บทที่ 353 การติดต่อจากลิ่วเจีย

-A A +A

บทที่ 353 การติดต่อจากลิ่วเจีย

บทที่ 353 การติดต่อจากลิ่วเจีย

ลู่หยางพาพวกฉิงชางเดินอ้อมผ่านหมาป่าลาวา 3 หัวมาที่กำแพงด้านข้างห้องโถงของป้อมปราการ จากนั้นเขาก็วางมือลงบนคริสตัลสีแดง

คลื่น!

ประตูหินที่มีความกว้างประมาณ 30 เมตรที่มีความกลมกลืนกับกำแพงถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว เมื่อพวกฉิงชางได้มองเข้าไปทางด้านใน พวกเขาก็ได้เห็นแท่นบูชาบริเวณปากปล่องภูเขาไฟที่ใกล้ ๆ มีตราสัญลักษณ์ของป้อมปราการคริมสันประดับอยู่บนนั้น

ลู่หยางเริ่มเปิดใช้งานหน้าต่างการสร้างในทันที ก่อนจะทำการซื้อสวัสดิการต่าง ๆ ที่ป้อมปราการมีให้บริการ

ห้องประชุม 3,000 เหรียญทอง 

ร้านค้า 1,500 เหรียญทอง 

คลังสมบัติ 2,000 เหรียญทอง 

ห้องวิจัย 2,000 เหรียญทอง 

หอธนู 20 หอ หอละ 300 เหรียญทอง

กำแพงป้อมปราการ 5,000 เหรียญทอง

โรงแรม 3,000 เหรียญทอง

ชายหนุ่มได้ใช้จ่ายออกไปในครั้งเดียวมากกว่า 10,000 เหรียญทองเพื่อซื้ออาคารทั้งหมดที่ควรจะมีอยู่ภายในป้อมปราการ นอกจากนี้เขายังปรับปรุงความสะดวกสบายบางอย่างภายในป้อมปราการแห่งนี้ด้วย

ยกตัวอย่างเช่น บริเวณประตูใหญ่ของป้อมปราการจะมีบอสระดับลอร์ดอยู่ 5 ตัวและพวกมันจะทำการปล่อยลูกน้องนับร้อยวิ่งไปยังเส้นทางทั้ง 5 แต่ชายหนุ่มได้ทำการปรับเปลี่ยนเส้นทางให้พวกมันวิ่งมารวมตัวกันในทางเดินแคบ ๆ เพื่อให้ลูกกิลด์สามารถเก็บเลเวลได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

บริเวณด้านบนประตูใหญ่ ลู่หยางได้วางหอธนูเอาไว้ถึง 10 หอและด้วยความสูงของหอคอยธนู มันก็จำเป็นจะต้องใช้นักเวทหรือนักธนูที่อยู่ประชิดของกำแพงป้อมเท่านั้นถึงจะโจมตีได้ ไม่อย่างนั้นระยะการโจมตีของผู้เล่นในปัจจุบันย่อมไม่มีทางโจมตีถึงหอธนูได้เลย

ภายในหอธนูจะมี NPC นักธนูเลเวล 50 จำนวน 3 คนคอยทำหน้าที่เฝ้าระวังภัยเอาไว้ ซึ่งพลังโจมตี, พลังป้องกันและพลังชีวิตของ NPC เหล่านี้อยู่ในระดับที่สูงมาก ต่อไปถ้าหากว่ามันมีศัตรูเพียงแค่กลุ่มเล็ก ๆ แอบซุ่มโจมตีในตอนกลางคืน เพียงแค่หอธนู 10 หอที่เขาวางเอาไว้ก็สามารถจัดการกับศัตรูกลุ่มนั้นได้อย่างง่ายดาย

หอธนูอีก 10 หอที่ลู่หยางซื้อเอาไว้เขาได้ทำการติดตั้งพวกมันเอาไว้ในบริเวณเขตเมืองชั้นใน ซึ่งพื้นที่การโจมตีของหอธนูทั้ง 10 หอมันก็ครอบคลุมพื้นที่ในเขตเมืองชั้นในได้ทั้งหมด

“หัวหน้า ทำไมเราถึงต้องวางหอธนูเอาไว้ในเขตเมืองชั้นในด้วยครับ?” เหมาชิวถามอย่างสงสัย

“อีกสักพักพวกนายก็จะเข้าใจเองว่าในเกมนี้มันมีไอเท็มที่พวกเราคิดไม่ถึงอยู่อีกเยอะ” ลู่หยางกล่าว

ในที่สุดห้องประชุมก็ถูกสร้างขึ้นมาจนเสร็จ ลู่หยางจึงพาทุกคนเข้าไปภายในห้อง

ห้องประชุมระดับ 1 ไม่ได้มีความกว้างขวางมากนัก แต่มันก็สามารถที่จะรองรับผู้เล่นได้มากกว่า 50 คน โดยตรงกลางห้องเป็นโต๊ะกลมขนาดใหญ่ที่ถูกล้อมรอบด้วยเก้าอี้จนมีลักษณะคล้ายกับโต๊ะประชุม

ลู่หยางนั่งลงในตำแหน่งของประธาน จากนั้นเขาก็ส่งสัญญาณให้ทุกคนนั่งลงด้วยเช่นกัน

บนโต๊ะมีปุ่มที่ถูกสร้างขึ้นจากคริสตัล ซึ่งหลังจากที่ลู่หยางกดปุ่มนั้นลงไปแล้ว มันก็มีแผนที่ 3 มิติของป้อมปราการถูกฉายขึ้นบนโต๊ะ

“มันทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอเนี่ย?” ไป๋เหลิงอุทานด้วยความประหลาดใจ

ลู่หยางคุ้นเคยกับฟังก์ชั่นต่าง ๆ ของป้อมปราการมาตั้งแต่ชาติก่อนแล้ว ทุกอย่างที่อยู่ที่นี่จึงไม่มีอะไรใหม่สำหรับเขา

“หลังจากนี้พวกเราจะเปิดป้อมให้บุคคลภายนอกเข้ามาใช้บริการ และพวกเขาสามารถใช้โรงแรมของป้อมปราการเป็นจุดพักชั่วคราวได้อีกด้วย” ลู่หยางกล่าว

ภายในเขตป้อมปราการไม่มีพื้นที่ปลอดภัยทำให้มันสามารถเกิดการต่อสู้ได้ทุกที่ และมันก็มีเพียงแค่ช่วงเวลาที่ผู้เล่นเข้าไปพักภายในโรงแรมเท่านั้น ตัวละครของพวกเขาจึงจะไม่สามารถถูกโจมตีได้

“แบบนี้โรงแรมของป้อมก็คงจะสร้างเงินให้พวกเราอย่างมหาศาลเลยสินะคะ” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าวด้วยแววตาอันเป็นประกาย

“ใช่แล้ว ถึงแม้ว่าฉันจะเก็บค่าบริการเข้าพักเพียงแค่ครั้งละ 1 เหรียญทองแดง แต่หลังจากผู้เล่นมีเลเวลเฉลี่ยเกิน 30 มันก็จะมีคนเข้ามาใช้บริการป้อมปราการของเราวันละหลายแสนคน” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“แบบนี้พวกเราก็จะได้เงินกันวันละหลายสิบเหรียญทองเลยสินะครับ” ไป๋เหลิงกล่าว

ลู่หยางส่ายหัวไปมาแล้วพูดว่า

“ฉันไม่โง่พอที่จะตั้งค่าบริการเข้าพักโรงแรมเพียงแค่ครั้งละ 1 เหรียญทองแดงหรอกนะ ความจริงฉันตั้งใจจะคิดค่าบริการอยู่ที่ครั้งละ 30 เหรียญทองแดง ซึ่งมันก็หมายความว่ารายได้จากโรงแรมเพียงอย่างเดียวก็สามารถสร้างเงินให้กับพวกเราได้วันละเกือบ ๆ 1,000 เหรียญทอง”

เงิน 1,000 เหรียญทองมีมูลค่าเท่ากับ 300,000 เครดิต แล้วถ้าหากว่าพวกเขาได้เงินวันละ 300,000 เครดิต มันก็หมายความว่าพวกเขาจะสร้างรายได้ได้สูงถึง 9 ล้านเครดิตต่อเดือน การเปิดเผยของลู่หยางในครั้งนี้จึงทำให้พวกฉิงชางและเซี่ยหยู่เว่ยเข้าใจความสำคัญของป้อมปราการมากยิ่งขึ้น

“แบบนี้ต่อไปก็หมายความว่าพวกเราจะสร้างเงินจากโรงแรมได้เป็นกอบเป็นกำเลยสินะครับ” เหมาชิวกล่าว

“ป้อมปราการไม่ได้ทำเงินได้จากโรงแรมเพียงอย่างเดียวหรอกนะ ลองคิดดูสิว่าถ้ามีผู้เล่นมาเก็บเลเวลที่นี่เป็นจำนวนมาก มันก็หมายความว่าพวกเขาต้องซื้อยาไปใช้ในการเก็บเลเวลใช่ไหม? ดังนั้นเราเลยสามารถสร้างร้านขายยาเพื่อขายยาให้กับผู้เล่นพวกนั้นได้”

“นอกจากนี้พวกเรายังสามารถสร้างร้านค้าประมูลขึ้นมาเพื่อเป็นตัวกลางรับแลกเปลี่ยนสินค้าของผู้เล่น เรียกได้ว่าป้อมปราการเพียงแห่งเดียวสร้างช่องทางการหารายได้ให้กับพวกเราได้หลายช่องทางเลย”

“ปัจจุบันร้านขายยาและร้านขายอุปกรณ์เป็นธุรกิจที่สามารถทำเงินได้มากที่สุดภายในเกม โดยเฉพาะร้านขายยาที่สามารถหมุนเวียนเงินต่อวันได้เป็นจำนวนมหาศาล ความเป็นจริงรายได้จากร้านขายยามันก็สูงกว่ารายได้จากโรงแรมด้วยซ้ำ หากฉันประมาณการไม่ผิดรายได้จากป้อมปราการมันก็ไม่ควรจะต่ำกว่าวันละ 3,000 เหรียญทอง” ลู่หยางอธิบาย

ทันใดนั้นทุกคนต่างก็กลืนน้ำลายลงไปอึกใหญ่ เพราะไม่ว่าใครถ้าหากมาเจอธุรกิจที่สามารถสร้างเงินได้เดือนละเกือบ 30 ล้าน พวกเขาก็คงจะอยู่เฉย ๆ ไม่ได้เหมือนกัน

“นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมฉันถึงต้องการให้พวกเราแย่งชิงป้อมปราการมาให้ได้มากที่สุด เพราะเมื่อกิลด์ของพวกเราขยายขนาดออกไปมากขึ้นเรื่อย ๆ ค่าใช้จ่ายภายในกิลด์ก็จะมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเหมือนกัน หากพวกเราไม่มีป้อมปราการ เราก็จะไม่มีเงินหมุนเวียนมาแบกรับค่าใช้จ่ายในตรงนี้ได้ทำให้ในท้ายที่สุดพวกเราก็จะถูกหยุดการพัฒนาและถูกกิลด์อื่น ๆ เข้ามากลืนกินกิลด์ของพวกเราไป” ลู่หยางกล่าว

ระบบ: ร้านค้าสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว

ลู่หยางชี้นิ้วไปยังร้านค้าในแผนที่ 3 มิติของป้อมปราการพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า

“นี่คือร้านที่ขายม้วนคัมภีร์เทเลพอร์ต จุดที่ทุกคนจะเทเลพอร์ตกลับมาฉันตั้งไว้ตรงกลางห้องโถงของป้อมปราการแล้ว”

พวกฉิงชางต่างก็อยากเห็นม้วนคัมภีร์เทเลพอร์ต พวกเขาจึงวิ่งไปยังร้านค้าก่อนที่จะซื้อม้วนคัมภีร์มากันคนละหลายม้วน

เมื่อลู่หยางนำหลานอวี่ไปยังห้องโถงของป้อมปราการ ผู้เล่นภายในกิลด์ต่างก็ตกอยู่ในความประหลาดใจ

“หัวหน้า มันเกิดอะไรขึ้นเหรอครับ ทำไมจู่ ๆ ป้อมปราการมันถึงเปลี่ยนแปลงไปแบบนี้?” เรดลีฟไฟอิ้งถามอย่างตื่นเต้น

“ฉันยึดครองป้อมปราการนี้เอาไว้ได้เรียบร้อยแล้ว ต่อไปที่นี่จะเป็นบ้านของพวกเรา” ลู่หยางกล่าว

“เยี่ยมไปเลย! ในที่สุดพวกเราก็ยึดครองป้อมปราการได้สักที” เรดลีฟไฟอิ้งพูดอย่างดีใจ

[ช่องแชทกิลด์] Lu Yang: ตอนนี้พวกเรายึดครองป้อมปราการได้เรียบร้อยแล้ว เพื่อเป็นการขอบคุณที่สมาชิกทุกคนทุ่มเทให้กับกิลด์ ฉันขอมอบคะแนนพิเศษ 50 คะแนนให้กับทุกคน

คะแนนกิลด์ 50 คะแนนสามารถแลกอาวุธระดับเงินเลเวล 30 ได้ 1 ชิ้นหรือแลกหนังสือสกิลเลเวล 10 ได้ 1 เล่ม หรือถ้าหากพวกเขาหาวัตถุดิบมาเพิ่มเติม พวกเขาก็สามารถใช้คะแนนกิลด์นี้เพื่อให้กิลด์ผลิตอุปกรณ์ระดับทองให้กับพวกเขาได้

คำประกาศของลู่หยางทำให้สมาชิกทุกคนภายในกิลด์ตะโกนขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งในทันที

“นายแจกคะแนนไปแบบนี้เท่ากับการแจกของในคลังกิลด์ไป 1 ใน 5 เลยนะ” ถูเฟิงพูดกับลู่หยางอย่างจนใจ

“สงครามครั้งต่อไปใกล้เข้ามาแล้ว พวกเราจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมตลอดเวลา ถ้าทุกคนได้อุปกรณ์ดี ๆ ไปใช้งาน มันก็จะทำให้พวกเขาเก็บเลเวลได้เร็วขึ้น” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ถูเฟิงพยักหน้ารับอย่างเข้าใจและทันใดนั้นเขาก็ขมวดคิ้วพร้อมกับกล่าวขึ้นมาว่า

“ฉันลืมบอกนายไปว่าก่อนหน้านี้มีคนชื่อลิ่วเจียต้องการจะซื้อกิลด์ของเราและเขาก็ต้องการจะพูดคุยกับนายโดยตรง”

ทันใดนั้นเองลู่หยางก็กำหมัดแน่นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่เขาจะกัดฟันถามออกไปว่า

“เขาชื่ออะไรนะ?”

“ลิ่วเจีย”

“ให้เขาเพิ่มเพื่อนฉันมาได้เลย เดี๋ยวฉันจะเปิดฟังก์ชั่นรับคำขอเอาไว้ให้” ลู่หยางกล่าว

ถูเฟิงพยักหน้ารับแล้วภายในเวลาไม่ถึง 10 นาทีผู้เล่นที่ชื่อว่าเทียนเหยาก็ส่งคำขอเป็นเพื่อนเข้ามา

“สวัสดีลู่หยาง ฉันชื่อลิ่วเจียเป็นกรรมการบริหารของบริษัทจงเทียน” ลิ่วเจียกล่าว

แม้กาลเวลาจะผ่านพ้นมาอย่างเนิ่นนาน แต่ลู่หยางก็สามารถจดจำเสียงของอีกฝ่ายได้อย่างแม่นยำ

“สวัสดีคุณลิ่ว ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไรกับฉันงั้นเหรอ?” ลู่หยางถาม

“ฉันชื่นชมความสามารถของคุณมากและหวังว่าพวกเราจะได้ร่วมมือกันในอนาคต” ลิ่วเจียกล่าว

ในชาติก่อนลิ่วเจียก็เคยเข้ามาพูดคุยกับเขาด้วยคำสุภาพแบบนี้ด้วยเช่นกัน แต่เบื้องหลังอีกฝ่ายกลับแอบส่งคนไปซื้อตัวลูกน้องของเขาอย่างลับ ๆ แน่นอนว่าในชาตินี้ลู่หยางไม่ยอมพลาดแบบเดิมอีกต่อไปแล้ว

“พวกเราจะร่วมมือกันยังไง?”

“ฉันจะลงทุน 30 ล้านแลกกับหุ้นของกิลด์ 80%” ลิ่วเจียกล่าวอย่างภาคภูมิใจ เพราะก่อนที่จะมาคุยกับลู่หยางเขาได้ศึกษาข้อมูลภายในเกมมาก่อนแล้ว เขาจึงรู้ว่าลู่หยางเป็นเพียงผู้เล่นธรรมดา ๆ ไม่ได้มีนายทุนคอยหนุนหลัง เงินจำนวนนี้จึงถือว่าเป็นเงินจำนวนที่คนธรรมดาไม่มีทางได้เห็นแม้จะทำงานไปตลอดทั้งชีวิตก็ตาม

เมื่อลู่หยางได้ยินคำพูดของลิ่วเจีย มันก็ทำให้เขาอดที่จะหัวเราะขึ้นมาไม่ได้

“คุณลิ่วราคาที่คุณเสนอมามันน่าตลกเกินไปหน่อยหรือเปล่า?”

“น่าตลก? คุณหมายความว่ายังไง?” คำพูดของลู่หยางถึงกับทำให้ลิ่วเจียแทบจะรักษาความสุภาพเอาไว้ไม่อยู่

“ฉันพูดตามตรงนะว่าเงินทุนที่คุณเสนอมาไม่มากพอจะซื้อหุ้น 1% ของเราได้ด้วยซ้ำ หากคุณต้องการจะลงทุนในกิลด์ของเราจริง ๆ คุณก็ควรจะต้องแสดงความจริงใจออกมามากกว่านี้หน่อย” ลู่หยางกล่าว

คำพูดของลู่หยางทำให้ลิ่วเจียเลิกคิ้วขึ้นมาอย่างประหลาดใจ เพราะคำพูดนั้นมันสามารถตีความเองนัยหนึ่งได้ว่าปัจจุบันมูลค่าของบลัดบราเธอร์มีอยู่สูงกว่า 10,000 ล้านเครดิต

“ประธานลู่หยาง ฉันคิดว่าพวกเราคำนวณมูลค่าบลัดบราเธอร์เอาไว้แตกต่างกันมากเลยนะ เอาเป็นว่าคุณลองไปคิดข้อเสนอของฉันดู ส่วนทางฉันก็จะลองกลับไปคิดข้อเสนอของคุณดูด้วยเหมือนกัน” ลิ่วเจียกล่าว

“ไม่จำเป็นจะต้องกลับไปคิดหรอก หากคุณเสนอเงินมาเพียงแค่เท่านี้ฉันก็ไม่มีเหตุผลจะต้องรับข้อเสนอของคุณเลย” ลู่หยางกล่าว

ลิ่วเจียไม่คิดว่าลู่หยางจะใช้ท่าทีก้าวร้าวในการเจรจากับเขา และในขณะที่เขาสังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะวางสาย เขาก็เริ่มที่จะเจรจาด้วยน้ำเสียงที่ข่มขู่ว่า

“ประธานลู่หยาง บางทีคุณอาจจะยังไม่รู้ว่าตอนนี้ฉันได้ควบคุมกิลด์ในเผ่าสัตว์อสูรไปได้แล้วมากกว่า 1 ใน 3 ต่อไปฉันก็จะลงทุนซื้อกิลด์ในเผ่ามนุษย์และเผ่าเอลฟ์ด้วย เมื่อถึงเวลานั้นฉันก็ไม่ได้อยากจะเป็นศัตรูกับบลัดบราเธอร์หรอกนะ”

ในชาติก่อนลิ่วเจียก็ใช้เงินซื้อกิลด์ต่าง ๆ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวเองด้วยเช่นกัน เพราะท้ายที่สุดด้วยศักยภาพที่เซคคัลเวิลด์ได้แสดงออกมา มันก็ทำให้บริษัทมากมายเข้ามาลงทุนภายในเกม

การทุ่มเงินของลิ่วเจียครั้งแรกอาจจะดูเหมือนประสบความสำเร็จ แต่ความจริงแล้วอีกฝ่ายซื้อกิลด์ขนาดใหญ่เข้าไปเพียงแค่ไม่กี่กิลด์เท่านั้น ส่วนกิลด์ขนาดกลางและกิลด์ขนาดเล็กลิ่วเจียก็ไม่สนใจที่จะซื้อกิลด์พวกนั้นไปเลยแม้แต่น้อย

“ถ้าถึงเวลานั้นจริง ๆ พวกเราค่อยมาเจอกัน” ลู่หยางกล่าวก่อนที่เขาจะตัดสายและย้ายชื่อของลิ่วเจียเข้าสู่บัญชีดำ

 

 


บิ๊กบอสโผล่มาแล้วววว

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.