บทที่ 390 สงครามที่ใกล้เข้ามา

-A A +A

บทที่ 390 สงครามที่ใกล้เข้ามา

บทที่ 390 สงครามที่ใกล้เข้ามา

พวกลู่หยางเปิดกล่องแพนดอร่าไปจนถึงกล่องสุดท้าย ซึ่งหลังจากที่บอสปรากฏขึ้นมาหลายตัวในที่สุดราชาแมมมอธก็ดรอปมีดเอสเคพเดจเจอร์ลงมา

“คราวนี้เราโชคดีนะเนี่ยได้มีดเอสเคพเดจเจอร์มาตั้ง 2 เล่มเลย” ลู่หยางกล่าว

“ได้มีดเอสเคพเดจเจอร์มาเพิ่มมันก็ดีหรอก แต่ผมตายไปมากกว่าร้อยรอบแล้วนะครับ” ฮั่นเฟยกล่าวพร้อมกับนอนแผ่บนพื้นอย่างหมดแรง

“ยังดีหน่อยของผมแค่ 80 กว่าครั้ง” ฮั่นอวี่กล่าว

“เอาเป็นว่าคราวนี้พวกนายเอามีดเอสเคพเดจเจอร์กันไปคนละเล่ม รีบไปเปลี่ยนบัญชีกลับมาเป็นบัญชีปกติได้แล้ว” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ

เมื่อได้ยินว่าลู่หยางยกมีดเอสเคพเดจเจอร์ให้กับพวกเขา ฮั่นเฟยกับฮั่นอวี่ต่างก็รีบลุกขึ้นไปเปลี่ยนบัญชีอย่างรวดเร็ว

“หัวหน้าถ้าอย่างนั้นพวกเราออกจากเกมแล้วนะครับ” ฉิงชางกล่าว

ลู่หยางพยักหน้ารับและในทันใดนั้นจินปู้ฮวนก็ติดต่อเข้ามา

“หัวหน้า บลัดไทแรนท์มาสั่งน้ำยาจากร้านผม 20,000 ชุด ผมควรจะตอบตกลงกลับไปดีไหมครับ?” จินปู้ฮวนถาม

“นายต้องใช้เวลาปรุงน้ำยาพวกนั้นกี่วัน?” ลู่หยางถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

“อย่างเร็วที่สุดคือ 3 วันครับ” จินปู้ฮวนตอบ

ปัจจุบันในร้านเพลิงโลหิตมีนักปรุงยาระดับสูงอยู่มากกว่า 1,500 คนแล้ว มันจึงกลายเป็นร้านขายยาที่ใหญ่ที่สุดในเซิฟเวอร์และมีกำลังในการผลิตน้ำยามากที่สุดภายในเซิฟเวอร์อีกด้วย

“นายตอบตกลงกลับไปได้เลย แต่บอกมันไปว่านายต้องใช้เวลาในการปรุงยา 5 วัน การทำธุรกิจครั้งนี้น่าจะสร้างผลกำไรให้กับร้านมากพอสมควรเลย” ลู่หยางกล่าว

การสั่งน้ำยา 20,000 ชุดเท่ากับการที่พวกเขาขายน้ำยาได้ 600,000 ขวด หากน้ำยาเหล่านี้มีราคาเฉลี่ยขวดละ 10 เหรียญเงิน มันก็หมายความว่าในคราวนี้ร้านเพลิงโลหิตสามารถทำเงินจากบลัดไทแรนท์ได้ถึง 60,000 เหรียญทอง

“ถ้าผมขายน้ำยาพวกนั้นไปเขาจะไม่เอาน้ำยากลับมาโจมตีกิลด์ของเราเหรอครับ? ถ้าพวกเขาเปิดสงครามกับกิลด์ของเราขึ้นมาจริง ๆ ผมคงจะรู้สึกผิดไปอีกนานเลย” จินปู้ฮวนกล่าว

“วางใจเถอะ หลังจากนี้อีก 5 วันถึงบลัดไทแรนท์จะมาโจมตีฉันจริง ๆ แต่เขาก็จะต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้กลับไปอย่างแน่นอน” ลู่หยางกล่าวอย่างมั่นใจ

ในช่วงเวลา 5 วันนี้ลู่หยางมั่นใจว่าจะช่วยพวกฮั่นชาเพิ่มเลเวลจนถึง 50 ในเวลานั้นถึงแม้บลัดไทแรนท์จะไม่มาหาเขา แต่เขาก็จะส่งของขวัญชิ้นใหญ่ไปให้กับอีกฝ่ายเอง

หลังจากวางสายชายหนุ่มก็ทำการเทเลพอร์ตไปยังวิหารเทพอสูรเพื่อทำการอัปเกรดมีดเอสเคพเดจเจอร์ทั้งสองเล่มให้กลายเป็นบวกสิบ จนทำให้พวกมันเหมือนกับมีดเอสเคพเดจเจอร์ของเขาทุกประการ

เช้าวันรุ่งขึ้น

หลังออกกำลังกายตอนเช้าจนเสร็จ ลู่หยางก็ได้พาพวกฮั่นอิ่งและฮั่นชามุ่งหน้าตรงไปยังสปิริตอะคาเดมี่

สงครามครั้งต่อไปใกล้จะเริ่มต้นขึ้นแล้วและเขาก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการต่อสู้ที่จะมาถึง

“ภายใน 5 วันนี้เซี่ยหยู่เว่ยจะต้องมีทีมผู้เล่นเลเวล 30 อย่างน้อย 30,000 คน ส่วนแม่ทัพคนอื่น ๆ ต้องมีทีมผู้เล่นเลเวล 30 อย่างน้อย 20,000 คน” ลู่หยางสั่งการเข้าไปในแชทกลุ่ม

“เรากำลังจะทำสงครามงั้นเหรอครับ?” ไป๋เหลิงถาม

“ทุกคนยังไม่จำเป็นต้องรู้ เอาเป็นว่าฉันมีแผนก็แล้วกัน” ลู่หยางตอบ

“ลู่หยาง ถ้าทุกคนเก็บเลเวลกันเร็วขนาดนั้นวัตถุดิบสำหรับอุปกรณ์เลเวล 30 ของเรามันจะไม่พอเอานะ” ถูเฟิงกล่าว

“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวนายรอกลายเป็นเศรษฐีได้เลย” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

หลังจากวางสายลู่หยางก็พาทุกคนเข้าไปในสปิริตอะคาเดมี่ แต่น่าเสียดายที่มอนสเตอร์ด้านหน้าห้องทดลองที่ถูกฆ่าไปตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่กลับมาเกิดใหม่

ลู่หยางใช้โอกาสนี้พาพวกฮั่นอิ่งเดินผ่านห้องทดลองห้องสุดท้ายไปยังประตูใหญ่หน้าลานกว้างแห่งหนึ่ง

อันเดดสแควร์

ตามเนื้อเรื่องของตัวเกมหลังจากมนุษย์ถูกมอนสเตอร์บุกโจมตีสปิริตอะคาเดมี่หลายครั้ง ร่างของทุกคนที่เสียชีวิตก็จะถูกพวกแมลงขนมากองไว้ที่นี่

ในบรรดาเหล่าแมลงมีแมลงที่มีสติปัญญาอยู่ไม่น้อย ซึ่งหนึ่งในนั้นมันก็รวมถึงมาเธอร์บัค 1 ใน 4 แมลงโบราณภายใต้การบัญชาการของราชาแมลงคานูโดะ

มาเธอร์บัคได้ใช้แมลงที่ตัวเองฟักออกมาเข้าควบคุมร่างกายของมนุษย์และมอนสเตอร์ทั้งหมดที่เสียชีวิตภายในสงครามครั้งนั้น และเปลี่ยนให้พวกเขากลายเป็นอันเดดที่อยู่ภายใต้กองทัพของเผ่าแมลง

“โอ้โห ในนี้มีซอมบี้เยอะจัง มันมีแม้กระทั่งออร์คซอมบี้ด้วย” ฮั่นเฟยกล่าวหลังจากมองไปยังซอมบี้จำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่ด้านในอันเดดสแควร์

ออร์คซอมบี้ (ระดับกึ่งอีลิท)

เลเวล 60

พลังชีวิต 30,000/30,000

มอนสเตอร์เหล่านี้ก็ยังคงเป็นเหมือนกับมอนสเตอร์ตัวอื่น ๆ ในสปิริตอะคาเดมี่คือพวกมันมีพลังป้องกันที่สูงมากแลกมากับการมีพลังชีวิตเพียงแค่นิดเดียว

ลู่หยางชี้นิ้วไปยังรูปปั้นทางด้านขวาของลานกว้าง ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า

“ฮั่นเฟย ฮั่นอวี่ เอามีดเอสเคพเดจเจอร์ไปให้กับฮั่นอิ่งกับมู่หยู พวกนายรอกันอยู่ที่นี่ก่อนเดี๋ยวพวกเรา 3 คนจะใช้มีดเอสเคพเดจเจอร์กระโดดขึ้นไปยืนอยู่บนรูปปั้นนั้น”

รูปปั้นที่ลู่หยางชี้ไปเป็นรูปปั้นนักเวทชราถือหนังสือเวทมนตร์ด้วยมือซ้ายและถือไม้เท้าด้วยมือขวา โดยขนาดของรูปปั้นสูงขึ้นไปจากพื้นอยู่ที่ประมาณ 50 เมตร

นี่คือตำแหน่งบัคที่ผู้เล่นได้ใช้กันในชาติก่อน แต่คนที่จะปีนขึ้นไปบนรูปปั้นได้จำเป็นจะต้องมีมีดเอสเคพเดจเจอร์เท่านั้น เนื่องมาจากในตอนนี้พวกเขามีมีดเอสเคพเดจเจอร์เพียงแค่ 3 เล่ม มันจึงจำเป็นจะต้องให้พวกเขาทั้ง 3 คนเดินทางไปก่อน

ฮั่นเฟยกับฮั่นอวี่พยักหน้ารับก่อนจะส่งมีดเอสเคพเดจเจอร์ให้ฮั่นอิ่งและมู่หยูอย่างว่าง่าย

“เทพแห่งเพลิงผู้ยิ่งใหญ่…”

ลู่หยางเริ่มท่องคาถาต้องห้ามทำให้ใน 10 วินาทีต่อมามันได้มีดาวตกขนาดมหึมาพุ่งลงมากลางลาน ซึ่งการโจมตีในครั้งนี้ก็ทำให้ออร์คซอมบี้ทั้งหมดในรัศมี 200 เมตรต่างก็ติดสถานะสตั๊นด้วยกันทั้งหมด

“วิ่ง!” ลู่หยางตะโกนสั่งพร้อมกับพาเด็กสาวทั้งสองคนวิ่งฝ่าฝูงมอนสเตอร์ไปยังใต้รูปปั้นอย่างรวดเร็ว

“กระโดดขึ้นไปยืนบนหนังสือ” ลู่หยางสั่ง

ตัวรูปปั้นมีขนาดใหญ่มากและหนังสือที่รูปปั้นกำลังถืออยู่นั้นก็มีความกว้างมากพอที่จะให้ผู้เล่น 2 คนขึ้นไปยืนพร้อมกันได้สบาย ๆ

ฮั่นอิ่งและมู่หยูโยนมีดเอสเคพเดจเจอร์พร้อมกับเทเลพอร์ตขึ้นไปยืนอยู่บนรูปปั้นอย่างแม่นยำ ซึ่งในระหว่างนั้นลู่หยางก็โยนมีดเอสเคพเดจเจอร์ไปยืนอยู่ในมืออีกข้างของรูปปั้น ซึ่งมีพื้นที่เพียงพอสำหรับคนยืนได้เพียงแค่คนเดียว

โฮก!

ออร์คซอมบี้ส่งเสียงร้องคำรามขึ้นมาพร้อม ๆ กัน ก่อนที่พวกมันจะวิ่งเข้าหารูปปั้นด้วยความโกรธแค้น

ในเวลาเพียงแค่ไม่ถึง 5 วินาทีบริเวณใต้รูปปั้นก็มีซอมบี้รวมตัวกันนับหมื่น ๆ ตัว ภาพเหตุการณ์นี้จึงทำให้ทุกคนนึกถึงภาพภายในหนังซอมบี้ขึ้นมา

“มู่หยูใช้เวทมนตร์ต้องห้ามโจมตีหน้ารูปปั้น เดี๋ยวพี่จะรับหน้าที่โจมตีทางด้านหลัง ส่วนฮั่นอิ่งใช้ดีม่อนซีดโจมตีไปพร้อม ๆ กันเลย” ลู่หยางสั่ง

“ได้ค่ะ” มู่หยูกับฮั่นอิ่งตอบพร้อมกัน

เมเทโอเชาเวอร์!

สแตติคสตอร์ม!

เวทมนตร์ต้องห้ามทั้งสองถูกปล่อยออกมาพร้อม ๆ กันทำให้ภาพเหตุการณ์ในบริเวณนี้คล้ายกับภาพวันสิ้นโลกที่มีทั้งสายฟ้าและอุกกาบาตตกลงมาจากท้องฟ้าอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ฮั่นอิ่งยังโรยดีม่อนซีดลงไปในร่างของพวกออร์คซอมบี้อย่างต่อเนื่อง และเมื่อพวกมันเสียชีวิตในระหว่างที่เมล็ดพันธุ์ยังคงเติบโตอยู่ ดีม่อนซีดก็จะเกิดการระเบิดสร้างความเสียหายให้กับมอนสเตอร์ที่อยู่โดยรอบ

ในเวลาเพียงแค่ไม่ถึง 30 วินาทีออร์คซอมบี้ที่อยู่รอบ ๆ รูปปั้นก็เสียชีวิตลงไปกว่า 3,000 ตัวทำให้พวกฮั่นชามีเลเวลเพิ่มขึ้นมาเป็น 36

มังกรไฟ!

ชายหนุ่มเริ่มทำการวางมังกรไฟในรัศมี 30 เมตรรอบ ๆ ฐานรูปปั้นเอาไว้ไม่หยุด ซึ่งหลังจากที่เวลาผ่านพ้นไปเพียงแค่ไม่นานบนพื้นก็มีมังกรไฟถูกวางเอาไว้ถึง 200 ตัว

“เสี่ยวเหลียง ฮั่นเฟย ฮั่นอวี่ ออกไปล่อมอนสเตอร์เข้ามาให้ได้มากที่สุด” ลู่หยางตะโกนสั่ง

“ได้ครับ” พวกเสี่ยวเหลียงตะโกนรับคำสั่งก่อนจะวิ่งเข้าไปภายในลานอย่างรวดเร็ว

เนื่องมาจากพวกเขาเป็นเพียงแค่ผู้เล่นเลเวล 30 กว่า ๆ พวกเขาจึงสามารถถูกมอนสเตอร์เลเวล 60 พบเห็นได้ตั้งแต่ระยะ 30 เมตร ด้วยเหตุนี้พวกเสี่ยวเหลียงจึงหลอกล่อเหล่าซอมบี้เข้ามาได้อย่างง่ายดาย

เมื่อพวกซอมบี้วิ่งเข้ามาใกล้กับรูปปั้น มังกรไฟทั้งสองร้อยกว่าตัวก็พ่นลูกไฟขนาดใหญ่เข้าใส่ฝูงซอมบี้พร้อม ๆ กัน

ในชั่วพริบตามันก็มีลูกไฟปกคลุมไปทั่วทั้งลานทำให้ฝูงซอมบี้ที่วิ่งเข้ามาถูกสังหารก่อนที่จะเข้ามาใกล้รูปปั้นในระยะ 30 เมตรเสียอีก

ฮั่นอิ่งใช้โอกาสนี้กระโดดลงไปทางด้านล่าง ก่อนที่จะทำการปล่อยสกิลดีม่อนซีดเข้าใส่พวกออร์คซอมบี้ไม่หยุด

ทุกครั้งที่ออร์คซอมบี้เสียชีวิตลงไป 1 ตัว ดีม่อนซีดก็จะระเบิดสร้างความเสียหายแก่มอนสเตอร์รอบ ๆ ในระยะ 30 เมตร และถึงแม้ว่าในระยะแรกความเสียหายจากเมล็ดพันธุ์เหล่านี้จะยังไม่เห็นผลมากนัก แต่หลังจากที่มีออร์คซอมบี้เสียชีวิตไปประมาณ 100 ตัว ดีม่อนซีดที่ถูกฝังไว้ในออร์คซอมบี้ตัวอื่น ๆ ก็ระเบิดขึ้นมาพร้อม ๆ กันในพริบตาทำให้ออร์คซอมบี้ที่อยู่ใกล้ ๆ เสียชีวิตลงไปพร้อม ๆ กันนับพันตัว

ระบบ: คุณได้รับค่าประสบการณ์ 3,167 หน่วย

พวกฮั่นเฟยมองภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าด้วยความตกตะลึง เพราะภาพที่เกิดขึ้นมันไม่ต่างไปจากการที่ฝูงมอนสเตอร์ถูกเวทมนตร์ต้องห้ามกวาดล้างพวกมันเลย

“อย่าเหม่อ! ไปล่อมอนสเตอร์เข้ามาอย่าหยุด” ลู่หยางตะโกนเตือนสติ

มอนสเตอร์ที่พวกฮั่นเฟยทั้ง 3 คนหลอกล่อมาถูกสังหารไปจนหมดแล้ว พวกเขาจึงรีบวิ่งกระจายกันออกไปเพื่อหลอกล่อมอนสเตอร์ฝูงใหม่เข้ามาอีกครั้ง

“พี่ให้พวกเราไปช่วยล่อมอนสเตอร์ด้วยไหมครับ?” ฮั่นชาติดต่อเข้ามาถามลู่หยาง

“ฮั่นชา ฮั่นหยู ฮั่นเมิ่งแยกออกไปล่อมอนสเตอร์กันเข้ามา ส่วนคนอื่นให้รออยู่ที่เดิม” ลู่หยางกล่าว

“ครับ/ค่ะ” ทั้ง 3 คนกระโดดลงไปในลานอย่างตื่นเต้น ก่อนที่จะกระจายแยกย้ายไปหลอกล่อมอนสเตอร์กันจากสารทิศ

เมื่อมีคนช่วยหลอกล่อมอนสเตอร์พร้อม ๆ กันถึง 6 คน มันก็ทำให้ความเร็วในการเก็บเลเวลของทีมเพิ่มขึ้นจากเดิมมาก ในเวลาไม่ถึง 5 ชั่วโมงพวกฮั่นอิ่งก็มีเลเวลเพิ่มขึ้นเป็น 45 ลู่หยางมีเลเวลเพิ่มขึ้นเป็น 41 และพวกฮั่นชามีเลเวลเพิ่มขึ้นเป็น 37

หลังจากเลเวล 40 เป็นต้นไปค่าประสบการณ์ที่ผู้เล่นต้องใช้ในการเพิ่มเลเวลก็มีจำนวนอยู่มากกว่า 100 ล้านหน่วย โชคดีที่ลู่หยางรู้จักวิธีการเก็บเลเวลในแผนที่เลเวล 60 ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็คงจะเก็บเลเวลเชื่องช้าไม่ต่างไปจากผู้เล่นคนอื่น ๆ

 

 


 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.