9. ชายลึกลับ

Serendipity ตาหา (เจ้าชาย) เมืองอกแตก

-A A +A
อ่านต่อ

9. ชายลึกลับ

 

ใช่เขา...คนนั้นหรือเปล่า

------------------------

 

อลิสาคิดหาทางวนเวียนจนสติเริ่มหวั่นไหว หากเธอยังขืนอยู่ในคฤหาสน์ของนายปรินส์อีกต่อไป ไม่รู้วันใดเธอต้องเผชิญหน้ากับความตาย

“มากับฉัน...ทางนี้” เสียงรองผู้จัดการร้านดังขึ้นข้างหลังของหญิงสาว ทำเธอผวาใจหล่นไปถึงตาตุ่ม

 

เขาคว้าข้อมือของหญิงสาวกระชากอย่างแรงพาเธอวิ่งลงบันไดหนีไฟด้านหลังของตัวตึก เวลาเพียงไม่กี่อึดใจเขาพาเธอลงมาถึงชั้นล่างกำข้อมือเธอแน่นจนอลิสารู้สึกเจ็บอย่างแรง แต่ด้วยวินาทีในขณะนี้เหมือนเวลาแห่งเพชรฆาตกำลังล่าตัวเธอ ทำให้สาวน้อยจำต้องตามชายกลางคนตัวหนาคนนี้ไปอย่างไม่รู้โชคชะตาว่าจะเกิดอะไรขึ้น

 

รถสีดำคันยาวมารอรับคนทั้งคู่อยู่ลานจอดรถแคบๆ ด้านหลังของตัวตึกอยู่ก่อนแล้ว

“Get in NOW…เข้าไป...เร็ว!!!” เสียงสั่งกระชากความรู้สึกจากมึนๆ ตึงๆ กับเหตุการณ์ ทำให้หญิงสาวเริ่มส่งเสียงอ้อนวอน

“Please…don’t take me to those guys!  อย่าพาฉันไปหาคนพวกนี้นะ ขอร้องล่ะ!” เสียงอลิสาตะกุกตะกัก...ปากเธอสั่นลิ้นแข็ง พูดผิดๆ ถูกๆ

“Shut up…หุบปาก เงียบ อย่าส่งเสียง!!!” รองผู้จัดการร้านตัวหนา ตอนที่อยู่ในร้านเป็นคนสุภาพนุ่มนวล แต่ขณะนี้เขากลับกลายเป็นคนร้าย...ไปได้

“How can I trust you? ฉันไว้ใจนาย...ได้แค่ไหนกันนี่!” เธอถามออกไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ

“Absolutely YES…แน่นอน” เขาตอบกลับมาอย่างดุดัน

 

รถเคลื่อนตัวออกไปจากตัวตึกแห่งนี้อย่างรวดเร็ว วิ่งไปตามเส้นทางของแม่น้ำดานูบซึ่งผ่ากลางเมืองอกแตกแห่งนี้ ไม่นานเธอมองออกไปเห็นสะพานข้ามแม่น้ำดานูบ

“เราจะไปฝั่งโน้นรึ” อลิสาถามออกไปอย่างตื่นตระหนก

“ถามทำไม...” ชายร่างหนาถามกลับมา เขานั่งข้างหญิงสาว อลิสามองหน้าด้านข้างเห็นโหนกแก้มเป็นสันนูน ใบหน้าดูเคร่งเครียด

“คือ...คือ จะพาฉันไปไหน” เธอถามอย่างหวาดหวั่น

“ไปถึง...ฉันจะบอก” เขาพูดเบามาก

 

รถข้ามสะพานมายังฝั่งบูดาซึ่งสาวน้อยจำได้ตอนที่เดินมาร้านขายนาฬิกาในห้าง นายปรินส์บอกว่าฝั่งตรงข้ามคือ เมืองบูดา เกือบครึ่งชั่วโมงรถออกจากตัวเมืองหลวงมาถึงนอกชานเมือง ซึ่งน่าจะเป็นเมืองใกล้กับเมืองหลวง

‘เขาจะพาฉันไปไหน’ อลิสามองออกนอกหน้าต่าง กระเป๋าเสื้อผ้า เอกสารทั้งหมดอยู่บ้านนายปรินส์ เธอแอบดีใจว่าอะไรจะหายก็หายไป แต่ขอพาสปอร์ตอยู่ก็พอ ส่วนอะไรจะเกิดขึ้นขอให้ผ่านพ้นไปอย่าเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตเลย

 

“ไปถึงวาเลนซ์ เธอจะได้พบกับคนหนึ่ง” รองผู้จัดการร่างหนาหันหน้ามาบอกหญิงสาวด้วยน้ำเสียงเบาราวกระซิบ ทำให้อลิสานึกหวั่นใจว่าใครกันที่เธอจะไปพบ

 

ไม่ถึงชั่วโมงรถคันที่พาเธอมาจากที่เกิดเหตุนั้นได้มาถึงตัวปราสาทหลังหนึ่ง รถค่อย

ชะลอความเร็วแล้วคืบคลานอย่างเชื่องช้าจนถึงลานจอดด้านหน้าประตูของตัวตึกซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมในยุควิกตอเรียน สาวน้อยใจเต้นแรงดังราวกับเสียงรัวกลองยาว

 

ชายร่างหนาขึ้นเสียงสั่งสาวน้อยที่มาด้วยอย่างไม่แยแส

“ลงไป...เข้าไปข้างในกับฉัน” เขากระชากข้อมือเธอพร้อมออกคำสั่งอย่างกับเธอเป็นตัวประกัน

 

อลิสาถูกชายร่างหนาที่เธอแอบชื่นชมอยู่ในใจที่ร้านขายนาฬิกา รั้งร่างของเธออย่างดุดันลากให้เดินเข้าไปภายในตัวอาคารกับเขา เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ เป็นโถงกว้างโล่ง เขาพาเธอมาหยุดอยู่ตรงกึ่งกลาง ทันใดนั้นเอง...เสียงทุ้มกังวาลดังขึ้นเหมือนเสียงมาจากลำโพงของเครื่องเสียงที่ติดตั้งอยู่ภายในห้องใดห้องหนึ่ง

 

“นาย...พาใครมา ฉันไม่ได้สั่ง”

“อยากให้ผู้หญิงคนนี้มาช่วย” เสียงชายตัวหนาตอบกลับ ทำอลิสาสะดุ้งวาบถึงขั้วหัวใจ

“เอามาทำไมให้ยุ่งยาก”

“เป็นนกต่อ”

“เธอทำอะไรได้บ้าง รู้หรือเปล่า” เสียงทุ้มนั้นเหมือนยังสงสัยในตัวของหญิงสาว

“จะเอามาเป็นตัวประกัน”

“ให้เธอไปอยู่ห้องตรงข้ามฉัน” สิ้นเสียงทุ้มนั้นไปแล้ว แต่สาวน้อยจากแดนไกลยังตระหนกในชะตากรรมอยู่ เธอส่งเสียงอ้อนวอน

“Please…please…please อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉันอยากกลับบ้าน” อลิสาทำหน้าราวขวัญผวา

“เงียบ...ไป Go NOW…!!!” ชายร่างหนาขว้าข้อมือเธอ กลัวว่าอลิสาจะหนีเตลิดออกจากตัวอาคาร

 

เสียงของสาวน้อยสะอึกสะอื้นขอร้องชีวิตอย่างน่าเวทนา

“ทำไม...ฉันต้องมาอยู่ที่นี่ด้วย”

“ตามมาดีๆ อย่าให้ฉันต้องลงมือ” เสียงดุดันของชายตรงหน้าเธอช่างดูโหดร้าย

 

อลิสาถูกกระชากร่างลากขึ้นไปชั้นสอง เธอเห็นชายอีกคนหนึ่งกำลังเดินจากฝั่งตรงกันข้ามมาที่ฝั่งซึ่งเธอกำลังจะถูกจับยัดเข้าไปยังห้องที่ปิดอยู่

“หมดหน้าที่แล้ว เนโร...กลับไปเถอะ” เสียงของหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าพูดอย่างสุภาพ

“Sir…ครับ จะให้ผู้หญิงคนนี้อยู่ที่ห้องนี้หรือ” เขาถามขึ้น

“Yes, I’m going to ask her. ใช่... ฉันจะสอบถามเธอเอง” อลิสาได้ยินคำสนทนา เธอตั้งสติอย่างใจจดจ่อ เลยรู้ว่าเขาสองคนพูดภาษาอังกฤษ

 

ชายร่างหนาหมดหน้าที่แล้วกำลังเดินลงบันไดตรงกลางของทางเดิน ชายคนนี้สวมหมวกไหมพรมคลุมหน้าแบบไอ้โม่งเหมือนโจรพยักหน้าส่งสัญญาณบางอย่าง

“Come on! My girl เชิญ...แม่สาวน้อย” ท่าทางกับคำพูดของเขาดูนุ่มนวล แต่อลิสารู้สึกไม่อยากไว้ใครแล้ว เธอกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย

“Thanks… Mr.???…ขอบคุณนะ คุณเอ่อ???” เสียงของเธอตะกุกตะกัก ไม่รู้จะเรียกเขาว่าอะไร

“Delaware เดอลาแวร์...”

“Uh…Prince Delaware???…เอ้อ...ปรินส์ เดอลาแวร์ หรือ” อลิสางง หัวสมองมึนตึ้บสับสนกับเรื่องราว

“No. I’m Jean ไม่ใช่... ฉัน...ฌอง” สาวน้อยทำตาโต ขณะมองดูชายที่อยู่ตรงหน้าเดินเข้ามาใกล้จนเธอต้องเดินถอยหลังอย่างตกใจ

“Don’t be afraid…อย่ากลัว ฉันจะให้เธออยู่ที่นี่ทำงานให้ฉัน” เขาพูดขณะมองหน้าเธอ อลิสาเห็นแต่ลูกนัยน์ตาที่จ้องออกมาจากรูกลมของหมวกไหมพรม

 

เขาส่งสัญญาณให้เธอนั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่ที่อยู่ตรงมุมห้องด้านหน้า เขาเดินมานั่งอยู่ข้างๆ และแล้ว

“นั่นจะทำอะไรน่ะ!!!” สาวน้อยส่งเสียงตกตะลึง

“จะเปิดหน้าให้ดู” เขาพูดยังไม่ทันจบก็กระชากหมวกไหมพรมออก ใบหน้ายับยู่มีรอยแผลเป็นสีดำตรงแก้มข้างซ้ายเหมือนรอยไหม้จากอะไรบางอย่าง

“Why???!!! ทำไม...น่าเกลียด” สาวน้อยเผลอพูดภาษาไทยลงท้าย เธอรีบยกฝ่ามือขึ้นปิดหน้าไม่อยากมองความน่าสยอง

 

เขาเอื้อมมือมาตบบ่าเธอเบาๆ เสียงชายหนุ่มนามว่า ฌอง เปล่งออกมาอย่างขมชื่น

“Disgusting???!!! มันทุเรศ...ใช่ไหม”

เธอนึกถึงคำพูดของเอมิลีขึ้นมาทันใด

‘ใช่เขา...คนนั้น...???!!!’

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.