บทที่ 181 พี่น้องทั้งหลาย ฉันมาแล้ว
บทที่ 181 พี่น้องทั้งหลาย ฉันมาแล้ว
เรื่องการรับคนมาเพิ่มลู่หยางได้วางแผนเอาไว้แล้ว เช้าวันถัดไปหลังจากออกกำลังกายจนเสร็จ เขาจึงเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมกับเดินทางออกจากบ้าน
ห่างออกไปจากบ้านของเขา 2 รถเมล์ มีโรงเรียนช่างอยู่แห่งหนึ่ง ซึ่งในปี 2040 ทั่วโลกได้พัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์ AI ขึ้นมาใช้แล้ว หุ่นยนต์เหล่านี้จึงเข้ามาทำงานแทนมนุษย์จนทำให้ช่างมือใหม่หางานทำได้ยากมาก
ขณะเดียวกันครอบครัวยากจนส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะส่งลูกหลานเข้าเรียนวิทยาลัยอาชีพเพื่อให้ลูกหลานของพวกเขามีงานทำ เพราะอย่างน้อยมันก็ยังมีงานพิเศษหลาย ๆ อย่างที่หุ่นยนต์ยังไม่สามารถเข้ามาทดแทนในส่วนของมนุษย์ได้
หลู่จ้าวหยู่และเฉินเฟิงก็ถูกส่งเข้ามาเรียนโรงเรียนช่างด้วยเหตุผลนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้งสองก็มีความสนิทสนมกับลู่หยางเหมือนเสี่ยวเหลียง เพราะพวกเขาได้วิ่งเล่นด้วยกันมาตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก
ทั้งสองคนอายุน้อยกว่าลู่หยางอยู่สองปี และเนื่องมาจากพ่อของทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บในไซต์ก่อสร้าง จึงทำให้ในตอนนี้พวกเขาจำเป็นจะต้องพึ่งพารายได้จากแม่เพียงคนเดียวเท่านั้น
ในชาติก่อนตอนที่เขาสร้างกิลด์ใหม่ ๆ สองคนนี้เข้ามาช่วยงานภายในกิลด์เป็นกลุ่มแรก ๆ และผลลัพธ์ในชาติก่อนมันก็แสดงให้เห็นแล้วว่าทั้งคู่เป็นผู้ช่วยที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่เขาเคยมีมาเลยทีเดียว
ยิ่งไปกว่านั้นทั้งสองคนนี้ยังไม่เคยคิดทรยศเขาเลยแม้แต่น้อย และประโยคติดปากที่ทั้งคู่มักจะพูดกับเขาอยู่เป็นประจำนั้นก็คือ
“หัวหน้า พวกเราไม่ได้มีความสามารถโดดเด่นอะไร คุณเป็นพี่ใหญ่ คุณสั่งการทุกอย่างมาได้เลย!”
ยิ่งไปกว่านั้นเสี่ยวเหลียงยังพูดถึงสองคนนี้อยู่หลายครั้ง โดยบอกว่าเขาอยากจะช่วยทั้งคู่ทำงานใช้หนี้ เมื่อในชาตินี้ลู่หยางได้มีโอกาสเกิดใหม่เขาย่อมไม่มีวันทรยศต่อความไว้วางใจของพี่น้องในชาติก่อนอย่างแน่นอน
หลังเดินทางมาถึงโรงเรียน เขาก็ได้พบกับตัวอักษรขนาดใหญ่ที่เขียนว่าวิทยาลัยอาชีวะ
ตอนนี้เป็นช่วงเวลาอาหารเช้าพอดี แต่ที่บริเวณหลังครัวนักเรียนกลุ่มหนึ่งกลับกำลังทำงานกันอย่างขยันขันแข็ง
“อยากจะเป็นพ่อครัวใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นพวกนายก็ต้องเริ่มจากงานพื้นฐานก่อน สองคนนั่นรีบ ๆ ล้างจานให้เสร็จเร็วเข้า” พ่อครัวในโรงอาหารชี้นิ้วไปที่หลู่จ้าวหยู่และเฉินเฟิงพร้อมกับพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันดุดัน
“ครับ!” ทั้งสองคนตอบรับอย่างขยันขันแข็งและมันก็ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้พวกเขาล้างจานไปกี่ใบแล้ว
เมื่อลู่หยางเห็นทั้งคู่เขาก็รู้สึกสงสารมาก ชายหนุ่มจึงตัดสินใจเดินไปนั่งข้าง ๆ แล้วเริ่มลงมือช่วยล้างจาน
การปรากฏตัวของลู่หยางอย่างกะทันหันทำให้ทั้งคู่หันมามองอย่างตกใจ แต่เมื่อพวกเขาเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ทั้งสองคนต่างก็เผยรอยยิ้มออกมาอย่างยินดี
“ลูกพี่! ทำไมจู่ ๆ ถึงมาที่นี่ล่ะครับ?” หลู่จ้าวหยู่ถาม
“รอล้างจานให้เสร็จก่อนแล้วค่อยคุยกัน ไม่งั้นจะโดนดุอีกนะ” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ทั้งสองเผยรอยยิ้มออกมาอย่างเขินอาย ก่อนที่จะเร่งล้างจานอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และเนื่องมาจากมีคนมาช่วยเพิ่มอีกหนึ่งคน ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงจานทั้งหมดก็ถูกล้างจนสะอาด
ตอนล้างมือ
“พวกนายเคยได้ยินเกมเซคคัลเวิลด์มาก่อนไหม?” ลู่หยางถาม
“เคยครับ พวกเราดูข่าวทุกวัน ได้ยินว่าตอนนี้มันเป็นเกมที่มีผู้เล่นรวมกันทั่วโลกเกินกว่า 200 ล้านคนแล้ว” เฉินเฟิงกล่าว
“ตอนนี้ฉันมีวิธีหาเงินได้แล้วกำลังขาดคนมาช่วย พวกนายสนใจจะมาช่วยงานฉันไหม?” ลู่หยางถาม
“ไปครับ!” หลู่จ้าวหยู่กับเฉินเฟิงตอบตกลงพร้อมกัน ตั้งแต่เด็กลู่หยางไม่เคยโกหกพวกเขาเลย มันจึงทำให้ทั้งสองไว้ใจอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก
“ฉันรู้อยู่แล้วว่าพวกนายจะต้องมา” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับกอดไหล่ทั้งสองคนเอาไว้แน่น
“มีแค่พวกนายสองคนยังไม่พอ เราต้องหาคนมาช่วยเพิ่มอีกหน่อย เอาเป็นคนที่พวกนายไว้ใจหน่อยนะ” ลู่หยางกล่าว
“ไม่ต้องห่วงครับ พวกเรามีพี่น้องที่ไว้ใจได้อีกเป็นร้อยคน” เฉินเฟิงกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
“โอ้ย! นี่ฉันลืมไปได้ยังไงว่าพวกนายมีเพื่อนเยอะ” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับยกมือขึ้นมามาตบหน้าผากตัวเอง
“เอาแบบนี้ ช่วงแรกไปหาคนมาช่วยก่อน 33 คน เดี๋ยวฉันจะออกไปรอพวกนายที่ร้านอาหารฝั่งตรงข้าม” ลู่หยางกล่าว
“ได้ครับ” หลู่จ้าวหยู่กับเฉินเฟิงตอบรับพร้อมกัน
หลังได้เห็นสองคนวิ่งออกไป ลู่หยางก็เดินออกจากโรงเรียนไปสั่งอาหารแล้วนั่งรออยู่ที่ร้านอาหารฝั่งตรงข้าม
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
ลู่หยางเพิ่งจัดการอาหารตัวเองจนเสร็จ ซึ่งในระหว่างนั้นหลู่จ้าวหยู่กับเฉินเฟิงก็พาเด็กหนุ่มอีก 33 คนเดินเข้ามา
“ลูกพี่ พวกเรามาแล้ว!” เฉินเฟิงกล่าวก่อนที่จะพาทุกคนมาหาลู่หยาง ซึ่งคนเหล่านี้คือคนที่เขากับหลู่จ้าวหยู่คัดเลือกมาอย่างพิถีพิถัน โดยทุกคนเป็นนักเรียนที่กำลังจะเรียนจบ พวกเขาจึงไม่จำเป็นจะต้องเข้าเรียนก็ได้
ลู่หยางมองดูเด็กหนุ่มทุกคนและได้พบกับคนที่คุ้นหน้าเป็นอย่างดี ความจริงเขาจะเรียกชื่อทุกคนในตอนนี้เลยก็ได้ เพราะพี่น้องทุกคนต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่เคยทำงานช่วยเขาใช้หนี้ด้วยกันทั้งนั้น
อย่างไรก็ตามในตอนนี้เขาต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้จักทุกคนก่อน ไม่อย่างนั้นมันคงจะมีคนสงสัยว่าเขารู้จักคนกลุ่มนี้ได้ยังไง
“นี่คือลูกพี่ฉันเองชื่อว่าลู่หยาง ต่อไปเขาก็จะเป็นลูกพี่ของพวกนายด้วย เข้าใจไหม?” เฉินเฟิงกล่าว
“สวัสดีครับลูกพี่!” ทุกคนพูดพร้อมกัน
“ดีมาก ตามมาได้เลย เดี๋ยวฉันจะพาทุกคนไปซื้อหมวกเกม ส่วนเรื่องสัญญาฉันจะให้พวกนายเซ็นในเกม แต่มันเป็นสัญญาที่มีผลทางกฎหมายนะ หลังจากนี้ทุกคนจะได้รับเงินเดือนขั้นต่ำ 5,000 เครดิต เรื่องโบนัสจะคิดกันตามผลงาน หากใครทำงานได้ดีบางทีเงินเดือนอาจจะสูงถึง 10,000 เลยก็ได้” ลู่หยางกล่าว
“เยอะขนาดนั้นเลยเหรอครับ?!” เด็กหนุ่มทั้ง 35 คนอุทานอย่างตกตะลึง
ถึงแม้พวกเขาจะสมัครงานเข้าโรงงาน แต่ในปีแรกเงินเดือนที่พวกเขาจะได้รับก็เพียงแค่ประมาณ 2,000 เครดิตเท่านั้น หลังจากถูกเลื่อนขั้นกลายเป็นช่างชำนาญการ ในเวลานั้นเงินเดือนก็จะเพิ่มขึ้นมาเพียงแค่ประมาณ 3,000 เครดิตอยู่ดี เงินที่ลู่หยางเสนอให้จึงเป็นเงินที่พวกเขาไม่กล้าจินตนาการเลยแม้แต่นิดเดียว
“ลูกพี่ มันจำเป็นจะต้องให้เงินเดือนสูงขนาดนี้เลยเหรอครับ?” เฉินเฟิงกล่าว
“ชาติก่อนพวกนายลำบากกับฉันมามาก ชาตินี้ฉันจะพยายามทำให้พวกนายสบายให้มากที่สุด” ลู่หยางคิดในใจ
“ตามฉันมา เราจะไปซื้อหมวกเกมกัน” ลู่หยางโอบไหล่หลู่จ้าวหยู่และเฉินเฟิงแล้วพาทุกคนไปร้านขายหมวกเกมตรงข้ามมหาวิทยาลัย
“วันนี้พวกนายเข้าไปทำความคุ้นเคยกับเกมก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะพาทุกคนไปอีกที่หนึ่ง หลังจากนี้พวกนายจะต้องอยู่ที่นั่นไปสักพัก หลังจากกลับบ้านไปก็อย่าลืมบอกพ่อแม่ตัวเองด้วยล่ะ” ลู่หยางกล่าว
หลังจากนี้ทุกคนจะเป็นกำลังหลักในการผลิตชุดเซ็ตคลื่นทะเลและงานลับแบบนี้จำเป็นจะต้องทำในสภาพแวดล้อมแบบปิดเท่านั้น
นอกจากนี้บ้านของเขายังแออัดมากจนเกินไป มันจึงจำเป็นจะต้องใช้บ้านหลังใหญ่กว่านี้ถึงจะบรรจุทุกคนได้อย่างเพียงพอ
สถานที่ที่ลู่หยางเลือกไว้คือหอพักเก่าที่เขาเคยเช่าในชาติก่อน ซึ่งแต่เดิมมันเคยเป็นหอพักของคนงานโรงเหล็กที่ในช่วงต่อมาโรงงานถูกย้ายออกไป อาคารนี้จึงถูกปล่อยขายให้กับเอกชน
หลังจากส่งทุกคนกลับไปแล้ว ลู่หยางก็นั่งแท็กซี่ออกไปยังชานเมือง ก่อนจะได้พบบ้านที่ติดประกาศหาคนเช่าอยู่หน้าบ้าน
อาคารแห่งนี้เป็นอาคารเดี่ยว 3 ชั้นที่มีอายุมากกว่า 40 ปีแล้ว ประกอบกับพื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นโรงงานเหล็กมาก่อน คนที่อยู่อาศัยในบริเวณนี้จึงมีน้อยมากและค่าเช่ามันจึงถูกตามไปด้วย เมื่อสถานที่แห่งนี้ไม่มีคนพลุกพล่าน มันจึงยิ่งทำให้ครอบครัวของฮั่นจงอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยมากกว่าเดิม
ในที่สุดลู่หยางก็หาที่อยู่ใหม่ทั้งที แต่จนถึงตอนนี้เมื่อไหร่พ่อแม่พี่เขาจะกลับบ้านสักที ลูกไปไกลแล้วนะ 55555


แสดงความคิดเห็น