บทที่ 420: ข้าจะสั่งสอนไอ้สารเลวนั่น!
“ไป๋ไป่ ทำไมเสร็จเร็วขนาดนี้?”
ขณะที่มู่ไป๋ไป่กำลังจะพูดคุยกับจื่อเฟิงเพิ่มเติม เซียวถังถังก็เดินเข้ามาพร้อมกับถือถาดขนมที่เพิ่งนึ่งมาใหม่ ๆ ร้อน ๆ
“พอดีเลย ของว่างที่ข้าสั่งให้ห้องครัวทำเสร็จพอดี ข้ากำลังจะเอาไปให้ท่าน… ไป๋ไป่ ข้อมือของท่าน!”
รอยยิ้มบนใบหน้าของคนเป็นศิษย์น้องแข็งทื่อในทันใดเมื่อนางเห็นรอยแผลของคนตรงหน้า นางไม่รอให้ศิษย์พี่ใหญ่ได้อธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น นางรีบยัดถาดใส่มือของจื่อเฟิงแล้วหันกลับมาตะโกนเสียงดัง “ไอ้สารเลวแซ่จวงเป็นคนทำอย่างนั้นหรือ?!”
“ครั้งที่แล้วข้าเห็นท่านพันแผลที่ข้อมือ ข้าเองก็ยังรู้สึกแปลกใจ ข้าเดาว่าคงเป็นเพราะท่านล้างพิษให้ผู้ชายคนนั้นถึงได้บาดแผลมา แต่ทำไมคราวนี้มันถึงเกิดขึ้นอีกแล้ว!”
“ไป๋ไป่ ท่านรอสักครู่ ข้าจะไปสั่งสอนไอ้ชาติชั่วนั่นเอง!”
เซียวถังถังเคลื่อนไหวเร็วมากทำให้มู่ไป๋ไป่ห้ามนางเอาไว้ไม่ทัน ในพริบตานางก็พุ่งเข้าไปในห้องของจวงอี้หรานแล้ว
“โอ๊ย…” หญิงสาวหัวเสียมากในขณะที่เธอเอ่ยปากสั่งจื่อเฟิง “จื่อเฟิง ไปดึงถังถังออกมาเร็วเข้า อย่าให้นางทำอะไรบุ่มบ่าม!”
ถ้าสิ่งที่เธอคาดเดาก่อนหน้านี้ถูกต้อง
เซียวถังถังไม่อาจล่วงเกินตัวตนที่แท้จริงของจวงอี้หรานได้อย่างแน่นอน
พอเธอคิดถึงบทลงโทษที่ศิษย์น้องจะต้องได้รับซึ่งมันทรมานมากเพียงใดหลังจากเดินทางไปถึงเมืองหลวง เธอก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่
ในห้องด้านข้าง เซียวถังอี้เพิ่งลุกขึ้นจากอ่างน้ำ ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเซียวถังถังผลักประตูเปิดเข้ามาเสียงดัง
สายลมเย็นที่พัดผ่านได้หอบเอาไอหมอกในห้องออกไปด้านนอกทำให้มองเห็นวิสัยทัศน์ด้านในได้อย่างชัดเจน
“ไอ้สารเลวจวง!” เซียวถังถังยืนเท้าเอวตะคอกอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ “เจ้ามันคนเนรคุณ นางพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาเจ้า แต่ดูเจ้าตอบแทนนางสิ ไป๋ไป่ทำคุณบูชาโทษแท้ ๆ!”
“ไปตายซะ!”
สิ้นเสียงพูด หญิงสาวคว้าของที่อยู่ใกล้มือแล้วขว้างใส่เป้าหมายเต็มแรง
ดวงตาของเซียวถังอี้มืดลงทันทีในขณะที่เขาเบี่ยงตัวหลบเพียงเล็กน้อย
ก่อนที่เซียวถังถังจะทันได้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น นางก็สัมผัสได้ถึงสายลมที่พัดมาจากด้านหลังศีรษะและถูกตีหัวเข้าเต็มเปา
“โอ๊ย! เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงมาตีข้า!”
หญิงสาวเบิกตากว้างหันมาจ้องจวงอี้หรานด้วยความโมโห “ทั้งชีวิตมีเพียงพี่ชายและไป๋ไป่เท่านั้นที่ข้ายอมให้ ไอ้สารเลวจวง เจ้าทำให้ข้าโกรธมาก!”
เซียวถังอี้รู้สึกไม่พอใจน้องสาวเล็กน้อย แต่เขาก็หัวเราะเมื่อได้ยินนางเอ่ยเช่นนั้น ทำให้ความโกรธพลันหายไปจากใจ “ข้าทำให้เจ้าโกรธแล้วอย่างไร?”
“นี่ก็ผ่านไปตั้งหลายปีแล้ว ทำไมเจ้ายังคงใจร้อนอยู่เหมือนเดิม? เจ้าลืมทุกอย่างที่เรียนรู้มาจากในหุบเขาหมอเทวดาแล้วหรือ?”
เซียวถังถังรู้สึกว่าน้ำเสียงของจวงอี้หรานฟังดูคุ้นหูมาก แต่นางกำลังโมโหมากจึงไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ไปชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นนางก็หยิบผงบางอย่างออกมา 1 กำมือเตรียมจะขว้างใส่อีกฝ่าย “เจ้าจะสนใจข้าทำไม ถ้าวันนี้ข้าไม่ได้สั่งสอนเจ้าสักที ข้าจะเปลี่ยนชื่อแซ่ไปใช้แซ่เดียวกับเจ้า!”
“...” ฝ่ายที่ได้ยินถึงกับพูดไม่ออก
“เซียวถังถัง!” จื่อเฟิงปรากฏตัวขึ้นมาทันเวลา แล้วเข้าไปห้ามอีกฝ่ายตามคำสั่งของมู่ไป๋ไป่ก่อนที่เหตุการณ์มันจะเลยเถิดไปมากกว่านี้ “คุณหนูขอให้ท่านกลับไปช่วยทำแผล!”
“จื่อเฟิง หลีกไป!” หญิงสาวยังคงไม่ละสายตาไปจากจวงอี้หรานในขณะที่กัดฟันแน่นอย่างโกรธแค้น “หลังจากข้าจัดการเจ้าหมอนี่เสร็จแล้วข้าจะไปช่วยนาง ท่านบอกให้ไป๋ไป่รอข้าสักครู่”
จื่อเฟิงขมวดคิ้วและหันไปมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ในห้อง แม้ว่าเขาอยากจะจัดการกับคนตรงหน้าเช่นเดียวกับเซียวถังถังมากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของมู่ไป๋ไป่อยู่ดี
เขาจึงพยักหน้าให้จวงอี้หราน แล้วหันกลับไปอุ้มเซียวถังถังขึ้นบนไหล่ก่อนจะเดินออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
“จื่อเฟิง! ปล่อยข้าลงเดี๋ยวนี้นะ! ข้าจะสู้กับไอ้คนแซ่จวงนั่นให้รู้ดำรู้แดง!” หญิงสาวร้องโวยวายพร้อมกับพยายามดิ้นรนอย่างหนัก “ท่านรู้หรือไม่ว่าไอ้สารเลวคนนั้นทำอะไรกับข้าบ้าง เขาตีหัวข้า!”
“จวงอี้หราน เจ้าอย่าได้ใจนักเลย ถ้าเราไปถึงเมืองหลวงเมื่อไหร่ ข้าจะฟ้องพี่ชายข้า และให้พี่ชายข้าจัดการเจ้า!”
ทางด้านเซียวถังอี้ยืนมองเซียวถังถังที่ถูกจื่อเฟิงอุ้มเข้าไปในห้องของมู่ไป๋ไป่แล้วกุมขมับพร้อมถอนหายใจอย่างจนใจ
ดูเหมือนว่าเขาจะต้องหาข้ออ้างเพื่อแยกตัวออกจากกลุ่มก่อนที่จะกลับถึงเมืองหลวงเสียแล้ว
มิฉะนั้น เรื่องราวมันอาจจะซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ
…
ยามนี้เซียวถังถังที่ถูกวางลงบนพื้นยังคงสาปแช่งชายหนุ่มที่อยู่อีกห้องหนึ่งไม่หยุดปาก “ไป๋ไป่ ทำไมท่านถึงให้จื่อเฟิงไปขวางข้า! ไอ้คนแซ่จวงนั่นโอหังยิ่งนัก นอกจากเขาจะทำร้ายท่านแล้ว เขายังกล้าตีหัวข้าด้วย”
“หัวของข้ามีเพียงท่านกับพี่ชายข้าเท่านั้นที่สัมผัสได้!”
“ฟังจากน้ำเสียงของเจ้า ดูเหมือนว่าเจ้าจะภูมิใจมากสินะ” มู่ไป๋ไป่รู้สึกขบขันกับท่าทางภาคภูมิใจของคนเป็นศิษย์น้อง “เจ้าหุนหันพลันแล่นเกินไป อย่างน้อยก็ควรฟังที่ข้าพูดก่อน ข้าเป็นคนขอให้เขากรีดแขนข้าเอง”
“เจ้าจำตำราโบราณที่ข้าเคยสั่งให้เซียวเซียวไปเอาจากหอไป่เฉ่าได้หรือไม่? ข้าได้รู้มาจากในตำรานั้นว่าเลือดจ้าวอสูรสามารถล้างพิษได้ทุกชนิด”
ดวงตาของเซียวถังถังเบิกกว้างด้วยความตกใจหลังจากได้ยินสิ่งที่ศิษย์พี่กล่าว ก่อนที่นางจะพูดขึ้นมาว่า “ไม่น่าแปลกใจเลย… ทุกครั้งที่ท่านกินยาที่ข้าต้มให้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ท่านไม่เป็นอะไรเลย”
“ข้าคิดว่าร่างกายของท่านแข็งแรงกว่าคนทั่วไปเท่านั้น”
เมื่อหญิงสาวพูดถึงเรื่องนี้ ท่าทีของมู่ไป๋ไป่ก็เริ่มซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย
ในตอนที่ทั้งคู่อยู่ในหุบเขาหมอเทวดาช่วงแรก ๆ ด้วยความที่พวกเธอเพิ่งร่ำเรียนวิชากันได้ไม่นาน พวกเธอจึงมักจะสั่งจ่ายยาให้กันและกันเพียงเท่านั้น
ตอนแรกหลังกินยาทั้ง 2 คนต่างก็ไม่เป็นไร จนกระทั่งวันหนึ่ง มีคนของหุบเขาหมอเทวดาเกือบถูกวางยาพิษตายหลังจากได้กินยาที่เซียวถังถังปรุงขึ้นมา
แล้วพวกเธอก็ได้รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ในเวลานั้นมู่ไป๋ไป่ก็เพิ่งรู้เป็นครั้งแรกว่าตนได้กินยาแปลก ๆ เข้าไปมากมาย
ขณะเดียวกัน ตอนที่เจียงเหยาได้รู้ข่าว นางก็ตกใจกลัวมาก นางจึงได้รีบเข้ามาจับชีพจรของเธอเพราะกลัวว่าเธอจะเป็นอันตรายไปอีกคน
ไม่นานนางก็รู้สึกโล่งใจที่ได้รู้ว่ามู่ไป๋ไป่ไม่เป็นอะไร
“วันนั้นพิษของเขากำเริบขึ้นอย่างกะทันหัน ข้าเลยจำเป็นต้องใช้วิธีนี้” มู่ไป๋ไป่อธิบายพลางชี้ไปที่บาดแผลใหม่บนข้อมือตัวเอง “แต่พอคิดถึงผลลัพธ์แล้ว วิธีนี้มันใช้ได้ผลจริง ๆ วันนี้เป็นวันที่ 2 แล้วที่เขาได้รับการรักษา”
เซียวถังถังเม้มปากแน่นอยู่นานพอสมควร ก่อนจะพูดด้วยความไม่พอใจ “เขาโชคดีมากที่ได้พบท่าน”
“เอ่อ… อย่าพูดแบบนั้นเลย สวรรค์อาจกำหนดให้พวกเราได้พบเจอกันก็ได้”
หากว่าคนผู้นั้นคือเซียวถังอี้จริง มู่ไป๋ไป่ก็อยากช่วยเหลือเขาให้มากกว่านี้
“จุ๊ ๆๆ ไป๋ไป่ ท่านอย่าได้แช่งตัวเองสิ!” เซียวถังถังจ้องผู้เป็นศิษย์พี่ด้วยสายตาจริงจัง “แม้ว่าพวกท่านจะถูกกำหนดให้พบกัน แต่มันก็เป็นเคราะห์กรรมมากกว่าเคราะห์ดี”
“ชิ! ท่านต้องรักษาเขาเช่นนี้อีกกี่ครั้ง? นอกจากจะต้องใช้เลือดของท่าน ไม่มีวิธีอื่นอีกแล้วหรือ ตั้งแต่เด็กท่านไม่เคยต้องเจ็บตัวแบบนี้เลย ท่านทำเพื่อเขามากเกินไปจริง ๆ”
มู่ไป๋ไป่รู้ว่าที่เซียวถังถังพูดเช่นนี้ก็เพราะเป็นห่วงเธอ หญิงสาวจึงรู้สึกอบอุ่นในใจ
ต่อมา เธอจับมืออีกฝ่ายแล้วจูงให้ไปนั่งที่ข้างเตียงด้วยกันก่อนจะเอ่ยปากว่า “อีกไม่นานหรอก วันนี้ตอนที่ข้าตรวจชีพจรของเขา พิษในร่างกายของเขาบรรเทาลงไปมากแล้ว ในวันพรุ่งนี้น่าจะสามารถขจัดพิษส่วนใหญ่ออกไปได้”
“เมื่อไปถึงเมืองหลวง เราต้องรักษาเขาอีก 2 ครั้งก็น่าจะเพียงพอ”
“อีก 2 ครั้ง!” เซียวถังถังพูดทวนซ้ำอย่างมีน้ำโห “ไป๋ไป่ ทำไมท่านยังต้องช่วยเขาอีก จวงอี้หรานอาจจะเป็นพ่อหนุ่มหน้าตาดีก็จริง แต่เขาต้องไม่ใช่คนดีแน่นอน แล้วท่านก็ยังสงสัยในตัวตนที่แท้จริงของเขาอีกด้วย”
คำพูดของศิษย์น้องทำให้ลมหายใจของมู่ไป๋ไป่สะดุดทันที เธออยากจะบอกว่าเขาน่าสงสัยจริง ๆ แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่าตัวตนที่แท้จริงของเขาจะเป็น ‘เซียวถังอี้’
“เจ้าอย่าเพิ่งด่วนสรุปเรื่องนี้” หญิงสาวไอแห้ง ๆ ในลำคอแล้วเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ถังถัง ข้ามีคำถามบางอย่างอยากจะถามเจ้า”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 155
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น