บทที่ 208 โยนเผือกร้อนไปให้คนอื่น
บทที่ 208 โยนเผือกร้อนไปให้คนอื่น
ลู่หยางกำลังต้องการร็อคเก็ตโมบายล์อยู่พอดี แต่ในตอนนี้เขายังไม่สามารถจะซื้อบลูปริ้นของมันเพิ่มได้ต้องรอให้ค่าชื่อเสียงของเขากับบริษัทถึงระดับบูชาเสียก่อน เขาจึงจะมีสิทธิ์ซื้อบลูปริ้นเป็นจำนวนมาก
“สหาย เมื่อหลายปีก่อนภรรยาของฉันนั่งเรือเหาะส่งสินค้าผ่านที่ราบสูงโครันแล้วถูกเจ้าแห่งลมโจมตี นายช่วยไปหาสร้อยคอของภรรยาฉันกลับมาหน่อยจะได้ไหม?” คาร์ลอสถาม
“ได้ครับ” ลู่หยางตอบ
ระบบ: คุณได้รับภารกิจหาสร้อยคอภรรยาของคาร์ลอส
ลู่หยางรีบใช้คัมภีร์กลับเมืองเพื่อเดินทางไปยังเมืองเซนต์กอลล์ เพราะท้ายที่สุดที่ราบสูงโครันไม่มีจุดวาร์ป ผู้เล่นจึงจำเป็นจะต้องใช้การเดินเท้าไปยังสถานที่แห่งนั้นเท่านั้น ลู่หยางจึงต้องการจะสร้างร็อคเก็ตโมบายล์ให้เสร็จก่อน
หลังเดินเข้าไปภายในร้านค้าประมูล ชายหนุ่มก็ได้ทำการกว้านซื้อวัตถุดิบสำหรับการทำร็อคเก็ตโมบายล์มาเป็นจำนวนมาก และเนื่องมาจากเขาไม่เคยสร้างอุปกรณ์ชิ้นนี้มาก่อน เขาจึงซื้อวัตถุดิบไปสำรองไว้หลายชุด
ระหว่างทดลองสร้างร็อคเก็ตโมบายล์ในชั้นใต้ดินโรงงานของบีเซล ลู่หยางได้ส่งข้อความหาฉงป้าไปด้วย
“อยู่ไหมครับ?” ลู่หยางทัก
“มีอะไร?” ฉงป้าตอบกลับ
“ลองดูนี่สิครับ” ลู่หยางส่งข้อความพร้อมกับแชร์ข้อมูลคำสั่งโจมตีป้อมประกายไปให้ฉงป้าดูด้วย
“ทุกคนหยุดโจมตีเดี๋ยวนี้!” ฉงป้าที่กำลังนำทีมลงดันเจียนตะโกนออกคำสั่งหยุดลูกน้องของตัวเอง
“มีอะไรงั้นเหรอคะ?” ฉวยอู๋อี้ถามอย่างสงสัย
ฉงป้านิ่งคิดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะส่งข้อความไปหาลู่หยาง
“น้องชาย ฉันรู้ดีว่ามันคืออะไรและฉันก็อยากจะได้มันจริง ๆ เชิญนายตั้งราคาของมันมาได้เลย”
หัวหน้ากิลด์ใหญ่ทุกกิลด์ต่างก็ล้วนแล้วแต่สามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับเกมได้จากหลากหลายช่องทาง ฉงป้าจึงอยากจะได้รับคำสั่งโจมตีป้อมปราการมานานแล้ว เพราะหากเขาเป็นหัวหน้ากิลด์คนแรกที่สามารถบุกยึดป้อมปราการได้ ในเวลานั้นชื่อเสียงของเขาก็คงจะโด่งดังไปทั่วทั้งโลก
ลู่หยางยิ้มก่อนจะส่งข้อความกลับไปว่า
“ผมเดาเอาไว้อยู่แล้วว่าคุณคงจะไม่ปฏิเสธ พูดตรง ๆ เลยนะว่าถ้าหากคุณได้รับของชิ้นนี้ไปมันก็ไม่ต่างไปจากการถือเผือกร้อนเอาไว้ภายในมือ เพราะหัวหน้ากิลด์อื่น ๆ คงจะไม่ยอมให้คุณครอบครองป้อมปราการง่าย ๆ หรอก”
ในเมืองเซนต์กอลล์มีกิลด์อยู่หลายร้อยกิลด์และกิลด์ขนาดใหญ่ก็มีสมาชิกอยู่หลายหมื่นคน ในบรรดากิลด์เหล่านั้นมันก็มีกิลด์ที่สามารถคุกคามโอเวอร์ลอร์ดได้นับ 10 กิลด์ คำสั่งโจมตีป้อมปราการจึงเป็นเหมือนกับดอกกุหลาบที่มีหนามแม้มันจะสวยงามแต่ก็ยากที่จะถือครอง
ฉงป้า “น้องชายการที่นายพูดตรง ๆ แบบนี้ก็หมายความว่านายเป็นคนดีใช้ได้เลยทีเดียว แต่ไม่ต้องห่วงฉันรู้ความเสี่ยงพวกนั้นดีอยู่แล้ว บอกมาได้เลยว่านายต้องการแลกเปลี่ยนมันกับอะไร?”
ลู่หยาง “ถ้าอย่างนั้นผมไม่เกรงใจล่ะนะ ผมต้องการให้บลัดบราเธอร์เป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการกับโอเวอร์ลอร์ด หากกิลด์ของผมถูกโจมตีกิลด์ของคุณก็ต้องพร้อมที่จะออกมาช่วยเหลือ”
“แค่นี้?” ฉงป้าถามอย่างประหลาดใจ เพราะเขาคิดว่าลู่หยางจะเรียกร้องอะไรมากกว่านี้เสียอีก
ลู่หยาง “ใช่แค่นี้”
“ตกลง ฉันรับปาก หลังจากนี้กิลด์ของฉันพร้อมที่จะเป็นพันธมิตรกับกิลด์ของนายอย่างเป็นทางการ พวกแบล็คบลัดถูกฉันไล่จนหนีหัวซุกหัวซนออกไปแล้ว ถ้าพวกบลัดเติสตี้โจมตีนายทางฝั่งฉันก็พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือแน่นอน” ฉงป้าตอบ
ลู่หยาง “ชื่อของคุณหมายถึงการครอบครองความเป็นใหญ่ ผมเชื่อว่าหัวหน้ากิลด์ฉงป้าจะรักษาคำพูด ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมจะเอามันไปส่งให้กับคุณทีหลังนะครับ”
ฉงป้า “หลังจากนี้พวกเราทั้งสองกิลด์จะร่วมแรงร่วมใจกันสร้างชื่อเสียงจนโด่งดังไปทั่วเซคคัลเวิลด์”
ลู่หยาง “ผมยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ผมอยากจะสร้างสมาคมทหารรับจ้าง ไม่ทราบว่าคุณพอจะสนใจไหม?”
“มันมีไว้ทำไม?” ฉงป้าถาม
“ฆ่าคน, รับจ้าง, เก็บเลเวล, ตีบอส, บุกเบิกแผนที่ใหม่แม้แต่หาคนคุยเล่น ทุกอย่างนี้จะมีให้บริการในสมาคมทหารรับจ้าง” ลู่หยางตอบ
“ฟังดูดีนี่ ว่าแต่นายมีแผนการจะจัดการกับมันยังไง?” ฉงป้าถามด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสนใจ
“ผมตั้งใจจะเชิญหัวหน้ากิลด์หลาย ๆ คนมาสร้างสมาคมนี้ด้วยกัน แต่ในสมาคมพวกเราจะไม่เปิดเผยชื่อจริงใช้แค่ฉายาเรียกหากันเท่านั้น ทางสมาคมก็จะต้องมีการจัดระบบรายละเอียดการแบ่งระดับชั้นและราคาในการว่าจ้างอย่างชัดเจน” ลู่หยางตอบ
ตอนนี้ตลาดเรื่องการรับจ้างทำสิ่งต่าง ๆ ภายในเกมค่อนข้างวุ่นวายมาก และถึงแม้มันจะมีสตูดิโอที่รับงานเหล่านี้อย่างมากมาย แต่พวกเขาก็ตัดราคาเพื่อแย่งงานกันเอง หากมีองค์กรเข้ามาควบคุมบริการทางด้านนี้ พวกเขาย่อมสามารถทำเงินจากตลาดทหารรับจ้างได้อย่างมหาศาลแน่นอน
ฉงป้า “ฉันเห็นด้วย หากนายต้องการจะชวนหัวหน้ากิลด์อื่น ๆ มาร่วมหุ้นส่วนด้วย ฉันก็ขอแนะนำให้นายชวนฉือมู่และเหลยหลงจากเมืองนอร์ทวินด์”
ลู่หยาง “โอเค เดี๋ยวผมจะลองติดต่อหาฉือมู่ดู”
—
ขณะเดียวกันฉือมู่ก็กำลังนำทีมออกไปบุกเบิกยังแผนที่เลเวล 20 ใหม่ ๆ เพื่อรองรับสมาชิกที่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ
ระบบ: ผู้เล่นลู่หยางเชิญคุณเข้ากลุ่ม
“ลู่หยาง?” ฉือมู่อุทานอย่างประหลาดใจ ก่อนนี่เขาจะกดเข้าร่วมการสนทนากลุ่ม
“ว่าไง?” ฉือมู่ถาม
ลู่หยางเริ่มเล่าเรื่องสมาคมทหารรับจ้างให้ชายชราฟัง
“ความคิดดี ฉันเห็นด้วย และฉันก็ขอแนะนำเฉียนเฉียนซือหยูจากเมืองแฮนนิบัลให้มาเข้าร่วมกับพวกเราด้วย” ฉือมู่ตอบ
“เฉียนเฉียนมีอะไรพิเศษงั้นเหรอครับ?” ลู่หยางถาม
“น้องชาย นายอาจจะยังไม่รู้ว่าความจริงแล้วบลัดไทแรนท์มีกิลด์อยู่ในเมืองหลักของเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ มากกว่า 10 เมือง สิ่งที่นายเห็นในเมืองเซนต์กอลล์เป็นเพียงแค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง ถ้าให้นับจริง ๆ สมาชิกของบลัดเติสตี้ก็น่าจะมีอยู่มากกว่า 400,000 คน” ฉือมู่กล่าว
“เฉียนเฉียนกับเหลยหลงคือหัวหน้ากิลด์ใหญ่ที่มีสมาชิกประมาณ 50,000 คน คนหนึ่งอยู่ที่เมืองนอร์ทวินด์ ขณะที่อีกคนอยู่ในเมืองแฮนนิบัล ทั้งคู่ต่างก็มีปัญหากับบลัดไทแรนท์เหมือนกัน การดึงพวกเขาเข้ามาในตอนนี้อาจจะดูเหมือนไม่มีประโยชน์ แต่ในอนาคตพวกเขาจะมีประโยชน์กับพวกเราแน่นอน” ฉงป้าอธิบาย
“โอเค ถ้าอย่างนั้นพวกคุณทั้งสองคนช่วยชวนพวกเขามาด้วย แล้วพวกเราค่อยไปเจอกันในห้องส่วนตัวของหอเฟิ่งเซียนที่พวกเราเคยเจอกันครั้งก่อน” ลู่หยางกล่าว
“ได้” ทั้งฉงป้าและฉือมู่ต่างก็พูดขึ้นมาพร้อมกัน
—
หลังทำการสร้างร็อคเก็ตโมบายล์จนเสร็จ ลู่หยางก็ทำการติดตั้งมันเอาไว้ที่รองเท้า ซึ่งหลังจากเปิดใช้งานมันก็ปล่อยเปลวไฟสีเขียวออกมาจากระบบขับเคลื่อนทำให้ลู่หยางวิ่งออกไปจากค่ายก็อบลินได้อย่างรวดเร็ว
ไม่กี่นาทีต่อมาชายหนุ่มก็เดินทางมาจนถึงร้านค้าทางฝั่งตะวันออกของเมือง ซึ่งร้านนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่โดดเด่นและมันก็คือร้านที่เขาให้จินปู้ฮวนใช้เงิน 1,000 เหรียญทองซื้อเอาไว้เพื่อเปิดสมาคมทหารรับจ้างโดยเฉพาะ
ลู่หยางเลือกทำการเปิดร้านค้าพิเศษก่อนจะทำการเช่าช่องสนทนา ซึ่งผู้เล่นสามารถทำการเช่าช่องสนทนาเฉพาะจากระบบได้และราคาค่าเช่ามันก็อยู่ที่ 100 เหรียญทองต่อเดือน
หลังทำธุระทุกอย่างเสร็จแล้วลู่หยางก็เดินทางไปยังหอเฟิ่งเซียน ซึ่งฉงป้าได้เดินทางมารออยู่ก่อนแล้ว ทั้งคู่จึงยิ้มให้แก่กันก่อนที่ลู่หยางจะหยิบคำสั่งโจมตีป้อมปราการออกมา
“พี่ชาย ผมขออวยพรให้คุณเป็นหัวหน้ากิลด์คนแรกของโลกที่สามารถเข้ายึดครองป้อมปราการได้สำเร็จ”
“ขอบคุณมาก ความช่วยเหลือในครั้งนี้ฉันจะจดจำเอาไว้อย่างแน่นอน” ฉงป้ากล่าว
“คุยอะไรกันถึงได้มีความสุขขนาดนั้น?” ฉือมู่เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม
อุ้ยยยยยย! ฉือมู่รู้คงวุ่นวาย 5555


แสดงความคิดเห็น