5.สาวน้อย...หนุ่มหน้ามน

รักใสใสหัวใจฟิตหุ่น

-A A +A

5.สาวน้อย...หนุ่มหน้ามน

 

เพลงแนวฟอล์คในฟิตเนสของคุณสมิต...คัมซ่าชอบมาก...เพลงฝรั่งยุค 70-80 กล่อมเบาๆ

                              I love you…too much to ever start liking you

                              So don’t expect me to be your friend….

 

เธอจำได้ว่า...น่าจะเป็นเพลงยุคพ่อ ซึ่งเป็นคอเพลงรุ่นนี้ ชอบเปิดฟังประจำ วันนี้อากาศค่อนข้างร้อน ไม่อยากอยู่กลางแดด หลังจากเธอบึ่งมอเตอร์ไซค์ไปพบลูกค้าสาวที่ออฟฟิศในเมือง ตกลงปิดการขายสำหรับลูกค้ารายนี้ ทำให้คัมซามีความสุขที่ปิดยอดเดือนนี้ได้พอดี เลยมาเข้าฟิตเนส  ยิมวันนี้คนเยอะอยู่ เธอคิดว่า...คงอากาศร้อนอบอ้าว ทำให้ลูกค้าอยากออกกำลังกายในห้องแอร์มากกว่าออกไปวิ่งตามสวนสาธารณะ

 

วันนี้เธออยู่บนลู่วิ่ง เสื้อผ้าสำหรับวันที่ร้อนจัด...ดูจะเปิดเผยผิวสีเหลืองนวลเกือบสีน้ำผึ้งจางๆ ให้ดูสวย จนฝรั่งสาวทอมข้างๆ มองและแอบยิ้มหันมาที่เธอ... คัมซาตั้งความเร็วไม่มากนักประมาณ 3.0-3.5 และตั้งเวลาไว้ 45 นาที ความชันพอประมาณที่ 3 วันนี้จะอยู่ที่นี่นานหน่อย ไม่ได้เข้ายิมมา 2 วันล่ะ เธอโทรบอกอันยองน้องสาวคนดีที่เจ้ากี้เจ้าการว่า ไม่กินข้าวบ้าน ให้เธอกินข้าวที่บ้านกับพ่อแม่ไปคนเดียว อันยองก็ยังแอบแซวว่า มายิมคนเดียวหรือมากับใคร  คัมซาก็ได้แต่ตอบกลับเสียงเข้ม “ไม่มีใคร ไม่ต้องมาสืบ”

 

‘เสียงใครนะคุ้นหู...ถามวิธีการยกเวทตรงด้านหลังถัดจากลู่วิ่งเธอไปประมาณ 10 เมตร’ คัมซาสงสัยที่มาของเสียงนี้ เหมือนเคยได้ยินน้ำเสียงห้วนๆ เข้มแกมบังคับ

‘โอย...ตายล่ะ ที่แท้นายหน้าขาวจั๊วนั่นไง...กำลังถามเทรนเนอร์วิธีใช้อุปกรณ์ต่างๆ’

คัมซาเห็นเขาถือดัมเบลขนาดใหญ่น่าจะ 10 กิโลในมือ กำลังถามโน่นนี่นั่น หันขวับมาที่เธอ จังหวะที่คัมซากำลังหันหลังลงจากลู่วิ่งพอดี

‘แววตานายฟ้า...จับจ้องมาที่เรา เขาน่าจะเดินมาทักทาย...หลังจากคุยเรื่องอุปกรณ์แล้ว’ คัมซามีเซนส์เข้าข้างตนเอง ว่าสักครู่ นายหน้าเฉยชา...คงจะมาทักทาย เพราะเขาได้เห็นเธอแล้ว

คัมซา เดินเข้าห้องน้ำไปเอาผ้าขนหนูที่ล็อคเกอร์ ซับเหงื่อที่ชุ่มที่หน้า คอ และบริเวณแขน วันนี้เธอเหงื่อออกมากเพราะวิ่งนาน สลับวิ่งโซน 3 เร็วปานกลางกับโซน 2 แบบวิ่งเหยาะๆ เบาๆ อัตราการเต้นหัวใจ 70-80% เลยทำให้เหนื่อยและท้องเริ่มหิว ทานข้าวเที่ยงแค่ก๋วยเตี๋ยวหนึ่งชาม เธออยากลดน้ำหนักแต่ใครหลายคนที่ทำงานก็เสียดสีหยอกล้อว่า “ผอมขนาดนี้นะ…ยังจะลดน้ำหนัก”

จังหวะกำลังเดินออกมา ตรงหลังบานเฟี้ยมไม้บังตาหน้าห้องน้ำหญิงกับห้องน้ำชาย ปะทะร่างหนึ่งเข้าให้พอดี คัมซากำลังมองรองเท้าวิ่งว่าเชือกผูกรองเท้าหลุดอยู่ ว่าจะกลับเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อนั่งผูกเชือกให้เรียบร้อย กลับต้องเงยหน้าขึ้นทันที เพราะหน้าอวบขาวเรียบเฉย แววตาจับจ้องที่เธออย่างเฉยเมย และไม่พูดขอโทษ แต่คัมซากลับเป็นฝ่ายขอโทษเขาแทน

“ขอโทษค่ะ ที่ไม่เห็นคุณ”  คัมซา พึมพำขอโทษไป ...ใจก็คิดอยากถามและทักทายว่ามาคนเดียวหรือ... เธอไม่เห็นคู่รักแฟนสาวคนสวยของเขา…แต่ด้วยสีหน้าเรียบเฉยเมยแบบนี้ทำให้เธอเม้มปาก...ชะงักคำพูด

 

คัมซาต้องใช้ดัมเบลทุกครั้ง กับอุปกรณ์ยกแขนดันขึ้นให้สุด เพื่อสร้างกล้ามเนื้อให้ท้องแขนกระชับ และช่วยยืดเส้นตรงหัวไหล่ เธอมักจะปวดเพราะเกร็งจากการพิมพ์อยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน

คัมซาก็ไม่เห็นนายฟ้าประทานอีกเลย เธอนั่งตรงบาร์ยกดัมเบลเงียบๆ ลูกค้าในยิมเริ่มทะยอยออกไปบ้าง น่าจะทุ่มเศษแล้ว ...และแล้วเธอก็ตกใจเล็กๆ เมื่อเสียงเข้มด้านหลังเธอเปรยขึ้นเบาๆ

“ขอโทษคุณชื่ออะไรนะ...ผมจำชื่อคุณไม่ได้”  คัมซาหันไปมองหน้าเขาทันทีที่ได้ยินคำพูดนี้ เธอเริ่มฉุนกึกขึ้นมาและคิดอยู่ในใจ ‘คนอะไรหว่า เจอกันถึงสามครั้งน่าจะได้แล้ว ยังไม่เคยรู้จักชื่อเราเลย มิน่าล่ะ โรซถึงบอกว่านายนี่แปลกพิลึก’

“คัมค่ะ...ขอโทษนะคะ...เหมือนคุณจะเป็นคนไม่ชอบจำชื่อคน” คัมซาอยากแหย่นายหน้าเฉยคนนี้

“ผมถูกตำหนิว่า...เป็นคนขี้เกียจจำชื่อคน” นายฟ้าเริ่มเปิดบทสนทนาที่น่าสนใจไม่น้อย ทำให้คัมซาเริ่มอยากคุยด้วย แต่ก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี ไม่รู้เขาจะมีอุบายอะไรซ่อนอยู่เกี่ยวกับเรื่องภาพปริศนา อยากคาดคั้นอีกหรือเปล่า

“หากไม่รังเกียจ ผมขอเป็นเจ้าภาพมื้อเย็นนี้” น้ำเสียงของเขาก็ยังดูแข็งๆ เหมือนคำพูดสำเร็จรูปที่ผู้ชายทั่วไปอยาก...ชวนผู้หญิงกินข้าว คัมซาประสานตาเขาเพื่อแน่ใจว่า หูได้ยินประโยคนี้ถูกต้อง สายตาเขาประสานตาเธออย่างจริงจัง ท่าทีเคร่งขรึม และคัมซาเริ่มรู้ได้ถึงความเป็นมิตรเล็กๆ ...

‘เราจะปฏิเสธยังไงดีนะ...เขินๆ ชอบกล ที่จู่ๆ นายหน้าขาวเรียบเฉยชักชวนไปกินข้าว อยากจีบเรารึว่า...อยากคุยเรื่องภาพนั้นกันแน่’ คัมซารำพันอยู่ในใจเมื่อชายหนุ่มกำชับด้วยสายตา คัมซาเพิ่งสังเกตเห็นดวงตาของเขาจากรูปตาที่เรียวยาวเหมือนหนุ่มเกาหลี สีดวงตาเขาเป็นสีน้ำตาลเข้ม ไม่ใช่สีน้ำตาลวาวใสทั้งหมดเหมือนเธอ เห็นแก้วตาสีน้ำตาลอ่อนในวงกลมรอบนอกที่มีขีดรอบๆ เป็นเส้นน้ำตาลเข้ม คัมซาชอบแก้วตาสีน้ำตาลอ่อนแบบนี้ ถ้าเป็นหญิงจะมีเสน่ห์ดูเย้ายวน

 

“รถคุณทิ้งไว้ที่นี่ล่ะกัน ไปรถผม...” เขาเริ่มเป็นกันเอง และเดินนำหน้าคัมซา แต่ก็ไม่หันมามองด้วยซ้ำว่า เธอตามเขาไปด้วยหรือไม่

“เดี๋ยวค่ะ!…คุณฟ้า...คัมยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า...” คัมซาร้องขึ้นทันที เพราะเธอจำเป็นต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ใส่แบบนี้ไปกินข้าวข้างนอก คนทั่วไปคงมองว่าเธอสวมเสื้อผ้าเปิดเผยเนื้อตัวมากเกินไป

“ไม่ต้อง...ไปเปลี่ยนที่โรงแรม” คัมซาอ้าปากค้าง จะไปกินข้าวที่โรงแรมยิ่งไปกันใหญ่

“ไม่ค่ะ...รอคัม ไม่เกิน 5 นาที...เดี๋ยว...” คัมซาพูดอย่างรวดเร็ว “รับรองว่าแป๊ปเดียวจริงๆ”

“ฟังนะ...ตอนนี้มันจะสองทุ่มแล้ว...ดึกไปไหมครับ”  ฟ้าประทานรู้สึกหงุดหงิดทันที สายตาดุเธอ  คัมซารีบไปที่ห้องน้ำเพื่อเปิดล็อคเกอร์เอากระเป๋าผ้าสะพายไหล่ แล้วรีบเดินออกมา เห็นเขาหันหลังตรงเคาเตอร์เจ้าหน้าที่ของยิม...รอเธออยู่

 

“คัม…หนาวนะคะ ขอเบาแอร์หน่อยได้ไหมคะ...” คัมซาพยายามมองหน้าด้านข้างเขา รูปหน้าและดวงตาช่างมีเสน่ห์ เธอไม่เคยสังเกตผู้ชายใกล้ๆ ชัดๆ แบบนี้มาก่อน ทำให้รู้สึกถึงคืนวันงานปาร์ตี้ ที่เธอเขินอายไม่อยากมองหน้าเขาตรงๆ ด้วยซ้ำ ความงดงามของมนุษย์เราเกิดจากการชื่นชมความดีงามและคุณค่าของคนอื่นนี่เอง ทำให้เธอกลับมองเห็นว่า เขาก็ดูน่ารักขึ้นมาทันที ...ไม่น่าแปลก ที่ผู้หญิงชอบผู้ชายที่ขรึม ไม่พูดมากเพ้อเจ้อ ...มาดแบบนี้ล่ะนะ...ที่ชวนหลงใหล

‘ไม่นึกว่าเราจะหนาว...มือเย็นเฉียบแล้วนะ...ไม่ได้ยินเขาพูดอะไรออกมา นอกจากชำเลืองมองเราเล็กๆ ...เอ...แล้วเราก็เป็นบ้าอะไร ตามขึ้นรถนายคนนี้มาต้อยๆ...น่าจะปฏิเสธไปเลย...เฮ้อ...’ เขาหันมามอง ตอนรถติดไฟแดงและมือกดปุ่มเพื่อเบาแอร์ และพูดแบบเดาใจเธอได้ชัดเจน

“ถอนหายใจ...ไม่อยากมากับผมล่ะสิ...” คัมซาหน้าร้อนผ่าว ทำไมถึงพูดให้เธอได้อาย ถ้าพูดต่อหน้าแบบเฟสทูเฟส ตายเลย คงได้เห็นเธอหน้าแดงระเรื่อ...

“คัม...คงจะ...ไปล่ะมั๊งคะ... คัมซาพูดเสียงเบามากๆ ว่าคำนั้นคือ ... ‘เมา’ แต่นายคนนี้กลับหูดี๊ดี...ได้ยิน

“คงเมา...จริง ทั้งคุณและผม” คัมซาก็แอบขำ...ในห้วงที่ใจมันแว้บแวบชอบกล... ‘ช่างต่อปากต่อคำได้ใจเลย ...นายไม่เบาเหมือนกันนะเนี่ย...’

 

โรงแรมหรูห้าดาว เดินผ่านอ่างน้ำพุเห็นไฟสีรุ้งสะท้อนอยู่ข้างใต้ ซึ่งมีขนาดเท่าประตูหน้าโรงแรม พอเดินผ่านประตูอัตโนมัติเข้ามา ฟ้าประทานก็ผายมือไปทางซ้ายและพูดเสียงเบาๆ ว่าห้องน้ำอยู่ทางซ้ายมือ คัมซามุ่งหน้าไปทางนั้นทันที แต่ก็นึกขึ้นมาได้...หันหลังกลับมาปะทะเกือบชนหน้าอกอวบๆ ของเขาพอดี เธอยังไม่ได้ถามว่า จะกินข้าวที่ห้องอาหารตรงไหน

“ผมจะนั่งรอที่โซฟาตรงนั้น...” เขาชี้ไปที่โซฟาผ้าสักหลาดสีน้ำตาลเข้มมุมซ้าย ก่อนทางเดินยาวไปถึงห้องน้ำ

‘โล่งอก...ไปที ไม่งั้นฉันออกมาจากห้องน้ำ...เกิดนายคนนี้หายไปไหนให้ตามหา...เบอร์โทรก็ยังไม่ได้ให้กันไว้ด้วย...’

 

ห้องอาหารที่เขาพาคัมซามาทานมื้อเย็นนี้ ต้องขึ้นบันไดจากบริเวณลอบบี้ อยู่ระหว่างชั้นล่างกับชั้นหนึ่ง เป็นชั้นลอยที่เรียกว่า Mezzanine เป็นบริเวณที่ยื่นเป็นมุมเล็กๆ จากตัวอาคารออกไปทางปีกซ้าย เขาเดินนำหน้าเหมือนว่า รู้จักสถานที่นี้เป็นอย่างดี เมื่อถึงหน้าห้องกระจกเพดานสูงโล่ง มองเข้าไปทั้งห้องขนาดไม่ใหญ่นัก มีโต๊ะอยู่ประมาณ 20 ตัว ไฟสีวอร์มไวท์ซึ่งเป็นสีแดงอมส้มของห้องอาหาร...ทำให้เธอรู้สึกดี จะไม่ต้องเห็นหน้าฝ่ายตรงข้ามอย่างชัดเจน เธอกลัวว่าเขาจะเห็นสีหน้าที่เขินอายของเธอ จนเธอเองก็รู้สึกว่าน่าเกลียด...ไม่ดีเอาเลย เขาบอกบริกรชายและชี้ไปที่โต๊ะมุมในสุดเห็นวิวแม่น้ำ มองจากตรงที่นั่งมุมบนผ่านต้นก้ามปูด้านล่าง ตรงริมตลิ่งที่เวิ้งตรงที่ดินด้านวิวแม่น้ำของโรงแรม เป็นฉากแสนสวยโรแมนติก เห็นแม่น้ำยามค่ำคืน วันนี้น่าจะเป็นคืนเดือนเพ็ญ เห็นพระจันทร์เต็มดวงบนฟ้าฝั่งตรงข้าม และเงาของดวงจันทร์ที่สะท้อนผืนน้ำเบื้องล่าง เป็นดวงจันทร์ดวงเล็กๆ จมอยู่ในสายน้ำ  มีสีเหลืองเป็นริ้วๆ ยามกระแสน้ำกระเพื่อมไหว เธอรู้สึกเหมือนคืนนี้...ทำไมพระจันทร์ถึงงดงามได้เพียงนี้

“เลือกเมนูอาหารซิ...ใจลอยอยู่นั่น...” เขาพูดปลุกภวังค์...จนเธอสะดุ้งเล็กๆ

“แค่นี้ก็สะดุ้ง...”  ทำไมถึงได้ทำให้เธอหน้าร้อนผ่าวอีกแล้ว ดูนายคนนี้ช่างเป็นคนพูดจา ทำให้ผู้หญิงเขินอายได้นิ

“ขอโทษค่ะ...คิดอะไรเพลินไป...” เธอรีบแก้ตัว แต่ก็ยังคิดเข้าข้างตนเองว่า อย่างน้อยเขาคงจะไม่ทำให้เธอรู้สึกอายอีก

“คุณชอบอาหารอิตาเลี่ยนไหม...ร้านนี้อร่อยครับ” คัมซา ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ นอกจากพาสต้าราดหน้าซอสคาโบนาร่าแล้ว เธอจะไม่ชอบอะไรเลย เพราะอาหารอิตาเลี่ยน เลี่ยนสมชื่อ เคยไปกินกับพวกเพื่อนๆ ก็ถูกแซวว่า ‘ไม่อร่อยรึ เห็นละเลียดยังไงก็ไม่หมด’

“ของผม...Penne Alla Vodka” ฟ้าประทานสั่งของตัวเอง...ไม่สนใจคัมซา...ไม่แนะนำอะไรด้วย

‘แล้วฉันจะสั่งอะไรกันนี่...ดูเมนูอาหารลายตาไปหมด...แล้วนายนี่ก็ไม่แนะนำเลย คงคิดจะแกล้งให้ฉันเปิ่น ฉันก็ไม่ชอบอาหารฝรั่งสักเท่าไหร่ กินได้บ้างถ้าแคลลอรี่ไม่สูงเกินไป คัมซาจะระมัดระวังเรื่องอาหารที่จะทำให้เธอมีน้ำหนักเพิ่ม

“เอ้า...เงียบเลย...จะสามทุ่มแล้วนะครับ” เขาพูดขัดจังหวะ คัมซาไม่รู้จะบอกยังไง หิวมากแต่ไม่อยากทานอาหารแบบนี้

‘น่าจะบอกก่อนว่ามาทานอาหารอิตาเลี่ยน...จะไม่มาด้วยเลยล่ะ’ คัมซาเขินเมื่อเขาพูดเหมือนคาดเดาว่าเธอคิดอะไรอยู่

“คุณคงไม่ทานอาหารแบบนี้...ไม่สวยสินะ” แทงใจดำเลย เธอกลัวหุ่นไม่เฟิร์ม และจะควบคุมอาหารแต่ละมื้อ

“ถ้าไม่สั่ง...ผมทานก่อน...คุณจะดู...เพื่อเรียกน้ำย่อยก็ได้...”

‘นายคนใจร้าย นอกจากเฉยเมยแล้วยังไม่แคร์ผู้หญิง คงจะยั่วให้เราน้ำลายไหล…แล้วชวนเรามาด้วยทำไม ไอ้เราก็งี่เง่าดันตามมาซะงั้น...’ คัมซาต่อว่าตนเองในใจ

“ผมว่า คุณน่าลอง Pasta Primavera…” เขากวักมือ...เรียกบริกรชายอีกคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ จัดการสั่งเมนูนี้ให้คัมซา และเจ้ากี้เจ้าการกำชับว่า “ใส่ครีมและชีสพาร์เมซานน้อยๆ” คัมซาซ่อนยิ้มไม่ให้เขาเห็น รู้สึกดีที่เขาแสดงความเป็นห่วงเป็นใยอยู่บ้าง

‘แล้วมันคืออะไรหนอ...เธอทำหน้าเฉย...ดูซิว่า เขาจะจัดการอะไรอีก...’

“คุณทานไวน์ไหม...” เขาถามคัมซาอย่างเรียบง่าย แค่เห็นขยับมุมปากเพื่อให้คำพูดลอยออกมา แววตายังเฉยเมยตามเคย

“ตามสบายเลยค่ะ...คัมไม่ทานแอลกอฮอล์” คัมซาปฏิเสธเสียงเบา และไม่สบตาแค่มองเขาผ่านกระจก...เห็นสายน้ำและพระจันทร์เหลืองริ้วๆ จมน้ำ เธออยากชื่นชมภาพบรรยากาศที่สวยงามนี้นานๆ เขาจะพูดต่อ...หรือไม่ เธอก็ทำเป็นไม่สนใจนัก...

“ผมให้คุณลองไวน์ขาวสักแก้วหนึ่ง...Sauvignon Blanc…” คัมซาไม่ได้ปฏิเสธอะไรต่อ ได้ยินเขาสั่งไวน์ยี่ห้อนี้มาสองแก้ว และก็ต่างคนต่างเงียบรออาหาร คัมซาชำเลืองดู...เขาคงกำลังแชท..คุยกับใครอยู่…

“ผมอยากให้คุณเข้ามาช่วยผม...เรื่องการโปรโมท...เครื่องฟอกอากาศ...ให้กับลูกค้าที่มาชมคอนโดก่อนตัดสินใจจอง” ฟ้าประทานกล่าวลอยๆ ไม่มีเกริ่นอะไร จนคัมซาประหลาดใจ...คำพูดนี้เหมือนเป็นคำสั่ง

“เอ้อ...ค่ะ...ขอปรึกษาหัวหน้าที่ชอปก่อนนะคะ...” คัมซาตกใจเล็กๆ กับข้อเสนอนี้ แล้วเธอจะได้ค่าเสียเวลาอะไรไหมเนี่ย หัวหน้าเธอที่ชอปจะคิดยังไง ผู้จัดการแผนกที่สำนักงานล่ะ

“ผมจะให้โรซประสานกับผู้จัดการแผนกที่สำนักงานคุณเอง...” คัมซา...งง...

“ภู...เป็นเพื่อนผม...” เขาพูดขึ้นอย่างไม่เกรงใจว่า... จะได้รับคำตอบแบบไหน แต่ผู้จัดการภูวิทย์เป็นเพื่อนกับเขา และคงจะไม่ยากเย็นอยู่แล้ว สำหรับพี่เดียวหัวหน้าที่ชอป เขาคงไม่สนใจ...ข้ามคนคนนี้ซึ่งเป็นหัวหน้าของคัมซาไปเลย

“คุณมาทำงาน...ที่สำนักงานคอนโดที่ในเมืองสองวันทำงานเท่านั้น ผมจะจ่ายค่าชั่วโมงให้ต่างหาก...ส่วนชั่วโมงการทำงานของคุณ...ตกลงกับหัวหน้าคุณและภูวิทย์เอง...”

ฟ้าประทานชี้แจงเป็นงานเป็นการเพียงสั้นๆ สำหรับการทานอาหารมื้อค่ำ ออกจะเป็นทางการเหลือเกิน คัมซาตัวเกร็ง...เหมือนเธอมีบอสใหม่อีกคนทันที...กินอาหารมื้อนี้ไม่สนุกเอาเสียเลย

เมื่ออาหารมาถึง คัมซาดีใจมากที่เมนูของเธอเป็นมังสวิรัติ เหมือนรู้ใจเธอเลย... อาหารเย็นแบบเบาๆ ทำให้เธอยิ้มขึ้นมาทันที จนเขาเห็นและพูดขึ้น...ทำให้ดูไม่กระดาก

“ชอบใจสิ...ผมนึกแล้วว่าแบบคุณต้องประมาณนี้” คัมซาชอบพาสต้าที่เป็นเส้นใหญ่ขนาดเส้นก๋วยจั๊บ เป็นหยักเล็กๆ คล้ายผีเสื้อ เรียกว่า ฟาร์ฟาเล่ และไม่มากแค่ไม่กี่เส้น ส่วนใหญ่ทั้งจานเป็นผัก บรอกโคลี ซูกินี พริกปาปริกา ฟักเหลือง yellow squash มะเขือเทศราชินี เครื่องเทศอิตาเลี่ยน ซึ่งเอาลงไปผัดกับน้ำมันมะกอกพอร้อนไม่ต้องสุกมาก ส่วนเส้นพาสต้าก็เอาลงไปคลุกทีหลังกับผักทั้งหมด คัมซาชิมคำแรก...ลิ้นสัมผัสถึงความกรอบของผักแต่ละชนิด ได้กลิ่นเครื่องเทศเคล้ากับน้ำมันมะกอก มีชีสบางๆ และพาร์เมซานฝอยโรยหน้าเล็กน้อย

“ชอบมากเลยค่ะ...คิดว่าต้องมาทานอาหารเมนูริชเนส” คัมซาหมายถึงอาหารประเภทเลี่ยน มันและมีเนยเยอะ

“คงไม่ใช่คุณ...” เขายิ้มมุมปาก จนคัมซารู้สึกว่า หน้าขาวเรียบเหมือนกระดาษ A4 คนนี้ ดูดีขึ้นเยอะเลย

“เห็นจานนี้ของคุณแล้ว...รู้สึกน่าอร่อยนะคะ” คัมซามองเห็นเส้นพาสต้าเป็นหลอดเล็กยาวเรียว เรียกว่า Penne คลุกกับซอสมะเขือเทศ โรยด้วยพาร์เมซานฝอยเยอะอยู่ ที่สำคัญได้ยินเขาพูดว่า “ต้องใส่ Vodka ด้วยทำให้กลิ่นหอมอร่อย” คัมซามองปลาแซลมอนมากับจานเล็กๆ เขาสั่งมากินคู่กัน...เห็นเขาตักเส้นพาสต้ากับปลาแซลมอนเข้าปาก ดูแล้วน่าเลี่ยนอยู่ตรงเส้นพาสต้า มีชีสกับพาร์เมซานพูนจาน

 

 ‘นายหน้าเรียบเฉย ก็พูดแค่ว่า อาหารจานของเราเป็นผักตามฤดูกาล อะไรประมาณนี้ บอกที่มาของชื่อฤดูใบไม้ผลิ แล้วก็พูดเกี่ยวกับอาหารของเขาที่ชื่นชอบว่า ที่ใส่ Vodka มันแปลก...และรสชาติดี พูดอะไรอีกไม่กี่คำก็เงียบไป ก้มหน้าก้มตาคุยแชทในโทรศัพท์อยู่นาน...’

พอถึงสี่ทุ่มเศษร้านใกล้ปิด เหลือลูกค้าอยู่สองโต๊ะคือเขากับเธอ และอีกโต๊ะหนึ่งตรงมุมสุดอีกฝั่งเท่านั้น’

“ผมจะไปส่งคุณที่บ้าน...” เขาเสนออย่างใจดี

‘คงเป็นมารยาท...คงเห็นว่าเราเมาไวน์...คนไม่เคยดื่มไวน์นี่นา เป็นประสบการณ์ใหม่ ที่ยอมตามใจนายก็เพราะจะมาเป็นบอสคนใหม่ของเราอีกคนหนึ่ง’

“ถึงแล้วค่ะ...บ้านตรงหัวมุมค่ะ ตรงข้างหน้านี่...” เขาเบรคกึกทันที เพราะคัมซาบอกทันควัน คัมซาก็หน้าคะมำหน่อยๆ  เขาดูเป็นสุภาพบุรุษในเวลานี้ ยื่นแขนพาดมาเพื่อกันไม่ให้เธอหน้าโขกกับคอนโซลหน้ารถ

“ขอโทษ...ผมกลัวว่าหน้าคุณจะโขก” คัมซารู้สึกดี...หรือเป็นเพราะแอลกอฮอล์ที่ดื่มไปเป็นแน่ ทำให้หัวใจพองและวาบหวิวกับท่าทีของนายหน้าเฉย

 

คัมซาสะลึมสะลือถึงบ้าน...เมาไวน์ครั้งแรกในชีวิต...หลับไปด้วยใจอันสับสนฟุ้งซ่าน...คิดถึงค่ำคืนอันแสนหวานกับหนุ่มหน้ามน...คนหน้าเรียบเฉย...ซึ่งเธอเปรียบเปรยเหมือนกระดาษ A4

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.