บทที่ 209 ห้าพันธมิตร
บทที่ 209 ห้าพันธมิตร
“พวกเรากำลังคุยกันเรื่องสมาคมทหารรับจ้าง ว่าแต่เฉียนเฉียนตอบรับข้อเสนอของเราหรือยังครับ?” ลู่หยางถาม
“เธอกำลังเดินทางมา” ฉือมู่กล่าว
“เหลยหลงก็กำลังมาเหมือนกัน” ฉงป้ากล่าว
“ระหว่างที่พวกเขายังไม่มาพวกเราลองมาร่างกฎระเบียบของสมาคมกันก่อนดีไหมครับ? หลังพวกเขามาแล้วพวกเราค่อยพูดคุยเพิ่มเติมกันทีหลัง” ลู่หยางกล่าว
องค์กรอิสระอย่างสมาคมทหารรับจ้างจำเป็นจะต้องมีกฎระเบียบระบุเอาไว้อย่างชัดเจน และทุกเรื่องมันก็จำเป็นจะต้องถูกเตรียมพร้อมเอาไว้อย่างละเอียดที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้
—
ชั้นล่างของหอเฟิ่งเซียน
ปัจจุบันหญิงสาวร่างงามกับชายหนุ่มรูปร่างกำยำกำลังเดินเข้ามาภายในหอด้วยสีหน้าอันเคร่งขรึม และแน่นอนว่าทั้งสองคนนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลยนอกเสียจากเฉียนเฉียนและเหลยหลง
เมื่อทั้งห้าคนได้พบกันพวกเขาก็เริ่มทักทายก่อนที่จะหารือถึงวิธีการดำเนินการและข้อกำหนดต่าง ๆ ทำให้สมาคมทหารรับจ้างเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากยิ่งขึ้น
ในที่สุดลู่หยางก็ตกลงกับทุกคนได้ว่าช่วงแรกพวกเขาจะถือหุ้นสมาคมทหารรับจ้างกันคนละ 20% แต่สัดส่วนหุ้นจะค่อย ๆ ลดน้อยลงเมื่อมีผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นมาในอนาคต อย่างไรก็ตามไม่ว่าสัดส่วนหุ้นจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร แต่ลู่หยางก็จะมีสิทธิ์ในการโหวตมากกว่าคนอื่นอยู่ 1 เสียง
“หลังจากวันนี้เป็นต้นไปพวกเราจะใช้ฉายาเรียกหากันในช่องแชทของทหารรับจ้าง ขอความกรุณาทุกคนส่งลูกน้องของตัวเองมาช่วยกันรับลงทะเบียนในสมาคมทหารรับจ้างด้วยนะครับ” ลู่หยางกล่าว
ทุกคนเริ่มจัดแจงให้ลูกน้องของตัวเองเข้ามาดูแลสมาคมทหารรับจ้างในทันที โดยทางด้านของลู่หยางก็ได้ส่งเจียงหัวกับโคลด์วิลโลว์ไปคอยดูแลสมาคมร่วมกันกับลูกน้องของพวกฉือมู่ด้วยเช่นกัน
ในเวลาไม่ถึงหนึ่งวันสมาคมทหารรับจ้างที่เพิ่งเปิดให้บริการก็มีผู้เล่นเข้ามาสมัครสมาชิกอยู่มากกว่า 600 คน และเนื่องจากมันตั้งอยู่ตรงบริเวณจัตุรัสที่คึกคัก มันจึงทำให้มีผู้เล่นเข้ามาขอรับภารกิจในสมาคมสูงถึง 2,000 ครั้ง
“รายได้ของสมาคมแค่วันเดียวมันเกือบจะเท่ารายได้ของฉันทั้งสัปดาห์เลยนะเนี่ย” เฉียนเฉียนพูดอย่างประหลาดใจขณะที่เธอมองดูบัญชีภายในมือ
“ลู่หยางเป็นคนที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ นายคิดวิธีหาเงินแบบนี้ขึ้นมาได้ยังไง? เมื่อมีกำลังของสมาคมทหารรับจ้างเพิ่มขึ้นมา ทุกคนก็จะมีพลังในการต่อสู้กับบลัดไทแรนท์เพิ่มขึ้นมาอีกส่วนหนึ่ง” ฉือมู่กล่าว
ทุกคนต่างก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“ธุรกิจสมาคมทหารรับจ้างจะเติบโตมากขึ้นไปเรื่อย ๆ และในวันหนึ่งรายได้ของสมาคมอาจจะเกินกว่ารายได้ของกิลด์พวกเราด้วยซ้ำ เนื่องมาจากในตอนนี้พวกเราลงเรือลำเดียวกันแล้ว ดังนั้นพวกเราก็จำเป็นจะต้องปกป้องสมาคมเอาไว้ให้ดี ๆ” ลู่หยางกล่าว
“ใช่ กิลด์ของพวกเราต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อย่างน้อยเราก็ไม่ควรแบ่งผลกำไรภายในเมืองเซนต์กอลล์, นอร์ทวินด์และแฮนนิบัลไปให้กับคนอื่นอย่างเด็ดขาด” ฉือมู่กล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“ผมกับเฉียนเฉียนปรึกษากันแล้วว่าต่อไปพวกเราจะดักกองกำลังชั้นยอดของบลัดไทแรนท์เอาไว้ในเมืองของตัวเอง ไม่ให้กองกำลังพวกนั้นเดินทางมาสนับสนุนที่เมืองเซนต์กอลล์ หากมันมีเหตุการณ์ที่จำเป็นจริง ๆ พวกเราสองคนก็พร้อมจะส่งกองกำลังมาร่วมโจมตีบลัดเติสตี้กับพวกคุณได้” เหลยหลงกล่าว
“แบบนี้ดีที่สุดแล้ว หากพวกเราทั้งห้าฝ่ายร่วมมือกัน พวกเราย่อมสามารถเอาชนะบลัดไทแรนท์ได้อย่างแน่นอน” ฉงป้ากล่าว
นี่คือจุดประสงค์ที่ลู่หยางได้ทำการสร้างสมาคมทหารรับจ้างขึ้นมา เพราะตราบใดก็ตามที่ทุกคนมีผลประโยชน์ร่วมกัน เมื่อนั้นเขาก็จะมีกองกำลังในการเผชิญหน้ากับบลัดไทแรนท์เพิ่มมากขึ้น
“เร็ว ๆ นี้ผมอาจจะโจมตีบลัดเติสตี้อย่างเปิดเผยครั้งหนึ่ง พวกคุณช่วยกลับไปเตรียมตัวให้พร้อมด้วย” ลู่หยางกล่าว
“น้องชายคิดดีแล้วเหรอ? บลัดเติสตี้ไม่ใช่กิลด์ที่นายจะไปต่อต้านพวกมันได้ง่าย ๆ นะ ฉันได้ยินมาว่าพวกมันเพิ่งจะรับสมัครผู้เล่นอาชีพพิเศษเพิ่มเข้ามาอีกไม่น้อยเลย” ฉงป้ากล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
ภายในเกมนี้มีอาชีพพิเศษอยู่อย่างมากมาย ยกตัวอย่างเช่น ดราก้อนเมจ, โฮลี่เมจหรือโกสต์ธีฟ ซึ่งอาชีพเหล่านี้เป็นอาชีพที่จะได้รับจากการทำภารกิจพิเศษเท่านั้น มันจึงทำให้ผู้เล่นทุกคนที่ได้รับอาชีพพิเศษต่างก็ถูกว่าจ้างด้วยค่าตอบแทนที่สูงมาก
“ผมตัดสินใจเอาไว้แล้วครับ ไม่กี่วันนี้ผมขอเตรียมทุกอย่างให้พร้อม เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วผมจะแจ้งข่าวให้พวกคุณทราบ” ลู่หยางกล่าวเรียกทุกคนให้จ้องมองมาที่เขาเป็นตาเดียว
“เอาล่ะในเมื่อนายมั่นใจพวกเราจะรอฟังข่าวดีก็แล้วกัน” ฉือมู่กล่าว
ลู่หยางลุกยืนขึ้นก่อนที่จะเอ่ยคำอำลา จากนั้นเขาก็เดินไปยังประตูวาร์ปเพื่อเทเลพอร์ตไปยังเมืองกาบอง
ระบบ: การเทเลพอร์ตต้องใช้เงิน 50 เหรียญเงิน
ลู่หยางทำการกดจ่ายเงินก่อนที่ร่างของเขาจะไปปรากฏตัวภายในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง
เมืองกาบองเป็นแผนที่เลเวล 20 ซึ่งเป็นจุดตั้งต้นในการเดินทาง โดยทางเหนือของสถานที่แห่งนี้คือที่ราบสูงโครัน ซึ่งเป็นแผนที่เลเวล 30 และมันก็เป็นที่อยู่ของเจ้าแห่งลมด้วย
ในตอนนี้ภายในเกมมีผู้เล่นเลเวล 20 และเดินทางมาเก็บเลเวลในเขตเมืองนี้อยู่ไม่น้อย ระหว่างที่ลู่หยางเดินบนท้องถนน เขาจึงพบปะผู้เล่นหลายคนระหว่างทาง
ผู้เล่นที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างก็หันมามองดูลู่หยางที่สวมผ้าคลุมสีดำด้วยความสงสัย ท้ายที่สุดก่อนที่เดินทางมายังเมืองกาบองในช่วงเวลานี้ของเกมได้ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้เล่นระดับสูง โดยเฉพาะผู้เล่นที่เดินทางมาคนเดียวต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้เล่นระดับสูงในเหล่าบรรดาผู้เล่นระดับสูงด้วยกัน
“พี่ชายไปเก็บเลเวลคนเดียวมันอันตรายนะ สนใจเดินทางไปด้วยกันไหม?” ผู้เล่นคนหนึ่งตะโกนมาจากระยะไกล
ลู่หยางโบกมือเป็นการปฏิเสธ ก่อนที่เขาจะเดินออกจากฝูงชน จากนั้นชายหนุ่มก็เปิดใช้งานร็อคเก็ตโมบายล์เพื่อเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่อีก 100% แล้วทำการออกวิ่งออกจากเมืองอย่างรวดเร็ว
“เหอะ! หยิ่งชะมัด มันทำตัวไม่ต่างไปจากไอ้สองคนที่เราเจอก่อนหน้านี้เลย”
“ช่างเขาเถอะ ถึงยังไงพวกเราก็ครบ 8 คนแล้ว พวกเราออกไปเก็บเลเวลกันเถอะ”
—
ปกติการเดินทางจากเมืองกาบองไปยังที่ราบสูงโครันจำเป็นจะต้องใช้เวลาเดินทาง 10 ชั่วโมง แต่เนื่องมาจากลู่หยางมีสกิลสคอร์ชิ่งสปีดเลเวล 3 ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ 200% ประกอบกับร็อคเก็ตโมบายล์ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่อีก 100% เขาจึงใช้เวลาเพียงแค่ไม่ถึง 5 ชั่วโมงก่อนที่จะเดินทางมาถึงทางเข้าที่ราบสูงโครัน
ในระหว่างที่ชายหนุ่มหยุดพักเหนื่อยเขาก็สังเกตเห็นผู้เล่น 2 คนที่กำลังเก็บเลเวลอยู่ใกล้ ๆ และเนื่องมาจากที่นี่เป็นแผนที่เลเวล 29 ผู้เล่นที่เดินทางมาเก็บเลเวลในแผนที่นี้ย่อมจะต้องเป็นผู้เล่นชั้นยอดอย่างแน่นอน
นักเวทหนุ่มเดินเข้าไปดูด้วยความสงสัย ก่อนที่เขาจะสังเกตเห็นนักรบที่ดูแตกต่างจากนักรบทั่วไปกำลังใช้ดาบสองมือฟาดฟันกับมอนสเตอร์
ยิ่งไปกว่านั้นนักรบคนนี้ยังสวมใส่ชุดเกราะหนังแตกต่างจากนักรบทั่วไปที่สวมใส่ชุดเกราะหนัก และสกิลใช้ก็ไม่ใช่สกิลนักรบทั่ว ๆ ไปแต่มันเป็นสกิลที่ชื่อว่าแอร์เบลดสแลช
ผู้เล่นหญิงอีกคนที่อยู่ไกลออกไปก็ดูไม่เหมือนผู้เล่นปกติด้วยเช่นกัน และถึงแม้ว่าเธอจะดูเหมือนนักบวช แต่เธอกลับสามารถปล่อยเวทมนตร์ธาตุน้ำออกมาได้ด้วย
ลู่หยางรู้สึกคุ้น ๆ ผู้เล่นทั้งสองคนนี้มาก และทันใดนั้นเขาก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เมื่อจำได้ว่าสองคนนี้คือเทพดาบฉิงเทียนหยีเจี่ยนและเทพนักบวชซือโม่ฟานเฉินซึ่งเป็นน้องสาวของเขา
ในชาติก่อนทั้งสองคนนี้เป็นทั้งเพื่อนและคู่แข่งของลู่หยาง เพราะพวกเขาอยู่เมืองเดียวกันและมีสตูดิโอเป็นของตัวเอง
ฉิงเทียนคือผู้เล่นที่แข็งแกร่งมากและในช่วงเวลาหนึ่งเขาก็เคยเป็นแชมป์ไร้พ่ายของการประลองแบบ 1 ต่อ 1 มาแล้ว และเมื่อเขาทำการจับคู่กับน้องสาว เขาก็เคยครองแชมป์สนามประลอง 2 ต่อ 2 ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามจุดจบของฉิงเทียนก็ค่อนข้างน่าเศร้า เพราะในสตูดิโอของเขามีนักลงทุนใหญ่อยู่รายหนึ่ง ในช่วงแรกนักลงทุนคนนี้เข้ามาคอยช่วยเหลือฉิงเทียนในทุก ๆ อย่าง แต่ในความเป็นจริงเขากลับกำลังหมายตาซือโม่อยู่ต่างหาก
ซือโม่ไม่ชอบนักลงทุนคนนั้นเลยแต่เธอก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธนักลงทุนรายนั้นได้เช่นกัน เพราะมันอาจจะส่งผลกระทบต่ออาชีพของพี่ชายอย่างรุนแรง ในที่สุดเธอก็พลาดถูกนักลงทุนคนนั้นขืนใจจนตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง
ต่อมาฉิงเทียนอยากจะแก้แค้นแทนน้องสาวแต่เขาก็ถูกใส่ร้ายจึงต้องติดคุก แม้ในตอนนั้นลู่หยางจะรู้เรื่องทุกอย่างเป็นอย่างดี แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะต้องยื่นมือออกไปช่วยเหลือทั้งคู่ยังไง
แน่นอนว่าเรื่องราวเหล่านี้เป็นเรื่องราวในชาติก่อน และลู่หยางก็ตัดสินใจเดินเข้าไปโดยพยายามจะไม่ให้มันเกิดเหตุการณ์อย่างเช่นในอดีต
โห จุดจบน่าสงสารเกิ้นนนน


แสดงความคิดเห็น