บทที่ 325 ปิดล้อมกำลังเสริม
บทที่ 325 ปิดล้อมกำลังเสริม
ในสนามรบ
จู่ ๆ พวกแบล็คโน้ตที่ติดอยู่ในวินเทอร์สตอร์มก็รู้สึกว่าพวกเขาตัวเบาขึ้น และเมื่อทุกคนสังเกตเห็นว่าพายุหิมะได้จางหายไป เขาจึงยกนิ้วโป้งให้กับซุนหยูบนหน้าผาและตะโกนขึ้นมาว่า
“ทุกคนบุก!”
“ฆ่ามัน!!”
กองกำลังของซุนหยูตะโกนด้วยความฮึกเหิมอีกครั้ง ก่อนที่พวกเขาจะบุกเข้าไปยังกองกำลังของแมทช์แซดที่กำลังตกอยู่ในความโกลาหล
เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่จะสร้างความตกตะลึงให้กับศัตรูและพวกซุนหยูได้เท่านั้น เพราะแม้กระทั่งบิทเทอร์เลิฟ, ฉิงชางและเซี่ยหยู่เว่ยต่างก็มองไปยังกองกำลังพิเศษของซุนหยูด้วยความตกใจด้วยเช่นกัน
“อินทรีสายฟ้าแข็งแกร่งมาก”
“หัวหน้า พวกเราสามารถใช้สกิลต้องห้ามของนักเวทไฟได้หรือเปล่าครับ?” ฉิงชางติดต่อไปถามความเห็นจากลู่หยาง
เนื่องจากใบเปลี่ยนอาชีพที่ลู่หยางได้ให้มาจึงทำให้ทีมของเขามีนักเวทไฟที่เปลี่ยนอาชีพแล้วถึง 21 คน ซึ่งแต่ละคนก็ได้ทำตามคำแนะนำของลู่หยางจนได้เรียนรู้สกิลกึ่งต้องห้ามมาในที่สุด โดยมันคือสกิลเรจจิ้งเฟลมที่สามารถสร้างความเสียหาย 500 หน่วยให้กับเป้าหมายทั้งหมดในรัศมี 50 เมตร
“ใจเย็น ๆ อย่าเพิ่งรีบร้อน ถ้าทุกคนใช้สกิลต้องห้ามออกมาในตอนนี้แล้วสงครามมันจะไปเหลืออะไรอีกล่ะ ถูเฟิงเพิ่งส่งข่าวมาว่าเดธโซลกำลังรวบรวมกองกำลัง 100,000 คนและให้สกายซอร์ทนำกำลังเสริมมาสมทบที่นี่ 40,000 คน แต่พวกเขากำลังจะเดินทางเข้าไปในพื้นที่ซุ่มโจมตีของไป๋ฉือแล้ว” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ทุกคนช่วยเหลืออะไรไว้ให้พวกเราบ้างสิ” ไป๋เหลิงตะโกนภายในช่องแชทกิลด์เรียกเสียงหัวเราะจากทั้งฉิงชางและบิทเทอร์เลิฟ
“ไม่ต้องห่วง ทางฝั่งนี้จะพยายามแสดงละครให้สมจริงที่สุด ทางฝั่งของพวกนายก็อย่าประมาทล่ะ อย่าลืมว่ากองกำลังของพวกนายมีแค่ 20,000 คน แต่กองกำลังของศัตรูมีถึง 40,000 คน” ลู่หยางกล่าว
“หัวหน้าวางใจได้เลยครับ พวกเราจัดการกับกองกำลังของสกายซอร์ทได้แน่นอน ตอนนี้ทุกอย่างมันก็ขึ้นอยู่กับเจียงเจ๋อแล้วล่ะครับ” ไป๋ฉือกล่าว
ขณะเดียวกันเจียงเจ๋อ, จางจื่อโป๋, หลานอวี่และเสี่ยวเหลียงก็ได้นำกองกำลัง 70,000 คนซุ่มซ่อนอยู่ในหุบเขาสนเงินอย่างระมัดระวัง
“ทางฝั่งของพวกนายก็รีบ ๆ หน่อยสิ พวกเราเริ่มเบื่อกันแล้วนะ” เจียงเจ๋อบ่น
“ทุกคนค่อย ๆ สู้กันไปเถอะ ฉันรับรองว่าพวกเราจะไม่ปล่อยให้พวกเดธโซลก้าวเท้าเข้ามาในหุบเขาสนเงินแม้แต่ก้าวเดียว” หลานอวี่กล่าว
เหตุการณ์นี้ทำให้ลู่หยางอดที่จะขำขึ้นมาไม่ได้ เพราะท้ายที่สุดแบล็คบลัดก็คิดว่าเขามีกองกำลังเพียงแค่ 80,000 คน ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงเขามีกองกำลังทั้งหมดที่พร้อมรบอยู่ถึง 170,000 คน หากพวกเขาไม่จำเป็นจะต้องระวังกองกำลังของบลัดไทแรนท์ที่จะเข้ามาเสริมการต่อสู้แบบตัวต่อตัวกับเดธโซล มันก็ย่อมจบลงที่ชัยชนะของพวกเขาอย่างง่ายดาย
ในระหว่างที่เขากำลังรอรายงานจากพวกถูเฟิงอยู่นั้น มู่หยูก็พานักเวทสายฟ้าทั้งสองคนวิ่งเข้ามาจากในระยะไกล
“พี่ หนูมาแล้วค่ะ นี่คืออีเทอนอลโซลเป็นนักเวทสายฟ้าที่เก่งมาก ๆ เลย” มู่หยูแนะนำนักเวทสายฟ้าชายที่อยู่ข้าง ๆ ให้ลู่หยางได้รู้จัก
อีเทอนอลโซลมองไปทางลู่หยางอย่างประหม่า ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า
“สวัสดีครับหัวหน้า ผมชื่ออีเทอนอลโซลครับ”
“ยินดีต้อนรับนะ” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับยื่นมือออกไป
อีเทอนอลโซลยื่นมือมาจับกับมือของลู่หยางด้วยแววตาอันเป็นประกาย เพราะเขาไม่คิดเลยว่าหัวหน้ากิลด์บลัดบราเธอร์อันยิ่งใหญ่ แท้ที่จริงจะเป็นคนที่มีนิสัยเป็นกันเองแบบนี้
“ขอบคุณครับหัวหน้า”
“ส่วนคนนี้ชื่อเซาธ์วินด์ค่ะ เขาก็เป็นนักเวทสายฟ้าที่เก่งมาก ๆ ด้วยเหมือนกัน” มู่หยูกล่าวพร้อมกับแนะนำนักเวทสายฟ้าสาวที่อยู่ใกล้ ๆ
ลู่หยางพิจารณาเซาธ์วินด์อย่างละเอียด โดยเธอคนนี้เป็นนักเวทที่สวยมาก ใบหน้าของเธอมีความงดงามและรูปลักษณ์ภายนอกดูค่อนข้างที่จะอ่อนโยน
“ยินดีต้อนรับ ก่อนหน้านี้มู่หยูบอกว่าพวกเธอทั้งสองคนอยากจะเข้าร่วมกับกิลด์ของฉันใช่ไหม? ฉันจะไม่ทำให้พวกเธอผิดหวังแน่นอน สัญญาเริ่มแรกฉันขอเสนอเงินเดือนให้กับพวกเธอคนละ 10,000 เครดิตก่อน หากพวกเธอตอบตกลงฉันก็ยินดีจะสอนบทย่อคาถาสายฟ้าให้กับพวกเธอเดี๋ยวนี้เลย” ลู่หยางยื่นข้อเสนอพร้อมกับยื่นมือออกไปทักทายเซาธ์วินด์ด้วยเช่นกัน
“ขอบคุณค่ะ” เซาธ์วินด์ยื่นมือออกมาจับอย่างสุภาพ
“หัวหน้ามีบทย่อคาถาสายฟ้าด้วยเหรอครับ?” อีเทอนอลโซลถามอย่างดีใจ
“มีสิ สิ่งที่ฉันมีไม่เพียงแต่บทย่อของเวทมนตร์ทั่วไปนะ เพราะแม้แต่บทย่อของเวทมนตร์พิเศษหรือเวทมนตร์ต้องห้ามฉันก็มีเหมือนกัน” ลู่หยางกล่าวก่อนที่เขาจะหันไปพูดกับอีเทอนอลโซลโดยเฉพาะ
“เวทมนตร์โอเวอร์ชาร์ตของนายมันค่อนข้างจะพิเศษอยู่เล็กน้อย และฉันก็รู้วิธีที่จะทำให้นายสามารถใช้สกิลนี้ออกมาได้ในทันทีเลย”
“อะไรนะ?! คุณสามารถทำให้โอเวอร์ชาร์ตใช้ออกมาได้ในทันทีเลยเหรอครับ?” อีเทอนอลโซลถามอย่างตกใจ
วิธีใช้โอเวอร์ชาร์ตให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือการแทรกซึมเข้าไปภายในกลุ่มของศัตรูแล้วทำการระเบิดพลังสายฟ้าขึ้นมา แล้วถึงแม้พลังโจมตีเริ่มต้นของสกิลนี้จะไม่สูงมาก แต่จุดเด่นของมันคือการจู่โจมศัตรูทุกตัวภายในระยะและสามารถชิ่งไปหาศัตรูที่อยู่ใกล้ ๆ กับเป้าหมายต่อไปได้เรื่อย ๆ
ตราบใดก็ตามที่อีเทอนอลโซลสามารถกระโดดไปใจกลางวงศัตรูทั้ง 100 คนได้สำเร็จ สกิลนี้ก็จะสามารถสร้างความเสียหายให้ผู้เล่นทั้ง 100 คนพร้อมกัน แล้วถ้าหากว่าสายฟ้าชิ่งไปมาครบทั้ง 100 ครั้ง มันก็สามารถการันตีได้เลยว่าผู้เล่นทั้ง 100 คนนี้จะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
ก่อนหน้านี้อีเทอนอลโซลเคยกังวลกับสกิลพิเศษของเขามาโดยตลอด เพราะโดยปกติมันจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาร่ายอย่างยาวนานถึง 15 วินาที แน่นอนว่าระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนานขนาดนี้ เขาคงไม่สามารถแทรกซึมเข้าไปร่ายเวทมนตร์กลางดงของศัตรูได้อย่างแน่นอน
ด้วยจุดอ่อนเรื่องระยะเวลาการร่ายที่ยาวนานนี่เอง อีเทอนอลโซลจึงคิดมาโดยตลอดว่าสกิลพิเศษของเขาสามารถใช้งานท่ามกลางฝูงมอนสเตอร์ได้เท่านั้น แต่ใครจะไปคิดว่าลู่หยางจะมีวิธีทำให้เขาสามารถปลดปล่อยสกิลออกมาได้ในทันทีแบบนี้
“หัวหน้า ผมชื่นชมคุณมาโดยตลอด หากคุณช่วยให้ผมใช้โอเวอร์ชาร์ตได้ในทันทีจริง ๆ ผมก็ขอสาบานว่าหลังจากนี้ผมจะภักดีกับคุณจนกว่าพวกเราจะตายจากกัน” อีเทอนอลโซลพูดอย่างตื่นเต้น
“นายไม่จำเป็นจะต้องพูดจาเวอร์วังอะไรขนาดนั้นหรอก ขอแค่ระหว่างทำงานกับฉัน นายช่วยทำหน้าที่ให้เต็มที่ก็พอ และฉันก็จะไม่ทำให้พี่น้องคนไหนของฉันผิดหวังด้วยเหมือนกัน” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลังจากพูดคุยกันเรื่องสัญญาเรียบร้อยแล้ว ลู่หยางก็สอนวิธีย่อคาถาและการควบคุมพลังให้กับอีเทอนอลโซล นักเวทสายฟ้าหนุ่มจึงรีบวิ่งออกไปฝึกฝนในทันที
เมื่อพูดคุยกับอีเทอนอลโซลจนเสร็จ ลู่หยางก็หันไปมองเซาธ์วินด์พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า
“เดี๋ยวฉันจะสอนวิธีย่อคาถาต้องห้ามทั้ง 2 อย่างให้กับเธอด้วย”
“หัวหน้า ฉันไม่ได้รีบร้อนขนาดนั้นค่ะ เอาเป็นว่าเรามาทำสงครามกันก่อนแล้วคุณค่อยสอนฉันทีหลังก็ได้” เซาธ์วินด์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
สถานการณ์ในหุบเขาฟีนิกซ์ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ และถึงแม้ว่ากองกำลังของบลัดบราเธอร์จะกุมความได้เปรียบเอาไว้ แต่การสังหารสมาชิกของเดธโซลทั้ง 50,000 คนมันก็จำเป็นจะต้องใช้ความพยายามมากพอสมควร นอกจากนี้ฉิงชางและเซี่ยหยู่เว่ยยังใช้ความแข็งแกร่งออกมาเพียงแค่ครึ่งเดียว สถานการณ์มันจึงดูไม่ค่อยจะทิ้งขาดขนาดนั้น
“เธอเคยได้ยินเรื่องการซุ่มโจมตีกองกำลังเสริมไหม?” ลู่หยางถาม
“รู้จักค่ะ มันเป็นกลยุทธ์ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว” เซาธ์วินด์กล่าว
“สิ่งที่ฉันกำลังทำอยู่ในตอนนี้ก็คือกลยุทธ์นั้นนั่นแหละ ระหว่างนี้ฉันจะสอนวิธีย่อคาถาให้กับเธอก่อน หากฉันเดาไม่ผิดหลังจากที่เธอเรียนรู้วิธีการของฉันจนเสร็จ มันก็น่าจะถึงเวลาที่เธอจะต้องแสดงฝีมือพอดี” ลู่หยางกล่าว
“ได้ค่ะ” เซาธ์วินด์พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
หลังจากนั้นลู่หยางก็เริ่มสอนวิธีการย่อคาถาให้กับเซาธ์วินด์อย่างช้า ๆ ซึ่งในชาติที่แล้ววิธีการเหล่านี้คือวิธีการที่เซาธ์วินด์ทำความเข้าใจด้วยตัวเอง ก่อนที่เธอจะทำการเผยแพร่ต่อสาธารณะในฟอรั่มทางการ
สาเหตุที่ลู่หยางจดจำวิธีการย่อคาถาเหล่านี้ได้ก็เพราะว่าเขาต้องการจะนำวิธีการเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้กับเวทมนตร์ธาตุไฟของเขา แต่ใครจะไปคิดว่าในชาตินี้เขาจะมีโอกาสได้สอนเซาธ์วินด์ด้วยตัวของตัวเอง
เอาวิธีเขามาสอนเขา 5555
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 161
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น