ตอนที่ 1,008 สัตว์ประหลาดในหมู่สัตว์ประหลาด

-A A +A

ตอนที่ 1,008 สัตว์ประหลาดในหมู่สัตว์ประหลาด

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 1,008 สัตว์ประหลาดในหมู่สัตว์ประหลาด

“เอานี่ มรดกของนายน้อย” ทันทีที่เขาพูดจบริเวอร์ก็มอบสิ่งของมากมายให้กับเซี่ยเฟย ไม่ว่าจะเป็นอาวุธ, ชุดเกราะ, หนังสือและสิ่งของต่าง ๆ อีกเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน

ด้วยสิ่งของเป็นจำนวนมากเซี่ยเฟยจึงไม่รู้ว่าเขาควรจะต้องหยิบของชิ้นไหนขึ้นมาตรวจสอบก่อนเป็นอันดับแรก นอกจากนี้มันก็ยังมีสิ่งแปลกตาอย่างมากมายที่เขาไม่เคยเห็นพวกมันมาก่อน

“นี่คือชุดเกราะเทียมสวรรค์ของนายน้อย น่าเสียดายที่ระหว่างการถูกไล่ล่าชุดเกราะหลักของนายน้อยได้ถูกทำลายลงไปแล้ว แต่ชุดเกราะเทียมสวรรค์ก็ยังเป็นชุดเกราะสุดยอดที่ดีกว่าชุดเกราะอาชูร่าของคุณมาก” ริเวอร์กล่าว

“ชุดเกราะเทียมสวรรค์?” เซี่ยเฟยพึมพำขณะหยิบชุดเกราะชุดใหม่ขึ้นมาตรวจสอบ และเมื่อชายหนุ่มทดลองใช้นิ้วดีดไปบนแผ่นโลหะบาง ๆ อย่างแผ่วเบา มันก็มีน้ำเสียงอันไพเราะก้องกังวานดังขึ้นมา

“มันเป็นชุดเกราะที่ดีมาก ตัววัตถุดิบแทบจะไม่มีน้ำหนักเลย ฝีมือการออกแบบก็เข้ากับสรีระอย่างปราณีตเรียกได้ว่ามันคือชุดเกราะชั้นยอดจริง ๆ” เซี่ยเฟยกล่าว

“ชุดเกราะชุดนี้ถือได้ว่าเป็นชุดเกราะในตำนานที่แม้แต่นอกประตูจักรวาลก็ยังถือว่ามันเป็นสมบัติที่หาได้ยาก ทั่วทั้งจักรวาลนี้คงจะไม่มีชุดเกราะชุดไหนเทียบชั้นกับชุดเกราะเทียมสวรรค์ได้อีกแล้ว” ลินนิจกล่าวขณะมองไปยังชุดเกราะอย่างโหยหา

“ชุดเกราะเทียมสวรรค์มันน่าทึ่งจริง ๆ แต่มันก็ยังมีอย่างอื่นที่น่าทึ่งมากยิ่งกว่า” ริเวอร์กล่าวก่อนที่เขาจะดึงดาบเล่มยาวออกมาจากฝัก

แสงสว่างสีขาววูบวาบขึ้นมาอย่างฉับพลัน พร้อมกับดาบแส้ที่สร้างขึ้นมาจากกระดูกสีขาวถูกตวัดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

“นี่คือดราก้อนสไปน์ดาบเล่มโปรดของนายน้อย เรียกได้ว่ามันคือมรดกที่แท้จริงจากตระกูลออโรร่า คุณรู้ไหมว่าดาบเล่มนี้มันทำขึ้นมาจากวัตถุดิบอะไร?” ริเวอร์ถามด้วยรอยยิ้ม

“ผมไม่รู้ แต่เมื่อพิจารณาจากตัววัตถุดิบแล้วมันจะต้องทำมาจากข้อต่อของสัตว์อสูรสักชนิดแน่ ๆ แต่ถึงแม้ว่าผมจะศึกษาเรื่องของสัตว์อสูรมาบ้าง แต่ผมก็นึกไม่ออกจริง ๆ ว่าข้อต่อของสัตว์อสูรชนิดไหนถึงมีความแหลมคมราวกับใบมีดแบบนี้” เซี่ยเฟยกล่าว

“อสูรดาวดับ, ดักแด้ดวงดาวและมังกรถูกรู้จักในนามของราชันย์แห่งสัตว์อสูรทั้งปวง และดาบดราก้อนสไปน์เล่มนี้ก็คือดาบที่ทำมาจากกระดูกของมังกรโบราณ”

“มังกรโบราณ!?” เซี่ยเฟยสะดุ้งขึ้นมาด้วยความตกใจ เพราะไม่ว่าจะเป็นที่ไหนมันก็ล้วนแล้วแต่มีตำนานเกี่ยวกับมังกรด้วยกันทั้งนั้น

มังกรคือตัวแทนของสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลัง และถ้าหากว่าดาบเล่มนี้สร้างขึ้นมาจากกระดูกของมังกรโบราณจริง ๆ มันย่อมจะต้องเป็นอาวุธที่อยู่เหนือเกินกว่าจินตนาการอย่างแน่นอน

นี่มันดาบในตำนานที่สร้างขึ้นมาจากชิ้นส่วนของสัตว์อสูรในตำนาน!!

“ดาบดราก้อนสไปน์ไม่ใช่อาวุธธรรมดาแต่มันคืออาวุธที่สามารถเจาะทะลวงเข้าไปในจิตวิญญาณได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่นายใช้มันในการโจมตีศัตรูก็จะได้รับบาดเจ็บไปจนถึงจิตวิญญาณที่อยู่ภายใน” ลินนิจกล่าวพร้อมกับพยักหน้าอย่างภาคภูมิใจ

“ไม่ว่าจะเป็นชุดเกราะเทียมสวรรค์หรือดาบดราก้อนสไปน์ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นอุปกรณ์ที่อยู่เหนือกว่าระดับของจักรวาลแห่งนี้ไปแล้ว เพราะพวกมันคือสมบัติจากตระกูลออโรร่า ผู้ซึ่งเป็นตระกูลขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลังประตูจักรวาลไปอีกที”

หลังจากหยุดพูดไปครู่หนึ่งริเวอร์ก็ทำการหยิบหนังสือที่มีความหนาพอ ๆ กับพจนานุกรมขึ้นมา

“นี่คือวิชาวิญญาณเฉพาะทายาทสายตรงของตระกูลออโรร่าเท่านั้น นี่คือวิชาที่ถูกออกแบบมาเพื่อโซลฮันเตอร์โดยเฉพาะ แล้วมันก็ยังมีวิชานี้ที่ถูกออกแบบมาเพื่อโซลอีทเตอร์โดยเฉพาะด้วยเหมือนกัน หนังสือพวกนี้ทุกเล่มคือพื้นฐานที่ดีที่สุดที่จะทำให้คุณพัฒนาพลังวิญญาณได้อย่างรวดเร็ว”

“ไม่ว่าคุณจะเลือกเส้นทางไหนแต่หนังสือทั้งห้าเล่มนี้ก็มากพอที่จะครอบคลุมเนื้อหาตลอดชีวิตที่คุณจะต้องเรียนรู้แล้ว เนื่องมาจากการเดินทางในคราวนี้ค่อนข้างเป็นการเดินทางไกล นายน้อยจึงนำสมบัติติดตัวมาด้วยอย่างมากมาย ไม่น่าเชื่อเลยว่าวันหนึ่งการตัดสินใจของนายน้อยจะมีประโยชน์กับคุณมากขนาดนี้”

ทั้งริเวอร์และลินนิจต่างก็ดูตื่นเต้นมาก เพราะท้ายที่สุดสิ่งเหล่านี้ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นสมบัติของตระกูลออโรร่าที่ถูกเก็บเอาไว้ให้กับทายาทสายตรงของตระกูลเท่านั้น ทั้งคู่จึงไม่เคยได้สัมผัสกับสมบัติเหล่านี้เลย

“เอาล่ะพวกเรามาเริ่มเรียนรู้พื้นฐานกันเถอะ ว่าแต่คุณเลือกโซลฮันเตอร์หรือโซลอีทเตอร์ ถ้าหากว่าคุณเริ่มเรียนรู้จากหนังสือผิดเล่ม มันก็จะส่งผลกระทบในระยะยาว” ริเวอร์กล่าวอย่างกระตือรือร้น

“ฉันไม่ได้เลือกทั้งโซลฮันเตอร์และโซลอีทเตอร์นั่นแหละ” เซี่ยเฟยกล่าวตอบอย่างเฉยเมย

“หา!”

“เป็นไปไม่ได้! ทำไมนายถึงไม่เลือกอะไรเลย ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องอะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิต” ลินนิจตะโกนขึ้นอย่างตกใจพร้อมกับยกมือขึ้นมาดึงเส้นผมของตัวเอง

ขณะเดียวกันริเวอร์ก็ส่ายหัวพร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างหนัก ท้ายที่สุดหลังจากที่เขาได้สัมผัสกับชายหนุ่มคนนี้มาสักพัก เขาก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าเซี่ยเฟยไม่เหมาะสมกับการสืบทอดมรดกของตระกูลออโรร่าจริง ๆ

เรื่องนี้ทำให้ทั้งคู่รู้สึกหงุดหงิดมาก เพราะเซี่ยเฟยมีสายเลือดของตระกูลออโรร่าอยู่ถึง 25% แต่ชายหนุ่มคนนี้กลับไม่สามารถที่จะสืบทอดมรดกวิชาของตระกูลได้เลย มันจึงทำให้พวกเขาไม่รู้จะหาคำอธิบายคำไหนมาอธิบายสถานการณ์ในตอนนี้ดี

“ทำไมคุณถึงไม่เลือกอะไรเลย?” ริเวอร์ถาม

“ฉันบอกไปแล้วไงว่าในสมองของฉันมันมีดวงแสงสีแดง, สีขาว, สีดำปรากฏขึ้นมาสามดวง และดวงแสงที่ฉันเลือกก็คือดวงแสงสีดำ และนั่นก็คือเหตุผลที่ทำไมฉันถึงตอบว่าฉันไม่สามารถเรียนรู้วิชาพวกนี้ได้” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับยักไหล่

ทันใดนั้นลินนิจกับริเวอร์ก็เริ่มสนทนากันอย่างลับ ๆ อีกครั้ง เพื่อปรึกษากันโดยไม่ให้เซี่ยเฟยได้ยิน

“ตอนแรกเซี่ยเฟยมีพรสวรรค์สูงมาก แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะสูญเสียพรสวรรค์ของตัวเองไปแล้ว” ลินนิจกล่าวอย่างกังวล

“ฉันคิดว่าเขาน่าจะเปิดโซลมาร์คเร็วเกินไปจนทำให้สมองได้รับความเสียหาย และถึงแม้ว่าตอนนี้เซี่ยเฟยจะเปิดโซลมาร์คขึ้นมาได้สำเร็จ แต่เขากลับสูญเสียความสามารถในเส้นทางของนักรบวิญญาณไปด้วย” ริเวอร์กล่าว

“เอายังไงดี? ตอนนี้ถึงเซี่ยเฟยจะพัฒนาจนถึงขีดจำกัดของร่างกายได้ แต่เขาคงไม่สามารถพัฒนาไปตามแนวทางของนักรบวิญญาณได้แน่ ๆ” ลินนิจกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

องครักษ์จากตระกูลออโรร่าต่างก็ถอนหายใจออกมาอย่างผิดหวัง เพราะตามปกติมันจะต้องรอจนกว่านักรบพัฒนาร่างกายจนถึงขีดจำกัดเสียก่อน แล้วพวกเขาค่อยเริ่มพัฒนาพลังทางด้านวิญญาณเพื่อทำการเปิดโซลมาร์คตามขั้นตอน

แต่เซี่ยเฟยกลับสามารถเปิดโซลมาร์คได้ตั้งแต่ในตอนที่เขามีพลังในระดับราชันย์ขั้นที่ 5 ซึ่งมันเป็นปาฏิหาริย์อย่างที่ทั้งสองคนไม่เคยพบเห็นมาก่อน

“แบบนี้ตลอดชีวิตเซี่ยเฟยก็คงจะพัฒนากลายเป็นพระเจ้าระดับสูงสุดได้เท่านั้น แต่คงจะไม่สามารถพัฒนาไปได้ไกลกว่านั้นอีกแล้ว” ลินนิจกล่าวขึ้นมาด้วยความโกรธ เนื่องมาจากเซียวกู๋ผู้ซึ่งเป็นปู่ของเซี่ยเฟยดีกับเขาและลินนิจมาก สถานการณ์ในปัจจุบันจึงทำให้ทั้งคู่รู้สึกโกรธตัวเองที่ไม่สามารถช่วยให้ชายหนุ่มพัฒนาไปตามแนวทางอย่างที่ควรจะเป็น

ระหว่างที่โซลฮันเตอร์ทั้งสองกำลังหมดหวัง มันก็มีเสียงดังขึ้นมาจากในระยะไกล พวกเขาจึงรีบหันศีรษะไปดูก่อนที่จะได้พบกับเหตุการณ์ที่ทั้งคู่ไม่อาจเข้าใจได้

ปัจจุบันเซี่ยเฟยกำลังโจมตีขึ้นไปบนอากาศด้วยฝ่ามือข้างเดียวและทำการปลดปล่อยเงาวิญญาณออกไปอย่างรวดเร็ว

เงาวิญญาณที่ถูกปลดปล่อยออกมานั้นเป็นเงาวิญญาณในรูปลักษณ์ของมนุษย์ คล้ายกับว่าชายหนุ่มได้ทำการเรียกวิญญาณร้ายออกมาเพื่อทำการโจมตี

เหตุการณ์นี้ถึงกับทำให้ลินนิจและริเวอร์พูดไม่ออก เพราะวิชาโซลชาโดว์เป็นวิชาเฉพาะสำหรับโซลฮันเตอร์ที่เอาไว้ใช้สำหรับการล่าวิญญาณของศัตรู

เซี่ยเฟยเพิ่งจะเปิดโซลมาร์คขึ้นมาได้เพียงแค่ไม่นาน และเขาก็ไม่ได้มีคุณสมบัติที่จะเรียนรู้มรดกวิชาจากตระกูลออโรร่าอีกด้วย แต่ในระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังสิ้นหวังอยู่นั่นเอง จู่ ๆ เซี่ยเฟยที่ไม่เคยใช้พลังวิญญาณมาก่อนกลับเรียกใช้วิชาโซลชาโดว์ขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ

“โซลชาโดว์!? ฉันไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม” ลินนิจอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ

“ไม่! นั่นมันเป็นพลังของโซลชาโดว์จริง ๆ มันคือวิชาที่ต้องใช้โซลมาร์คอย่างน้อยสองดวง” ริเวอร์กล่าวขึ้นมาอย่างตื่นเต้น

ระหว่างนั้นริเวอร์ก็พยายามพิจารณาเซี่ยเฟยตั้งแต่หัวจรดเท้า โดยในแววตาของเขามันคล้ายกับว่าเขากำลังจ้องมองไปยังสัตว์ประหลาด

“เมื่อกี้คุณทำได้ยังไง?” ริเวอร์ถาม

“ฉันแค่รู้สึกว่าพลังงานกำลังพยายามจะหาทางออก ฉันจึงระบายพลังงานภายในร่างกายออกมาผ่านทางฝ่ามือ และผลลัพธ์มันก็เป็นอย่างที่พวกคุณเห็นนั่นแหละ” เซี่ยเฟยกล่าว

ในฐานะโซลฮันเตอร์ที่มีประสบการณ์ลินนิจกับริเวอร์จึงรู้ดีว่าสิ่งที่เซี่ยเฟยกำลังอธิบายคือกระบวนการใช้วิชาวิญญาณออกมาอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามทั้งคู่ก็ไม่สามารถทำความเข้าใจได้เลยว่าเซี่ยเฟยสามารถใช้พลังวิญญาณออกมาได้ยังไงทั้ง ๆ ที่มันยังไม่มีใครสอน

“เซี่ยเฟย นายนี่มันเป็นสัตว์ประหลาดในหมู่สัตว์ประหลาดจริง ๆ” ลินนิจอุทานขึ้นมาด้วยความตกตะลึง

***************

แล้วสรุปพี่แกเลือกอะไรกันแน่??

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.