บทที่ 3 รางวัลคู่จิ้นแห่งปี

พลิกรักทิวา

-A A +A

บทที่ 3 รางวัลคู่จิ้นแห่งปี

หมวดหนังสือ: 

กริ้ง กริ้ง กริ้ง กริ้ง กริ้ง กริ้ง กริ้ง กริ้ง

เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นจากโทรศัพท์ ทิวาเอื้อมมือไปปิด แล้วลุกขึ้นจัดการพับผ้าห่ม แล้วเดินไปเปิดประตูตรงระเบียงหอพักมองออกไป ก็เห็นว่ายังมืดอยู่ ก็แหงล่ะนี่มันพึงจะตีสี่ เธอเริ่มบิดตัว ยืดเส้นยืดสาย เพื่อไล่ความง่วงออกไปให้หมด ตอนอยู่ที่บ้านทิวาก็ตื่นเวลานี้เป็นประจำ แต่เมื่อวานเธอนอนเร็วหน่อยทำให้วันนี้ตื่นมารู้สึกสดชื่นมาก รู้สึกว่าเป็นวันที่ได้นอนอย่างเต็มอิ่มอีกวัน คำว่านอนเร็วหน่อยของทิวาก็คือสี่ทุ่ม (ยี่สิบสองนาฬิกา) นับรวมเวลานอนก็ได้แค่หกชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งถ้าคนปกติทั่วไปแล้วการนอนหกชั่วโมงต่อวันนั้นคงจะไม่เพียงพอ แต่สำหรับทิวานั้นการนอนหกชั่วโมงต่อวันนั้นเกินพอแล้ว เพราะปกติเธอนอนแค่วันสี่ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งตัวทิวาเองก็ใช้ชีวิตแบบนี้มาตั้งแต่อยู่มัธยมแล้วเพราะวัน ๆ หนึ่งมีอะไรให้เธอทำมากมาย ตั้งแต่ตื่นนอนยันเข้านอน เริ่มตั้งแต่ไปรดน้ำผักผลไม้ที่สวนกับแม่ เดินทางไปเรียน เลิกเรียนก็สอนพิเศษต่อ เสร็จแล้วก็เดินทางกลับมาทบทวนบทเรียนที่เรียนวันนี้และดูเนื้อหาที่จะเรียนวันต่อไป จนบางทีเธออยากจะลดเวลานอนของตัวเองลงให้เหลือวันละสองชั่วโมง แต่นั่นมันก็จะเป็นการรังแกร่างกายของเธอมากเกินไป พอมาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเธอไม่ได้สอนพิเศษแล้วก็ไม่ได้ช่วยเหลือแม่ดูแลสวนแล้ว เธอจึงมีเวลาเหลือมากขึ้น

ทิวามองออกไปรู้สึกว่าวิวที่นี่ดีใช้ได้เลย ถึงสีเขียวของต้นไม้ที่มีไม่มากเท่าตึกสีขาวหลายตึกตั้งเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ มีเสียงนกร้องขึ้นแจ้วจ้าว ทำให้ทิวารู้สึกว่าเธอเองก็ไม่เหงาแล้วที่มีเพื่อนตื่นแต่เช้าแบบนี้ มองเห็นวิวของทางด้านทิศตะวันออกของมหาวิทยาลัย เธอมองเห็นตึกสีขาวตั้งตระหง่านเด่นอยู่ไกลออกไป จากความมืดสลัว ๆ ของเวลาที่ใกล้เช้าอีกไม่กี่วันเธอจะต้องไปเรียนที่นั่นแล้ว ตึกของคณะบริหารธุรกิจ คิดได้อย่างนี้หัวใจก็เต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้างเมื่อถึงวันนั้น ใจก็แอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าเธอเลือกไม่ผิดที่มาอยู่ชั้นห้าเป็นชั้นที่ห้องถูกที่สุด เพราะที่นี่ไม่มีลิฟต์ทำให้ราคาห้องยิ่งสูงยิ่งถูกลงตามระดับชั้น คนจำนวนมากยอมจ่ายแพงกว่าเพราะขี้เกียจเดินขึ้นบันได แต่สำหรับทิวาเองคิดว่าการเดินขึ้นบันไดแค่ห้าชั้นนั้นสบายมากสำหรับเธอ เธอยกถังน้ำหนัก ๆ มารดสวนทุกวันอยู่แล้ว เมื่อยืดเส้นยืดสายเสร็จทิวาก็เดินเข้าห้องไปแผนวันนี้ของเธอคือ จะดูรายละเอียดวิชาที่เรียนคร่าว ๆ เพราะได้ลงทะเบียนเรียนไปแล้วตั้งแต่อยู่บ้าน หลังจากนั้นก็ไปวิ่งที่สนามกีฬากลางสักชั่วโมง เธอแอบไปส่องดูที่นั่นมาบ้างแล้ว เมื่อวานหลังจากเลิกกิจกรรมรับน้องใหม่ ซึ่งเป็นสนามกีฬาที่ได้มาตรฐานดีเลยทีเดียวแล้วยังเปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง เพื่อให้นักศึกษาผู้รักสุขภาพได้ไปออกกำลังกายกัน หลังจากนั้นทิวาก็จะกลับมาอาบน้ำแล้วเดินทางไปร่วมกิจกรรมรับน้องวันที่สอง

 

………………………

“ทิวา! ทิวา! ทิวา! ทางนี้” เพทายยืนอยู่บริเวณฟุตบาทกำลังโบกไม้โบกมือให้ทิวา ทิวาเองหลังจากกินข้าวที่ศูนย์อาหารแถวหอเสร็จก็เดินมาที่ลานกิจกรรมเพราะว่าอยู่ไม่ไกลมากนัก

“ไง มาแต่เช้าเลยนะ” ทิวาทัก

“ก็แหงล่ะ กูขับรถ ไม่ได้เดินมาแบบมึงหนิ อ่ะนี่” พูดจบก็ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้ทิวา

“นี่อะไรหรอ”

“ก็แผนผังการเดินรถมินิบัสไง กูเห็นมึงไปไหนมาไหนก็เอา แต่เดินคิดว่ามึงคงไม่รู้ว่าที่นี่มีบริการรถรับส่งในมหาลัยฟรีด้วย”

“อ้อ กูเองก็เคยหาผังการเดินรถอยู่ในเว็บมหาลัย แต่ก็หาไม่เจอ ขอบใจนะ” พูดจบก็ยิ้มประจบเพื่อนคนแรกที่แสนจะใจดีกับเธอ ความจริงเธอก็รู้อยู่ว่ามหาวิทยาลัยมีบริการรถมินิบัสรับส่งนักศึกษาฟรี เคยหาข้อมูลการเดินรถตอนอยู่ที่บ้าน แต่ก็หาไม่เจอ พอมาถึงที่มหาวิทยาลัยไม่มีเวลาหาต่อ การเดินทางที่ผ่านมาของทิวาเลยเป็นการเดินเอาซะส่วนใหญ่ถึงจะช้าหน่อย แต่ก็ไม่หลงแน่นอน

“อืม พอดีรุ่นพี่ที่รู้จักเขาให้มา แต่กูมีรถส่วนตัวอยู่แล้วคงไม่ได้ใช้ก็เลยเอามาให้มึง” เพทายอธิบายตามความจริง

“อ่ะ” ทิวายื่นมือข้างนึงให้เพทายหลังจากเก็บแผนผังการเดินรถมินิบัสแล้ว

“อะไร” เพทายสงสัยเธอจะยื่นมือออกมาทำไมกัน

“ก็คู่บัดดี้ตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ไง”

“อ้อ นั้นสินะ สองวันนี้เราต้องเป็นคู่บัดดี้ปาท่องโก๋นี่นะ” พูดจบเพทายก็ล้วงมือไปหยิบผ้าขึ้นมามัดข้อมือของทั้งสองคนเข้าด้วยกัน

กิจกรรมวันนี้เป็นการเดินทางไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และแนะนำสถานที่สำคัญ ๆ ของมหาลัยเป็นส่วนใหญ่จึงทำให้วันนี้สำหรับเพทายและทิวาไม่ได้ลำบากมากนัก

ส่วนวันที่สามของการทำกิจกรรมนั้นเป็นการแสดงพลังน้องใหม่ โดยการร้องเพลงเชียร์ต่าง ๆ ประจำมหาวิทยาลัย เนื่องจากวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการรับน้องใหม่แล้วจึงมีการประกาศผลรางวัลการแข่งขันประจำกลุ่มต่าง ๆ ด้วย แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นมันดันมีรางวัลคู่จิ้นน้องใหม่ประจำปีด้วยนี่สิ

“อุ้ย เพทายเราว่ารางวัลนี้ เพทายกับทิวาต้องได้แน่ ๆ เลยอ่ะ” สาวที่นั่งข้างเพทายพูดขึ้นอย่างเขินอาย เพทายไม่ได้รู้จักเธอ แต่เธอรู้จักเพทาย เพราะการที่หนุ่มหล่อน่ารักอย่างเพทายจะได้รับความสนใจจากสาว ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่พวกเธอคงจะรู้สึกรำคาญตาไม่ใช่น้อยที่มองมาหาเพทายทีไรก็ต้องพ่วงมาด้วยทิวาสาวบ้านนอกคนเดิมคนนี้ทุกครั้งไป

“มันมีรางวัลบ้า ๆ แบบนี้ด้วยหรอเนี่ย” ทิวากระซิบข้างหูเพทาย

“มึงว่าเราจะได้มั้ยว่ะ” เพทายไม่ตอบคำถาม แต่ถามกลับ

“ไม่รู้ดิ แต่ขอให้อย่าได้เลย” ทิวาไม่ชอบทำตัวให้เด่นสักเท่าไหร่ เธออยากใช้ชีวิตแบบเงียบสงบตามสไตล์ของเธอมากกว่า แต่การที่เธอได้มาตัวติดอยู่กับหนุ่มฮอตอย่างเพทายเป็นเวลาสามวันนี้เธอก็แทบจะหาคำว่าเงียบสงบในชีวิตไม่เจอเลย เพราะมีทั้งสาว ๆ และหนุ่ม ๆ ที่หลงไหลในความน่ารักของเพทายมาข้องแวะอยู่ตลอด และเสียงประกาศก็ดังขี้น

“และผู้ที่ได้รับรางวัลคู่จิ้นแห่งปีนี้ได้แก่! คู่จิ้นปาท่องโก๋น้องเพทายกับน้องทิวา! ขอเชิญทั้งคู่ออกมารับรางวัลด้วยครับ และขอเสียงปรบมือด้วยคร้าบบบ” เสียงปรบมือดังขึ้น ทิวาท้วงขึ้นในใจทันทีแล้วก็นั้นไงอะไรที่คิดไว้ก็ไม่เคยเป็นดังหวัง ทิวาเริ่มคิดแล้วว่าชีวิตในรั้วมหาลัยของเธอคงจะไม่ง่ายแล้วล่ะ รับรางวัลเสร็จก็คงต้องถ่ายรูปลงเว็บไซต์ ลงเพจต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยอีกสินะ ถ้าเป็นรางวัลเกียรตินิยมอันดับหนึ่งทิวาจะไม่บ่นอะไรเลย นี่รางวัลอะไรก็ไม่รู้

เมื่อประกาศผลเพทายและทิวาก็เดินขึ้นไปรับรางวัลทั้งที่มือทั้งสองข้างยังผูกติดกันอยู่สมแล้วที่ได้ฉายาว่าคู่จิ้นปาท่องโก๋ เพราะตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋จริง ๆ ความจริงทิวาคิดว่าที่ได้รับรางวัลนี้นอกจากที่เพทายตัวติดกับเธอตลอดเวลาจนเป็นเอกลักษณ์อย่างนี้ ก็คงเป็นเพราะความฮอตของตัวเพทายเองด้วย เพราะไม่ว่าจะทำกิจกรรมอะไรช่างภาพชมรมต่าง ๆ ก็รักเพทายเหลือเกินตามถ่ายแทบจะทุกซอกทุกมุมที่เขาไป เรียกได้ว่าเป็นขวัญใจช่างภาพก็ว่าได้ แต่ก็ต้องเข้าใจว่าเพทายหน้าตาดีเอาไปลงเพจไหนก็ได้ยอดไลค์อย่างถล่มทลาย

หลังจากกิจกรรมทุกอย่างเสร็จสิ้นลง ทุกคนต่างก็แยกย้ายกันกลับ

“ไอ้ทายยยยยยยยย” เสียงแปดหลอดของสาวคนหนึ่งดังขึ้น พร้อมกับเดินกึ่งวิ่งเข้ามาหาเพทายและทิวาที่ตอนนี้มือไม่ได้ผูกติดกันแล้ว

“แหม ๆ ๆ ๆ เดี๋ยวนี้มึงจิ้นกับผู้หญิงแล้วหรอว่ะ กูนึกว่ามึงจะจิ้น แต่กับผู้ชายหล่อกล้ามปูซะอีก” หญิงสาวพูดแซวเพทายตั้งแต่เดินยังไม่ถึงตัว

“อะไรของมึง พวกพี่เลี้ยงเขาจับให้หรอกน่า ว่าแต่กลุ่มของพวกมึงเถอะทำไมเงียบเหงาจังว่ะ เขาประกาศผลรางวัลก็ได้แต่มองตาปริบ ๆ ” เพทายแซวคืนบ้าง

“หืมม ปากร้ายนักนะมึง กลุ่มพวกกูมีเมตตามากหรอก เลยอ่อนข้อให้อ่ะ”

“นี่พวกมึงจะคุยกันอีกนานมั้ยว่ะกูหิวจนไส้กิ่วหมดแล้วเนี่ย” ชายหนุ่มคนที่เดินตามมาทีหลังท้วงขึ้น

“คร้าบบ คุณชายนุรู้แล้วว่าหิว กูเองก็หิวเหมือนกันแหละ เอาอย่างนี้แล้วกันวันนี้ในฐานะที่กูได้รางวัลคู่จิ้นแห่งปีกูจะเลี้ยงพวกมึงเอง”

“เยส! ให้มันได้อย่างนี้สิครับไอ้คุณชายเพทาย” พูดพร้อมยกมือขึ้นประกอบท่า

“เออ กูยังไม่แนะนำเลย นี่คู่จิ้นกูพวกมึงน่าจะรู้จักแล้วทิวา ส่วนนี่ไอ้มินนี่กับไอ้นุ” เพทายพูดพร้อมผายมือตามชื่อคน

“ยินดีที่ได้รู้จักนะ นุ มินนี่ แต่ขอล่ะอย่าแซวเรื่องรางวัลคู่จิ้นอีกเลย”

“อ้าวทำไมล่ะ ดูไอ้ทายดิมันยังภูมิใจจะตาย” มินนี่ท้วง

“เออ ก็การตัวติดกับมันสามวันนี้ก็โดนเพ่งเล็งอย่างกับนักโทษอ่ะดิ ไปไหนมาไหนก็มีแต่คนจ้องมอง เอาทำตัวไม่ถูกเลย” ทิวาพยายามพูดเลี่ยงการใช้คำแทนตัวเองเพราะไม่รู้ว่าเพื่อนเพทายจะเป็นเหมือนเพทายไหมรอให้พวกเขาพูดก่อนแล้วเธอค่อยพูดตามจะดีกว่า เพราะเธอเองก็ดูจะเป็นเหมือนจะเป็นผู้มาใหม่คนเดียว ค่อย ๆ ศึกษาพวกเขาไปแล้วพยายามทำตัวให้กลมกลืนจะดีกว่า

“ฮ่าฮ่าฮ่า เข้าใจความรู้สึกเลยอ่ะตอนเดินมัธยมกูเดินกับได้ทายก็เป็นแบบนี้แหละ” วิษณุพูดเสริม

“ก็จะให้ทำไงได้อ่ะ ก็กูมันฮอต” เพทายพูดชมตัวเองไม่อายปาก

“เออ พวกมึงจะคุยกันอีกนานมั้ยกูหิวจะตายแล้วเนี่ย” มินนี่แผดเสียงใส่

“เออ ๆ กูรู้แล้ว ทิวาไปกินข้าวด้วยกันนะเดี๋ยวกูเลี้ยงเอง” เพทายหันไปชวนทิวา

“เฮ้ย จะให้มึงเลี้ยงได้ไงล่ะ เดี๋ยวกูจ่ายเองดีกว่า เพราะกูเองก็ได้รางวัลเหมือนกันหนิ” ทิวาท้วงจะจ่ายเอง เพราะถ้าจะเลี้ยงเพราะได้รางวัล เธอเองก็ได้รางวัลเหมือนกันหนิ

“หูย อย่าไปเกรงใจมันทิวา ไอ้ทายมันรวยจะตายแค่นี้ไม่กระทบขนหน้าแข้งมันหรอก” มินนี่เดินมาควงแขนทิวาอย่างสนิทสนมแล้วพูด ทิวาเองก็ไม่ว่าอะไร

“ให้กูเลี้ยงมึงเถอะทิวา ถือว่าเป็นการไถ่โทษมึงด้วย ที่ผ่านมาทำให้ชีวิตมึงวุ่นวาย ส่วนไอ้พวกเนี่ยกูก็เคยจะเลี้ยงมันอยู่แล้ว แต่ยังไม่มีโอกาส แต่ถ้ามึงไม่สบายใจคราวหน้ามึงค่อยเลี้ยงกูคืนก็ได้” ความจริงเพทายตั้งใจอยากจะเลี้ยงข้าวทิวาอยู่แล้วที่บอกว่าให้เลี้ยงคืนก็ไม่ได้จริงจังอะไรพูดไปให้ทิวาสบายใจแค่นั้น ตลอดระยะเวลาสามวันที่ผ่านมาที่ถูกผูกติดอยู่กับทิวาเพทายรู้สึกสบายใจมากไม่ได้รู้สึกอึดอัดเลยแม้แต่น้อย ปกติถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงจีบเค้าไปแล้วก็ใครมันจะทนความน่ารักของเขาได้ล่ะ>< แล้วเขาเองก็ชอบนิสัยเพื่อนใหม่คนนี้มาก เพราะทิวาเป็นคนร่าเริง ง่าย ๆ บ่นเก่งบ้างบางเวลา (เรื่องความเสน่ห์แรงของเขานี่แหละ) แต่ก็เหมือนติดตลกไม่ได้คิดอะไรมาก อยู่ด้วยแล้วสบายใจดี

“อืม งั้นเดี๋ยวคราวหน้าเดี๋ยวกูเลี้ยงมึงคืนแล้วกัน” ถึงทิวาจะรู้ว่าเพทายรวยมาก แต่อยู่ ๆ จะให้เพทายเลี้ยง มันก็จะดูไม่เหมาะสมเท่าไหร่ ยิ่งเป็นเพื่อนกันแล้วยิ่งไม่ควรเอาเปรียบกัน

 

 

******************

 

เรื่องนี้แรก ๆ จะเป็นการดำเนินเรื่องเรื่อย ๆ เพื่อเป็นการปูพื้นฐานให้นักอ่านทุกท่านได้รู้จักตัวละครมากขึ้นอย่างลึกซึ้ง เนื้อหาจะเริ่มร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตามคำเตือนหน้าหลักนะคะ

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.