บทที่ 354 ขัดเกลาจิตใจ
บทที่ 354 ขัดเกลาจิตใจ
ระหว่างที่ลู่หยางพูดคุยกับลิ่วเจีย ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็มองไปที่เขาอย่างสงสัย
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ?” หัวหน้าฉิงชางถาม
“เมื่อกี้ลิ่วเจียที่เป็นทายาทของบริษัทจงเทียนเสนอเงิน 30 ล้านเพื่อซื้อหุ้นกิลด์ของเรา 80%”
“บ้าบอ! เขากล้าเสนอเงินแค่นั้นมาได้ยังไง” บิทเทอร์เลิฟด่าทอขึ้นมา เพราะหลังจากได้คำนวณรายได้จากป้อมปราการ เงิน 30 ล้านยังไม่คุ้มค่ากับการขายหุ้น 1% เลยด้วยซ้ำ
“มันเป็นพวกโรคจิตหรือยังไง?” เหมาชิวกล่าว
“มันไม่ใช่แค่โรคจิตแต่ยังเป็นพวกวิปริตด้วย มันขู่ฉันกลับมาว่าถ้าฉันไม่ยอมขายหุ้นให้กับมัน มันก็จะไปซื้อกิลด์อื่นแล้วมาทำลายกิลด์ของเรา” ลู่หยางกล่าว
“สารเลว! ไอ้นี่มันจะทำตัวหยิ่งผยองมากเกินไปแล้ว ถ้ามันกล้าพาคนบุกมาผมจะเป็นคนออกไปฆ่าพวกมันเอง” ไป๋เหลิงกล่าว
“ใจเย็น ๆ อย่าเพิ่งประมาทมันเด็ดขาด ตอนนี้ในเกมมีกิลด์ที่ยังขาดแคลนเงินทุนอยู่ไม่น้อย หมายความว่ามันอาจจะซื้อกิลด์หลาย ๆ กิลด์ได้ในราคาถูก ช่วงนี้พวกนายไปจัดการธุระของตัวเองกันต่อเถอะ เดี๋ยวฉันขอออกไปจัดการเรื่องบางอย่างเพื่อเตรียมการเอาไว้ก่อน” ลู่หยางกล่าว
“ได้ครับ” ฉิงชางและคนอื่น ๆ หันมามองตากันด้วยความโกรธ ก่อนที่พวกเขาจะแยกย้ายกันออกไปเพื่อพาทีมของตัวเองไปเก็บเลเวล
หลานอวี่กำลังจะเดินตามพวกเซี่ยหยู่เว่ยไปด้วย แต่ลู่หยางก็ได้ดึงตัวเธอเอาไว้เสียก่อน
“ลืมไปแล้วเหรอว่าฉันขอยืมตัวเธอมาแล้วนะ”
“พี่จะให้ฉันไปทำอะไรอีก?” หลานอวี่ถามพร้อมกับยื่นปากออกมาเล็กน้อย เพราะเธอคิดว่าลู่หยางกำลังหาโอกาสจะแกล้งเธออีกแล้ว
“ไปช่วยฉันทำภารกิจหน่อย ภารกิจนี้ฉันทำคนเดียวไม่ได้” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ภารกิจอะไรเหรอ?” หลานอวี่ถามอย่างสงสัย
“ภารกิจขัดเกลาจิตใจ” ระหว่างที่ลู่หยางพูดภารกิจนี้ขึ้นมา มันก็ทำให้เขาใจสั่นอยู่เล็กน้อย เพราะสำหรับเขาแล้วภารกิจนี้ถือได้ว่าเป็นภารกิจอันโหดร้ายและมันยังเป็นภารกิจที่จัดได้ว่าแปลกประหลาดที่สุดในเกมเซคคัลเวิลด์อีกด้วย
สาเหตุที่เป็นแบบนั้นเพราะเงื่อนไขการรับภารกิจอันแสนประหลาด ซึ่งมันก็มีเพียงแต่ผู้ที่หยิบยื่นความรักให้กับอีกฝ่ายอย่างลึกซึ้งเท่านั้นจึงจะสามารถรับภารกิจนี้ได้
ในชาติก่อนลู่หยางพยายามหาวิธีอย่างมากมายในการทำภารกิจนี้ แต่เขาก็ไม่เคยทำภารกิจได้เลยสักครั้ง จนกระทั่งในตอนที่เขาได้รู้ว่าหลานอวี่คือใครเขาจึงนึกถึงเรื่องภารกิจนี้ขึ้นมา
ลู่หยางพาหลานอวี่กลับไปยังเมืองเซนต์กอลล์ จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปภายในสมาคมนักเวท ต่อมาเขาก็เดินขึ้นไปยังยอดหอคอยก่อนจะได้พบกับสวนอันสวยงามที่ปรากฏต่อหน้าพวกเขาทั้งสอง
“สวยมาก” หลานอวี่กล่าว
“ใช่ ที่นี่มันสวยมากเลย” ตอนที่ลู่หยางมาที่นี่ครั้งแรกเขาก็ตกตะลึงกับความงามของสวนแห่งนี้ด้วยเช่นกัน
พื้นสวนถูกสร้างด้วยหินคริสตัลสีม่วงอ่อน สนามหญ้ามีสีเขียวอมฟ้าประดับด้วยดอกไม้หลากหลายสีสัน บริเวณยอดดอกไม้มีผีเสื้อนานาชนิดบินไปมาอย่างสวยงาม แต่มันก็ไม่มีใครรู้เลยว่าดอกไม้ทุกดอกที่นี่ต่างก็ใช้ความขมขื่นของความรักเป็นตัวหล่อเลี้ยงจนพวกมันบานสะพรั่งออกมา
“ยินดีต้อนรับเด็ก ๆ ทั้งหลาย” นักเวทชราในชุดคลุมสีขาวบริสุทธิ์เอ่ยทักทายขณะเดินเข้ามาหาลู่หยาง
“สวัสดีครับท่านนักเวท” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับโค้งหัวลงเล็กน้อย
“เธอถือได้ว่าเป็นเด็กที่มีมารยาทดี ว่าแต่พวกเธอมาที่นี่เพื่อเข้าร่วมบททดสอบใช่ไหม?” นักเวทชรากล่าวอย่างพึงพอใจ
“ใช่ครับ” ลู่หยางตอบ
“เธอแน่ใจนะว่าจะเข้าร่วมการทดสอบ แม้บททดสอบนี้จะมีของรางวัลตอบแทนอย่างมากมาย แต่คนที่สามารถผ่านบททดสอบไปได้ก็มีอยู่น้อยมาก หากใครไม่สามารถผ่านพ้นบททดสอบไปได้ คน ๆ นั้นก็จะได้รับผลกระทบทางสภาวะจิตใจกลับไปอย่างหนัก” ชายชราถามย้ำอีกครั้ง
“ผมแน่ใจครับ” ลู่หยางตอบอย่างมั่นใจ
“ดีมาก ถ้าอย่างนั้นก็ตามฉันมาทางนี้ได้เลย” นักเวทชรากล่าวพร้อมกับถือไม้เท้าเดินไปยังบ้านกลางสวน
ลู่หยางพาหลานอวี่เดินตามชายชราไปและถึงแม้ภายนอกบ้านหลังนี้จะดูเหมือนมีขนาดเล็ก แต่ภายในกลับมีพื้นที่อันกว้างขวาง ซึ่งในที่สุดพวกเขาก็เดินไปจนถึงห้อง ๆ หนึ่งที่มีวงเวทย์สำหรับคน 3 คน
“พวกเธอสองคนมายืนตรงนี้” ชายชรากล่าวพร้อมกับใช้ไม้เท้าชี้ไปยังวงเวทย์ทั้ง 2 วง
หลังจากลู่หยางกับหลานอวี่ยืนเข้าประจำที่แล้ว นักเวทชราก็เข้าไปยืนในวงเวทย์สุดท้ายด้วยเช่นกัน ก่อนที่เขาจะถามขึ้นมาว่า
“พวกเธอพร้อมแล้วหรือยัง?”
“พร้อมแล้วครับ” ลู่หยางตอบ
ระบบ: เริ่มภารกิจขัดเกลาจิตใจ!
ทันใดนั้นภาพที่อยู่รอบด้านก็เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน ซึ่งสำหรับภาพของลู่หยางมันก็คือภาพในตอนที่เขาเข้ายึดครองป้อมปราการในชาติที่แล้วได้สำเร็จเป็นครั้งแรก
“ลูกพี่! พวกเราทำสำเร็จแล้ว!!” เสี่ยวเหลียงตะโกนอย่างดีใจ
“หลังจากนี้พวกเราก็จะรวยกันแล้วสินะ” เจียงเจ๋อตะโกนด้วยเช่นกัน
ประตูแห่งความทรงจำของลู่หยางถูกเปิดออกในทันที และทันใดนั้นความทรงจำอันแสนเจ็บปวดรวดร้าวก็ไหลท่วมเข้ามาครอบงำจิตใจของเขาอย่างต่อเนื่อง
ระหว่างที่เขาดีใจกับพี่น้องที่สามารถยึดครองป้อมปราการได้สำเร็จ สิ่งที่เขาเห็นตรงหน้าก็คือภาพของเสินเมิ่งเหยาที่ถูกพ่อดุด่าอย่างรุนแรงและบังคับให้เธอต้องแต่งงานกับหวังรุ่ย
ความเจ็บปวดรวดร้าวทิ่มแทงทำให้ลู่หยางสั่นไปทั่วทั้งตัว น่าเสียดายที่ถึงแม้เขาอยากจะกระโจนออกไปปกป้องเสินเมิ่งเหยามากเท่าไหร่ แต่สิ่งที่เขาทำได้ก็มีเพียงแค่ยืนดูเสินเมิ่งเหยารับปากพ่อว่าเธอจะแต่งงานกับหวังรุ่ยเท่านั้น
วินาทีต่อมาภาพเหตุการณ์ก็เปลี่ยนเป็นตอนที่หวังรุ่ยกำลังจูบกับเสินเมิ่งเหยาในงานแต่งงาน ซึ่งมันเป็นภาพบาดตาบาดใจที่เขาไม่อยากจะเห็นมันอีกเลย
เหตุการณ์นั้นทำให้เขาเกลียดตัวเองที่ไร้ความสามารถและเกลียดตัวเองว่าทำไมเขาถึงไม่รู้ให้เร็วกว่านี้ ว่าแท้ที่จริงเสินเมิ่งเหยากับหลานอวี่คือคนคนเดียวกัน
ภาพเหตุการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง ซึ่งมันก็เป็นภาพที่เสินเมิ่งเหยากำลังถามลองเชิงเขาตรงบริเวณบันไดของมหาลัย
“ลู่หยาง ถ้าในเกมมีผู้หญิงแบบฉันที่รักนายมาก ๆ ตอนนั้นนายจะทำยังไง?”
“พี่ชาย ถ้าฉันได้เจอกับพี่ในโลกแห่งความเป็นจริง ในตอนนั้นพี่จะแต่งงานกับฉันไหม?” หลานอวี่ถาม
…
ลู่หยางร้องคำรามขึ้นมาดังลั่นพร้อมกับทุบหน้าอกของตัวเองเข้าไปอย่างแรง
เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมในชาติก่อนเขาถึงโง่จนถึงขนาดไม่สังเกตว่าหลานอวี่กับเสินเมิ่งเหยาคือคนคนเดียวกัน ทั้ง ๆ ที่อีกฝ่ายก็พยายามบอกใบ้เขามาตั้งหลายครั้งแล้ว แต่สิ่งที่เขาตอบกลับไปมีเพียงบอกว่าเขามีคนที่เขาชอบภายในใจอยู่แล้ว
บางทีคำตอบนั้นมันอาจจะทำให้เสินเมิ่งเหยาหมดหวังกับเขาไป และมันก็คงจะเป็นตอนที่เธอตัดสินใจกลับบ้านแล้วยอมรับงานแต่งงานที่ครอบครัวได้จัดสรรเอาไว้ให้
ภาพเหตุการณ์ได้เปลี่ยนไปอีกครั้ง โดยในตอนนี้คือตอนที่พวกเขาได้สูญเสียป้อมปราการไป เหตุการณ์นั้นทำให้เขาต้องแบกรับหนี้สินมหาศาลจนถึงขั้นทำให้เขาเป็นซึมเศร้าดื่มเหล้าเข้าไปทุกวัน ขณะที่พ่อแม่ของเขาต้องช่วยทำงานใช้หนี้จนถึงขนาดที่จะต้องขายบ้านของตัวเองออกไป
เสี่ยวเหลียงได้พาหลู่จ้าวหยูกับเฉินเฟิงไปทำงานเพื่อช่วยชดใช้หนี้ แต่ลู่หยางกลับมัวนั่งเศร้าเรื่องเสินเมิ่งเหยาจนไม่ทำงานทำการ โดยเฉพาะหลังจากที่เขาได้รู้ว่าหวังรุ่ยมีผู้หญิงข้างกายอยู่หลายคน แต่ครอบครัวของเสินเมิ่งเหยากำลังประสบปัญหาทางธุรกิจและต้องขอความช่วยเหลือจากครอบครัวของหวังรุ่ย ดังนั้นไม่ว่าเสินเมิ่งเหยาจะเจ็บปวดแค่ไหนแต่สุดท้ายเธอก็ไม่สามารถหย่าขาดจากสามีคนนี้ได้
ขณะเดียวกันเสินเมิ่งเหยาก็เป็นผู้หญิงที่รักศักดิ์ศรีของตัวเองมาก ความกดดันที่ถาโถมเข้ามาจึงทำให้เธอเกือบฆ่าตัวตายไปหลายครั้ง
ต่อมาเจียงเจ๋อก็ถูกลอบสังหารเพราะพยายามเข้ามาช่วยเหลือเขาเอาไว้ แม้แต่พ่อก็เสียชีวิตจากไซต์งานก่อสร้างแล้วทำให้แม่ต้องฆ่าตัวตายตามไปในเวลาไม่นาน
เสี่ยวเหลียงต้องมาตายเพราะกระโดดเข้ามารับกระสุนแทนเขา พี่น้องคนอื่น ๆ ก็ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากเพราะความโง่เขลาของเขาเพียงคนเดียว
“ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง ชาตินี้ฉันได้มีโอกาสกลับมาเกิดใหม่แล้วฉันจะไม่มีวันทำให้ทุกคนต้องยากลำบากเหมือนกับในชาติก่อนอีกอย่างเด็ดขาด และฉันขอสาบานว่าในชาตินี้มันจะไม่มีใครทำร้ายพวกนายได้อีกแล้ว” ลู่หยางตะโกนก้องภายในใจ
สุมไฟความแค้นเข้าไป แต่ดูแล้วลิ่วเจียจัดการยากพอควร น่าจะต้องวางแผนกันยาว ๆ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 255
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น