Element King (My Hero Academia-Realm of Tales AU) บทที่ 2 ผมคือผู้มีสองอัตลักษณ์

Element King (My Hero Academia-Realm of Tales AU)

-A A +A

Element King (My Hero Academia-Realm of Tales AU) บทที่ 2 ผมคือผู้มีสองอัตลักษณ์

หมวดหนังสือ: 

            สวัสดีครับผู้อ่านทั้งหลาย ผมชื่อ ริชาร์ด แดเนียล ซุเนริ – จริง ๆ แล้ว คนญี่ปุ่นมักจะเรียงนามสกุลนำชื่อ แต่ผมจะเขียนชื่อเต็มแบบนั้นได้ก็ต่อเมื่อเป็นชื่อของคนสัญชาติญี่ปุ่นแท้เท่านั้น ส่วนคนลูกครึ่งหรือสัญชาติอื่น ผมขอเรียงชื่อนำนามสกุลดีกว่า

            จริง ๆ ผมก็นอกเรื่องมาเยอะมากแล้ว เอางี้ ผมขออธิบายตรงนี้ดีกว่าว่าทำไมผมตัดจบตอนไปแบบดื้อ ๆ

            จริง ๆ แล้ว หลังจากเอเลเมนท์คิงรัชกาลแรกเป็นต้นมา พลังของราชาแห่งธาตุนั้นก็เหมือนจะหายไปจากโลกใบนี้อย่างสิ้นเชิง จนกระทั่งมาถึงยุคที่มีการเกิดขึ้นของอัตลักษณ์ ฮีโร่ และวิลเลิน แน่นอนว่าเอเลเมนท์คิงกับดาร์คลอร์ดก็ถูกนับเป็นอัตลักษณ์ด้วยเช่นกัน และแน่นอน ตระกูลที่สืบเชื้อสายเอเลเมนท์คิงมันก็มีหลายตระกูลเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่แทบจะไม่เปิดเผยตัวตนให้สาธารณชนได้รับรู้เลย แต่มีตระกูลหนึ่งที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุดในโลก นั่นก็คือตระกูลแบรนโดเรี่ยน ซึ่งพวกเขาอยู่ที่อังกฤษ แต่ได้เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนของโรงเรียนมัธยมปลายยูเออะคาเดมี่ สถาบันสอนหลักสูตรการเป็นฮีโร่ที่โดดเด่นที่สุดในโลก อยู่ในเมืองโฮสุ ประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง

            และเมื่อมีคนรู้ว่า ตระกูลต้นตำรับของเอเลเมนท์คิงได้เข้าร่วมเรียนที่ยูเอและกลายเป็นฮีโร่มืออาชีพแห่งประเทศญี่ปุ่น ตระกูลนี้ก็ถูกพูดถึงอย่างมากและเป็นข่าวไปทั่วโลกมานานนับหลายปี และแน่นอนลูซิฟิรอสก็รู้การมีอยู่ของลูกหลานเอเลเมนท์คิงแล้วรู้สึกโกรธแค้นอย่างมาก เพราะคนสมัยนี้ไม่ได้รู้จักดาร์คลอร์ดอย่างดี แต่ความจริงคือ กายหยาบตายไปแล้วจริง ๆ แต่จิตใจกับอัตลักษณ์ยังอยู่และรอวันที่เขาจะออกมายึดร่างกายใหม่และออกอาละวาดได้ทุกเมื่อ และในที่สุด วันที่เจ้าแห่งนรกรอคอยก็มาถึง ในยุคสมัยของเอเลเมนท์คิงรัชกาลที่ 140 เมื่อมีกลุ่มคนที่ได้ลงมาพบกับจุดที่ฝังอัตลักษณ์ดาร์คลอร์ดและเผลอทำลายมันเข้า ทำให้ลูซิฟิรอสออกจากที่คุมขังแล้วเข้ายึดร่างผู้เคราะห์ร้ายก่อนจะออกตามล่าสายเลือดต้นตำรับเอเลเมนท์คิงให้จงได้

            ตระกูลแบรนโดเรี่ยนในสมัยของเอเลเมนท์คิงรัชกาลที่ 140 ตอนนั้นยังไม่ทันจะตั้งตัวเสียด้วยซ้ำ ทำให้พวกเขารับมือยากจริง ๆ เพราะว่าลูซิฟิรอสมีอัตลักษณ์ที่แข็งแกร่งเอามาก ๆ แต่กระนั้นเอเลเมนท์คิงก็มีเหล่าฮีโร่มืออาชีพที่จะเข้าไปต่อสู้กับเจ้าแห่งนรกจนเอาชนะมาได้หลายครั้ง

            แต่การออกอาละวาดของดาร์คลอร์ดนั้นใช่ว่าจะสร้างแต่ศัตรูเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังสร้างมิตรอันเหนียวแน่นด้วย เมื่อผู้ใช้อัตลักษณ์ที่อันตรายพอ ๆ กันอย่างออลฟอร์วัน และเป็นผู้นำของสมาพันธ์วิลเลินในสมัยนั้น ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพการออกอาละวาดของดาร์คลอร์ด และพร้อมจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ด้วยการดึงดาร์คลอร์ดเข้าร่วมสมาพันธ์วิลเลินไปด้วยกัน แต่จะดึงเข้าร่วมอย่างเดียวคงไม่พอ เพราะแม้แต่วิลเลินออลฟอร์วันในสมัยนั้นรู้ดีว่าลูซิฟิรอสมีอีโก้สูงมาก การจะให้มาเป็นแค่สมาชิกอย่างเดียวคงจะดูถูกเจ้าแห่งนรกเกินไปหน่อย ดังนั้นวิลเลินออลฟอร์วันในสมัยนั้นจึงเสนอให้ดาร์คลอร์ดกลายเป็นผู้นำสูงสุดแห่งสมาพันธ์วิลเลินไปด้วยเสียเลย และเจ้าแห่งนรกก็พอใจมากกับตำแหน่งนี้ ทำให้ยุคของสมาพันธ์วิลเลินในช่วงนั้นรุ่งเรืองถึงขีดสุด

            เป้าหมายของลูซิฟิรอส นอกจากจะต้องสังหารเอเลเมนท์คิงต้นตำรับทั้งตระกูลแล้ว ยังรวมไปถึงการถ่ายทอดอัตลักษณ์ดาร์คลอร์ดเข้าไปในร่างของมนุษย์คนอื่น ๆ เปรียบเสมือนร่างกายเสริมของเจ้าแห่งนรกที่รอวันถูกลูซิฟิรอสกลืนกินเป็นจอมมารคนใหม่ เพราะจิตวิญญาณของลูซิฟิรอสนั้นเป็นหนึ่งเดียวกับอัตลักษณ์แล้วอย่างสมบูรณ์ และเจ้าแห่งนรกคิดว่าถ้าใครได้อัตลักษณ์ของเขาไป จิตใจของเขาส่วนหนึ่งจะครอบงำจิตใจของผู้นั้นด้วย แต่พอเกิดขึ้นจริง ๆ มันกลับไม่เป็นไปอย่างที่คาดไว้ เพราะเด็ก ๆ หลายคนที่ถูกดาร์คลอร์ดถ่ายโอนอัตลักษณ์ไปนั้น จิตใจของหลาย ๆ คนสามารถทนทานต่ออำนาจการครอบงำของอัตลักษณ์จอมมารอย่างมาก แต่ก็มีบ้างที่ถูกอัตลักษณ์ดาร์คลอร์ดครอบงำอย่างง่ายดาย

            ตั้งแต่ยุคของเอเลเมนท์คิงรัชกาลที่ 140 เป็นต้นมา จะเป็นยุคที่ถูกเรียกว่า สี่อัตลักษณ์สูงสุด ซึ่งต่างดำรงอยู่ต่อไปจากรุ่นสู่รุ่น สองอัตลักษณ์เป็นอัตลักษณ์ของฝ่ายดี คือเอเลเมนท์คิงและวันฟอร์ออล ส่วนอีกสองอยู่ฝ่ายร้าย คือดาร์คลอร์ดและออลฟอร์วัน โดยมันจะเปรียบเสมือนเป็นคู่ตรงข้ามกัน วันฟอร์ออลตรงข้ามกับออลฟอร์วัน และเอเลเมนท์คิงตรงข้ามกับดาร์คลอร์ด

            และสิ่งเหล่านี้ก็อยู่มาจนถึงยุคของเอเลเมนท์คิงรัชกาลที่ 160 หรือ คุณวิลเลียม แบรนโดเรี่ยน โดยในช่วงนี้เป็นช่วงที่คุณวิลเลียมกลายเป็นฮีโร่มืออาชีพแล้วเรียบร้อย และลูกชายของเขา อลัน กำลังจะเข้าสู่รั้วโรงเรียน และนี่แหละคือเรื่องราวของผม

            ผมบอกไปตั้งแต่ต้นแล้วว่า ผมชื่อ ริชาร์ด แดเนียล ซุเนริ เป็นลูกครึ่งอังกฤษ-ญี่ปุ่นครับ เดิมผมมีอัตลักษณ์เป็นของผมเองอยู่แล้ว นั่นก็คือ มายากล ซึ่งมันทำงานยังไง ผมจะอธิบายให้ฟัง

            อัตลักษณ์มายากล เป็นอัตลักษณ์ที่จะสามารถเสกอะไรก็ได้ตามใจนึก เพียงแค่ใช้ไพ่สำรับใหญ่ ๆ สำรับเดียวเท่านั้น เพื่อเสกวัตถุ หรือใช้เป็นอาวุธโจมตีระยะไกล

            ใช่ครับ! มายากลไพ่! คุณอ่านไม่ผิดหรอก! ใช้เวทมนตร์จากไพ่นี่แหละครับ! ไพ่ของผมอ้างอิงมาจากไพ่โป๊กเกอร์ที่มีสัญลักษณ์โพดำ โพแดง ดอกจิก และข้าวหลามตัด แล้วก็จะมีจำนวนเอซถึงสิบ มีหน้าคิง ควีน และแจ็ค โดยที่ข้อเสียของอัตลักษณ์นี้คือ จะมีโอกาสที่ไพ่จะหมดสำรับได้ และต้องรอให้ไพ่ถูกสร้างขึ้นมาทีละใบ ๆ จนเต็มสำรับถึงจะใช้ได้ ถ้าผมจั่วไพ่ตอนที่ไพ่ยังสร้างไม่เต็มสำรับ อาจจะหมดสำรับเร็วกว่าการสร้างไพ่ที่ช้าอีก ตอนที่อัตลักษณ์ของผมเกิดมา ผมก็มีซองหนังอะไรสักอย่างสำหรับใส่กระดาษที่มีขนาดเท่าบัตรแล้ว มันติดอยู่ตรงเอวข้างขวา และข้างในบรรจุไพ่เริ่มต้นแค่สิบใบเท่านั้นครับ นั่นยังรวมไปถึงการสร้างไพ่ที่นานเป็นหลายนาทีด้วย ดังนั้น ผมจึงต้องบริหารไพ่ที่มีอยู่ในการแก้ไขสถานการณ์ต่าง ๆ

            แต่ไม่ต้องห่วงครับซองนี้สามารถถอดออกจากร่างกายได้ เพราะว่ามันมีสารที่คล้าย ๆ กับที่ทาไว้หลังกระดาษโพสต์อิตนั่นแหละครับ และก็ไม่ต้องกังวลว่าผมจะทำซองไพ่หายเลย เพราะว่ามันมีสายสัมพันธ์บางอย่างระหว่างซองไพ่กับตัวผมที่ไม่มีวันตัดกันขาด ไม่ว่าผมจะทำมันทิ้งไว้ที่ไหน มันก็จะกลับมาติดอยู่บนตัวผมเสมอ และอีกอย่างคือยิ่งผมพัฒนามากขึ้นเท่าไหร่ สำรับไพ่จะมีพื้นที่ให้เก็บมากขึ้นเรื่อย ๆ และการสร้างไพ่เพิ่มจะเร็วขึ้นจนสร้างได้ทีละหลายสิบใบต่อวินาที จนถึงขนาดที่ว่าพอผมพัฒนาตนเองจนถึงที่สุดแล้ว ซองหนังใบเล็ก ๆ ของผมอาจจะมีพื้นที่สำหรับใส่ไพ่เป็นหลักล้านใบเลยก็ว่าได้

            ที่จริงแล้ว พ่อกับแม่ของผม เอ็ดเวิร์ดและมาร์ธา ซุเนริ เป็นนักมายากลมาก่อน ก็เลยทำให้ผมเกิดมามีอัตลักษณ์แบบนี้ แต่จริง ๆ ผมคลั่งไคล้และเป็นแฟนบอยเอเลเมนท์คิงอย่างมากจนถึงขั้นศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประวัติอัตลักษณ์ราชาแห่งธาตุแล้วด้วยซ้ำ แม้ผมจะรู้ว่าผมควรจะพอใจกับอัตลักษณ์ที่ผมมีอยู่แล้วก็ตาม และวันหนึ่ง ผมก็ได้พบกับคุณวิลเลียมกับอลันออกมาเดินเล่นอยู่หน้าบ้านพอดี ตอนนั้นผมกับอลันอยู่ในช่วงท้ายของ ม.ต้น และอัตลักษณ์เอเลเมนท์คิงเกิดขึ้นในตัวเขาไปแล้วด้วย

            “สวัสดีครับคุณวิลเลียม” ผมทักทายคุณวิลเลียม

            “หืม เธอคือใครน่ะ?” คุณวิลเลียมหันมาถามผม

            “พ่อครับ! ผมจำได้!” อลันบอกพ่อแล้วชี้มาที่ผม แล้วถามผมว่า “นายคือคนที่เล่นมายากลในการแสดงตระกูลซุเนริใช่ไหม?”

            “ใช่ ฉันชื่อริชาร์ด ซุเนริ” ผมตอบอลัน

            “ฉัน เฮนรี่ แบรนโดเรี่ยน” อลันตอบ “โชว์กลของนายให้ดูหน่อย แบบง่าย ๆ นะ”

            ผมไม่รอช้าจั่วไพ่ใบหนึ่งออกจากซองไพ่ข้างตัวผมแล้วสะบัดออกมาหนึ่งที จากไพ่กลายเป็นหมวกทรงสูงสีดำที่ผมถืออยู่ในมือแล้ว

            “เก่งนี่!” อลันบอกพร้อมปรบมือให้ผม

            ผมใช้มืออีกข้างดีดนิ้วหนึ่งทีแล้วหมวกทรงสูงในมือของผมก็หายไป

            “อันนี้คืออัตลักษณ์ของเธอเหรอ?” คุณวิลเลียมถาม

            “ใช่ครับ นี่คืออัตลักษณ์ของผมเลยครับ” ผมตอบ “ผมเรียกมันว่า อัตลักษณ์มายากลครับ”

            “ฉันว่า อัตลักษณ์ของเธอน่ะมีประโยชน์ในแทบทุกด้านเลยนะถ้าเกิดใช้มันดี ๆ เนี่ย” คุณวิลเลียมบอก

            “ครับ” ผมตอบ “ว่าแต่ผมได้ข่าวว่าตอนนี้เด็กคนอื่น ๆ หลายคนได้รับอัตลักษณ์ราชาแห่งธาตุมาแล้วหลายคนใช่ไหมครับ?”

            “ใช่แล้วล่ะ” คุณวิลเลียมตอบ “ท่านฝ่าบาทรัชกาลที่หนึ่งเป็นผู้มอบพลังให้กับพวกเขาเองแหละ”

            “แล้วท่านใช้อะไรกำหนดว่าคนไหนควรได้รับหรือไม่ควรได้รับครับ” ผมถาม

            “มันจะมีการคัดเลือกและพิจารณาว่า ใครจิตใจที่บริสุทธิ์และสามารถต่อต้านความชั่วร้ายทั้งปวงได้ เขาหรือเธอคนนี้จะมีโอกาสได้เห็นรูปกายของเอเลเมนท์คิงรัชกาลที่หนึ่งและได้ยินพระสุรเสียงของท่านด้วย มันคือสัญญาณที่จะบ่งบอกว่าเขาหรือเธอคนนั้นจะได้รับอัตลักษณ์เอเลเมนท์คิงแน่นอน” คุณวิลเลียมตอบ

            “และริชาร์ดก็จะเป็นหนึ่งในนั้น” เสียงหนึ่งดังขึ้น พร้อมกับการปรากฏตัวของวิญญาณกษัตริย์แห่งธาตุรัชกาลที่หนึ่งใกล้ ๆ กับตระกูลแบรนโดเรี่ยนจนพวกเขาตกใจที่ได้เห็นเขา และผมก็ตกใจเหมือนกันที่ผมเองก็เห็นและได้ยินเสียงของเอเลเมนท์คิงรัชกาลที่หนึ่งได้เหมือนกัน ปกติคนที่จะสัมผัสได้ถึงวิญญาณของเอเลเมนท์คิงรัชกาลเก่า ๆ ได้จะต้องเป็นคนที่มีอัตลักษณ์นี้อยู่แล้ว หรือไม่ก็เป็นผู้ที่เหมาะสมที่จะได้อัตลักษณ์เท่านั้น ยังงั้นถ้าเกิดว่าผมสามารถมองเห็นและได้ยินเสียงของวิญญาณเอเลเมนท์คิงรัชกาลี่หนึ่งได้ แสดงว่า ผมเหมาะสมแล้วใช่ไหมที่จะได้เป็นราชาแห่งธาตุ?

            “ท่านจะเลือกเขาด้วยเหรอครับฝ่าบาท?” คุณวิลเลียมถามวิญญาณกษัตริย์

            “เหตุผลที่เขาเหมาะสมจะได้อัตลักษณ์นี้ เพราะคุณสมบัติของเขาตรงกับที่ข้าต้องการพอดี ดังนั้น ริชาร์ด ซุเนริ สมควรที่จะได้รับอัตลักษณ์เอเลเมนท์คิงอย่างไม่ต้องสงสัย”

 

            สิ้นเสียงวิญญาณกษัตริย์ แสงสว่างสีทองก็เปล่งประกายออกมาจากร่างกายของผมจนแทบจะมองไม่เห็นอะไรไปมากกว่าสีขาวอยู่ครู่หนึ่ง พอแสงจางลง สิ่งที่ผมและคนรอบตัวผมเห็นก็คือ ผมได้มีปีกนกสีทองคำจาง ๆ อยู่ด้านหลัง และเหล่าวิญญาณธาตุที่มีอยู่ในโลกนี้ก็ออกมาจากร่างกายของผมและลอยวนไปรอบ ๆ ตัวผม และเป็นการประกาศอย่างชัดเจนแล้วว่า ผมได้กลายเป็นหนึ่งในราชาแห่งธาตุนอกเชื้อสายต้นตำรับแล้วเรียบร้อย

            “วิเศษจริง ๆ!” ผมร้องอย่างตื่นเต้น

            “จงใช้ให้มันคุ้มค่า” วิญญาณกษัตริย์พูด “จงใช้มันในการต่อสู้กับความชั่วร้ายให้ได้”

            “ครับ” ผมรับปากวิญญาณกษัตริย์ไว้

            หลังจากนั้นผมก็ได้มีฉายาว่า ผู้มีสองอัตลักษณ์ ซึ่งตอนนี้ผมก็คิดอยู่ว่าจะใช้ชื่อฮีโร่ว่าอะไรกันนะ?

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.