บทที่ 9...1/3
งานเลี้ยงเปิดตัวสินค้าในเครือเอ็มวาย กรุ๊ป ซึ่งอยู่ในกลุ่มน้ำหอมถูกจัดขึ้นในวันเสาร์ รามินซึ่งเป็นผู้นำของตระกูลไอมาลจึงต้องเดินทางไปร่วมงาน แม้จะมีนักข่าวมาสัมภาษณ์เขาเพราะไอรดาได้สัมภาษณ์ถึงเรื่องความสัมพันธ์ที่หลายๆ คนพากันลุ้นระคนอิจฉาว่าที่เจ้าสาว ซึ่งรามินกลับให้สัมภาษณ์เพียงเรื่องงานเท่านั้น โดยเลขาของเขาได้แจ้งเอาไว้ก่อนเริ่มงานแล้ว แต่ยังมีนักข่าวพยายามจะถาม แม้ไม่ได้คำตอบออกจากปากของรามินแม้แต่คำเดียว ทำให้เรื่องความสัมพันธ์ยังคงคลุมเครือเพราะเป็นการให้สัมภาษณ์เพียงผ่ายเดียวจากไอรดา
ทว่าไพอัสซึ่งเป็นญาติผู้พี่ หลานปู่อีกสายซึ่งใครๆ ก็รู้ว่าตระกูลไอมาลได้แยกออกเป็นสองสาย ภายนอกเหมือนว่าจะเป็นไปด้วยดี แต่แท้จริงคือคู่แข่งทางธุรกิจที่น่ากลัวยิ่งกว่าศัตรูทางธุรกิจที่เปิดหน้าสู้แบบเปิดเผยเสียอีก เมื่อเห็นรามินยืนอยู่กับอิซาเพียงสองคนเพื่อดื่มน้ำชาระหว่างที่ดูการแสดงของนักร้องที่กำลังโด่งดังในเวลานี้ ไพอัสก็ไม่รอช้าทำทีเข้าไปทักทาย
“ไม่ได้พบกันเสียนาน ดูสบายดีนะญาติผู้น้องรามิน”
รามินค้อมไหล่ให้ไพอัสตามมารยาท อย่างไรเสียก็เป็นญาติกัน แม้จะไม่มีความนับถือใดๆ ต่อกันเลยก็ตาม แต่ในความเป็นญาติตามที่สื่อรู้ ทำให้ทั้งเขาและไพอัสรู้ดีว่าเราต่างสวมหน้ากากเข้าสังคมกันอยู่เท่านั้น
“สบายดี หรือจะไม่สบายดีกันนะ พอดีผมเพิ่งกลับมาจากประเทศไทย เจอเรื่องแปลกๆ จนตอนนี้ยังหาคำตอบไม่ได้เลย” รามินเอ่ยราวกับเป็นการสนทนาธรรมดาๆ แต่เขากำลังสืบอีกทาง
การบังคับให้ลัลนาจดทะเบียนสมรสแล้วเซ็นโอนหุ้นให้ใครสักคน หากมันได้เกิดขึ้นแล้ว เขาจะรู้ทันทีว่าคนร้ายที่วางแผนอยู่เบื้องหลังเป็นใคร แต่การช่วยลัลนาคือความสำคัญลำดับแรก ทำให้การจดทะเบียนสมรสเพื่อหวังผลประโยชน์ไม่ทันได้เกิดขึ้น ทำให้รามินยังไม่แน่ชัดว่าเป็นไพอัสหรือว่ามีคนจงใจวางแผนซ้อนแผนกันแน่
“เรื่องอะไรแปลกๆ หรือ อยากให้พี่คนนี้ช่วยหาคำตอบไหม” ไพอัสถามอย่างสนใจ
“ไม่รู้สิ พอดีว่าผมส่งคนกลุ่มหนึ่งให้ตำรวจ แต่จนถึงตอนนี้คนพวกนั้นยังไม่รู้ว่าใครจ้าง เงินค่าจ้างก็ยังไม่ได้ คนที่ติดต่อพวกมันก็หายสาบสูญ”
ไพอัสเลิกคิ้วสีหน้าปกติดูไม่มีพิรุธอะไร แต่รามินก็ไม่ปักใจเชื่อว่าญาติผู้พี่จะไม่รู้อะไรเลย เขากับไพอัสเหมือนกันตรงที่เก็บสีหน้าและความรู้สึกได้เก่งเพราะถูกฝึกมาตั้งแต่เด็ก ผู้ชายทุกคนในตระกูลไอมาลถูกฝึกมาแบบนี้ จะมีก็แค่ไซรัสที่เหมือนกระจกใสที่แทบไม่เหลืออะไรให้ต้องคาดเดาเพราะดูง่ายเกินไป ไนลาน่าจะรู้ข้อเสียของไซรัส แต่ไม่อาจแก้ไขได้เพราะเลี้ยงดูแบบตามใจกันมาตั้งแต่เด็ก พี่ราเมสเคี่ยวเข็ญลูกชายเท่าไหร่ ไนลาก็เหมือนจงใจทำสิ่งตรงข้าม นั่นคือเหตุผลที่ไซรัสไม่ถูกเลือกให้เป็นผู้นำตระกูลคนต่อไปเสียที
“ถ้าเป็นเรื่องพวกนี้พี่คงช่วยอะไรไม่ได้นัก วันๆ ทำแต่งาน” ไพอัสยิ้มพราวพลางเอ่ยต่อไปว่า “อ้อ พี่กำลังลงทุนหนังเรื่องใหม่ ธุรกิจใหม่ของพี่น่ะ ได้ไอรดามาเป็นนางเอกเรื่องแรกเสียด้วย”
รามินยิ้มราวกับประหลาดใจ “อย่างนั้นหรือครับ ดีจริง ขอให้ประสบความสำเร็จนะครับ”
ไพอัสแสร้งทำสีหน้าตกใจ ทั้งที่จงใจพูดให้รามินรู้
“ไอรดาบอกเรื่องนี้กับรามินหรือเปล่า ถ้าพี่เป็นคนบอกก่อนก็ขอโทษด้วย คนเป็นข่าวด้วยกันจะทะเลาะกันเสียเปล่าๆ”
รามินส่ายหน้าเออออ “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมกับไอรดาไม่ทะเลาะกันเพราะเรื่องพวกนี้หรอก ญาติผู้พี่อย่ากังวลไปเลย”
ไพอัสผิดคาดจากที่คิดว่ารามินจะไม่พอใจเพราะคนที่ตัวเองเป็นข่าวด้วยมาทำงานให้กับเขา แต่ก็นั่นล่ะใครจะรู้ได้ว่านี่คือความรู้สึกที่แท้จริงของรามิน บางทีญาติผู้น้องของเขาอาจไม่พอใจอยู่ก็ได้ พอคิดแบบนี้ไพอัสยิ่งอารมณ์ดี ในขณะที่รามินยังสีหน้าเรียบๆ ยิ้มบางราวกับพึ่งพอใจดังเดิม
อิซาได้คำตอบในตอนนี้เองที่รามินบอกให้รอดูไป ที่แท้รามินจงใจเลี้ยงข่าวไม่ออกมาปฏิเสธเรื่องความสัมพันธ์กับไอรดาเพื่อล่อหลอกให้ไพอัสหลงกล เสียเงินลงทุนและดึงตัวไอรดาไป ทำให้ไพอัสคิดว่าได้ผู้หญิงที่รามินพึงใจ แท้จริงแล้วรามินแค่ไม่ต้องการถูกกดดันจากบรรดาญาติในตระกูลให้มีคู่เท่านั้น ไอรดาจึงเหมือนเป็นตัวเลือกให้ญาติเหล่านั้นลดการกดดันรามินไป อีกทั้งยังเห็นไพอัสเสียเงินเพราะอยากเอาชนะ ทั้งที่ไม่ได้อะไรที่รามินพึงใจไปเลย
รามินนั่งอ่านงานที่เลขาส่งมาให้ระหว่างที่นั่งรถกลับบ้าน เวลาของเขาหากไม่ทำให้เกิดประโยชน์ย่อมไร้ค่า การพักผ่อนสำหรับเขาคือเวลานอนเท่านั้น จนบางครั้งรามินคิดว่าเขาใช้ร่างกายตัวเองหนักเกินไปหรือเปล่า ชีวิตกับการพักผ่อนควรทำให้สมดุลกว่านี้ การเป็นผู้นำของตระกูลไอมาลได้ทำให้เขาเข้าใจพี่ชายของตัวเองมากขึ้นว่าการแบกอะไรหนักๆ ไว้บนบ่าตลอดเวลาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่เขาต้องทำให้ได้จนกว่าไซรัสจะทำแบบที่เขากำลังอยู่ได้ ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกหลายปี
ญาติแต่ละฝ่ายพร้อมจะห้ำหั่นกัน จนบางครั้งเขาแค่ต้องการมีครอบครัวเล็กๆ เป็นที่พักใจซึ่งไม่ต้องระวังหรือระแวงสิ่งใด การที่พี่ราเมสไปหาคุณนภาแล้วเล่าเรื่องทุกข์ใจหลายเรื่องให้ฟังคงเป็นความสุขเดียวที่หาได้ ซึ่งสิ่งนี้ไนลามอบให้พี่ชายไม่ได้กระมัง นั่นเพราะไนลาเองก็เป็นหนึ่งในกระแสเชี่ยวของอำนาจในตระกูลไอมาล
“จอดรถก่อน” จู่ๆ รามินก็เอ่ย เมื่อเงยหน้าขึ้นมาแล้วเห็นร่างบางที่คุ้นตา
คนขับรถจอดรถใกล้ลัลนาที่กำลังเดินอยู่ในบริเวณกำแพงนอกบ้านของรามิน โดยมีบอดี้การ์ดติดตามมาด้วยหนึ่งคน ในมือของหญิงสาวถือบางอย่าง
รามินลงจากรถโดยมีอิซาตามลงไปด้วย แม้จะเป็นหน้าบ้านตัวเองที่มีกำแพงสูงเป็นระยะทางหลายร้อยเมตร แต่เขาก็ต้องระวังความปลอดภัยให้เจ้านายจนกว่าจะเข้าบ้านที่มีการอารักขาอย่างดี
“ทำไมคุณถึงออกมาเดินเล่นอยู่ตรงนี้ มันไม่ปลอดภัยหรอกนะ ถึงจะเป็นหน้าบ้านของผมก็ตามเถอะ บอดี้การ์ดติดตามเพียงคนเดียวก็ไม่น่าจะพอ” รามินบอกลัลนาด้วยน้ำเสียงปกติ ไม่ได้เข้มขุ่นอะไร
ลัลนายื่นของในมือให้รามินเห็นพลางบอกอย่างอารมณ์ดีเพราะรามินไม่ได้ดุอะไรเธอเลย “ฉันออกมาซื้อขนมที่ร้านใกล้ๆ ตรงนั้นเอง บอดี้การ์ดคนเดียวยังไม่พออีกหรือคะ แถมตรงนั้น ตรงโน้นด้วยก็มีคนของคุณดูแลความปลอดภัยอยู่นี่นา”
รามินมองตามนิ้วเล็กๆ ที่ชี้ไปตามจุดต่างๆ ที่มีบอดี้การ์ดซุ่มอยู่ อีกทั้งยังมีกล้องวงจรปิดอีกหลายตัว ซึ่งมีคนของเขาคอยดูความเคลื่อนไหวอยู่ตลอด หากมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับลัลนา คนของเขาจะออกมาทำหน้าที่คุ้มกันภายในไม่กี่วินาที เธอรู้เรื่องนี้อยู่แล้วเลยออกมาจากบ้านอย่างสบายใจสินะ
“แค่ขนมเท่านี้เอง คุณบอกเมดาหรือบอดี้การ์ดสักคนให้ออกมาซื้อก็ได้”
รามินเดินเคียงลัลนาไป พลอยทำให้ทั้งบอดี้การ์ดและรถต้องตามหลังมาด้วย
ลัลนายื่นขนมมาให้รามินกินด้วยกัน เขาหยิบไปชิ้นหนึ่ง หญิงสาวพูดไปเรื่อยๆ รู้สึกเป็นอิสระ แม้จะชั่วคราว “บางครั้งฉันแค่อยากมีอิสระออกมาเดินหาซื้อของกินเหมือนผู้หญิงคนนั้น หรือคนโน้นบ้างเท่านั้นเอง”
“ขนมที่พ่อครัวเตรียมให้ คุณไม่ชอบหรือ”
ลัลนาหัวเราะเบาๆ เมื่อคิดว่าจะตอบรามินอย่างไรดี แต่เธอไม่รู้จะพูดเรื่องไม่จริงไปทำไม
“บอกตรงๆ ก็ไม่ชอบค่ะ บอกแบบอ้อมๆ ก็พอกินได้ แต่ชอบที่ฉันซื้อมาเองมากกว่า”
รามินทานอาหารที่บ้านเป็นส่วนใหญ่และรู้สึกว่ามันอร่อยถูกปากอยู่แล้ว แต่สำหรับลัลนาที่เติบโตจากประเทศไทย รสชาติอาหารคงไม่เหมือนที่นี่ เขาก็ลืมคิดในเรื่องนี้ไป
“เอาไว้ผมจะบอกให้พ่อครัวทำขนมที่คุณชอบ แต่ถ้าอยากออกมาเดินเล่นก็บอกผมก่อน ที่ผมทำแบบนี้ไม่ใช่ว่าอยากกักบริเวณคุณ”
“ฉันเข้าใจค่ะ เพื่อความปลอดภัยของฉันเอง” เพราะผ่านช่วงเวลาที่เสี่ยงตายมา ทำให้ลัลนาไม่ต่อต้านรามินอีกแล้วในเรื่องนี้
“ขึ้นรถได้แล้ว ผมจะไปส่งคุณที่บ้าน”
อิซารีบไปเปิดประตูให้ลัลนาที่เดินเข้ามานั่งอย่างว่าง่าย แถมยังส่งขนมให้ชิ้นหนึ่ง และยังส่งให้คนขับรถได้ชิมขนมด้วยกันด้วย รามินมองการกระทำที่เรียบง่าย แต่เห็นแล้วสบายใจอย่างประหลาด เขาเองก็อยากใช้ชีวิตที่ง่ายๆ แบบนี้เหมือนกัน แต่มันยังไม่ถึงเวลานั้น
“พรุ่งนี้อิซาจะพาคุณไปดูตัว ชุดสำหรับการดูตัว ผมให้เมดาเตรียมไว้ให้แล้ว” รามินบอกลัลนาเผื่อว่าเธอจะลืม
ลัลนายังกินขนมอย่างสบายใจ แถมยังพูดติดตลกกับรามินด้วยว่า
“คงไม่มีใครอยากให้ฉันมีสามีเท่าคุณอีกแล้ว ขอบคุณค่ะที่มาส่ง”
ลัลนาลงจากรถไปด้วยสีหน้าสบายใจ เรียวคิ้วหนาขมวดมุ่นสงสัยเพราะทุกครั้งที่พูดเรื่องการดูตัว ลัลนามักจะไม่พอใจเสมอ แต่ครั้งนี้กลับต่างออกไป ชายหนุ่มวางมือจากงานเมื่อมีเรื่องให้เขาขบคิด ลัลนาคิดจะทำอะไรอยู่แน่ๆ เธอจะทำอะไร ชายหนุ่มยังคาดเดาไม่ออก ผู้หญิงที่เหมือนจะดูง่าย แต่แท้จริงแล้วลัลนาก็คาดเดาได้ยาก รามินอยากรู้จนอยากเร่งวันคืนเพื่อจะได้รู้คำตอบของรอยยิ้มสบายใจของลัลนา
แต่แล้วในคืนนั้นเอง รามินได้ยินเสียงเพลงบรรเลงเปียโนดังมาจากบ้านที่ลัลนาอยู่ การไปดูตัวทำให้เธอสบายใจถึงเพียงนี้เชียวหรือ ชายหนุ่มฟังเพลงที่ลัลนาบรรเลงเพลิน จนกระทั่งเสียงเปียโนเงียบไป เธอคงกลับไปนอนแล้ว
ลัลนาจะทำอะไร สงสัยเหมือนรามินไหมคะ รอบนี้บอกไปดูตัว แต่ลัลนาอารมณ์ดีขนาดเล่นเปียโนเลยนะ
มี E-BOOK แล้ว โบว์ก็ยัง up นิยายต่อนะคะ คิดว่าโบว์จะลงให้อ่านถึงบทที่ 14 นะคะ อย่าว่ากันนะคะที่ลงจนจบไม่ได้
E-BOOK บ่วงรักรามินมาแล้วนะคะใน MEB

E-BOOK บ่วงรักรามินมาแล้วนะคะใน DEK-D
https://dekd.co/w/e/32551 บ่วงรักรามิน
E-BOOK บ่วงรักรามินมาแล้วนะคะในปิ่นโต
บ่วงรักรามิน | ปิ่นโต อีบุ๊ก อ่านสนุก ทุกหมวดทุกแนว
ตอนนี้มีใน meb ในประเภทนิยายรักค่ะ โบว์ทำโปรโมชั่น ลดแหลกมากจาก 259 เหลือ 149 เป็นเวลา 19 วัน ตามภาวะเศรษฐกิจเลย ไม่เคยลดตอนทำโปรโมชั่นหนังสือใหม่ขนาดนี้เลย เร่เข้ามาค่า ซื้อแล้วรบกวนจิ้มดาวให้หน่อยนะคะ วิจารณ์ได้ ถ้าชอบก็ดีใจ ถ้าไม่ชอบอย่าว่าแรงนะคะ คนเขียนหัวใจไม่แข็งแรงค่า
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ
บรรพตี (อัมราน)
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 120
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น