บทที่ 215 เฮลไฟร์ลอร์ด
บทที่ 215 เฮลไฟร์ลอร์ด
“ถ้าเรียกเฮลไฟร์ออกมาหลังมีค่าสติปัญญาเพิ่มขึ้นอีก 1,700 หน่วยแล้วมันจะมีอะไรพิเศษงั้นเหรอคะ?” ฮั่นอิ่งถาม
อุปกรณ์ที่พวกเธอสวมอยู่ต่างก็ฝังอัญมณีเพิ่มสติปัญญาเอาไว้อย่างเต็มที่ ถ้ามันได้รวมกับค่าสติปัญญาที่เพิ่มขึ้นอีก 1,700 หน่วย มันก็จะทำให้พวกเธอมีค่าสติปัญญาถึง 2,000 หน่วย ในตอนนั้นเฮลไฟร์ที่เรียกออกมาก็จะกลายเป็นเฮลไฟร์ลอร์ดซึ่งมีพลังมากกว่าเฮลไฟร์ธรรมดาถึงสองเท่า” ลู่หยางตอบ
เมื่อได้ยินว่าเฮลไฟร์ลอร์ดมีพลังมากกว่าเฮลไฟร์ธรรมดาถึงสองเท่า มันก็ทำให้ดวงตาของฮั่นอิ่ง, หลู่จ้าวหยู่และเฉินเฟิงเป็นประกายขึ้นมาในทันที
“ลูกพี่ งั้นแบบนี้เฮลไฟร์ลอร์ดเลเวล 7 ก็เก่งกว่าเฮลไฟร์ธรรมดาถึง 14 เท่าใช่ไหมครับ?” หลู่จ้าวหยู่ถาม
“มันก็ไม่ได้ถึงขั้นนั้นหรอก แต่ความเสียหายที่เฮลไฟร์ลอร์ดเลเวล 7 ทำได้มันก็ไม่ด้อยไปกว่าธันเดอร์สตอร์มของมู่หยูหรอกนะ” ลู่หยางตอบ
“ขอบคุณครับลูกพี่” เฉินเฟิงกล่าว
ลู่หยางตบไหล่เด็กหนุ่มทั้งสองคนพร้อมกับพูดว่า
“ไม่ต้องเกรงใจฉันหรอก ตอนนี้ลองเรียกเฮลไฟร์ลอร์ดออกมาดูก่อนแล้วพวกเราค่อยมาคุยแผนขั้นต่อไปกันนอกเกม”
“ครับ!” เด็กหนุ่มทั้งสองคนตอบรับด้วยความตื่นเต้น เพราะพลังของสกิลต้องห้ามต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ผู้เล่นทุกคนยากจะอดใจไหว
นอกจากนี้นับตั้งแต่ที่หลู่จ้าวหยู่และเฉินเฟิงมาอยู่กับลู่หยางได้ครึ่งเดือน รายได้ของพวกเขาก็สูงกว่า 10,000 เครดิตแล้ว ซึ่งมันเป็นเรื่องที่พวกเขาไม่เคยคิดฝันมาก่อน และทั้งสองก็ไม่รู้ว่าทำไมลู่หยางถึงดีกับพวกเขาขนาดนี้ แต่เหตุการณ์ในปัจจุบันมันก็ทำให้ทั้งคู่ต่างก็สัญญากับตัวเองว่าจะจงรักภักดีคอยช่วยเหลือลู่หยางในทุก ๆ อย่างเท่าที่พวกเขาจะทำได้
ไม่นานทั้งสามก็ได้รับเอฟเฟกต์ราชากุรุกุรุที่ทำให้ค่าสติปัญญาเพิ่มขึ้นมาอีก 1,700 หน่วย
เฮลไฟร์!
เฮลไฟร์!
เฮลไฟร์!
การอัญเชิญเฮลไฟร์ครั้งนี้แตกต่างจากการอัญเชิญเฮลไฟร์ในครั้งก่อน ๆ เพราะมันได้มีหินสีเขียวที่มีขนาดใหญ่มากกว่าหินของเฮลไฟร์ 3 ก้อนตกลงมาจากบนท้องฟ้า เมื่ออุกกาบาตได้ตกลงมามันก็ปรากฏเฮลไฟร์ลอร์ดที่มีความสูงมากกว่า 8 เมตรและสวมใส่ชุดเกราะหนามปกคลุมร่างกาย
โฮก!
เฮลไฟร์ลอร์ด (ระดับอีลิท)
พลังชีวิต 14,000/14,000
ความเสียหายจริง 196-196
เปลวเพลิงชั่วร้าย 286 หน่วย/วินาที
สกิลพิเศษ
ดีม่อนเฟลมพั้น: ทุกการโจมตีมีโอกาส 30% ที่จะสร้างความเสียหายจากเพลิงอสูร 364 หน่วย
“โหดมาก! แบบนี้ใครจะไปฆ่ามันได้” ฮั่นอิ่งอุทานด้วยความตกใจ
“ลูกพี่ ตอนนี้ผมรู้สึกแข็งแกร่งมากเลยครับ” หลู่จ้าวหยู่กล่าว
“ผมก็เหมือนกัน” เฉินเฟิงกล่าวเสริม
ลู่หยางส่งเสียงหัวเราะพร้อมกับพูดว่า
“แน่นอนอยู่แล้ว นี่คือสัตว์อัญเชิญระดับสูงของผู้เล่นเลเวล 100 เชียวนะ ในกรณีของพวกนายมันคือกรณีพิเศษที่สามารถอัญเชิญมันออกมาได้ในตอนนี้ แต่พวกนายต้องระวังตัวเองเอาไว้ให้ดี เพราะถ้าหากพวกนายเกิดตายขึ้นมาเฮลไฟร์ลอร์ดจะก่อกบฏและในตอนนั้นมันจะกลายเป็นฝันร้ายของเพื่อนร่วมทีมแทน”
ฮั่นอิ่ง, หลู่จ้าวหยู่และเฉินเฟิงต่างก็พยักหน้ารับอย่างจริงจัง
“ลูกพี่วางใจได้ พวกเราจะระวังตัวครับ” หลู่จ้าวหยู่ตอบ
“หลังเฮลไฟร์ลอร์ดมีเลเวล 7 มันจะมีเอฟเฟกต์พิเศษอยู่อีกอย่างคือถ้าหากมันไม่ได้ต่อสู้เป็นเวลา 10 นาที ตัวของมันจะเปลี่ยนร่างเป็นลูกไฟลอยวนรอบผู้อัญเชิญ เมื่อพวกนายเข้าสู่การต่อสู้อีกครั้งพวกนายก็สามารถจำลองการอัญเชิญของมันเพื่อทำให้ศัตรูติดสตั๊นได้” ลู่หยางกล่าว
“มันมีเอฟเฟกต์แบบนี้ด้วยเหรอครับ?” เฉินเฟิงถามอย่างประหลาดใจ
“เอาล่ะทั้งสามคนเตรียมตัวเอาไว้ให้พร้อม อีกไม่นานมันอาจจะมีสงครามเกิดขึ้นและในเวลานั้นฉันจะเรียกให้พวกนายทั้งสามคนไปเข้าร่วมรบด้วย” ลู่หยางกล่าว
“เยี่ยมไปเลย” หลู่จ้าวหยู่กล่าวอย่างตื่นเต้น
ทันใดนั่นเองมันก็มีเสียงนาฬิกาดังขึ้น เมื่อลู่หยางมองดูเวลาเขาก็ได้พบว่ามันถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว
“ทุกคนออกไปกินข้าวกันก่อนแล้วพวกเราค่อยไปคุยกันนอกเกม”
เพื่อส่งเสริมความสามัคคีระหว่างพี่น้อง ลู่หยางจึงให้น้อง ๆ กว่า 40 คนที่เขารับเข้ามาผลัดกันทำอาหาร และไม่ว่าอาหารที่ทำจะอร่อยหรือไม่อร่อย แต่อย่างน้อยทุกคนก็จะได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วยกัน
วันนี้เป็นเวรของพวกมู่ยี่ทำอาหาร และคนกว่า 40 คนก็กำลังรอกินข้าวอยู่ในห้องชั้นที่ 1
เมื่อลู่หยางพาฮั่นจง, เสี่ยวเหลียงและคนอื่น ๆ ลงมายังชั้นล่าง พี่น้องเหล่านี้ก็ลุกขึ้นยืนพร้อม ๆ กันก่อนจะพูดทักทายอย่างนอบน้อมว่า
“สวัสดีครับลูกพี่”
ในเวลาไม่ถึงครึ่งเดือนลู่หยางทำให้พวกเขาที่ยังคงเป็นเพียงแค่นักเรียนหาเงินได้หลายพันเครดิตแล้ว ทุกคนจึงต่างก็ให้ความเคารพลู่หยางมาก
“นั่งลงเถอะ” ลู่หยางกล่าวก่อนที่จะเดินไปนั่งที่ม้านั่งยาวเพื่อล้อมวงกินข้าวกับน้อง ๆ ทั้ง 40 กว่าคน
หลังกินข้าวเย็นเสร็จเด็ก ๆ ก็แยกย้ายกันออกไปล็อกอินเข้าเกม เหลือเพียงฮั่นจง, สามพี่น้องตระกูลฮั่น, มู่ยี่, มู่หยู, เสี่ยวเหลียง, หลู่จ้าวหยู่และเฉินเฟิงที่กำลังนั่งอยู่รอบ ๆ ลู่หยาง
“ฉันมีเรื่องสำคัญจะประกาศหนึ่งเรื่อง ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปสตูดิโอของเราจะมีแผนการขยายขนาด ฉันจะรับสมัครผู้เล่นสายอาชีพเข้ามาเพิ่มอีก 100 คน หลู่จ้าวหยู่ เฉินเฟิง พวกนายไปหาคนที่เหมาะสมจากโรงเรียนของนายได้เลย ส่วนฉันกับเสี่ยวเหลียงจะไปหาคนจากสลัม จำไว้ว่าแต่ละคนมีสิทธิ์หาคนได้แค่คนละ 25 โควตาเท่านั้น ดังนั้นขอให้คัดเลือกสมาชิกใหม่กันให้ดี ๆ” ลู่หยางกล่าว
“ลู่หยาง ตอนนี้พวกเราผลิตชุดคลื่นทะเลกันได้เยอะมากแล้วนะ ถ้ารับคนเข้ามามากกว่านี้บางทีมันอาจจะเยอะเกินไป” ฮั่นจงกล่าวด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“ผมไม่ได้รับพวกเขามาสร้างชุดคลื่นทะเลครับ แต่ผมเพิ่งได้รับบลูปริ้นร็อคเก็ตโมบายล์มา มันคืออุปกรณ์เสริมที่จะช่วยเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ได้ 100% เป็นเวลา 30 วินาที” ลู่หยางตอบ
“มันมีคูลดาวน์นานแค่ไหน?” ฮั่นจงถาม
“2 นาทีครับ” ลู่หยางตอบ
“นี่มันไอเท็มทำเงินชิ้นต่อไปชัด ๆ” ฮั่นจงกล่าวพร้อมกับตบโต๊ะเสียงดัง
ตั้งแต่เข้าร่วมเกมฮั่นจงก็พยายามทำความเข้าใจเซคคัลเวิลด์อย่างจริงจัง และในช่วงนี้ในช่องแชทโลกก็มีผู้เล่นมากมายกำลังบ่นว่าแผนที่ของเกมใหญ่เกินไปจนทำให้พวกเขาเสียเวลาในการเดินทางนานมาก ทุกคนจึงพยายามหาซื้ออุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความเร็ว
“ผมวางแผนจะขายอุปกรณ์ชิ้นนี้ชิ้นละ 50 เหรียญเงิน ผู้เล่นทุกคนน่าจะมีกำลังมาซื้อมันได้ไม่ยากเย็นมากนัก” ลู่หยางกล่าว
เมื่อทุกคนได้ฟังแผนการของลู่หยาง มันก็ยิ่งทำให้พวกเขาแสดงสีหน้าออกมาอย่างตื่นเต้น
“ผมกำลังรอคำสั่งจากลูกพี่อยู่แล้ว เรื่องการหาคนไม่น่าจะมีปัญหา” เสี่ยวเหลียงกล่าว
“ทางฝั่งพวกผมก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเหมือนกัน” หลู่จ้าวหยู่กล่าว
“ดีมาก ถ้างั้นก็ตกลงกันตามนี้” ลู่หยางกล่าว
ทุกคนต่างก็พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน มีเพียงมู่ยี่ที่รู้สึกโดดเดี่ยวอยู่คนเดียว เพราะในบรรดาทุก ๆ คนที่นั่งอยู่ที่นี่มีเพียงเขาที่ถูกลู่หยางขอให้ไปเล่นเป็นเผ่าสัตว์อสูร
“ฉันมีข่าวดีจะบอกนายด้วยนะ” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับตบไหล่มู่ยี่เบา ๆ
มู่ยี่รู้ว่าลู่หยางสังเกตเห็นความเหงาของเขา เขาจึงเผยรอยยิ้มพร้อมกับพูดว่า
“ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับ ว่าแต่พี่มีข่าวอะไร?”
ลู่หยางมองไปทางมู่หยูเพื่อส่งสัญญาณให้เธอเป็นคนบอกข่าวนี้กับพี่ชายด้วยตัวเอง
“พี่ วันนี้พี่หยางให้จดหมายสถาบันเวทมนตร์กับหนู ตอนนี้หนูเลยกลายเป็นนักเวทลมและได้เรียนสกิลต้องห้ามธันเดอร์สตอร์มมาด้วยล่ะ” มู่หยูพูดอย่างดีใจ
“จริงเหรอ?!” มู่ยี่ลุกขึ้นยืนอย่างตื่นเต้น เพราะในเผ่าหมาป่ามันก็ได้มีผู้เล่นได้รับจดหมายจนกลายเป็นนักเวทลมด้วยเหมือนกัน แม้กระทั่งสกิลธันเดอร์สตอร์มก็เคยปรากฏในสงครามกิลด์จึงทำให้ผู้เล่นเผ่าอสูรพูดคุยกันถึงเรื่องนี้อย่างมากมาย
“พี่รู้ไหมว่ากว่าจะเรียนธันเดอร์สตอร์มได้มันต้องใช้เงินตั้ง 100 เหรียญทอง โชคดีนะที่พี่ลู่หยางให้เงินหนูมา” มู่หยูกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
“ขอบคุณมากครับ” มู่ยี่หันไปขอบคุณทางลู่หยาง
ชายหนุ่มโอบไหล่มู่ยี่พลางพูดว่า
“นายจะมาเกรงใจอะไรกัน ฉันสัญญาว่าในอีกครึ่งปีฉันจะให้นายได้เข้าร่วมกับกองกำลังหลักและในตอนนั้นฉันก็จะช่วยให้นายได้รับอาชีพลับด้วย”
“ไม่ต้องหรอกครับ แค่น้องสาวผมได้อาชีพลับแค่นั้นผมก็ดีใจแล้ว” มู่ยี่กล่าว
“พวกนายทุกคนคือพี่น้องของฉันและฉันจะไม่ทอดทิ้งใครเอาไว้ข้างหลังอย่างเด็ดขาด” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับส่ายศีรษะ
ลู่หยางกำลังทยอยช่วยคนรอบ ๆ ตัวขึ้นเรื่อยแล้วววว
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 171
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น