บทที่ 421: ตอบคำถามข้า
“มีอะไรหรือ?” เซียวถังถังขมวดคิ้วถามอย่างไม่พอใจ “ตอนนี้มีสิ่งใดสำคัญไปกว่าบาดแผลของท่านอีก?”
“ส่งมือท่านมาให้ข้า จื่อเฟิง ไปเอายามา!”
มู่ไป๋ไป่รู้นิสัยของศิษย์น้องคนนี้เป็นอย่างดี เธอจึงปล่อยให้นางทำตามที่ตัวเองอยากจะทำโดยไม่ไปขัดขวางอีกฝ่าย
หลังจากเซียวถังถังพันแผลที่แขนเธอเสร็จแล้ว เธอก็พูดขึ้นว่า “ข้าจำได้ว่าตอนที่เจ้ายังเด็ก เจ้ามักจะมีกลิ่นบางอย่างติดตัวอยู่เสมอ”
“พี่ชายของเจ้าก็มีกลิ่นนั้นเหมือนกัน ข้าอยากรู้ว่ากลิ่นที่ว่านั้นคือกลิ่นอะไร เจ้าจำได้หรือไม่?”
ประโยคแรกที่เธอพูดเป็นความจริง แต่ประโยคหลังเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น
หลังจากที่มู่ไป๋ไป่สงบสติอารมณ์ได้แล้ว เธอก็จำได้ว่าทำไมกลิ่นบนตัวของจวงอี้หรานถึงคุ้นจมูกยิ่งนัก
เป็นเพราะเธอเคยได้กลิ่นดังกล่าวจากตัวของเซียวถังอี้กับเซียวถังถังในตอนที่ยังเป็นเด็ก
แต่ตอนนั้นเธอคิดว่ามันเป็นเพียงกลิ่นจากถุงหอมที่ถูกทำขึ้นมาโดยเฉพาะเท่านั้น เธอจึงไม่เคยตั้งคำถามเกี่ยวกับมัน
“หืม? จริงหรือ?” เซียวถังถังเกาหัวด้วยความงุนงงเพราะจู่ ๆ ศิษย์พี่ก็ถามเรื่องนี้ “ข้าเองก็จำไม่ค่อยได้ แต่ข้ารู้ว่ากลิ่นที่ท่านพูดถึงคืออะไร พี่ชายของข้าเป็นคนเรื่องมากที่สุดในโลกหล้า”
“แม้ว่าปกติเขาจะดูเหมือนไม่สนใจอะไรก็ตาม แต่เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ทุกวันจะต้องผ่านการรมกลิ่นกำยาน และกำยานที่เขาใช้นั้นพิเศษมาก ทำให้มีกลิ่นติดบนเสื้อผ้าคงนาน ส่วนใหญ่แล้วถ้าท่านไปที่ห้องของเขา ท่านจะได้กลิ่นนั้น”
“แต่หลังจากที่เราไปอยู่ที่หุบเขาหมอเทวดา ท่านก็ไม่ได้กลิ่นนั้นอีกแล้วใช่หรือไม่?”
ขณะนี้หัวใจของมู่ไป๋ไป่เต้นเร็วขึ้นเล็กน้อย เธอระงับอารมณ์ในใจตัวเองขณะแสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นและถามต่อไปว่า “ใช่ ข้าไม่เคยได้กลิ่นนั้นอีกเลย… ถังถัง เจ้าบอกว่ากลิ่นนี้เป็นกลิ่นพิเศษ มันพิเศษมากแค่ไหน?”
“หืม? ทำให้ท่านถึงถามแบบนั้น?” เซียวถังถังจ้องมองศิษย์พี่ใหญ่ด้วยความสงสัย ก่อนจะพยักหน้าโดยไม่รอคำตอบจากอีกฝ่าย “อ๋อ ข้าเข้าใจแล้ว ท่านคิดว่ากำยานนั้นหอมมากเลยอยากจะได้เหมือนกันใช่หรือไม่?”
“...” ฝ่ายที่ได้ยินดังนั้นนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
สมแล้วที่ถังถังกับคนผู้นั้นเป็นพี่น้องกัน ในเวลาเช่นนี้ การคาดเดาของพวกเขาดูจะสอดคล้องกันอย่างน่าประหลาด
“ใช่” มู่ไป๋ไป่พยักหน้าเออออห่อหมกไปตามคำพูดของอีกฝ่าย “ข้าเพิ่งนึกถึงกลิ่นนั้นขึ้นมาได้ ข้าคิดว่ามันน่าสนใจทีเดียวเลยอยากจะลองดมกลิ่นดู ถังถัง เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าจะไปหาซื้อมันได้จากที่ไหน?”
“ข้าเองก็ไม่รู้” เซียวถังถังยิ้มอย่างมีเลศนัย “กำยานนั้นมีเฉพาะในตำหนักอ๋องเซียวของเราเท่านั้น ไป๋ไป่ ถ้าท่านอยากได้จริง ๆ ทำไมไม่ลองไปขอพี่ชายข้าดูล่ะ? ไม่ว่าอย่างไร พี่ชายข้าจะต้องแบ่งให้ท่านแน่นอน!”
“ทำไมเขาจะต้องตอบรับคำขอของข้าด้วยล่ะ?” มู่ไป๋ไป่โต้กลับไปอย่างไม่เป็นธรรมชาติ ขณะที่ตอนนี้จิตใจของเธอล่องลอยไปยังห้องอื่นแล้ว
หากกำยานนั้นเป็นจริงอย่างที่เซียวถังถังบอกไว้ว่ามันพบได้เพียงในตำหนักอ๋องเซียวเท่านั้น
นั่นหมายความว่าสิ่งที่เธอคาดเดาก่อนหน้านี้ไม่ผิด
นี่อาจอธิบายได้ว่าทำไมเธอถึงพบชายหนุ่มอยู่นอกหุบเขาหมอเทวดา และตลอดทางที่ผ่านมาเหตุใดเขาจึงมีพฤติกรรมแปลกประหลาด
ทันใดนั้นรายละเอียดต่าง ๆ มากมายก็ค่อย ๆ หลั่งไหลเข้ามาในสมองของหญิงสาวอย่างต่อเนื่อง ทำให้เธอยิ่งรู้สึกไม่เข้าใจ
แต่เมื่อทุกอย่างสงบลงแล้ว สิ่งสุดท้ายที่ค้างอยู่ในใจของมู่ไป๋ไป่ก็คือใบหน้าซีดเผือดของเซียวถังอี้
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เธอจินตนาการนับครั้งไม่ถ้วนว่าภายใต้หน้ากากสีเงินนั้นซ่อนใบหน้าแบบไหนเอาไว้
พอตอนนี้เธอได้เห็นในหน้าที่แท้จริงของชายหนุ่ม มันทำให้เธอไม่รู้สึกผิดหวังเลยแม้แต่น้อย
เธอไม่รู้ว่าคนผู้นั้นคิดอะไรอยู่ เขาถึงได้ปิดบังใบหน้าที่งดงามเช่นนั้นเอาไว้ไม่ให้ใครเห็น
ขณะที่หญิงสาวกำลังคิดไปไกลก็มีเสียงเคาะประตูดังขัดจังหวะ
“แม่นางไป๋ ข้าเอายารักษาบาดแผลมาให้ท่าน” เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเซียวถังอี้ดังขึ้น ส่งผลให้หัวใจของมู่ไป๋ไป่เต้นแรงขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ
“ข้า—”
“ข้าจะไปเปิดเอง!” เซียวถังถังลุกขึ้นยืนก่อนจะรีบวิ่งไปเปิดประตูด้วยท่าทางไม่เป็นมิตร
ทันทีที่มู่ไป๋ไป่เห็นท่าทางของศิษย์น้อง เธอก็รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่มันก็สายเกินไปที่จะห้ามเสียแล้ว
“เจ้ามาทำอะไรที่นี่!” เซียวถังถังเปิดประตูไปยืนอยู่ตรงหน้าผู้มาเยือน ในขณะที่นางหรี่ตามองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า “ฮึ ไป๋ไป่จะต้องพักผ่อนแล้ว อย่ามารบกวนนางอีก!”
“ข้าไม่เป็นไร!” มู่ไป๋ไป่เดินเข้าไปหาศิษย์น้องพร้อมกับพยายามส่งสายตาเตือนนาง “ถังถัง สุภาพกับจอมยุทธ์จวงด้วย...”
“ไม่มีทาง!” ถึงกระนั้นเซียวถังถังก็ไม่เข้าใจสายตาที่เธอส่งไปแล้วเอาแต่จ้องชายหนุ่มไม่วางตา “ข้าไม่ชอบหน้าเขา ถ้าท่านอยากให้ข้าสุภาพกับเขา ก็… ก็ให้เขาปิดหน้าไปซะ!”
“...”
“...”
คำพูดของหญิงสาวทำให้ 2 คนที่เหลือนิ่งเงียบไป
“เจ้ารีบกลับไปเถอะ” เซียวถังถังเห็นว่าจวงอี้หรานมองนางด้วยสายตาสับสน และเมื่อนึกถึงเรื่องที่ตนเพิ่งถูกเขาตีหัว มันก็ยิ่งทำให้นางรู้สึกโมโหมากขึ้น “มิฉะนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือน!”
“ถ้าไม่ใช่เพราะจื่อเฟิงเข้ามาขวางเมื่อกี้ ข้าบอกได้เลยว่าชีวิตเจ้าจบสิ้นไปแล้ว!”
เซียวถังอี้กลืนคำพูดที่จ่ออยู่ตรงริมฝีปากตัวเอง ก่อนจะเปลี่ยนใจพูดออกไปว่า “ข้ามาที่นี่เพื่อนำยามาให้ แม่นางไป๋บาดเจ็บเพราะข้า ดังนั้นข้าควรทำอะไรเพื่อแสดงความขอบคุณบ้าง”
“ไม่ ไม่ต้อง” เซียวถังถังทำท่ารังเกียจอีกฝ่ายโดยไม่ปิดบัง ขณะที่นางพูดดูถูกคนตรงหน้า “ยาที่เจ้าเอามานั้นได้มาจากที่ใดก็ไม่รู้ มันจะดีเท่ากับยาของหุบเขาหมอเทวดาของเราได้อย่างไร”
“นอกจากนี้ ในฐานะศิษย์พี่ใหญ่ของหุบเขาหมอเทวดา ทำไมเราจะต้องให้คนนอกมาส่งยาให้เราด้วย ข้าได้ทำแผลให้นางแล้ว”
“ถังถัง ข้าหิว เจ้าไปเอาของกินมาให้ข้าหน่อยสิ” มู่ไป๋ไป่ดึงแขนเสื้อของศิษย์น้องเบา ๆ พลางขยิบตาให้นาง
ตอนนี้ทุกอย่างเป็นเพียงการคาดเดาของเธอเท่านั้น เธอยังไม่มั่นใจสักเท่าไหร่ เธอจะต้องหาวิธีตรวจสอบมันให้ได้
อย่างไรก็ตาม ก่อนอื่นเธอจะต้องพาเซียวถังถังออกไปก่อนที่จะเริ่มทำตามแผน
ไม่เช่นนั้น ถ้าวัดจากนิสัยของยัยตัวป่วนคนนี้แล้ว เรื่องไม่ดีจะต้องเกิดขึ้นแน่นอน และแผนของเธอก็จะพังไม่เป็นท่า
“หา?” เซียวถังถังหันมามองมู่ไป๋ไป่ด้วยสายตาไม่เข้าใจ “ท่านหิวหรือ ถ้าอย่างนั้นเรากินของว่างรองท้องกันก่อนดีหรือไม่? มันเพิ่งอบสด ๆ ร้อน ๆ เลย…”
“ตอนนี้ข้าไม่อยากกินขนมแล้ว ข้าอยากกินน้ำแกงไก่”
มู่ไป๋ไป่รู้สึกขบขัน ทำไมในเรื่องบางเรื่องผู้หญิงคนนี้ถึงได้ซื่อบื้อมากขนาดนี้ แต่บางเรื่องกลับฉลาดจนไม่คาดคิด
หญิงสาวจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องสั่งจื่อเฟิงที่รออยู่ด้านข้าง “จื่อเฟิง ท่านพาถังถังไปที่ห้องครัวเร็วเข้า”
ชายหนุ่มจ้องมองจวงอี้หรานด้วยสายตาไม่เป็นมิตร แต่สุดท้ายเขาก็ยังพยักหน้ารับอย่างไม่เต็มใจ และพาตัวเซียวถังถังที่กำลังสับสนออกไปจากห้อง
“ช้าก่อน! จื่อเฟิง นี่ท่านไม่เห็นหรืออย่างไร ท่านจะฟังคำพูดของไป๋ไป่อย่างเดียวเลยหรือ? จวงอี้หรานคนนั้นมีเจตนาไม่ดีนะ!”
หลังจากเสียงของเซียวถังถังหายไปแถวบริเวณบันได มู่ไป๋ไป่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกพร้อมกับก้าวเปิดทางให้ร่างสูงเดินเข้ามาในห้อง “จอมยุทธ์จวง เชิญเข้ามาข้างในก่อน”
เซียวถังอี้สัมผัสได้ถึงน้ำเสียงที่แตกต่างไปจากปกติของหญิงสาว ทำให้คิ้วหนาเลิกขึ้นจนแทบมองไม่เห็น
“ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?” มู่ไป๋ไป่เทชาให้เขาพลางถามถึงสภาพร่างกายของอีกฝ่ายเหมือนเช่นเคย
“หลังจากแช่น้ำสมุนไพรแล้ว เมื่อเทียบกับครั้งก่อน ร่างกายของท่านมีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่?”
“ไม่มี ทุกอย่างเรียบร้อยดี” เซียวถังอี้ไม่ได้หยิบชาขึ้นมาจิบ เขาวางปลายนิ้วลงบนโต๊ะและเคาะเป็นจังหวะราวกับว่าเขากำลังรออะไรบางอย่าง
“จอมยุทธ์จวง ท่านบอกว่าท่านจะตอบแทนบุญคุณข้าใช่หรือไม่?” มู่ไป๋ไป่ถามคำถามที่จู่ ๆ ก็แล่นเข้ามาในหัว “เอาเป็นว่าท่านลองตอบคำถามของข้าสักข้อแทนดีหรือไม่?”
หญิงสาวถามออกไปตามตรงแล้วคอยดูว่าเซียวถังอี้จะยอมรับเรื่องนี้หรือเปล่า
“เพียงแค่คำถามเดียวหรือ?” ชายหนุ่มหัวเราะเบา ๆ “ถ้าเป็นเช่นนั้น แม่นางไป๋คงต้องเสียเปรียบแล้ว”
“เช่นนั้นเปลี่ยนเป็นคำถาม 3 ข้อ” มู่ไป๋ไป่รีบชูนิ้วขึ้น 3 นิ้ว “และท่านก็ห้ามโกหก!”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 159
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น