ชิวเพ่ยเพ่ย
เตียวเฟยหลิวและชิวกังอยู่กันอย่างมีความสุข ในปีแรกที่แต่งงานเตียวเฟยหลิวก็ท้องแล้ว ยิ่งนางท้องนางยิ่งติดหนึบกับสามี สามีผู้แสนอ่อนโยนยังตามอกตามใจภรรยารักเสียผู้คนในจวนต่างกินอาหารสุนัขแทนข้าว ขนาดว่าเตียวเฟยหลิวท้องโย้เสียขนาดนี้ ชิวกังยังทั้งรักทั้งหลงนางเหมือนวันแรก ส่วนพ่อแม่สามีที่เห็นลูกชายกับลูกสะใภ้รักกันยิ่งสนับสนุน มีเพียงเหล่าบ่าวรับใช้ที่ชิวกังเจียดเงินเดือนจ่ายค่าจ้างหลังซื้อตัวมานั่นแหละที่เฝ้าแต่อิจฉาตาร้อนในวาสนาของเตียวเฟยหลิว พวกเขาไม่กล้าแสดงฤทธิ์เดชใส่ฮูหยินผู้นี้หรอกหนา เพราะเห็นตัวอย่างบ่าวคนเก่าตั้งแต่นางเข้ามารักษาตัวในจวนแล้วเองกับตา ว่าฮูหยินผู้นี้ทำร้ายบ่าวคนนั้นอย่างโหดร้ายเพียงใด แถมยังมีองครักษ์ลับที่มาช่วยโยนบ่าวนิสัยเสีย หวังขึ้นเตียงนายน้อยคนนี้เข้าป่าไปให้หมากินอีก พวกเขามีหรือจะกล้า
กระทั่งเตียวเฟยหลิวคลอดบุตรสาวออกมา ชิวกังเห็นสภาพภรรยาทุกข์ทรมานในวันคลอดก็ยื่นคำขาดไม่ขอมีบุตรอีก ถึงจะได้ลูกสาวเขาก็รักไม่ต่างจากลูกชาย พ่อกับแม่เขาเองก็ไม่รังเกียจหลานสาวตัวแดง ๆ คนนี้เช่นกัน ถึงอย่างไรลูกชายพวกเขาก็เป็นแค่ขุนนางตัวเล็ก ๆ สมบัติพัสสถานอันใดก็ไม่มี แล้วจะไปถือสาเรื่องผู้สืบทอดให้โกรธเคืองกันในครอบครัวไปทำไม
เตียวเฟยหลิวฟังคำสามีอย่างไม่อิดออด นางเองก็เจ็บปวดไม่น้อยจริง ๆ ก่อนจะท้องมันก็สนุกอยู่หรอก แต่พอตอนคลอดนี่สิ มันช่างแสนจะทรมาน นางดีใจที่พ่อแม่สามีเห็นด้วยเช่นเดียวกัน ไม่อย่างนั้นที่บ้านคงเปิดศึกกันแน่
ครอบครัวชิวเลี้ยงดูชิวเพ่ยเพ่ยมาเป็นอย่างดี พวกเขาทะนุถนอมหลานสาวแสนน่ารักคนนี้ดั่งไข่ในหิน บ่าวไพร่คนใดกล้ากลั่นแกล้งนางหรือทำนางร้องไห้ พวกเขาเป็นต้องขายออกไปเสียทุกราย กระทั่งตอนนี้ในจวนมีแต่คนในตำหนักของเตียวเฟยหลิวที่ท่านพ่อของนางส่งมาดูแลแทบทั้งนั้น เตียวเฟยหลิวเองก็พอใจไม่น้อย ยิ่งสามีนางทำงานดีเท่าไหร่ ย่อมมีศัตรูคอยพยายามหาทางกลั่นแกล้งไปเสียทุกครั้ง
เตียวเฟยหลิวช่วยสามีจัดการอยู่เบื้องหลังมาตลอดตั้งแต่แต่งงาน โดยที่เขาเองไม่เคยระแคะระคายมาก่อนเลยว่า คนพวกนั้นที่คอยแต่ข่มเหงรังแกเขาในกรมโยธาหายตัวไปไหน เขายังคงทำหน้าที่ต่อไปอย่างซื่อสัตย์ กระทั่งสี่ปีต่อมาก็ได้รับการเลื่อนขั้นเป็นขุนนางขั้นสี่ มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยของรองเสนาบดีกรมโยธา ทำให้ยิ่งมีตระกูลขุนนางใหญ่ทั้งหลายคอยสร้างปัญหามากยิ่งขึ้น พวกเขาต้องการให้คนในตระกูลรับตำแหน่งนั้นแทน เนื่องจากพวกเขาสามารถยักยอกเงินไม่น้อยจากตำแหน่งนั้น
ติดที่เตียวเฟยหลิวคอยจัดการเรื่องราวต่าง ๆ จนตระกูลใหญ่ทั้งหลายที่เคยส่งคนมาฆ่าขุนนางชิวไม่กล้าเหิมเกริมอีก เพราะเตียวเฟยหลิวโยนศพนักฆ่าหน้าประตูจวนพวกเขาเป็นว่าเล่น ตลอดระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่พวกเขาส่งคนไป จนทำให้กรมอาญาเริ่มสงสัย แถมฮ่องเต้ยังสั่งสืบสวนเพิ่มไปอีก นับแต่นั้น พวกเขาก็เก็บหัวซ่อนหาง ไม่กล้ากระทำการเหิมเกริมอีกเลย ทำให้การสืบสวนที่กำลังดำเนินอยู่สาวไปไม่ถึงไหน ฮ่องเต้แสนเสียดายที่ไม่ได้กำจัดขุนนางฉ้อฉลพวกนี้ในคราวเดียว
เตียวเฟยหลิวใช้เวลาเกือบหนึ่งปีในการจัดการตระกูลต่าง ๆ ให้สามีของนางหลังจากเขาหลับ กระทั่งปีนี้ลูกสาวนางอายุได้ห้าขวบปีแล้ว อยู่ดีดีท่านพ่อให้คนนำจดหมายมา เนื้อหาแจ้งว่าจะมาเยี่ยมนางกับหลานเสียอย่างนั้น ทั้งที่ปกติแล้ว ท่านพ่อของนางมักจะแวบไปแวบมาที่จวนนางออกจะบ่อย มีเพียงท่านแม่ของนางที่ขี้เกียจเดินทางจึงไม่ค่อยได้มา แต่ทุกปีพวกท่านจะแอบมาเยี่ยมอยู่ตลอด ด้านพ่อแม่สามีไม่เคยสงสัยอะไร ในเมื่อพวกท่านอยากมาแบบเป็นทางการก็ปล่อยให้มาเถอะ
วันรุ่งขึ้น เตียวเฟยหลิวแจ้งให้สามีและครอบครัวทราบในมื้อเช้าว่าพ่อกับแม่นางจะมาเยี่ยม พวกท่านเพียงถามวันที่จะมาถึงเท่านั้น แล้วสั่งบ่าวไพร่ไปจัดเตรียมห้องพักให้พวกเขา ความจริงนางอยากซื้อจวนใหม่ใหญ่กว่านี้ แต่สามีผู้แสนดีกลัวว่าภรรยาจะยากจนเพราะครอบครัวเขา จึงไม่อนุญาต เขายังบอกว่าครอบครัวเล็ก ๆ ก็ควรอยู่กันอบอุ่นแบบนี้ดีกว่า นางจึงได้แต่พยักหน้าตามความต้องการของสามีที่รัก เฮ้อ เงินทองนางกองจะท่วมห้องเก็บของแล้วเนี่ย ทำไมครอบครัวนางประหยัดเสียจริง ๆ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 115
- 👍 ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น