บทที่ 411 เบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่
บทที่ 411 เบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่
เซี่ยหยู่เว่ยรีบลากเสินเมิ่งเหยาขึ้นรถสปอร์ตพร้อมกับขับไปที่สตูดิโอของลู่หยางด้วยความรวดเร็ว แต่ทันทีที่พวกเธอจอดรถมันก็มีรถสปอร์ตอีกคันขับมาที่สตูดิโอเหมือนกัน
เมื่อเซี่ยหยู่เว่ยและเสินเมิ่งเหยาลงจากรถ พวกเธอก็เห็นเด็กหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งลงจากรถสปอร์ตมาเช่นกัน ขณะที่ทั้งสองฝ่ายสบสายตากันทั้งคู่ต่างก็แสดงสีหน้าออกมาอย่างประหลาดใจ
“เซี่ยหยู่เว่ย!”
“เจียงเจ๋อ!”
ทั้งสองต่างก็อุทานขึ้นมาพร้อมกันและเมื่อพวกเขาสบตากัน ทั้งคู่ต่างก็เผยรอยยิ้มออกมาราวกับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไร
“เธอเล่นไม่ซื่อนะ ใครจะไปคิดว่าราชินีกุหลาบจะใช้แผนยั่วยวนแบบนี้” เจียงเจ๋อกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มขึ้นมาด้วยความเจ้าเล่ห์
“แผนยั่วยวนอะไรกัน? พวกเราแค่จะมาขออุปกรณ์อย่างเปิดเผยต่างหาก” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าวพร้อมกับกอดแขนหลานอวี่เอาไว้
หลังจากพูดจบทั้งสองฝ่ายต่างก็เดินเข้าไปเคาะประตู
“ทำไมหัวหน้าถึงอยู่ตึกใหญ่ขนาดนี้นะ?” เซี่ยหยู่เว่ยถาม
เสินเมิ่งเหยาและเจียงเจ๋อต่างก็ส่ายหัวพร้อม ๆ กัน เพราะพวกเขาไม่เคยเข้าไปในสตูดิโอมาก่อน
“ฉันก็ไม่รู้ ฉันแค่ได้ยินพ่อบอกมาว่าลู่หยางสร้างสตูดิโออยู่ที่นี่” เจียงเจ๋อกล่าว
“พวกคุณมาหาใครครับ?” หลู่จ้าวหยูเปิดประตูมาถามอย่างสงสัย
“พวกเรามาหาลู่หยาง ฉันชื่อเซี่ยหยู่เว่ย ส่วนสองคนนี้คือหลานอวี่กับเจียงเจ๋อเป็นสมาชิกภายในกิลด์เดียวกันกับเขา” เซี่ยหยู่เว่ยแนะนำตัว
“เชิญด้านในเลยครับ” หลู่จ้าวหยูกล่าวด้วยแววตาอันเป็นประกาย
“ทั้ง 3 ท่านคือผู้ถือหุ้นของกิลด์ ส่วนคุณเจียงเจ๋อก็คือผู้ถือหุ้นใหญ่ของสตูดิโอสินะครับ ทุกท่านกรุณารอสักครู่ก่อนเดี๋ยวผมจะไปตามหัวหน้ามาให้” หลู่จ้าวหยูกล่าวขณะพาทุกคนไปพักในห้องโถง
เจียงเจ๋อไม่เคยรู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าเขาคือผู้ถือหุ้นใหญ่ของสตูดิโอนี้ ชายหนุ่มจึงทำได้เพียงแต่มองไปรอบ ๆ อย่างประหลาดใจ
ไม่นานฮั่นจงก็เดินลงมายังชั้นล่าง ซึ่งหลังจากที่เขาแนะนำตัวสั้น ๆ แล้วเขาก็พูดขึ้นมาว่า
“ลู่หยางเพิ่งได้นอนเมื่อตอนเช้า ตอนนี้เขายังนอนได้ไม่ถึง 3 ชั่วโมงเลย…”
ระหว่างที่ฮั่นจงกำลังพูดอยู่นั้น เจียงเจ๋อก็พูดแทรกขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
“คุณคือเจ้าของร้านตีเหล็กจงซินทางตอนเหนือของเมืองใช่ไหมครับ?”
เซี่ยหยู่เว่ยและเสินเมิ่งเหยาต่างก็รู้สึกคุ้น ๆ หน้าฮั่นจงด้วยเหมือนกัน เมื่อทั้งคู่ได้ยินคำพูดของเจียงเจ๋อ สาว ๆ ทั้งสองก็มองไปยังฮั่นจงด้วยความตื่นเต้น
“ใช่ ฉันเอง” ฮั่นจงกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ
ทันใดนั้นพวกเซี่ยหยู่เว่ยก็เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวต่าง ๆ ได้ในทันที
“อย่างนี้นี่เอง สาเหตุที่กิลด์ของเรามีอุปกรณ์ระดับทองโผล่ขึ้นมามากมายขนาดนั้น ที่แท้ก็เพราะว่าหัวหน้ามีร้านตีเหล็กจงซินคอยให้การสนับสนุนอยู่ทางด้านหลังสินะคะ” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าว
“ใช่แล้ว” ฮั่นจงกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“ถ้าอย่างนั้นที่นี่ก็เป็นสำนักงานใหญ่ของร้านตีเหล็กจงซินใช่ไหมครับ?” เจียงเจ๋อถาม
“ใช่” ฮั่นจงกล่าวเพราะเขาคิดว่าพ่อของเจียงเจ๋อน่าจะบอกเรื่องนี้กับอีกฝ่ายแล้ว ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงเจียงเจ๋อยังไม่ได้รู้เรื่องราวเบื้องหลังเหล่านี้เลย
“ถึงว่าทำไมพ่อถึงกล้าลงทุนมากขนาดนั้น ที่แท้มันก็เป็นเพราะลู่หยางแอบซ่อนร้านตีเหล็กเอาไว้นี่เอง” เจียงเจ๋อพึมพำขึ้นมาเบา ๆ และเขาก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมพ่อของเขามักจะบอกให้ตัวเองเดินทางมาที่สตูดิโอของลู่หยาง เพราะอีกฝ่ายต้องการให้เขาค้นพบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
อย่างไรก็ตามเจียงเจ๋อก็มักจะชอบเที่ยวเล่นมากกว่าและคิดว่าลู่หยางเป็นพี่น้องที่เขาไว้ใจได้อยู่เสมอ เขาจึงไม่สนใจจะเดินทางมาตรวจสอบสตูดิโอเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“ระหว่างรอ ทั้ง 3 คนลองเดินชมสตูดิโอนี้ก่อนไหม?” ฮั่นจงเสนอ
ทั้ง 3 ต่างก็พยักหน้ารับพร้อมกัน
ขั้นแรกฮั่นจงได้พาทั้ง 3 เดินชมพื้นที่ทั้ง 4 ส่วนของชั้นที่ 1 ได้แก่พื้นที่ของช่างตัดเย็บ, ช่างตีเหล็ก, ช่างหนังและวิศวกร
“พื้นที่แต่ละโซนจะมีคนทำงานพร้อมกันมากกว่า 300 คนทำให้ในทุก ๆ วันเราสามารถผลิตอุปกรณ์ได้อย่างน้อย 3,000 ชุด ภายในปัจจุบันของที่เราผลิตขึ้นมาก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดอยู่ดี” ฮั่นจงกล่าว
ยิ่งเวลาผ่านไปจำนวนของผู้เล่นที่เข้ามาในเกมเซคคัลเวิลด์ก็มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้ร้านจงซินได้รับคำสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก ซึ่งในความเป็นจริงผลกำไรจากร้านตีเหล็กแห่งนี้เพียงแห่งเดียวมันก็สามารถทำให้พ่อของเจียงเจ๋อได้เงินลงทุนคืนภายในเวลาไม่ถึง 1 ปี
“ทำไมทุกคนถึงมาที่นี่ได้ล่ะ?” ลู่หยางถามหลังจากเดินลงมาจากชั้นบน
“ลุงฮั่นบอกว่านายนอนอยู่ไม่ใช่เหรอ?” เจียงเจ๋อถาม
“เมื่อกี้พวกนายยังไม่ทันได้ฟังฉันพูดจนจบ ฉันบอกว่าเขากำลังนอนอยู่จริง ๆ แต่หลังจากที่เขาได้ยินว่าพวกนายมาเขาก็เลยรีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วให้ฉันพาทุกคนเดินชมที่นี่ก่อนเป็นการฆ่าเวลา” ฮั่นจงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ทันใดนั้นทั้งสามก็เผยรอยยิ้มขึ้นมาอย่างเขิน ๆ โดยเฉพาะเจียงเจ๋อที่เป็นคนพูดแทรกฮั่นจงขึ้นมา
“ไม่เป็นไร เอาเป็นว่าฉันกลับไปทำงานต่อแล้ว ทุกคนพูดคุยกันต่อไปเถอะ” ฮั่นจงกล่าวก่อนจะเดินจากไป
“พี่ชาย นี่นายแอบซ่อนร้านตีเหล็กจงซินเอาไว้จากพวกเราเหรอ?!” เจียงเจ๋อพุ่งเข้าไปหาลู่หยางพร้อมกับกล่าวขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
“ฉันชวนนายมาที่สตูดิโอตั้งนานแล้ว แต่นายไม่ยอมมาเอง” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ของ ๆ นายมันก็เหมือนของ ๆ ฉันนั่นแหละ ถึงฉันจะมาหรือไม่มาแต่สุดท้ายผลลัพธ์มันก็เหมือนกัน” เจียงเจ๋อกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาเจื่อน ๆ
“พี่ชายคนนี้มีความลับเยอะจริง ๆ” เสินเมิ่งเหยากล่าว
“หัวหน้า ฉันไม่สนใจเรื่องที่คุณปกปิดไว้หรอกนะ แต่คราวนี้ฉันขออุปกรณ์ที่คุณได้มาเมื่อคืนครึ่งหนึ่ง เพราะในทีมฉันมีผู้เล่นเลเวล 30 ตั้ง 30,000 คนแล้ว”
“ฉันให้พวกเธอได้แค่คนละ 5,000 ชุด” ลู่หยางกล่าว
นับตั้งแต่ที่เขาคาดเดาว่าเป้าหมายของหวังเถิงคือฉงป้า เขาก็วางแผนทำการสังหารสมาชิกของบลัดไทแรนท์กลางเมืองมาโดยตลอด ยิ่งไปกว่านั้นเขายังสั่งให้ถูเฟิงเร่งผลิตอุปกรณ์ตลอดเวลาทำให้ในตอนนี้ภายในคลังของกิลด์มีอุปกรณ์ระดับทองอยู่อีกประมาณ 7,000 ชุด
“ขอบคุณค่ะหัวหน้า เพื่อแสดงความขอบคุณเอาเป็นว่าฉันยกเสินเมิ่งเหยาให้กับคุณเลย” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าว
เสินเมิ่งเหยาทำได้เพียงแต่กรอกตาให้กับเพื่อนสาวของตัวเอง เพราะตั้งแต่ที่เซี่ยหยู่เว่ยรู้จักกับลู่หยางมานับวันเธอก็ยิ่งไม่น่าไว้วางใจมากขึ้นเรื่อย ๆ
“เสินเมิ่งเหยาเป็นของฉันอยู่แล้ว เธอเอาของของฉันมาให้ฉันแบบนั้นมันไม่ยุติธรรมเลย” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับกรอกตาด้วยเหมือนกัน
“มีใครถามความเห็นของฉันบ้างไหมเนี่ย!” เสินเมิ่งเหยากล่าวพร้อมกับทำแก้มป่อง
“เธอเป็นเพื่อนฉันใช่ไหม?” เซี่ยหยู่เว่ยถาม
“เธอเป็นแฟนฉันใช่ไหม?” ลู่หยางถามขึ้นมาพร้อมกัน
“ก็ใช่ทั้งคู่” เสินเมิ่งเหยาตอบ
“ถ้าใช่แล้วสิ่งที่ฉันพูดมันผิดอะไรตรงไหน?” ลู่หยางกับเซี่ยหยู่เว่ยตอบขึ้นมาพร้อม ๆ กัน ก่อนที่ทั้งคู่จะหันมาสบตากันราวกับคนที่รู้ใจ ซึ่งเหตุการณ์นี้มันก็ทำให้เสินเมิ่งเหยารู้สึกสับสนจนมึนงงไปหมด
อย่างไรก็ตามเสินเมิ่งเหยาก็รู้สึกชื่นชมลู่หยางมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะอีกฝ่ายเริ่มต้นมาจากศูนย์แต่สามารถพัฒนามาได้ไกลมาก ซึ่งมันเป็นสิ่งที่คนธรรมดายากที่จะทำได้
เมื่อเซี่ยหยู่เว่ยเห็นเสินเมิ่งเหยามองไปยังลู่หยางด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรัก เธอจึงจูงมือน้องสาวสุดที่รักไปหาลู่หยางพร้อมกับพูดว่า
“พวกเราไม่กวนคุณแล้วคุณกลับไปพักผ่อนต่อเถอะ”
“ฉันก็จะไปแล้วด้วยเหมือนกัน” เจียงเจ๋อกล่าว
ลู่หยางพยักหน้ารับ ซึ่งหลังจากที่ทั้ง 3 กลับไปแล้วเขาก็ตัดสินใจออกกำลังกายเล็กน้อยก่อนที่จะเข้าเกมในทันที ขณะที่เจียงเจ๋อ, เซี่ยหยู่เว่ยและเสินเมิ่งเหยาก็กลับไปเข้าเกมด้วยเช่นกัน
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 135
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น