บทที่ 331 ไป๋เหลิงประกาศศักดา
บทที่ 331 ไป๋เหลิงประกาศศักดา
ไป๋เหลิงเป็นผู้เล่นคนแรกที่วิ่งเข้าประชิดกำแพง และเมื่อเขาได้พบว่าฝ่ายตรงข้ามไม่ได้โจมตีในทันที เขาจึงทำการหยิบเชือกบ่วงออกมาก่อนที่จะโยนขึ้นไปคล้องยอดกำแพงอย่างรวดเร็ว
“ไม่ต้องทำลายประตูเมืองแล้ว ปีนขึ้นไปตรง ๆ ได้เลย” ไป๋เหลิงตะโกน
“ครับ/ค่ะ” ทุกคนตอบรับในทันที ก่อนที่พวกเขาจะหยิบเชือกบ่วงขึ้นมาขว้างขึ้นไปบนกำแพงด้วยเช่นกัน จากนั้นกองกำลังทั้ง 1,000 คนก็ปีนขึ้นไปบนกำแพงโดยตรง โดยไม่จำเป็นจะต้องทำลายประตูป้อมปราการ
“อย่าให้พวกมันปีนขึ้นมาได้ รีบขัดขวางพวกมันเอาไว้เร็วเข้า” อู๋ชวงตะโกนสั่งการลูกน้องที่อยู่บนป้อมปราการทุกคน
ไม่กี่วินาทีต่อมามันก็มีเวทมนตร์จู่โจมเข้าใส่ไป๋เหลิงมากกว่า 10 ครั้งพร้อม ๆ กับสกิลฟื้นฟูพลังชีวิตที่เด้งขึ้นมามากกว่า 20 ครั้งด้วยเช่นกัน
“นักรบตามฉันมา ส่วนพาลาดินคอยฟื้นฟูเลือดเอาไว้” ไป๋เหลิงตะโกนสั่ง
ตอนแรกไป๋เหลิงไม่คิดว่าคนของเดธโซลจะกล้าเผชิญหน้ากับพวกเขาตรง ๆ เมื่อชายหนุ่มถูกโจมตีจากด้านบนของกำแพง เขาจึงเร่งความเร็วในการปีนเชือกขึ้นไปมากกว่าเดิม
10 วินาทีต่อมาไป๋เหลิงก็เป็นคนแรกที่ปีนขึ้นไปบนกำแพงได้สำเร็จ ซึ่งในวินาทีที่เท้าของเขากำลังเหยียบพื้นเขาก็ได้พบกับนักรบที่กำลังพุ่งเข้ามา
ฟิวเรียสเวิร์ลวินด์!
ทันทีที่ใช้สกิลร่างของไป๋เหลิงก็เริ่มหมุนควงอย่างบ้าคลั่ง และเนื่องมาจากพลังโจมตีพื้นฐานของเขามีมากกว่า 1,900 หน่วยอยู่แล้ว เมื่อมันได้รวมกับโบนัสความเสียหายจากสกิล มันจึงทำให้ศัตรูที่พุ่งเข้ามาสามารถทนรับความเสียหายได้ไม่ถึง 3 วินาทีก่อนที่พวกเขาจะเสียชีวิตลง
หลังจากสังหารศัตรูกลุ่มแรกจนเสร็จ ไป๋เหลิงก็สังเกตเห็นอู๋ชวงกำลังสั่งการนักเวทและนักธนูอยู่ในระยะไกล เขาจึงเผยรอยยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น ก่อนที่จะกระโดดหลบการโจมตีผ่านบันไดชั้นที่ 2 ก่อนที่จะมาหยุดยืนอยู่ต่อหน้าอู๋ชวงได้สำเร็จ
ชาร์จ!
ไป๋เหลิงคำรามเสียงดังพร้อมกับพุ่งเข้าหาอู๋ชวงอย่างรวดเร็ว ระหว่างนั้นใบดาบของเขาก็เริ่มลุกท่วมไปด้วยเปลวไฟ ซึ่งมันเป็นผลมาจากการเรียกใช้สกิลเฟลมไลท์นั่นเอง
-5,600
ตัวเลขความเสียหายกว่า 5,000 หน่วยปรากฏขึ้นอย่างฉับพลันและมันก็ทำให้อู๋ชวงล้มลงเสียชีวิตคาที่
อีกด้านหนึ่งนักรบชุดทองทั้ง 500 คนที่ปีนขึ้นมาบนกำแพงก็กำลังปะทะกับกองกำลังของเดธโซลอย่างต่อเนื่อง และเนื่องมาจากความแข็งแกร่งระหว่างทั้งสองฝ่ายที่แตกต่างกันมากจนเกินไป มันจึงทำให้ในเวลาเพียงแค่ไม่นานผู้เล่นทั้ง 500 คนของเดธโซลก็ถูกสังหารลงไปจนหมด
“มันจริง ๆ เลยเว้ย!” โอเชี่ยนบลู หัวหน้ากองพลที่ 1 กล่าวทำให้เหล่าบรรดาสหายที่ปีนกำแพงขึ้นมาพร้อม ๆ กันหัวเราะอย่างสะใจ
“อะไรกัน พวกมันมีฝีมือแค่นี้เองงั้นเหรอ? ส่งคนลงไปเปิดประตูเมือง ส่วนคนที่เหลือวิ่งตามฉันมา พวกเราจะไปไล่ฆ่าพวกศัตรูที่อยู่ทางประตูตอนเหนือของเมือง” ไป๋เหลิงกล่าวอย่างดูถูก
“ครับ/ค่ะ!”
โอเชี่ยนบลูนำลูกน้อง 20 คนลงไปเปิดประตูป้อมด้วยตัวเอง หลังจากนั้นกองกำลังที่เหลืออีก 4,500 คนก็เข้าสู่ป้อมปราการมาได้อย่างสบาย ๆ ก่อนที่พวกเขาจะปีนขึ้นไปบนกำแพงเพื่อเดินหน้าไปยังประตูทางตอนเหนือ
“ทุกคนตามฉันมา พวกเราไปฆ่ามันกันเถอะ!” ไป๋เหลิงตะโกนสั่งหลังจากที่เห็นทุกคนขึ้นมาบนกำแพงเรียบร้อยแล้ว
ต่อมากองกำลังทั้ง 5,000 คนก็บุกจากป้อมปราการทางตอนใต้อ้อมไปทางฝั่งกำแพงทางทิศตะวันตก โดยมีจุดหมายคือประตูป้อมทางทิศเหนือ
กำแพงป้อมปราการแต่ละฝั่งมีความกว้างอยู่มากพอสมควร เพราะทางระบบได้เผื่อพื้นที่เอาไว้ให้วางเครื่องยิงหินและหน้าไม้ขนาดใหญ่ มันจึงมีพื้นที่กว้างเหลือเอาไว้มากเป็นพิเศษ
ขณะเดียวกันเหล่าบรรดาผู้เล่นที่เฝ้าประตูทิศตะวันตกต่างก็กังวลเรื่องสถานการณ์ทางฝั่งประตูทางทิศเหนือ แต่ในระหว่างที่พวกเขากำลังรอฟังข่าวจากทิศเหนืออยู่นั่นเอง จู่ ๆ พวกเขาก็ได้รับข่าวที่ประตูทางใต้ถูกตีจนแตกเข้ามาเสียก่อน
“ทุกคนเตรียมตั้งรับเร็วเข้า!” ผู้บัญชาการประตูทิศตะวันตกรีบตะโกนสั่งอย่างตื่นตระหนก ซึ่งหลังจากที่เขาสั่งการจนจบกองกำลังของไป๋เหลิงก็ได้บุกเข้ามาประชิดพวกเขาแล้ว
กองกำลังเหล่านี้ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้เล่นที่สวมใส่ชุดอุปกรณ์ระดับทอง เมื่อพวกเขาเข้ามาในระยะ 30 เมตร โอเชี่ยนบลูก็ได้นำกองกำลังนักรบ 80 คนใช้สกิลชาร์จพุ่งเข้าหาศัตรูพร้อม ๆ กัน
ตูม!
ตูม!
…
เสียงโลหะกระทบกันดังสนั่นหวั่นไหว ซึ่งในกรณีที่ทั้งสองฝ่ายมีเลือดเท่ากันและมีอุปกรณ์ในระดับเดียวกัน นักรบคลั่งย่อมไม่มีทางเอาชนะนักรบโล่ได้อย่างแน่นอน แต่ปัจจุบันฝ่ายหนึ่งเป็นนักรบที่พึ่งมีเลเวล 20 กว่า ๆ และสวมใส่อุปกรณ์ระดับเงินเพียงแค่บางชิ้นเท่านั้น มันจึงไม่มีทางที่พวกเขาจะตั้งรับการโจมตีจากนักรบเลเวล 30 ที่สวมใส่อุปกรณ์ระดับทองทั่วทั้งตัวได้
กองหน้าของเดธโซลไม่สามารถตั้งรับได้ถึง 5 วินาทีด้วยซ้ำ มันจึงทำให้ในเวลาเพียงแค่ไม่นานแนวรบของพวกเขาก็ถูกทำลายอย่างไม่มีชิ้นดี
“ฆ่ามัน!” โอเชี่ยนบลูใช้สกิลฟิวเรียสเวิร์ลวินด์พร้อม ๆ กันกับนักรบคลั่งด้านข้างอีก 10 คน
ไป๋เหลิงมองดูผลงานกองกำลังตัวเองอย่างพึงพอใจ เพราะนักรบคลั่งทั้ง 10 คนนี้มันเป็นผู้เล่นที่พวกเขาสามพี่น้องหาใบเปลี่ยนอาชีพมาให้ด้วยตัวเอง และพวกเขาก็ตั้งกองกำลังนี้ขึ้นมาเพื่อทำลายแนวตั้งรับของศัตรูโดยเฉพาะ
เมื่อเห็นว่านักรบโล่ของฝ่ายตรงข้ามพ่ายแพ้อย่างยับเยินแล้ว ไป๋เหลิงก็ชูดาบขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกับตะโกนขึ้นมาเสียงดังว่า
“ทุกคนบุกเข้าไปได้เลย!”
“ฆ่ามัน!!”
หากมองจากมุมสูงจะเห็นภาพกองกำลังฝ่ายหนึ่งกลืนกองกำลังอีกฝ่ายเข้าไปได้อย่างง่ายดาย และในเวลาเพียงแค่ไม่ถึง 10 นาที กองกำลังของเดธโซลทั้งหมดบนกำแพงทางฝั่งทิศตะวันตกก็ถูกสังหารโดยไม่มีเหลือ
“ทุกคนพักฟื้น 2 นาที พาลาดินช่วยชุบชีวิตคนที่ตายขึ้นมาด้วย” ไป๋เหลิงตะโกนสั่ง
“ครับ/ค่ะ” ทุกคนตอบรับขึ้นมาพร้อมกัน
แสงศักดิ์สิทธิ์สว่างวาบขึ้นมาเป็นจุด ๆ ซึ่งหลังจากผู้ที่เสียชีวิตถูกฟื้นคืนชีพขึ้นมาแล้ว พวกเขาก็นั่งพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูพลังชีวิตและมานาให้กลับคืนมา
2 นาทีต่อมา
“ทุกคนเคลื่อนพลได้” ไป๋เหลิงตะโกนสั่งการ
ผู้เล่นทั้ง 5,000 คนกลับเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบ โดยทุกคนต่างก็รู้สึกสนุกกับการฆ่าศัตรูมากขึ้นเรื่อย ๆ
“เป้าหมายต่อไปของเราคือประตูทางทิศเหนือ ทุกคนตามฉันมา!”
—
ประตูทิศเหนือ
สถานการณ์ในสนามรบกำลังอยู่ในช่วงดุเดือด ซึ่งหลังจากที่สวิฟเดธควบคุมลูกน้องของตัวเองได้ พวกเขาก็เริ่มมีกำลังในการโต้กลับได้ทีละน้อย
ตอนนี้นักธนูและนักเวทบนกำแพงไม่ได้มุ่งเน้นการโจมตีไปที่เหล่านักรบบริเวณประตูอีกต่อไป แต่พวกเขาได้เล็งการโจมตีไปที่นักธนูและนักเวทของฝ่ายตรงข้าม ทำให้พวกไป๋หูต้องโฟกัสที่การป้องกันมากยิ่งขึ้น ส่วนนักบวชทางด้านหลังก็ไม่ได้รักษาอย่างสะเปะสะปะอีกต่อไป แต่พวกเขามีเป้าหมายในการรักษาเป็นของตัวเอง
อย่างไรก็ตามแม้ว่าสถานการณ์ของพวกเขาจะดูดีขึ้น แต่ถ้าหากสถานการณ์ยังคงเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ อีกประมาณ 20 นาทีประตูป้อมก็คงจะถูกทำลายลงเช่นเดิม แต่กองกำลังของแบล็คบลัดก็สมควรที่จะอยู่ห่างจากป้อมไปไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง ซึ่งมันก็ไม่มีทางที่พวกเขาจะสามารถยื้อสถานการณ์ไปจนถึงตอนนั้นได้อย่างแน่นอน
ระหว่างที่สวิฟเดธกำลังกระวนกระวายภายในใจอยู่นั้น อู๋ชวงก็ติดต่อเข้ามาพร้อมกับตะโกนอย่างกังวลว่า
“หัวหน้ากำแพงทางทิศตะวันตกถูกบุกตีจนแตกแล้ว ตอนนี้กองกำลังชุดทองของบลัดบราเธอร์ 5,000 คนกำลังบุกตลบหลังไปทางประตูทิศเหนือ”
“อะไรนะ?! บลัดบราเธอร์จะมีกองกำลังผู้เล่นชุดทอง 5,000 คนได้ยังไง? ไม่ใช่ว่ากองกำลังผู้เล่นชุดทองของมันทั้งหมดอยู่ในหุบเขาฟีนิกซ์งั้นเหรอ” สวิฟเดธอุทานอย่างตกตะลึง
“ผมจะโกหกหัวหน้าไปทำไม ตอนนี้กองกำลังของผมถูกฆ่าตายกันจนหมดแล้ว อีกไม่เกิน 10 นาทีพวกเขาน่าจะไปถึงประตูทางทิศเหนือ หัวหน้ารีบคิดหาวิธีรับมือเอาไว้เร็ว ๆ เข้า” อู๋ชวงกล่าวอย่างร้อนรน
เหตุการณ์นี้ทำให้สวิฟเดธยกมือขึ้นมากุมหัวอย่างจนปัญญา เพราะถ้าหากศัตรูคือกองกำลังผู้เล่นชุดทองเลเวล 30 ทั้ง 5,000 คนจริง ๆ กองกำลังที่ปกป้องป้อมปราการเอาไว้ในตอนนี้ย่อมไม่มีทางต่อต้านกองกำลังของศัตรูไหว
ในระหว่างที่เขากำลังสับสนอยู่นั่นเอง กองกำลังของไป๋เหลิงที่ใช้ม้วนคัมภีร์เพิ่มความเร็วในระหว่างการเดินทางก็เริ่มปรากฏตัวขึ้นมาบริเวณมุมกำแพง
“พวกมันเป็นกองกำลังผู้เล่นชุดทองจริง ๆ ด้วย!” สวิฟเดธอุทานอย่างสับสน
“หัวหน้าพวกเราจะเอายังไงกันดีครับ?” ออไนท์ถามอย่างตื่นตระหนก
สวิฟเดธมองไปยังไป๋เหลิงด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ก่อนที่เขาจะชักดาบขึ้นมาแล้วพูดว่า
“กองกำลังหลักของเรากับกำลังเสริมของบลัดเติสตี้กำลังบุกมาช่วย สิ่งที่พวกเราทำได้คือพยายามถ่วงเวลาเอาไว้ให้ได้นานที่สุด นายรีบนำกองกำลังออกไปต้านไว้ก่อน เดี๋ยวฉันจะไปเรียกคนจากประตูทิศตะวันออกมาช่วย”
พิมพ์เรียกเอาไม่ได้เหรออออออออ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 184
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น