บทที่ 17 อนาคต 2

มนตราสะท้านโลกา
คุณกำลังอ่าน: มนตราสะท้านโลกา

-A A +A

บทที่ 17 อนาคต 2

 

ดาบสีดำฟันลงมาทางที่อาสึนะกำลังยืนอยู่ ทว่าเด็กสาวกลับเหวี่ยงตัวหลบ พร้อมกับเสกเวทไฟขึ้นมา ไฟสีแดงปะทะกับใบดาบสีดำ เกิดเสียงดังสนั่น

“นี่เป็นฝีมือของพวกแกเองสินะ”

“ฉลาดนี่ยายหนู”

แสงสีแดงปะทะกับสีดำส่องสว่างขึ้นกลางสนามรบ แสงไฟสะท้อนกับพื้นกระเบื้องหลังคาที่แตกละเอียดเป็นเสี่ยง ๆ จากการปะทะครั้งก่อน หลังคาหินสลักที่เคยสงบนิ่งบัดนี้มีรอยแตกร้าวและเปื้อนเขม่าควันสีดำ เสียงเปลวเพลิงแตกปะทุดังสั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณ

อาสึนะแปรสภาพเวทมนตร์เป็นดาบเพลิง ก่อนจะฟันใส่ศัตรูเบื้องหน้าอย่างไม่ลังเล แต่ชายหนุ่มกลับหลบหลีกได้อย่างว่องไวประหนึ่งเงา ดาบสีดำของเขาฟันลงมาอีกครั้งอย่างไร้ความปรานี ทว่าหญิงสาวเรียกบาเรียขึ้นมาป้องกันร่างไว้ทันเวลา โล่เวทมนตร์โปร่งแสงปรากฏขึ้นท่ามกลางความร้อนระอุ

เธอแปรเปลี่ยนพลังเพลิงให้กลายเป็นเส้นสายแห่งไฟนับพัน ลอยพุ่งออกไปราวกับเข็มเพลิงนับไม่ถ้วน จู่โจมศัตรูรอบด้านอย่างดุเดือด

เหล่าอสูร—สิ่งมีชีวิตรูปร่างบิดเบี้ยว ผิวหนังฉีกขาดเหมือนถูกเผามาหลายครั้ง ดวงตาแดงฉานแฝงด้วยความกระหายเลือด—ที่กำลังพุ่งเข้าหาเธอ ถูกเพลิงสีแดงฉานเผาผลาญจนร่างแหลกเหลวและสลายไปอย่างไร้ร่องรอย

‘พลังเวทสูงกว่าที่ได้รับรายงานมา... หรือว่าพวกมันจะได้กิน “สิ่งนั้น” ไปแล้วงั้นเหรอ?’

ชายหนุ่มในชุดคลุมดำ ผมยาวถึงบ่า ดวงตาคมกริบแฝงความโหดเหี้ยม เขายืนนิ่งอย่างไม่สะทกสะท้าน ราวกับการสูญเสียพรรคพวกไม่มีความหมายแม้แต่น้อย

ทำหน้าเหมือนรู้อะไรบางอย่างเลยนะ... แต่ถึงจะรู้ตอนนี้ มันก็สายไปแล้ว

สิ้นคำกล่าว อาสึนะรวบรวมพลังเวททั้งหมดไว้ในฝ่ามือ เปลวเพลิงก่อตัวเป็นลูกไฟขนาดใหญ่ ก่อนจะระเบิดออกเป็นเส้นสายไฟฟ้าร้อนแรง พุ่งเข้าใส่ร่างของชายหนุ่มโดยไม่เปิดโอกาสให้หลบ

เปลวเพลิงสีแดงฉานแผดเผาร่างของเขาอย่างรุนแรง ชุดคลุมไหม้ลุกเป็นไฟ เนื้อหนังค่อย ๆ ลอกหลุดเผยให้เห็นกล้ามเนื้อสีไหม้เกรียม เสียงกรีดร้องต่ำ ๆ ดังลอดออกมาจากปากชายหนุ่ม เขาทรุดลงคุกเข่า มือข้างหนึ่งพยายามควบคุมเวทป้องกัน แต่เพลิงของอาสึนะกลับร้อนแรงเกินกว่าที่จะต้านทานได้

พื้นหลังคาที่เขายืนอยู่แตกร้าวและยุบตัวลงเล็กน้อยเพราะความร้อนและแรงกระแทก ควันไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ฟ้า เถ้าถ่านลอยฟุ้งคล้ายหิมะสีดำที่ตกลงมาปกคลุมทุกสิ่ง

อาสึนะยืนนิ่ง จ้องมองภาพเบื้องหน้าอย่างเงียบงัน ลมหายใจเธอถี่กระชั้น ก่อนจะถอนใจยาวและปัดเหงื่อที่ไหลออกจากหน้าผาก

‘ไม่คิดเลย… ว่าจะได้ใช้เวทนี้จริง ๆ’

การต่อสู้ดำเนินมายาวนานหลายวัน อาสึนะได้เห็นภาพมนุษย์ถูกกัดกิน ถูกฉีกทำลายโดยเผ่าพันธุ์อื่นอย่างไร้ความปรานี ภาพเหล่านั้นฝังแน่นในหัวใจของเธอจนความคิดเริ่มเปลี่ยนไป

แม้ว่าเธอจะไม่อยากสังหารชายหนุ่มเบื้องหน้า แม้ว่าเธอจะเคยเชื่อว่ายังมีทางอื่นที่ไม่ต้องจบลงด้วยเลือด... แต่หากเธอไม่ลงมือ ณ ตอนนี้—สุดท้ายแล้ว คนที่ต้องตายก็คือตัวเธอเอง และพรรคพวกของเธอ

‘นี่นายไปอยู่ไหนกัน... ไบรท์’

ดวงตาของเด็กสาวไหววูบ เธอผละสายตาจากร่างชายหนุ่มที่ไร้ลมหายใจ ก่อนจะก้าวเดินต่อไปอย่างเงียบงัน บนเส้นทางที่เต็มไปด้วยโลหิตสีแดงฉาน กลิ่นคาวคละคลุ้งไปทั่วอากาศ เสียงไฟลุกไหม้เบา ๆ และเศษซากของอสูรที่ยังคงไหม้เกรียมอยู่ใต้ฝ่าเท้า

 

อีกฟากหนึ่งของสนามรบ

เสียงปืนเวทดังสนั่นกึกก้องท่ามกลางหมอกควันและเปลวเพลิงที่ลุกไหม้ลามจากแนวป่าเข้าสู่เขตชุมชน ชายหนุ่มผมสีฟ้าจับปืนเวทในมือแน่น กัดฟันสู้กับคลื่นปีศาจที่พุ่งเข้ามาอย่างไม่ลดละ ใบหน้าเขาเปื้อนฝุ่นควันและเลือดของมอนสเตอร์ที่ถูกยิงจนร่างสลาย

ถึงแม้ร่างกายของเขาจะยังไม่พร้อม ระบบโปรแกรมเวทที่ใช้อยู่ก็ยังอยู่ในระยะทดสอบ แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่น

เขาต้องสู้

เพื่อปกป้องหมู่บ้าน เพื่อปกป้องน้องสาวของเพื่อนรัก เพื่อไม่ให้ผู้บริสุทธิ์ถูกเปลี่ยนเป็นอาหารของสัตว์ประหลาดไร้หัวใจพวกนี้

ข้าง ๆ เขา เด็กหญิงคนหนึ่งยืนนิ่งกลางลมที่พัดกรรโชก คาเสะ เด็กหญิงผมสีเขียวผู้ควบคุมเวทลมด้วยจิตใจที่แน่วแน่และนิ่งสงบ เธอยกมือขึ้นเหนือศีรษะ ก่อนจะเปล่งเสียงเบา ๆ

“ขอพลังแห่งสายลม… จงตื่นขึ้น”

พายุหมุนก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว กระแสลมพัดแรงจนอสูรหลายตัวถูกพัดกระเด็น ร่างของพวกมันกระแทกกับต้นไม้ ผนังบ้าน และขอบหน้าผา ก่อนจะแตกสลายเป็นผุยผง

“ยังไม่หมดอีกเหรอเนี่ย…” คาเสะพึมพำด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า เหงื่อไหลซึมจากขมับลงมาที่ปลายคาง แต่แววตาของเธอยังคงมุ่งมั่น

ชายหนุ่มหันมามองเพื่อนร่วมรบ ก่อนจะกระชับปืนในมือ “ถ้าเราหยุดเมื่อไหร่...พวกเขาจะไม่เหลือใครให้รออีกต่อไปแล้ว”

เสียงปีศาจคำรามแทรกเข้ามาอีกระลอก กลุ่มเงาดำเคลื่อนตัวจากแนวป่า ท่ามกลางเสียงฝีเท้าดังก้อง คาเสะและชายหนุ่มประสานพลังเวทอีกครั้ง

พายุเวทกับกระสุนเวทมนตร์พุ่งเข้าใส่ศัตรูอย่างบ้าคลั่ง กลายเป็นม่านพลังที่กั้นระหว่างหมู่บ้านกับความตายไว้ชั่วคราว

“รีบกลับมานะ…ไบรท์” ชายหนุ่มพึมพำในใจ ขณะยิงกระสุนสุดท้ายใน

ทางฝั่งไอ

หญิงสาวผมยาวสีเทาเงินยืนตะลึง มองภาพเบื้องหน้าราวกับโลกทั้งใบหยุดเคลื่อนไหว ดวงตาของเธอเบิกกว้าง ใบหน้าซีดเผือดอย่างไม่ทันคาดฝัน

ดาบสีดำในมือของน้องชายกำลังปักแน่นอยู่กลางอกของตาของเธอเอง—ผู้ชายที่เลี้ยงดูทั้งสองพี่น้องมาตั้งแต่ยังเล็ก

เสียงกรีดร้องไม่ได้หลุดออกจากปากเธอ มีเพียงเสียงหัวใจที่เต้นแรงจนแทบจะระเบิด ร่างของตาค่อย ๆ ทรุดลงช้า ๆ บนพื้นดินที่เปื้อนฝุ่นและเลือด

ใบดาบสีดำถูกดึงออกมาอย่างไร้ความปรานี เลือดสีแดงสดทะลักออกมาจากบาดแผลราวกับน้ำพุร้อนกลางนรก

“...ไม่จริง” เธอพึมพำเสียงเบา

ฝ่าเท้าของเธอก้าวไม่ออก หัวใจของเธอเหมือนถูกจับขึงกลางเปลวเพลิง—ทั้งร้อน ทั้งเจ็บ ทั้งสับสน

น้องชายของเธอไม่ได้พูดอะไร ใบหน้าไร้อารมณ์ ราวกับเป็นเพียงหุ่นยนต์หรือเครื่องจักรที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง

“ทำไม...?” เสียงของหญิงสาวสั่นเครือ ดวงตาเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา “ทำไมถึงทำแบบนี้...กับตา...ของเรา...”

แสงสีแดงจากดวงตะวันยามเย็นสาดส่องลงมา กระทบกับหยดเลือดที่หยดลงบนพื้น เสียงลมหอบเบา ๆ พัดผ่าน ทำให้เส้นผมของเธอปลิวไหวอย่างอ่อนแรง

ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเหมือนจมลงในห้วงฝันร้ายที่ไม่มีวันตื่น

 

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.