บทที่ 199 แฮ็กข้อมูล
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ~~
“มึงว่าไงนะ...” ผมถลึงตาทันทีหลังจากที่ได้รับโทรศัพท์ที่กิตมันยื่นมาให้ โดยมันบอกว่าไอ้ทดบอดี้การ์ดที่ติดตามเอลิซ โทรมาแจ้งว่าเอลิซให้ขับรถพาไปที่โรงพยาบาล M พรีเมียม
“ว่า...” ผมกรอกเสียงเข้มเข้าไปในสาย โดยที่พยายามระงับความขุ่นเคืองเอาไว้
“นายหญิงเอลิซให้ผมมาส่งที่โรงพยาบาล M พรีเมียมครับนาย ผมไม่ทราบว่านายหญิงเป็นอะไร เพราะนายหญิงไม่บอกอะไรเลย โดยบอกแค่ว่าให้ผมมาส่งเธอที่นี่และรอเธออยู่บนรถไม่ให้ผมตามลงไปครับ” ทดบอดี้การ์ดประจำตัวเอลิซเอ่ยเสียงสั่น เนื่องจากรู้ดีว่าตอนนี้ผมโกรธมากแค่ไหน
“แล้วทำไมมึงไม่พาเมียกูไปเครือโรงพยาบาลของกูว่ะ!!” ผมตะคอกกลับไปด้วยเสียงอันดัง
“ผะ...ผมบอกนายหญิงแล้วครับ ตะ...แต่นายหญิงไม่ยอม” บอดี้การ์ดหนุ่มเอ่ยเสียงตะกุกตะกัก เหงื่อกาฬเริ่มผุดเต็มกรอบหน้าเข้ม
ผมที่เห็นว่าบอดี้การ์ดประจำตัวเธอก็คงไม่อาจจะขัดคำสั่งของเธอได้ เลยได้แต่ถอดถอนใจเพราะถึงยังไงผมก็รู้ดียิ่งกว่าใครว่าเวลาเธอพยศเป็นยังไง...
“เฮ้ออออ...เออเดี๋ยวกูจัดการเอง มึงก็ทำตามหน้าที่ทำตามที่เมียกูบอกไปแล้วกัน แต่ที่สำคัญที่สุดคือห้ามให้เกิดเรื่องกับเมียกูเด็ดขาด และถ้าหากเมียกูเกิดเป็นอะไรขึ้นมา...มึงตาย!!”
ติ๊ด ~~
ผมวางสายทันทีหลังจากที่ระเบิดอารมณ์ใส่บอดี้การ์ดประจำตัวเธอจบ ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้ว่าทุกครั้งที่เธอไปเดินเล่นหรือไปเที่ยวเธอจะพยายามกันบอดี้การ์ดออก โดยให้ไปยืนไกล ๆ บ้างล่ะ ไม่ต้องเดินติดตามบ้างล่ะ แต่เพราะผมไม่อยากจะทำให้เธออึดอัดใจ เลยได้แต่ปล่อยเลยตามเลย แต่เพราะความชะล่าใจของผม ถึงทำให้เกิดเรื่องแบบในวันนี้ขึ้น
ผมย้อนคิดไปถึงเรื่องราวของเธอก่อนหน้านี้ อาการของเธอที่เหมือนจะป่วย ๆ หาย ๆ ตั้งแต่ก่อนไปเที่ยวที่เกาะส่วนตัวกับผมแล้ว แม้ว่าทุกครั้งที่ผมถามเธอ เธอจะบอกว่าตัวเองไม่เป็นอะไรสบายดีก็ตาม แต่ทว่า...อาการป่วยในบางครั้งบางคราวที่เกิดขึ้น มันก็ไม่เคยทำให้ผมคลายกังวลใจไปได้เลย ผมยังคงรู้สึกเป็นห่วงเธออยู่ตลอดเวลา เพียงแต่ว่าตัวเธอเองที่ไม่ยอมให้ผมพาไปตรวจหรือให้เรียกหมอมาดูอาการเลย
แต่แล้วจู่ ๆ ทำไมวันนี้เธอถึงเลือกที่จะปิดบังผมและแอบหนีผมไปโรงพยาบาล แถมยังเป็นโรงพยาบาลอื่นที่ไม่ใช่ในเครือของผมอีกด้วย การกระทำที่ดูมีลับลมคมในแบบนี้มันยิ่งทำให้ผมร้อนใจ หัวใจของผมมันแทบจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยง ๆ เพียงเพราะผมไม่รู้เลยว่าเมียรักของตัวเองกำลังเผชิญกับอาการเจ็บป่วยอะไรอยู่
ผมทิ้งตัวเองลงนั่งเอนพิงไปกับเก้าอี้ทำงาน พร้อมกับหลับตาอย่างใช้ความคิด แม้ว่าตัวเองจะพยายามสงบจิตสงบใจมากแค่ไหน แต่ความคิดฟุ้งซ่านกลับแผ่กระจายไปทั่วสมองจนรู้สึกปวดขมับตุบ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคิดที่ว่าผมอาจจะเสียเธอไป มันยิ่งทำให้ความเจ็บปวดในหัวใจเริ่มก่อตัวขึ้นจนแทบจะทำให้ผมสติแตก...
“แม่งเอ๊ย…!!” ผมที่เหลืออดสบถออกมาดังลั่น อย่างคนควบคุมตัวเองไม่ได้
โครม ~~
และเมื่อไม่มีที่ระบาย ผมก็ได้จัดการกวาดงานบนโต๊ะทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้าทิ้งลงพื้นอย่างคนอารมณ์เสีย นั่นก็เพราะว่าถ้าผมไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับงานที่อยู่ตรงหน้าพวกนี้ ป่านนี้ผมก็คงจะมีเวลาได้อยู่กับเธอ ได้ดูแลเธอ ได้สังเกตเห็นว่าเธอเจ็บป่วยไม่สบายตรงไหนแต่นี่ผมกับไม่รู้อะไร และแถมเธอคงไม่อยากให้ผมรู้อีกด้วย เพราะฉะนั้นเธอถึงกระทั่งลงทุนเสาะหาโรงพยาบาลที่ไม่ได้อยู่ในเครือของผมเพื่อไปตรวจด้วยตัวเธอเอง...
“เฮ้อออ...” ผมถอนหายใจออกมายาว ๆ พร้อมกับใช้ความคิด
และในขณะที่ผมกำลังใจความคิดอยู่นั่น สมองอันชาญฉลาดก็ได้แล่นความคิดบางอย่างออกมา...
(ประวัติ...ไปรักษาโรงพยาบาลต้องมีประวัติ...ฟู่วววว ตั้งสติสิวะไอ้เซฟ...) ผมที่พึมพำกับตัวเองในใจ พร้อมกับพยายามเรียกสติให้กลับคืนมา แม้ว่ามันจะยากมากก็ตาม นั่นก็เป็นเพราะว่าถ้าเรื่องไหนที่มันเกี่ยวข้องกับเธอ ผมมักจะขาดสติทุกครั้งไป
เมื่อผมตั้งสติได้แล้ว ผมก็ได้บอกในสิ่งที่ตัวเองคิดกับลูกน้องคนสนิททันที
“กิต...มึงไปตามทีมแฮ็กเกอร์ของเรามาซิกูมีงานจะให้พวกมันทำ” ผมบอกกิต โดยที่มือทั้งสองประสานค้ำอยู่ที่หน้าผากของตัวเองอย่างคำที่กำลังใช้ความคิด
“ได้ครับนาย” กิตรับคำ พร้อมกับรีบเดินออกไปสั่งการให้ทีมแฮ็กเกอร์เตรียมตัวเข้าประชุมทันที
เมื่อทุกหน่วยพร้อม อุปกรณ์ทุกอย่างพร้อม ผมก็ได้สั่งให้ทีมแฮ็กเกอร์ของตัวเอง จัดการแฮ็กข้อมูลในโรงพยาบาล M พรีเมียมทันที
“ว่าไง...ได้อะไรบ้าง” ผมเดินไปถามแฮ็กเกอร์มือหนึ่งของประเทศที่ผมซื้อตัวมา
●_● สีหน้าอึ้งถูกส่งมาจากใบหน้านิ่งของแฮกเกอร์หนุ่มที่นั่งตรงหน้า
“นายครับ...ใจเย็น ๆ ก่อนนะครับนาย ทีมเขาเพิ่งจะเซตระบบได้ไม่ถึงนาทีเลยนะครับ” กิตบอกเจ้านายตัวเองเสียงอ่อน ด้วยท่าทีที่ระมัดระวังเนื่องจากเขารู้ดีว่าตอนนี้อารมณ์ของเจ้านายร้อนมากขนาดไหน
ขวับ!!
ใบหน้าถมึงทึงของผมตวัดจ้องไปที่ไอ้กิตทันที (ช่ะ...ไอ้นี่วอนซะแล้วมาเบรกกูตอนนี้)
“ขะ...ขอโทษครับนาย” กิตที่เหมือนจะรู้ตัวได้ในทันที ว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะเข้าไปยุ่มย่ามกับนายของตัวเอง
“เอ้าว่าไง...เจอข้อมูลอะไรบ้าง” ผมเอ่ยเร่งขึ้นมาอีกครั้ง แม้จะรับรู้ได้ว่าทีมแฮ็กเกอร์กำลังลนลานขนาดไหน และถึงแม้จะเข้าใจได้ว่างานแบบนี้มันต้องใช้เวลามากเท่าไร แต่ทว่า...ณ เวลานี้ ใจผมมันร้อนจนแทบจะทนไม่ไหวอยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ
กิตที่ยืนดูผมร้อนรนเหมือนหนูติดจั่นเอ่ยเสนอความคิดอย่างไม่เต็มเสียงมาให้ผมเพื่อเป็นทางเลือก
“หรือเราจะบุกไป โรงพยาบาล นั้นกันเลยดีไหมครับนาย” กิตย่องเข้ามาบอกที่ด้านหลังด้วยทีท่ากล้า ๆ กลัว ๆ
“หึ...ไปให้เมียกูงอนหรือไง...” ผมโพล่งออกไปทันทีด้วยเสียงอันดังจนคนทั้งห้องหันมามอง
กิตที่ได้ยินถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ แต่ก็รีบปรับสีหน้าทำทีท่าเป็นเข้าใจ ทั้ง ๆ ที่อากัปกิริยาของมันแทบอยากจะหัวเราะเต็มที
“อ๋อ...กลัวเมีย...” กิตที่พูดกับตัวเองเบา ๆ แต่ก็ไม่แคล้วที่เสียงนั้นจะเข้าไปถึงหูของผู้เป็นเจ้านายอย่างผม
ป๊าบ...!!
เสียงวาดขาที่ทั้งหนักและแน่น ตรงเข้ากระทบที่ต้นขาของลูกน้องของตัวดีอย่างเหลืออด
“โอ๊ยยย......” กิตร้องออกมาพร้อมกับลูบขาตัวเองปรอย ๆ
“น้อยไปนะมึง...” ผมเอ่ยคาดโทษลูกต้องตาเขม็ง จนไอ้ลูกน้องตัวดีของผมยอมหุบปาก
“ได้เรื่องยังไงก็ไปรายงานกูด้วยแล้วกัน...เร็ว ๆ ด้วยล่ะ” ผมที่ไม่อยากอยู่รอต่อแล้ว เพราะยิ่งอยู่ก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิด เอ่ยบอกลูกน้องคนสนิทที่ยืนขากะเผลก ๆ เพราะเจ็บที่ต้นขา
“ครับนาย...อูยยย...ตีนหนักเป็นบ้า” กิตรับคำ ก่อนจะบ่นกระปอดกระแปดเบา ๆ กับตัวเอง
ผมกลับมานั่งร้อนใจที่ห้องทำงานของตัวเองต่อ โดยที่ใจยังไม่คลายความเป็นห่วงที่มีต่อเธอ
และในเวลานั้นเอง...
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 33
แสดงความคิดเห็น