บทที่ 301 การตัดสินใจของฮั่นจง

-A A +A

บทที่ 301 การตัดสินใจของฮั่นจง

บทที่ 301 การตัดสินใจของฮั่นจง

“เยี่ยมไปเลย แบบนี้พวกเราก็จะเพิ่มกำลังการผลิตอุปกรณ์ได้อีกเยอะมาก” ไป๋เหลิงกล่าว

รอบนี้พวกเขาได้บลูปริ้นไอเท็มต่าง ๆ ไปเยอะมาก และมันก็น่าจะเพียงพอให้ผู้เล่นสายอาชีพทำการเรียนรู้อีกนับร้อยคน

“หากพวกเรายังคงพัฒนาในอัตรานี้ต่อไป อีกไม่ถึง 8 วันพวกเราก็น่าจะมีอุปกรณ์ระดับทองเพียงพอสำหรับ 10,000 คนแล้ว” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าว

“หัวหน้า คุณพอจะมีบลูปริ้นอุปกรณ์ของนักบวช, นักธนู, วอลอคกับพาลาดินสายสนับสนุนไหมครับ? พวกน้อง ๆ ภายในทีมเริ่มออกมาบ่นบ้างแล้วว่าพวกเขาไม่มีอุปกรณ์ใหม่ ๆ ให้เปลี่ยนเหมือนกับคนอื่นเลย” ไป๋เหลิงถาม

“พวกเราก็โดนถามเหมือนกันครับ” พวกฉิงชางพูดขึ้นมาพร้อม ๆ กัน

ความจริงแล้วลู่หยางก็พอจะมีข้อมูลเรื่องบลูปริ้นอุปกรณ์เหล่านั้นอยู่บ้าง แต่บลูปริ้นอุปกรณ์ของนักบวชมันดรอปจากป้อมปราการของฉงป้า ส่วนบลูปริ้นอุปกรณ์ของวอลอคและนักธนูดรอปภายในป้อมปราการของบลัดไทแรนท์ ซึ่งสองคนนี้ไม่มีทางยอมขายบลูปริ้นมาให้กับพวกเขาอย่างแน่นอน

“เดี๋ยวฉันจะลองหาทางดูก็แล้วกัน” ลู่หยางกล่าว

ตอนนี้การบุกเบิกป้อมปราการของทางฝั่งมนุษย์ไม่มีกิลด์ไหนมีความก้าวหน้าเหนือกว่าบลัดบราเธอร์อีกแล้ว การพยายามหาบลูปริ้นเพิ่มจากทางฝั่งของมนุษย์จึงกลายเป็นเรื่องยากลำบากเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามมันก็ต้องอย่าลืมว่าบลูปริ้นอุปกรณ์ของผู้เล่นไม่จำเป็นจะต้องมาจากป้อมปราการเพียงอย่างเดียว

“อีก 2 วันเดี๋ยวฉันจะออกไปทำธุระข้างนอก ช่วงนี้ทุกคนก็ช่วยกันเคลียร์พื้นที่กันให้ดี เมื่อไหร่ก็ตามที่บุกเข้าไปถึงเขตด้านในเมืองตอนนั้นให้รีบติดต่อมาหาฉัน แล้วถ้าหากทีมไหนทำผลงานได้เป็นอย่างดี ฉันก็จะมีของรางวัลพิเศษให้กับทีม ๆ นั้นด้วย” ลู่หยางกล่าว

“ของรางวัลอะไรครับ?” ทุกคนต่างก็มองไปยังลู่หยางด้วยความตื่นเต้น เพราะจากสิ่งที่ลู่หยางได้ทำมาทุกอย่างที่ชายหนุ่มบอกว่าพิเศษต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนตกตะลึงได้จริง ๆ

ลู่หยางเผยรอยยิ้มพร้อมกับหยิบคทาเมจิกวอร์ด - ดีม่อนเฟลมออกมาจากกระเป๋าและทำการแชร์ค่าสถานะของมันให้ทุกคนได้ดู

“นี่ไงของรางวัลพิเศษ”

“โอ้โห! นี่มันคทาของนักเวทไฟระดับตำนาน” เอ็ม 16 ร้องตะโกนและอยากจะวิ่งเข้าไปหยิบคทาชิ้นนี้มาไว้ในครอบครอง

“แค่พลังโจมตีอย่างเดียวคทานี่ก็เพิ่มพลังโจมตีเวทได้มากกว่า 600 หน่วยแล้ว” โคลด์วิลโลว์กล่าวด้วยสีหน้าอันประหลาดใจ

“มันไม่ได้มีดีแค่แรงอย่างเดียวนะ แต่คนที่ครอบครองคทาสามารถเข้าสู่สถาบันเวทมนตร์เพื่อเรียนรู้เวทมนตร์ไฟประเภทเผาไหม้ได้เป็นกรณีพิเศษ ฉันขอบอกได้เลยว่าคนที่เปลี่ยนอาชีพเป็นเบิร์นนิ่งเมจมีความแข็งแกร่งไม่ด้อยไปกว่าสเปซทีฟเลย” ลู่หยางกล่าว

“ถ้าพวกเราเปลี่ยนอาชีพไปแล้วพวกเรายังจะเปลี่ยนอาชีพซ้ำได้อีกงั้นเหรอคะ?” โคลด์วิลโลว์ถาม

“ได้สิ” ลู่หยางตอบ

“หัวหน้าผมอยากได้!” เอ็ม 16 กล่าวด้วยท่าทางอันออดอ้อน

“ฉันก็อยากได้เหมือนกัน” โคลด์วิลโลว์กล่าวพร้อมกับทำตาแป๋ว

หลังจากอยู่ด้วยกันมาเป็นเวลานานนิสัยขี้เล่นของเอ็ม 16 ก็ถูกเปิดเผยออกมา แม้แต่คนที่มีนิสัยเย็นชาอย่างโคลด์วิลโลว์ก็เริ่มเปิดใจให้กับพวกเขามากขึ้นเรื่อย ๆ

“ถึงจะมาอ้อนฉันมันก็ไม่ได้ผลหรอก ช่วงนี้ก็มาแข่งกันว่าใครสามารถฆ่ามอนสเตอร์ได้มากที่สุดแล้วฉันจะมอบคทาชิ้นนี้ให้กับทีม ๆ นั้น แล้วพวกนายค่อยไปจัดสรรรางวัลภายในทีมกันเอง” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ

“คืนนี้ไม่ต้องนอนกันแล้วโว้ย!” เอ็ม 16 กล่าวก่อนจะรีบลุกพลวดขึ้นไปในทันที

“เอ็ม 16 จะรีบไปไหน? นายไม่รู้จักคำว่าเลดี้เฟิร์สเลยหรือไงหา!” โคลด์วิลโลว์ร้องตะโกนก่อนที่จะลุกขึ้นวิ่งตามไป

“ใจเย็น ๆ เดี๋ยวฉันจะช่วยเธอเอาคทานั่นมาให้ได้” บิทเทอร์เลิฟกล่าวหลังจากเห็นโอกาสได้ทำคะแนน

“ถ้าอย่างนั้นก็รีบไปสิ” โคลด์วิลโลว์กล่าว

“ทุกคน! พวกเราไปฆ่ามอนสเตอร์กันเถอะ” โคลด์วิลโลว์โบกมือออกคำสั่งให้สมาชิกภายในทีมที่ยังไม่ออกไปพักเริ่มบุกตะลุยไล่ล่าสังหารมอนสเตอร์กันต่อ

“ฉิงชางขอโทษนะแต่คราวนี้คทาชิ้นนั้นมันต้องเป็นของทีมฉัน” บิทเทอร์เลิฟกล่าว

“ฉันก็ต้องขอโทษเหมือนกัน แต่คทานั่นมันต้องเป็นของพวกฉันโว้ย” ฉิงชางโต้กลับก่อนที่จะเรียกรวมพลทีมของตัวเองด้วยเหมือนกัน

ไป๋เหลิงกับเซี่ยหยู่เว่ยหันมามองหน้ากันก่อนที่พวกเขาจะต่างคนต่างวิ่งกลับไปนำทีมของตัวเอง ท้ายที่สุดถึงแม้ทั้งคู่จะไม่ใช่นักเวทไฟแต่ภายในทีมของพวกเขาก็มีนักเวทไฟอยู่ไม่น้อย ทุกคนจึงตั้งใจที่จะนำคทาชิ้นนี้มามอบให้เป็นของขวัญลูกน้องภายในทีมของตัวเอง

ในเวลาเพียงแค่ชั่วพริบตารอบ ๆ ตัวของลู่หยางก็ไม่เหลือใครอีกต่อไป เขาจึงทำได้เพียงแต่ตะโกนเข้าไปในแชทกลุ่มว่า

“แข่งกันดี ๆ นะไม่ต้องทะเลาะกัน”

เช้าวันรุ่งขึ้นลู่หยางก็ยังไม่เข้าเกม เพราะเมื่อวันก่อนฮั่นจงกับหลู่จ้าวหยู่ได้ไปหาคนมาเพิ่มถึง 208 คนเรียบร้อยแล้ว ในฐานะของเจ้าของสตูดิโอลู่หยางจึงต้องมาทักทายทุกคนด้วยตัวเองพร้อมกับพาทุกคนไปยังหอพักที่เขาได้ซื้อมาใหม่

หอพักนี้เป็นหอพัก 3 ชั้นที่ตั้งอยู่บริเวณริมถนนด้านนอกสุดของโรงงานเหล็กที่ถูกทิ้งร้าง บริเวณหน้าหอพักมีสนามบาสเกตบอลให้ทุกคนได้ออกกำลังกันตามสบาย และถึงแม้ตัวอาคารจะไม่ค่อยสูงแต่ในพื้นที่แต่ละชั้นก็มีห้องอยู่มากถึง 36 ห้อง

ลู่หยางได้ทำการปรับปรุงพื้นที่ชั้น 1 ให้กลายเป็นพื้นที่กว้างขนาดใหญ่ โดยการทุบผนังห้องเพื่อทำให้ทั่วทั้งพื้นที่กลายเป็นลานกว้างทั้งหมด หลังจากนั้นเขาก็ทำการตกแต่งง่าย ๆ และแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 โซนต่างประเภทของช่างภายในเกม ซึ่งประกอบไปด้วยช่างตีเหล็ก, ช่างตัดเย็บ, ช่างฟอกหนังและช่างอัญมณี

พื้นที่ชั้น 2 และชั้น 3 ยังคงเป็นหอพักอยู่เช่นเดิม แต่ได้มีการแบ่งให้พื้นที่ชั้น 2 เป็นพื้นที่ของหอพักชายและพื้นที่ชั้น 3 เป็นพื้นที่ของหอพักหญิง

ท้ายที่สุดก่อนการรับสมัครพนักงานใหม่ในครั้งนี้ พวกเขาก็ปรึกษากันแล้วว่าทักษะการตัดเย็บและทักษะการฟอกหนังไม่ค่อยเหมาะกับผู้เล่นชายมากนัก พวกเขาจึงรับสมัครผู้หญิงที่มีทักษะการปักครอสติสมาทั้งหมด 80 คน

เพื่อบริหารจัดการสมาชิกรุ่นใหม่ให้ดียิ่งขึ้น ลู่หยางจึงได้พาพวกฮั่นจงและสมาชิกอีกกว่า 60 คนที่ได้เข้ามาทำงานในก่อนหน้านี้มาอยู่ในหอพักแห่งใหม่ด้วย โดยฮั่นอิ่งรับผิดชอบดูแลพวกผู้หญิง ขณะที่เสี่ยวเหลียง, หลู่จ้าวหยู่และเฉินเฟิงคอยดูแลพื้นที่ในแต่ละโซนแล้วมีฮั่นจงคอยดูแลภาพรวมอีกที

หลังจากที่ทุกคนย้ายของเข้าหอพักใหม่เรียบร้อยแล้ว ลู่หยางก็ได้สั่งให้คนงานติดป้ายตัวอักษรสีแดงขนาดใหญ่เอาไว้บนกำแพงชั้นที่ 3 ว่า

สตูดิโอบลัดบราเธอร์

สัญลักษณ์ของสตูดิโอคือแขน 2 ข้างที่นำมาเกี่ยวกันเอาไว้จนแน่น ซึ่งมันเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความสามัคคีประดุจดั่งพวกเขาเป็นพี่น้องร่วมสาบาน

“ฉันเหมือนกับกำลังฝันไปเลยที่พวกเราสามารถเปิดบริษัทได้จากการเล่นเกมแบบนี้” ฮั่นจงพูดกับลู่หยางอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“ตอนนี้ทุกอย่างมันยังเพิ่งเริ่มเองครับ ต่อไปพวกเราจะรับคนมามากขึ้น และสมาชิกภายในสตูดิโอของเราจะไม่ได้มีแต่ผู้เล่นสายอาชีพ แต่มันจะมีผู้เล่นสายแข่งขันเข้ามาอยู่ภายในสตูดิโอของพวกเราด้วย” 

“ท้ายที่สุดเกม ๆ นี้มันก็จำเป็นจะต้องแย่งชิงทรัพยากรกันตลอดเวลา ดังนั้นพวกเราจะต้องพร้อมเข้าร่วมสงครามไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนก็ตาม” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับนึกถึงศูนย์บัญชาการของลิ่วเจียในชาติที่แล้วที่อีกฝ่ายมีอาคารขนาดใหญ่อยู่ถึง 3 หลังและอาคารแต่ละหลังสามารถรองรับผู้คนได้นับพันคน

“ฉันเชื่อว่านายทำได้ ในกลุ่มเด็ก ๆ ที่ฉันรับมาในครั้งนี้มีขอทานอยู่ด้วย 12 คน ถึงแม้พวกเขาจะอายุยังน้อยแต่พวกเขาก็มีความตั้งใจ ฉันเลยอยากจะลองฝึกฝนพวกเขาด้วยตัวเอง” ฮั่นจงกล่าว

ลู่หยางไม่เคยสนใจภูมิหลังของแต่ละคนมาก่อน เพราะเขาเชื่อใจในคนที่อาจารย์ได้รับสมัครมา อย่างไรก็ตามคำพูดของฮั่นจงมันก็ทำให้เขานึกสิ่งอื่นขึ้นมาได้ว่า

“อาจารย์ นี่คุณตัดสินใจจะอยู่กับพวกเราแล้วใช่ไหมครับ?”

“อือ” ฮั่นจงกล่าวพร้อมกับพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

ในฐานะทหารรับจ้างที่ต้องหลบหนีการไล่ล่ามาโดยตลอด ฮั่นจงจึงมาขอความช่วยเหลือโดยแทบที่จะไม่เหลือเงินติดตัวใด ๆ เลย แต่ใครจะไปคิดว่าวันหนึ่งเขาและลูก ๆ จะมีความสุขได้ขนาดนี้ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังสามารถหาเงินได้โดยไม่ต้องเอาตัวเองไปเสี่ยงอันตรายเหมือนดังในอดีตอีกด้วย

นอกจากนี้พวกฮั่นอิ่งยังไม่เพียงแต่จะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในทุก ๆ วัน แต่ลู่หยางยังหาครูสอนพิเศษมาเพิ่มพูนความรู้ให้กับเด็ก ๆ เพื่อที่อย่างน้อยทุกคนจะได้มีความรู้ติดตัวเอาไว้บ้าง

นอกเหนือจากการแก้แค้นให้ภรรยา ฮั่นจงก็ไม่มีเป้าหมายจะทำอะไรอีก อย่างไรก็ตามจากคำแนะนำของลู่หยางตัวเขาก็ไม่จำเป็นจะต้องลงมือแก้แค้นด้วยตัวเอง ดังนั้นแทนที่เขาจะต้องเสียเวลาหมกมุ่นกับการแก้แค้นสู้เขาเอาเวลามาคอยดูแลลูก ๆ ทั้ง 3 คนและหาเงินไปจ้างนักฆ่ามาแก้แค้นแทนภรรยาแบบนั้นมันก็ฟังดูโอเคเหมือนกัน

ด้วยเหตุนี้เองฮั่นจงจึงตัดสินใจทุ่มเทช่วยเหลือลู่หยางอย่างสุดความสามารถและเด็ก ๆ ทั้ง 12 คนที่เขาได้รับมาในครั้งนี้ก็ถือเป็นก้าวแรกในแผนการที่เขาได้วางเอาไว้

 

 


เย้ ๆ อาจารย์อยู่ด้วยกันน๊า แต่ท้าย ๆ นี่หมายถึงอะไรกันนแน่ ฮั่นจงรับอุปการะเด็กทีเดียว 12 คนเลยเหรอ?

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.