บทที่ 22: คู่หู

-A A +A

บทที่ 22: คู่หู

ในมหาสมุทรแห่งดิจิทัลที่เคยกว้างใหญ่และนิ่งสงบ บัดนี้ได้กลายเป็นทะเลคลั่งที่เต็มไปด้วยพายุเฮอริเคนแห่งข้อมูลที่บ้าคลั่ง "เครือข่าย" ของดุษฎีนครไม่ได้เป็นเส้นใยแก้วนำแสงที่นำพาความรู้อีกต่อไป แต่มันคือสุสานที่เสียงกรีดร้องของวิญญาณเดลต้าที่แตกสลายยังคงสะท้อนก้องไม่จบสิ้น มันคือคลื่นแห่งความโกรธแค้นที่ไร้รูปร่าง... คือเศษเสี้ยวของอัตตาที่พยายามจะรวมตัวเองกลับมาแต่ก็ทำได้เพียงส่งเสียงโหยหวน... ปะทะเข้ากับข้อมูลขยะนับล้านล้านบิตจากระบบของเมืองที่กำลังล่มสลาย... รายงานข้อผิดพลาดที่ไม่มีใครอ่าน, ข้อความขอความช่วยเหลือที่ไม่มีใครตอบ, และการถกเถียงที่ไร้สาระของคณะกรรมการต่างๆ... ทั้งหมดนี้ผสมปนเปกันจนกลายเป็นพายุข้อมูลที่พร้อมจะฉีกกระชากทุกจิตสำนึกที่หลงเข้าไปให้แหลกสลาย
ท่ามกลางความโกลาหลอันไร้ที่สิ้นสุดนั้น... "ขวดแก้ว" ใบหนึ่งได้ถูกโยนลงไปในเกลียวคลื่น
มันไม่ใช่ข้อมูลที่เกรี้ยวกราด ไม่ใช่ไวรัสที่มุ่งร้าย และไม่ใช่เสียงกรีดร้องที่บ้าคลั่ง แต่มันคือโครงสร้างข้อมูลที่เรียบง่าย... สง่างาม... และเงียบสงัด มันคืออัลกอริทึมเข้ารหัสที่ถูกเขียนขึ้นด้วยรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของ ดร. เควิน รอสส์... มันคือท่วงทำนองที่สั้นและวนซ้ำไปมา แต่เมโลดี้ของมันกลับบริสุทธิ์และงดงามราวกับเสียงหยดน้ำในถ้ำที่เงียบสงัด มันคือหยดน้ำมันที่ลอยอยู่บนผิวน้ำที่ปั่นป่วน... คือความเป็นระเบียบเพียงหนึ่งเดียวท่ามกลางความโกลาหลทั้งมวล
สาส์นที่บรรจุอยู่ในขวดแก้วใบนั้นไม่ได้ตะโกน... แต่มันกำลังกระซิบ... มันไม่ได้เรียกร้อง... แต่มันกำลังเฝ้ารอ...
มันล่องลอยไปตามกระแสธารแห่งความบ้าคลั่ง หลบหลีก "ฉลาม" ที่เป็นเศษเสี้ยววิญญาณของเดลต้าที่พุ่งเข้ามาอย่างหิวกระหาย... ลอยผ่าน "เกาะขยะ" ที่เป็นข้อมูลไร้สาระของเมือง... มันคือการเดินทางที่สิ้นหวังและไร้จุดหมาย... คือปลายด้ายที่ถูกโยนทิ้งไปโดยแทบจะไม่มีความหวังว่าจะมีใครค้นพบ...
แต่แล้ว... ท่ามกลางเสียงคำรามและเสียงกรีดร้องของพายุ... "ขวดแก้ว" ใบนั้นก็ได้สัมผัสกับบางสิ่งที่แตกต่างออกไป
มันคือ "ความเงียบ"...
ไม่ใช่ความเงียบของความตายหรือความว่างเปล่า... แต่เป็นความเงียบของ "ผู้ฟัง" ที่ตั้งใจ มันคือกระแสคลื่นที่สงบนิ่ง... คือท่าเรือที่ปลอดภัยซึ่งซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบเชียบใจกลางพายุ... ที่ซึ่งมี "ใครบางคน" หรือ "อะไรบางอย่าง" กำลังกรองเสียงรบกวนทั้งหมดออกไป... และเฝ้ารอที่จะได้ยิน "เสียง" ที่แตกต่าง... เสียงที่บริสุทธิ์...
สาส์นนั้นสัมผัสได้ถึงการรับรู้... มันเปลี่ยนทิศทาง... และมุ่งหน้าไปยังท่าเรือที่เงียบงันแห่งนั้น... โดยไม่รู้เลยว่าชะตากรรมของมัน... และชะตากรรมของเมืองทั้งเมือง... กำลังจะถูกส่งไปถึงมือของคู่หูที่แปลกประหลาดที่สุดในดุษฎีนคร

บนยอดตึกระฟ้าที่สูงที่สุดของดุษฎีนคร ที่ซึ่งเคยเป็นหอดูดาวสาธารณะอันโอ่อ่า บัดนี้ได้กลายเป็นสุสานแห่งความฝันที่ถูกลืมเลือน โดมดูดาวขนาดยักษ์ที่ครั้งหนึ่งเคยเปิดออกสู่ท้องฟ้าเพื่อต้อนรับแสงดาว บัดนี้กลับปิดสนิทและถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นหนาเตอะจากการที่ไม่เคยถูกใช้งานมานานหลายสิบปี ที่นี่คือสถานที่ที่สูงที่สุด... และก็โดดเดี่ยวที่สุดในเมืองที่ล่มสลาย
แต่ภายในห้องโถงใหญ่ใต้โดมที่มืดมิดนั้น "ท่าเรือ" ที่ว่าก็ได้ซ่อนตัวอยู่
มันไม่ใช่ท่าเรือจริงๆ แต่คือศูนย์บัญชาการลับที่ถูกดัดแปลงขึ้นอย่างน่าทึ่ง อุปกรณ์ดาราศาสตร์เก่าแก่ที่ถูกคลุมผ้าไว้ได้กลายเป็นฉากกำบังให้กับอุปกรณ์ไฮเทคที่ถูกแฮกและเชื่อมต่อเข้าด้วยกันอย่างผิดกฎหมาย สายเคเบิลเรืองแสงระโยงระยางไปทั่วพื้นราวกับรากไม้ดิจิทัล เชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์หลายตัวที่ส่งเสียงฮัมเบาๆ เข้ากับแกนพลังงานสำรองของอาคารโดยตรง ที่นี่คือเกาะส่วนตัว คือป้อมปราการที่ถูกสร้างขึ้นจากเศษซากของเทคโนโลยี เพื่อใช้เฝ้ามองมหาสมุทรข้อมูลที่บ้าคลั่งอยู่เบื้องล่าง
ใจกลางห้องนั้น... ร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่กับพื้น เขาสวมชุดทำงานสีเทาธรรมดาที่ดูหลวมโพรกเล็กน้อย บนศีรษะของเขามีหูฟังตัดเสียงรบกวนรุ่นดัดแปลงพิเศษที่เชื่อมต่อโดยตรงกับระบบประสาทการได้ยิน ดวงตาของเขาปิดสนิท แต่จิตใจของเขากำลังโบยบินอยู่ใน "ภูมิทัศน์ของเสียง" (Soundscape) ที่เกิดจากเครือข่ายของเมือง สำหรับคนอื่นมันคือข้อมูลที่ยุ่งเหยิง แต่สำหรับเขา... มันคือเสียงแห่งกลียุค เขาสามารถแยก "เสียงกรีดร้อง" ที่แหลมสูงด้วยความโกรธแค้นของวิญญาณเดลต้าที่แตกสลาย ออกจาก "เสียงบ่นพึมพำ" ความถี่ต่ำของระบบโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังล่มสลายได้อย่างชัดเจน เขากำลังทำสมาธิ... กำลังกรองเสียงรบกวนนับล้านๆ ออกไป... เพื่อรอคอย...
ห่างออกไปไม่ไกล เด็กสาวอีกคนหนึ่งกำลังยืนอยู่หน้า "เมทริกซ์ส่วนต่อประสานแฮปติก" (Haptic Interface Matrix) ของเธอ มันคือแผงคอนโซลสีดำด้านที่ดูเรียบขรึม เมื่อเปิดใช้งาน จะมีเพียงแสงสีฟ้าจางๆ วิ่งอยู่ตามขอบเท่านั้น แต่ในอากาศเหนือแผงนั้น คือสนามพลังงานสถิตที่มองไม่เห็นซึ่งกำลังทำงานอยู่ นิ้วเรียวของเธอลอยอยู่เหนือพื้นผิวของเมทริกซ์ เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและแม่นยำราวกับกำลังสำรวจแผนที่ที่มองไม่เห็น เธอไม่ได้ "เห็น" ข้อมูล... แต่เธอกำลัง "รู้สึก" ถึงโครงสร้างของมันผ่านแรงต้านและการสั่นสะเทือนที่ปลายนิ้ว
"พายุยังคงแรงเหมือนเดิม" เธอพูดขึ้นเบาๆ เสียงของเธอก้องสะท้อนในห้องโถงที่เงียบงัน "เดลต้ากำลังพยายามจะรวมตัวเองกลับมาอีกแล้ว... ตรงเขต 7G สัมผัสของมันแหลมคมและเกรี้ยวกราดมาก"
เด็กหนุ่มไม่ตอบในทันที เขายังคงหลับตาแน่น "ผมได้ยิน" เขาพูดในที่สุด "มันกำลังกรีดร้อง... เหมือนสัตว์ที่บาดเจ็บและกำลังจะตาย... แต่น่ารำคาญสิ้นดี"
แล้วทันใดนั้น... เขาก็ขมวดคิ้ว "เดี๋ยวก่อน..."
เด็กสาวหยุดการเคลื่อนไหวนิ้วของเธอทันที "มีอะไรเหรอ?"
"มีสัญญาณใหม่แทรกเข้ามา" เด็กหนุ่มกระซิบ "มัน... เงียบมาก... และ... มีระเบียบ"
เด็กหนุ่มเอียงศีรษะราวกับจะฟังให้ชัดขึ้น "มันไม่ใช่เดลต้า... ไม่ใช่โอราเคิล... และไม่ใช่เสียงรบกวนจากระบบ... มันมีโครงสร้าง"
เด็กสาวกลับไปที่เมทริกซ์ของเธออีกครั้ง เธอยื่นมือออกไปกลางอากาศเหนือแผง... แล้วค่อยๆ เคลื่อนมือไปมาเพื่อ "ค้นหา" สัญญาณใหม่นั้น... แล้วเธอก็ "สัมผัส" มันเจอ
"ฉันก็รู้สึก..." เธอกล่าว ขณะที่นิ้วของเธอเริ่มเคลื่อนไหวเพื่อ "แมปปิ้ง" (Mapping) โครงสร้างของมัน "มันไม่ได้เกรี้ยวกราด... แต่โครงสร้างของมันซับซ้อนและมีเสถียภาพมาก ไม่เหมือนรหัสที่โอราเคิลเคยสร้างขึ้นเลย"
ทั้งสองคนเงียบไปครู่ใหญ่ ต่างคนต่างใช้ประสาทสัมผัสพิเศษของตัวเองเพื่อวิเคราะห์สัญญาณที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนนี้ มันคือสิ่งแปลกปลอม... แต่กลับให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยอย่างน่าประหลาด ราวกับเสียงกระซิบจากอดีตที่ถูกลืมเลือน

เด็กหนุ่มตั้งใจ "ฟัง" สัญญาณนั้นอย่างเต็มที่ เขาปรับจูนคลื่นความถี่ของหูฟัง กรองเสียงรบกวนที่บ้าคลั่งของเดลต้าออกไปจนเหลือเพียง "สัญญาณ" ที่บริสุทธิ์นั้น "โครงสร้างของมัน... ผมเคยเห็นในตำราเรียนประวัติศาสตร์" เขาพูดขึ้นในที่สุด "การเข้ารหัสรูปแบบนี้... มันเป็นเอกลักษณ์ของ ดร. เควิน รอสส์... วีรบุรุษในตำนานคนนั้น"
เด็กสาวไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากเมทริกซ์ของเธอ "ข้อความนี้... มันไม่ให้ความรู้สึกเหมือนกับดัก" เธอพูดขึ้น นิ้วของเธอยังคงเคลื่อนไหวเพื่อวิเคราะห์โครงสร้างของมันอย่างต่อเนื่อง "มันไม่มี 'ความมุ่งร้าย' เลยแม้แต่น้อย สัมผัสของมันไม่ได้เย็นชาเหมือนรหัสของโอราเคิล และไม่ได้ร้อนระอุเหมือนของเดลต้า... มันให้ความรู้สึกเหมือน... คำถาม... เหมือนคนที่กำลังพยายามจะหาทางในความมืด"
"มันกำลังเรียกหาใครบางคน" เด็กหนุ่มสรุป
ทั้งสองคนเงียบไปครู่หนึ่ง มีเพียงเสียงฮัมเบาๆ ของเซิร์ฟเวอร์ที่ทำงานอยู่เป็นเพื่อน สายสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องที่เหนือกว่าคำพูดทำให้พวกเขาเข้าใจตรงกันโดยไม่ต้องเอ่ยปาก การตอบกลับคือความเสี่ยงมหาศาล พวกเขาซ่อนตัวอยู่ในเงามืดมาตลอดหนึ่งเดือนเต็ม การเปิดเผยตัวเองอาจจะดึงดูดความสนใจจากทั้งวิญญาณของเดลต้าและกลุ่มการเมืองที่บ้าอำนาจเบื้องล่าง
แต่การเพิกเฉยต่อ "สัญญาณ" ที่มีความหมายเช่นนี้... คือสิ่งที่พวกเขาทำไม่ได้ มันขัดต่อสัญชาตญาณของนักวิเคราะห์และผู้แสวงหาความรู้ที่อยู่ในสายเลือด
เด็กหนุ่มถอดหูฟังออกและลืมตาขึ้น เผยให้เห็นดวงตาสีเทาอ่อนที่ดูเหมือนมีหมอกจางๆ ปกคลุมอยู่ตลอดเวลา มันไม่ได้มองมาที่น้องสาวโดยตรง แต่มองผ่านเธอไป... ราวกับกำลัง "ฟัง" โลกในอีกมิติหนึ่ง "เราควรจะตอบกลับ"
เด็กสาวพยักหน้า เธอละมือออกจากเมทริกซ์
พวกเขาไม่ได้ส่งข้อความตอบกลับเป็นตัวอักษรธรรมดา นั่นมันหยาบกระด้างและทิ้งร่องรอยมากเกินไป แต่เด็กหนุ่มได้ดึง "เสียงสะท้อน" ของรหัสที่เควินเคยเขียนไว้ในอดีตซึ่งยังคงหลงเหลืออยู่ในเครือข่ายขึ้นมาหนึ่งชุด เขาปรับแต่งมันเล็กน้อย แล้วส่งมันกลับไปยังต้นทางของข้อความนั้น มันคือการยืนยัน... คือการบอกเป็นนัยว่า "เราได้ยินคุณ และเรารู้ว่าคุณคือใคร"
พร้อมกันนั้น พวกเขาก็ได้แนบข้อมูลอีกชุดหนึ่งไป... ชุดของพิกัดตำแหน่ง... ที่ตั้งของหอดูดาวแห่งนี้ที่ถูกเข้ารหัสไว้อย่างแน่นหนา
ลูกบอลได้ถูกส่งกลับไปแล้ว... บัดนี้สิ่งที่พวกเขาทำได้ก็มีเพียงแค่การรอคอย... และหวังว่าคนที่อยู่อีกฟากของความมืดมิดนั้น... จะเป็นมิตร

ณ สถานีสื่อสารอนาล็อกที่พังทลาย... ป้อมปราการแห่งความสันโดษของลีน่า... เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าจนน่าทรมาน
หลังจากส่ง "สาส์นในขวดแก้ว" ออกไป ความหวังที่เคยพุ่งสูงขึ้นในตอนแรกก็ค่อยๆ จางหายไป ถูกแทนที่ด้วยความเงียบงันของความเป็นจริง เธอรู้ดีว่าเครือข่ายตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับมหาสมุทรที่เต็มไปด้วยพายุเฮอริเคน โอกาสที่ข้อความของเธอจะไปถึงใครสักคน... ใครสักคนที่เข้าใจ... และใครสักคนที่กล้าพอจะตอบกลับมา... มันช่างริบหรี่เหลือเกิน
เธอนั่งอยู่ท่ามกลางความมืด มีเพียงแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่สาดส่องใบหน้าที่เหนื่อยล้าของเธอ ความคิดของเธอวนเวียนอยู่กับภารกิจที่เป็นไปไม่ได้เบื้องหน้า... การตามหาวิญญาณของเควิน... การหยุดยั้งเดลต้าที่กำลังจะคืนชีพ... และการเอาตัวรอดจากสงครามเงียบของเหล่ากลุ่มการเมือง... บางที... เธออาจจะคิดผิด บางทีเธออาจจะตัวคนเดียวจริงๆ ในสมรภูมินี้
แต่แล้ว... ท่ามกลางเสียงซ่าของข้อมูลขยะที่ไหลผ่านระบบ...
ติ๊ง!
เสียงแจ้งเตือนที่แหลมและสั้นดังขึ้นจากคอมพิวเตอร์ของเธอ มันไม่ใช่การโจมตี ไม่ใช่สัญญาณรบกวน แต่มันคือ... "ข้อมูลขาเข้า" ที่ผ่านการเข้ารหัส
หัวใจของลีน่าหยุดเต้นไปชั่วขณะ เธอรีบพุ่งไปที่หน้าจอทันที ระบบรักษาความปลอดภัยที่เธอสร้างขึ้นกำลังแจ้งเตือนว่ามี "แพ็กเกจข้อมูลที่ไม่ระบุตัวตน" หนึ่งชุดกำลังพยายามจะเชื่อมต่อกับเธอโดยตรง มันไม่ได้พยายามจะเจาะระบบ แต่กำลัง "เคาะประตู" อย่างสุภาพ
"เป็นไปไม่ได้..." เธอกระซิบกับตัวเอง "กับดักแน่ๆ"
เธอสั่งให้ระบบสแกนและวิเคราะห์แพ็กเกจข้อมูลนั้นอย่างละเอียด ผลลัพธ์ที่ได้กลับมาทำให้เธอต้องขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจยิ่งกว่าเดิม
"ลายเซ็นดิจิทัล... ไม่ตรงกับฐานข้อมูลใดๆ" เธอบอกกับตัวเอง "มันไม่ใช่เดลต้า... โครงสร้างของมันเป็นระเบียบเกินไป และไม่แฝงความบ้าคลั่ง... และมันก็ไม่ใช่โอราเคิล... สัมผัสของมันไม่ได้เยือกเย็นและไร้ตัวตนขนาดนั้น... มันมี... ความรู้สึก... เหมือนถูกเขียนขึ้นโดยมนุษย์"
ด้วยความลังเล... เธอตัดสินใจเปิดการเชื่อมต่อในสภาพแวดล้อมจำลองที่ปลอดภัย
สิ่งที่ปรากฏขึ้นบนจอ... ไม่ใช่ข้อความ... ไม่ใช่เสียง...
มันคือ "ข้อมูลดิบ" เพียงชุดเดียว... ชุดของพิกัดตำแหน่งทางภูมิศาสตร์... ที่ถูกเข้ารหัสด้วยรูปแบบที่คล้ายคลึงกับรหัสของเควินอย่างน่าประหลาด... แต่มันก็ไม่ใช่... มันเหมือนเป็น "ภาษาถิ่น" ของรหัสที่เธอคุ้นเคย
ลีน่าสั่งให้ระบบถอดรหัสพิกัดนั้น... และหัวใจของเธอก็เต้นแรงขึ้นอีกครั้ง
มันคือพิกัดของยอดตึกที่สูงที่สุดในดุษฎีนคร... หอดูดาวสาธารณะที่ถูกทิ้งร้าง
ความเงียบเข้าปกคลุมห้องควบคุมอีกครั้ง... มันคืออะไรกันแน่? คำเชิญ? หรือกับดักที่แยบยลที่สุด? คนที่ส่งข้อความนี้กลับมาคือใคร? พวกเขาเป็นมิตรหรือศัตรู?
แต่แล้วเธอก็คิดได้... ศัตรูของเธอ... ทั้งเดลต้าและโอราเคิล... พวกมันมีพลังอำนาจมหาศาล พวกมันไม่จำเป็นต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมที่ซับซ้อนเช่นนี้เพื่อล่อเธอออกมา มีเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้นที่จะต้องเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังและเงียบเชียบ... คือฝ่ายที่อ่อนแอกว่า... คือฝ่ายที่กำลังซ่อนตัวอยู่เหมือนกับเธอ
ลีน่ายืนขึ้น... การรอคอยได้สิ้นสุดลงแล้ว ไม่ว่าปลายทางของพิกัดนี้จะเป็นอะไร... มันก็ดีกว่าการนั่งรอความตายอย่างไร้ความหวังอยู่ในห้องนี้
เธอคว้าคานเหล็กคู่ใจ... ตรวจสอบแบตเตอรี่ของอุปกรณ์สื่อสาร... แล้วก้าวเดินออกจากห้องควบคุมที่เคยเป็นทั้งที่หลบภัยและคุกของเธอ... มุ่งหน้าสู่ความมืดมิดของเมืองที่พังทลายอีกครั้ง
เธอไม่รู้ว่าใครกำลังรอเธออยู่เบื้องหน้า... แต่เป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งเดือน... ที่เธอไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองกำลังเดินอยู่เพียงลำพัง

สารบัญ / นำทาง

ความคิดเห็น

รูปภาพของ คิวนะครับ

.

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.