พ่อตามา
สี่วันต่อมา รถม้าสองคันก็มาถึงหน้าจวนตระกูลชิว ครอบครัวชิวมายืนต้อนรับพ่อตาแม่ยายกันพร้อมหน้าพร้อมตา หลานสาวตัวน้อยยังเรียกท่านตา ท่านยายอย่างอ่อนหวาน ท่านตาผู้เห็นกิริยามารยาทของหลานสาวที่ต่างกันราวฟ้ากับเหวกับลูกสาวเขาได้แต่อิจฉา เขาหรือก็อยากให้ลูกสาวเขาเป็นแบบนี้บ้าง แต่นางนั้นหรือก็มีแต่เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวไปทุกที จนเขาไม่รู้ว่านางไปได้นิสัยนี้จากใครมา ( ʢᵕ﹏ᵕʡ เจียวไฉ่หลาน : แกไงไอ้แก่)
เตียวหย่งไจ้ให้คนของเขายกของฝากหลายกล่องเข้าไปในห้องโถงรับแขก เจียวไฉ่หลานให้คนเปิดกล่องให้ครอบครัวลูกเขยดูทั้งหมด ครั้งนี้พวกเขานำมาเพียงเล็กน้อยแค่ห้ากล่องเท่านั้น แต่คนตระกูลชิวพากันมองตาแทบถลน ในกล่องใบแรกเต็มไปด้วยแก้วแหวนเงินทองของมีค่า กล่องที่สองอัดแน่นไปด้วยเครื่องประดับและหยก กล่องที่สามเป็นผ้าเนื้อดีหายากที่แม้แต่สิ่งของบรรณาการจากต่างแคว้นยังสู้ไม่ได้ กล่องที่สี่เป็นก้อนเงินตำลึงอัดจนไม่มีที่ว่าง และกล่องที่ห้ายังมียาบำรุงสุดแสนล้ำค่ามากมาย
“ท่านพ่อตา แม่ยายขอรับ ข้าไม่กล้ารับของมีค่าพวกนี้หรอกนะขอรับ แค่พวกท่านมาเยี่ยมด้วยใจ พวกข้าก็ดีใจมากแล้ว” ชิวกังหลังตั้งสติได้รีบเอ่ยปากปฏิเสธของตรงหน้าทันที พ่อกับแม่เขาที่ยังไม่ได้สติดีนักทำเพียงพยักหน้าตาม
“ไฮ้ ของแค่เล็กน้อยเท่านั้น เจ้ารับไปเถอะน่า ที่บ้านข้ามีอีกเป็นโกดัง ตอนนี้เจ้ากับลูกข้ามีหลานสาวแสนดีให้ข้าด้วย ของพวกนี้เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นสินเดิมให้หลานข้าเถอะ” เตียวหย่งไจ้ขี้เกียจขนของกลับ เขาอุตส่าห์ให้คนขนมาจนเสียเวลาไปตั้งหนึ่งวัน เรื่องอะไรเขาจะต้องขนกลับให้หนักรถอีกเล่า
“ท่านพี่ รับไว้เถอะเจ้าค่ะ ในเมื่อนี่เป็นสิ่งของที่ท่านพ่อกับท่านแม่ข้าตั้งใจจะให้เพ่ยเพ่ย” เตียวเฟยหลิวคะยั้นคะยอสามีให้รับเอาไว้ นางรู้นิสัยพ่อของนางดีกว่าใคร เขาให้แล้วไม่ชอบรับของคืนเสียด้วย
“รับไว้เถอะลูกเขย นี่เป็นเพียงของเล็กน้อยของพวกเราจริง ๆ” เจียวไฉ่หลานเกลี้ยกล่อมอีกแรงหนึ่ง
กระทั่งชิวกังได้แต่กัดฟันพยักหน้ารับนั่นแหละ บรรยากาศในห้องโถงรับแขกถึงได้ดีขึ้นบ้าง ก็เตียวหย่งไจ้แกล้งใช้ปราณกดดันลูกเขยด้วยน่ะสิ ทั้งที่เจียวไฉ่หลานหยิกแล้วหยิกอีกก็ยังไม่หยุด จนลูกเขยนางเหงื่อไหลไคลย้อยไปหมด แล้วดูสีหน้าลูกสาวนางที่บูดบึ้งด้วยว่าพ่อของตนรังแกสามีสุดที่รักอีก มีหวังคืนนี้ลูกสาวตัวดีต้องมากลั่นแกล้งพวกนางจนนอนไม่หลับเป็นแน่ เฮ้อ นางปวดหัวกับเฒ่าชราคนนี้จริง ๆ
ด้วยความสดใสร่าเริงของชิวเพ่ยเพ่ย ทำให้ทั้งสองครอบครัวรับประทานอาหารและพูดคุยกันอย่างมีความสุข สองเฒ่าชราผู้มีอายุเกินครึ่งร้อยแต่หน้าตาเยาว์วัย หลังส่งหลานสาวในอุดมคติแล้วก็พากันไปนั่งรอลูกสาวตัวดีที่ส่งคนมาบอกก่อนหน้าในห้องรับรองแขกแล้ว รอกันไม่นานนางก็แอบเข้ามาทางประตูหลังเรือนพักแขก ผู้เป็นพ่อที่หมั่นไส้ลูกสาวจึงหยิบแส้มาหวดลองฝีมือลูกสาวเสียหน่อย เขาอยากรู้ว่าตั้งแต่นางแต่งงานไป ฝีมือด้อยลงหรือไม่ ดีที่เตียวเฟยหลิวเตรียมตัวไว้แล้ว นางใช้กระบี่อ่อนพันกับแส้ของท่านพ่อแล้วยึดเอาไว้ เสียดายที่ลมปราณนางด้อยกว่าท่านพ่อ ไม่เช่นนั้นนางคงดึงแส้ของเขามาแล้ว
“พอได้แล้วน่าตาเฒ่า เจ้าจะมัวเสียเวลาอะไรนักหนาเนี่ย ข้าง่วง” เจียวไฉ่หลานบ่นสามีเสียงเขียว นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วยังจะเล่นกันอยู่อีก
“เอาล่ะ ๆ ข้าปล่อยแล้วภรรยา เจ้าอย่าโกรธ” เขารีบปล่อยกระบี่ลูกสาวแล้วเก็บแส้ตามคำสั่งภรรยารักทันที
“ท่านพ่อกับท่านแม่มาถึงนี่ มีอะไรสำคัญหรือเปล่าเจ้าคะ” เตียวเฟยหลิวสงสัยว่าที่พ่อกับแม่นางมาต้องมีเรื่องบางอย่างแน่ ไม่อย่างนั้นคงไม่มาแบบเปิดเผยเช่นนี้
“ไม่มีอะไรมากหรอก ข้าแค่อยากให้เจ้าไปดูแลตำหนักแทนข้ากับแม่เจ้าสักหนึ่งปี ข้าจะพานางท่องเที่ยวเสียหน่อย” เตียวหย่งไจ้ตอบกลับลูกสาวสบาย ๆ ในเมื่อพวกเขาสองคนอายุมากขึ้น เรื่องราวในตำหนักก็ควรส่งต่อให้ลูกสาวได้แล้ว
“อ้าว ทำไมท่านพ่อทำแบบนี้เล่าเจ้าคะ ข้ายังมีสามีกับลูกต้องดูแลอยู่นะ ท่านจะให้ข้ากลับไปที่ตำหนักนานขนาดนั้นได้ยังไงกัน” เตียวเฟยหลิวหน้านิ่วคิ้วขมวด นางไม่ยอมห่างจากสามีสุดที่รักของนางหรอก เขายิ่งถูกรังแกง่ายอยู่ด้วย หากนางจากไป แล้วใครจะปกป้องเขากับครอบครัวกันเล่า
“เพ้ยยย ข้าไม่เห็นว่าเจ้าจะดูแลอะไรพวกเขาเลย วัน ๆ เห็นแต่เอาอกเอาใจสามีให้ลูกสาวเจ้าดูเท่านั้น แล้วข้ากับแม่เจ้าก็อายุมากแล้ว เจ้าไม่คิดจะสืบทอดตำหนักของข้าแล้วจะให้ใครกันเล่า” เตียวหย่งไจ้ไม่ยอมลงให้ลูกสาว เขาอยากไปเที่ยวกับภรรยา นางต้องกตัญญูพวกเขาสิ ฮึ่ย
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 64
- 👍 ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น