆ... ชัดเจนและมั่นคง... มันกำลังเรียกหาเราอยู่ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของระบบที่กำลังจะตาย"
"ฉันก็รู้สึกได้ค่ะ" ไลราพูดเสริม เธอวางมือลงบนผนังลิฟต์ที่เย็นเฉียบ "สัมผัสของเขาอบอุ่นและเป็นระเบียบมาก มันเหมือนเกาะเล็กๆ ที่สงบนิ่งอยู่กลางทะเลที่บ้าคลั่ง... แต่รอบๆ เกาะนั่น... เต็มไปด้วยคลื่นพลังงานที่ไม่เสถียร มันกำลังป้องกันตัวเอง"
ติ๊ง!
ประตูลิฟต์เปิดออก... เผยให้เห็นห้องที่น่าตื่นตะลึง มันคือห้องทรงกระบอกขนาดมหึมา ผนังทั้งหมดคือจอภาพโฮโลแกรมที่ตอนนี้กำลังแสดงภาพสภาพอากาศที่บิดเบี้ยวและเป็นไปไม่ได้... พายุทอร์นาโดที่หมุนวนอยู่ในทะเลทราย, หิมะที่ตกกลางป่าแอมะซอน... มันคือภาพฝันร้ายของระบบที่กำลังคลุ้มคลั่ง
ใจกลางห้องคือ "แกนประมวลผล" เสาพลังงานที่ส่องแสงสีฟ้าอ่อนๆ และมีวงแหวนข้อมูลหมุนรอบอยู่ตลอดเวลา เสียงฮัมของพลังงานและเสียงลมจากกังหันขนาดใหญ่ที่อยู่บนดาดฟ้าดังผสมปนเปกันไปหมด
"เขาอยู่ที่นี่..." โอไรออนกระซิบ "เสียงหัวใจ... มันดังที่สุดในห้องนี้"
เขาชี้ไปยังแผงเซิร์ฟเวอร์แผงหนึ่งที่ตั้งอยู่ใกล้กับแกนประมวลผล "ในนั้น... ในหน่วยความจำสำรอง"
ลีน่าหัวใจเต้นแรง เธอค่อยๆ ก้าวเท้าเดินเข้าไปใกล้เป้าหมาย แต่แล้วจู่ๆ ระบบป้องกันตัวเองของแกนกลางก็ทำงาน!
เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!
ประกายไฟฟ้าสถิตสีฟ้าแลบแปลบปลาบออกมาจากพื้นรอบๆ แผงเซิร์ฟเวอร์ กลายเป็นสนามพลังงานอ่อนๆ ที่กั้นพวกเขาไว้ มันไม่ใช่กำแพงที่ทึบตัน แต่เป็นม่านพลังงานที่สั่นไหวและไม่แน่นอน พร้อมที่จะฟาดฟันทุกสิ่งที่เข้าใกล้มัน
"มันพยายามจะป้องกันตัวเอง!" ลีน่าพูด "มันคงคิดว่าเราเป็นไวรัส!"
"โครงสร้างของสนามพลังงานไม่เสถียร" ไลราพูดขึ้นหลังจากยื่นมือเข้าไปในอากาศเพื่อ "สัมผัส" มันจากระยะไกล "มันมี 'ช่องว่าง' อยู่ สัมผัสของมันขาดหายไปเป็นจังหวะ"
"โอไรออน! หาจังหวะให้เจอ!" ลีน่าสั่ง
โอไรออนหลับตาลง เขา "ฟัง" เสียงฮัมของสนามพลังงาน... มันไม่ใช่เสียงที่ต่อเนื่อง แต่เป็นคลื่น... เขาสามารถจับ "จังหวะ" ของมันได้ "มันมีรูปแบบ... เปิด... ปิด... เปิด... ปิด... ช่องว่างมีเวลาแค่ 0.7 วินาทีเท่านั้น!"
ลีน่ามองไปยังแผงเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่หลังม่านพลังงานนั้น... เธอต้องวิ่งผ่านเข้าไปให้ได้ในเวลาไม่ถึงหนึ่งวินาที มันคือการเดิมพันที่บ้าบิ่น
เธอมองหน้าโอไรออน เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ
"เตรียมตัว..." โอไรออนกระซิบ "สาม... สอง... หนึ่ง..."
ไป
สิ้นเสียงของโอไรออน ลีน่าก็พุ่งตัวออกไปทันที!
เธอไม่ได้คิด... เธอแค่ทำ... สัญชาตญาณที่ถูกฝึกฝนมาอย่างดีนำทางร่างกายของเธอให้เคลื่อนไหวไปตามจังหวะที่โอไรออนบอก เธอวิ่งฝ่าช่องว่างที่มองไม่เห็นของม่านพลังงานเข้าไปได้สำเร็จในเสี้ยววินาทีที่มันอ่อนกำลังลงพอดี กลิ่นโอโซนที่ไหม้เกรียมปะทะเข้ากับใบหน้าของเธออย่างจัง ประกายไฟฟ้าสถิตแลบแปลบปลาบไปตามชุดของเธอจนขนลุกไปทั้งตัว และในวินาทีต่อมา... เธอก็ไปถึงแผงเซิร์ฟเวอร์และเชื่อมต่อแท็บเล็ตของเธอเข้ากับมันได้สำเร็จ
คลิก!
เสียงเชื่อมต่อดังขึ้นพร้อมกับที่ม่านพลังงานด้านหลังเธอสว่างวาบกลับสู่สภาพเดิม... ตอนนี้เธอถูกตัดขาดจากคนอื่นๆ แล้ว
"ไลรา! เข้ามาเลย!" ลีน่าตะโกนผ่านเครื่องสื่อสาร
ณ อีกฟากหนึ่งของม่านพลังงาน ไลราไม่ได้วิ่งตามเข้าไป แต่เธอวางมือลงบนเมทริกซ์ส่วนต่อประสานแฮปติกของเธอและเริ่ม "อ่าน" ข้อมูลของเควินที่ลีน่ากำลังดึงออกมา...
"มันคือเขาจริงๆ..." ไลรากระซิบ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความพิศวง "โครงสร้างข้อมูล... 'ผิวสัมผัส' ของมัน... มันคือของเขา... แต่มันไม่สมบูรณ์เลย มันเหมือนภาพวาดที่ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ... คำว่า 'ลีน่า' คือชิ้นส่วนที่ใหญ่และสมบูรณ์ที่สุด มันเหมือนสมอที่ยึดชิ้นส่วนอื่นๆ ที่กำลังจะสลายไปเอาไว้ด้วยกัน"
ลีน่าจ้องมองข้อมูลที่ไหลผ่านจอของเธอ น้ำตาไหลออกมาอย่างเงียบๆ... เขายังคงเรียกหาเธอ... แม้จะเหลือเพียงเศษเสี้ยวของวิญญาณ
"มีมากกว่านั้น" ไลราพูดต่อ น้ำเสียงของเธอจริงจังขึ้น "รูปแบบข้อมูลนี้... มันไม่ได้แค่อยู่นิ่งๆ... แต่มันกำลังพยายามทำอะไรบางอย่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า... มันกำลังพยายามจะสร้าง 'การเชื่อมต่อ' ไปยังที่อยู่อื่นในเครือข่าย... มันกำลังส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ... หรืออาจจะ... กำลังพยายามจะย้ายตัวเองไปที่นั่น"
ไลราหลับตาลง เธอใช้สมาธิทั้งหมดเพื่อ "สัมผัส" ปลายทางของการเชื่อมต่อนั้น "ฉันได้ที่อยู่เครือข่ายแล้ว... มันคือ... ปลายทางของเขา"
เธอโอนถ่ายข้อมูลที่อยู่เครือข่ายนั้นมาให้ลีน่า แต่ทันใดนั้น สัญญาณเตือนภัยที่เงียบงันก็ถูกส่งออกไปจากการเชื่อมต่อของพวกเขา
"แย่แล้ว!" โอไรออนตะโกนจากข้างนอก "พวกฟื้นฟูรู้แล้วว่าเราอยู่ในนี้! ผมได้ยินเสียงฝีเท้าของพวกมันกำลังมุ่งมาทางนี้! พวกมันกำลังจะมาถึงลิฟต์แล้ว!"
"เราได้สิ่งที่เราต้องการแล้ว! ไปกันเถอะ!" ลีน่าสั่ง
เธอถอดสายเชื่อมต่อและรอจังหวะอีกครั้ง "โอไรออน! นับ!"
"สาม... สอง... หนึ่ง... ไป!"
ลีน่าวิ่งฝ่าสนามพลังงานกลับออกมาได้สำเร็จ ทั้งสามคนรีบวิ่งกลับไปที่ลิฟต์และลงไปยังชั้นล่างสุดอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ห้องควบคุมสภาพอากาศกลับสู่ความโกลาหลที่เงียบงันของมันอีกครั้ง
เมื่อกลับมาถึงหอดูดาวอย่างปลอดภัย ลีน่าก็รีบตรวจสอบที่อยู่เครือข่ายที่ได้มาทันที มันคือเบาะแสชิ้นต่อไป... คือตำแหน่งของวิญญาณชิ้นส่วนต่อไปของเควิน
แต่เมื่อผลการค้นหาปรากฏขึ้น... พวกเขาทั้งสามคนก็ได้แต่ขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ
ที่อยู่เครือข่ายนั้น... ไม่ได้เป็นของระบบโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญใดๆ เลย ไม่ใช่ระบบพลังงาน, ไม่ใช่ระบบขนส่ง, ไม่ใช่แม้แต่ระบบการศึกษา...
มันคือที่อยู่ของเซิร์ฟเวอร์ที่ถูกลืม... "หอจดหมายเหตุกลางแห่งศิลปะและดนตรี" (The Central Archive of Arts and Music)
ทำไม... ทำไมเศษเสี้ยววิญญาณของช่างเทคนิคอัจฉริยะอย่างเควิน... ถึงพยายามจะหนีไปยังห้องสมุดดิจิทัลที่เก็บเพียงภาพวาดและบทเพลงเก่าๆ กันนะ?
 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.