บทที่ 4...1/3
รามินได้ยินเบิ้ลรถสปอร์ตคันโปรดของไซรัส หลังจากนั้นได้ยินเสียงรถแล่นออกไป เขาถอนใจหันมามองลัลนา ที่ผ่านมาเขาคิดว่าเธอเลือกเชื่อฟังเขาเพราะความกลัว มีความโลภตามประสามนุษย์จึงอดทนหลายๆ อย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ แต่เขามองผิดไป ลัลนาไม่ได้กลัวเขา ไม่กลัวไซรัส ไม่ได้หวังหุ้นจากพี่ราเมส แล้วเธอเดินทางมาพร้อมกับเขาเพราะอะไร แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ถาม ลัลนาก็สาดคำพูดที่เขาไม่คิดว่าเธอจะพูดออกมา
“คุณก็คิดว่าแม่ของฉันกับลุงราเมสมีอะไรที่มากกว่าความเป็นเพื่อนอย่างที่หลานชายของคุณพูดใช่ไหมคะ” ลัลนามองรามินเพื่อหาคำตอบ
รามินถอนใจเพราะเขาเป็นพี่น้องกับพี่ราเมสก็จริง แต่ใช่ว่าพี่น้องจะไม่มีความลับต่อกัน เขายังรอหลักฐานยืนยันบางอย่างอยู่ เพราะฉะนั้นเขาไม่เชื่อใครนอกจากหลักฐาน
“แล้วคุณแน่ใจไหมล่ะว่าที่ตัวเองคิดนั้นถูกต้อง”
ลัลนาเบือนหน้าหันไปมองไฟรวงที่เปิดตามท้องถนน รู้สึกผิดหวังที่รามินก็คิดอย่างที่ไซรัสพูดออกมา การที่ลุงราเมสยกหุ้นให้เธอคงยิ่งทำให้พวกเขาเชื่อในสิ่งที่จินตนาการไปเอง เธอรู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาระหว่างลุงราเมสกับแม่ไม่อะไรที่ผิดศีลธรรมทั้งทางใจและทางกาย
“แบบนี้เองสินะ คุณถึงมีท่าทีแปลกๆ กับฉัน พวกคุณคิดไปแล้วว่าแม่ของฉันทำให้ลุงราเมสกับภรรยามีปัญหากัน เรื่องหุ้นที่ฉันได้ ถ้าฉันบอกว่าแม่ไม่เคยขอ ฉันไม่เคยรู้ คุณคงไม่เชื่อใช่ไหมคะ”
“แล้วมันมีเหตุผลอะไรที่พี่ชายของผมถึงยกหุ้นให้คุณล่ะ คุณคิดดูสิ” รามินถามกลับ เขาไม่ได้บอกว่าเชื่ออะไร เขาเพียงสงสัยและกำลังหาคำตอบเท่านั้น “เรื่องงานก็อย่าทำให้เกิดเรื่องไม่ดี ผู้หญิงอย่างมีเรียมรับมือได้ยาก ถ้าคุณอยากมีชีวิตที่สงบสุขควรทำงานของคุณไป อย่าสนใจเรื่องอื่น”
คำพูดของรามินยิ่งทำให้ลัลนามองเขาอย่างผิดหวัง แม้ว่าเธอจะไม่ได้คาดหวังอะไรจากผู้ชายคนนี้ แต่ขอได้ไหมใครสักคนที่เชื่อว่าเธอพูดความจริง คนที่มั่นใจว่าเธอไม่เคยคิดเรื่องผิดศีลธรรม เธอมาที่นี่เพื่อทำงาน ในเมื่อหนีไม่พ้นก็แค่เดินทางไปตามโชคชะตา ตอนนี้โชคชะตาของเธอคงกำลังเปลี่ยนไปอีกแล้วกระมัง
“ถ้าฉันหว่านเสน่ห์เก่งขนาดนั้น คุณคงหลงไปฉันแล้วล่ะค่ะ” หญิงสาวยิ้มหยัน รามินคิดว่าเธอโกรธไม่เป็นอย่างนั้นหรือ ทุกคนต้องทำตามที่เขาต้องการใช่ไหม “พอกันที ฉันทนอยู่กับคนที่มีความคิดดูถูกฉันอยู่ตลอดเวลาแบบคุณไม่ได้อีกแล้ว”
รามินถอนใจอีกครั้งกำลังจะอธิบายสิ่งที่เขาคิดทั้งที่ไม่ค่อยทำนัก แต่ไม่ทันแล้วเมื่อลัลนายิ้มเหมือนสาแก่ใจอะไรสักอย่าง
“ลาก่อน...หวังว่าจะไม่ต้องมาพบกันอีก” ลัลนาเอ่ยออกมาอย่างเย็นชาก่อนจะเดินจากไป
รามินมองไม่มีคำพูดห้ามปรามออกจากริมฝีปากที่เม้มปิด ในเมื่อมีแต่คนดื้อดึง ชีวิตแต่ละคนเหมือนว่าวที่บางครั้งต้องผ่อนสายป่านเพื่อไม่ให้ปลิวหายไป ตอนนี้ลัลนาเหมือนว่าวที่เขากำลังจับสายป่านไว้ ไม่ได้ปล่อย เพียงแค่เปิดโอกาสให้เธอได้โต้ลมเองสักครั้ง ลัลนาจะได้เข้าใจว่าการเป็นใครสักคนกับการเป็นลัลนาของตระกูลไอมาลต่างกันอย่างไร เด็กดื้อควรได้รับบทเรียนทั้งนั้น รวมทั้งไซรัสด้วย
ช่างน่าโล่งใจสำหรับลัลนาที่ลากกระเป๋าเดินทางออกมาจากคฤหาสน์ที่เหมือนนรกได้โดยที่ไม่มีบอดี้การ์ดมาคอยห้าม นับว่ารามินยังรับฟังคนอื่นอยู่บ้าง เมื่อเขาและคนในครอบครัวรังเกียจเธอและแม่ของเธอขนาดนี้ ป่วยการที่จะต้องมาอยู่ใกล้ๆ ในอาณาบริเวณเดียวกัน มีแค่เมดาที่พยายามทัดทานไม่ให้เธอจากไป แต่ไม่มีอะไรหยุดยั้งเธอได้แล้ว ลัลนาดีใจที่อย่างน้อยยังมีคนที่ห่วงใยเธออยู่บ้าง หญิงสาวเรียกรถแท็กซี่แล้วบอกปลายทางที่ต้องการไปเพราะค้นหาข้อมูลของโรงแรมสำหรับนอนในคืนนี้ไว้แล้ว
แม้เธอจะไม่ได้ไปต่างประเทศบ่อยนัก แต่การที่พูดได้หลายภาษาก็ทำให้เธอเอาตัวรอดได้ในเวลาที่ต้องพึ่งพาตัวเอง ลัลนาโทรหาแอนนาเพื่อเล่าว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองบ้าง เธอรู้การออกมาพักนอกคฤหาสน์หลังนั้นอาจเกิดอันตรายอย่างที่รามินบอกไว้ อย่างน้อยถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ แอนนาจะเป็นเบาะแสว่าเธอไปไหน ทำอะไรและใครที่อาจทำอันตรายกับเธอได้
“อืม ลัลแค่เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางแล้วเรียกรถให้มาส่งที่โรงแรม คิดว่าคืนนี้จะจองตั๋วเครื่องบินเดินทางกลับไทย”
แค่ผ่านคืนนี้ไปได้ก็พอ ลัลนาคิดเพียงเท่านั้นแม้จะหวั่นใจอยู่บ้าง ไซรัสจะตามมาฆ่าเธอไหมนะ ช่างเถอะ เมื่อถึงเวลานั้นก็แค่สู้ให้ถึงที่สุด ไม่ว่าเรื่องอะไรเธอทนได้ทั้งนั้น ยกเว้นเรื่องแม่ ใครก็ห้ามมาว่าร้ายดูถูก
“แล้วเรื่องหุ้น เรื่องมรดกอะไรนั่นล่ะ” แอนนาถาม ตอนนี้เธอถ้าอยู่ไทยคงจองตั๋วเครื่องบินไปหาเพื่อนแล้ว แต่เธออยู่ฝรั่งเศสและยังมีบินต่อไปสองประเทศก่อนกลับไทยด้วย
“ปล่อยไว้อย่างนั้นแหละ ลุงราเมสอยากให้ แต่คนเป็นไม่อยากให้ ลัลไม่อยากได้หรอก” ลัลนาไม่ได้มาดูไบเพราะเงินพวกนั้นตั้งแต่แรก แต่ที่มาเพราะถูกบังคับ ในเมื่อหนีไม่พ้นก็แค่มาให้จบๆ เท่านั้นเอง
“คืนนี้นอนโรงแรมดูแลตัวเองด้วยนะ แอนเป็นห่วง”
“ขอบใจนะ เอาไว้ลัลจะโทรหาอีก” ลัลนาคุยโทรศัพท์ไปก็มองเส้นทางรถจากแอปพลิเคชันนำทางไปด้วย อย่างน้อยก็อุ่นใจได้ว่ารถแท็กซี่ไม่ได้พาออกนอกเส้นทาง
“แอนจะโทรหาลัลเรื่อยๆ นะ”
ลัลนาบอกขอบใจเพื่อนก่อนวางสายเพราะรถมาจอดหน้าโรงแรมพอดี หญิงสาวลงจากรถพร้อมกระเป๋าเดินทางใบเดียวที่มีแต่เสื้อผ้าที่จำเป็น ส่วนของอื่นๆ ที่ไม่ได้เก็บมาด้วยเธอจะคิดว่าช่างมัน รามินอาจสั่งให้เมดาโยนทิ้งไปแล้วก็ได้ เธอเลือกแล้วว่าจะไม่อยู่ที่นั่นกับคนเย็นชา ไร้หัวใจและคิดว่าเธอจะไปหว่านเสน่ห์ใส่คนมีแฟนแล้ว เขาไม่รู้จักเธอเลย
หญิงสาวเข้าไปในห้องที่พนักงานช่วยเปิดประตูให้ เธอนั่งลงเพื่อตั้งสติ แล้วใช้ความเงียบถามตัวเองในหลายๆ เรื่อง ก่อนจะเปิดแอปพลิเคชันเพื่อจองตั๋วเครื่องบิน โชคดีที่เธอมีเงินเก็บมากพอ ทำให้การเดินทางกลับไทยไม่ใช่ปัญหา แต่ก่อนหน้านี้ที่เป็นปัญหาเพราะถูกรามินบังคับให้มาที่ดูไบต่างหาก ตอนนี้เธอเป็นอิสระแล้ว การกลับบ้านตัวเองจึงเป็นทางเดียวที่เธอต้องการ
ลันนาปิดประตูห้องอย่างแน่นหนาและประตูกระจกตรงระเบียงก็ล็อคไว้ทุกบาน เธอไว้ใจใครไม่ได้ทั้งนั้น ตอนนี้ต้องดูแลตัวเองให้ปลอดภัยจนกว่าจะได้ขึ้นเครื่องบินกลับประเทศไทย การที่เธออยู่ที่ดูไบมาเกือบ 2 สัปดาห์ ทำให้รู้ว่าตระกูลไอมาลมีอิทธิพลมากขนาดไหนและในขณะเดียวกันพวกเขาก็มีศัตรูที่เป็นตระกูลอื่นเช่นกัน ฉะนั้นเธอไม่รู้เลยว่าคนที่รามินพูดถึงว่าอาจลักพาตัวหรือต้องการฆ่าเธอเป็นคนจากกลุ่มไหนกันแน่
เพราะฉะนั้นที่นี่ไม่ปลอดภัยสำหรับเธอเลย การไม่มีรามินทำให้เธอกลัวจริงๆ แต่การอยู่ใกล้เขา ถึงแม้ไม่ทำให้เธอกลัวก็จริง ทว่าก็รู้สึกอุ่นใจระคนระแวงในเวลาเดียว ช่างเป็นความรู้สึกที่น่าสับสนเกินกว่าที่เธอจะเข้าใจตัวเองในเวลาแบบนี้ หญิงสาวพยายามข่มตาให้หลับ พรุ่งนี้ยังมีหลายเรื่องที่เธอต้องทำ
แกรก...แกรก...
ลัลนาลืมตามองไปตามเสียงที่เบาแสนเบา แต่เพราะเธอยังไม่หลับทำให้ได้ยินทุกอย่าง เธอก้าวลงจากเตียงแล้วเดินไปหยิบมีดคัตเตอร์ที่พกใส่กระเป๋ามาด้วย น่าเสียดายหากเป็นบ้านที่เมืองไทยเธอจะมีปืนเอาไว้ปกป้องตัวเอง แน่นอนว่าเธอไม่ได้เอาใส่กระเป๋าตอนเดินทางด้วย หัวใจของหญิงสาวเต้นระรัว สิ่งที่กลัวมันกำลังเกิดขึ้นกับเธออีกแล้วใช่ไหม
ไซรัสหรือเปล่า? เขาจะเป็นผู้ชายเจ้าคิดแค้นขนาดนั้นเลยหรือ
แล้วถ้าเป็นรามินล่ะ!
ลัลนาอยากจะคิดว่าเป็นเขา แต่ในส่วนลึกของหัวใจบอกว่าคนสุดท้ายในโลกที่อยากฆ่าเธอยังไงก็ไม่มีทางเป็นรามิน
ประตูถูกเปิดออกมาแล้ว ลัลนากดโทรหาแผนกต้อนรับของโรงแรม แต่กลับไม่มีคนรับสาย เธอเปลี่ยนใจโทรหาตำรวจแทน
แต่มันไม่ทันแล้ว!
ไฟทั้งห้องสว่างพรึบ การที่ลัลนามาแอบอยู่หลังบานประตูในห้องน้ำจะถ่วงเวลาได้นานสักเท่าไหร่กัน มีชายคนหนึ่งคลุมใบหน้าด้วยไหมพรมสีดำเดินเข้ามาในห้องน้ำ ลัลนากลั้นใจพยายามไม่ให้มีเสียงอะไรที่ทำให้ถูกจับได้ แต่แล้วสายตาของชายที่หันกลับมาทำให้เธอรู้ว่าถูกจับได้แล้ว
เพล้ง!?! แก้วที่ลัลนาวางไว้บนโต๊ะข้างหน้าต่างร่วงลงพื้นแตกกระจาย
ลัลนาคงอยากถามคนเขียนว่าแกจะให้ฉันเจออะไรอีก แกจะให้ฉันอึด ถึก ทน ไปถึงไหน 555 เอาน่าลัลนา เดี๋ยวดีเองนะน้องนะ
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ ใครอยากอ่านนิยายเรื่องอื่นๆ ของโบว์ มีใน meb นะคะ ไปอ่านระหว่างรอเรื่องนี้ได้ค่ะ
อัมราน l บรรพตี - อีบุ๊กหนังสือ นิยาย การ์ตูน (คลิก)
บรรพตี (อัมราน)


แสดงความคิดเห็น