ตอนที่ 999 ราชันย์ขั้นที่ 5

-A A +A

ตอนที่ 999 ราชันย์ขั้นที่ 5

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 999 ราชันย์ขั้นที่ 5

ผู้พิทักษ์หลายร้อยคนไม่สามารถทำลายรีเวิร์สที่ปรากฏตัวขึ้นมาบริเวณค่ายของพวกเขาได้เป็นเวลานาน แต่อสูรกายที่ก่อความวุ่นวายไปทั่วทางค่ายกลับถูกเซี่ยเฟยสังหารจนไม่เหลือแม้แต่เถ้าถ่าน มันจึงทำให้กลุ่มผู้พิทักษ์เริ่มรู้สึกอับอายกับความอ่อนแอของตัวเอง

ฉัวะ!

ดาบกากบาทตัดผ่านร่างรีเวิร์สอย่างรุนแรงทำให้ร่างของมันค่อย ๆ แหลกสลายไป ก่อนที่จะไม่เหลือร่องรอยใด ๆ เอาไว้อีกเลย

“ปกป้อง…” แพนเดียนีพูดขึ้นมายังไม่ทันจบประโยค เซี่ยเฟยก็สังหารรีเวิร์สลงไปเรียบร้อยแล้ว

ความตั้งใจแรกของเขาคือการให้ผู้พิทักษ์ปกป้องเซี่ยเฟย แต่เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ในปัจจุบันมันก็เห็นได้ชัดว่าเซี่ยเฟยคือคนปกป้องกลุ่มผู้พิทักษ์

หากไม่ใช่เพราะเซี่ยเฟยเข้ามาแทรกแซง พวกเขาก็อาจจะต้องต่อสู้กับรีเวิร์สไปพักใหญ่ และมันย่อมมีการบาดเจ็บเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ไม่มีทางที่พวกเขาจะสามารถสังหารอสูรกายนอกประตูจักรวาลได้อย่างง่ายดายขนาดนี้

ผู้พิทักษ์ทุกคนต่างก็จ้องมองไปยังเซี่ยเฟยอย่างตกตะลึง ไม่มีใครด่าว่าชายหนุ่มคนนี้ที่เข้าร่วมการต่อสู้โดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะสิ่งที่ทุกคนกำลังตกใจมากกว่าคือสิ่งที่เซี่ยเฟยสามารถสังหารรีเวิร์สได้ด้วยการโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

“เขาทำแบบนั้นได้ยังไง?”

“รีเวิร์สถูกสังหารภายใต้การโจมตีครั้งเดียวจริงเหรอ?!”

เซี่ยเฟยเมินเฉยคำถามจากกลุ่มผู้พิทักษ์และยื่นฝ่ามือออกไปคว้าวัตถุทรงรีในอากาศมาไว้ในมือ ท้ายที่สุดเขาก็เป็นคนสังหารรีเวิร์สตัวนี้ สิ่งที่ตกลงมาจากอสูรกายนอกประตูจักรวาลย่อมตกเป็นของของเขา

“ทุกคนช่วยรอก่อนได้ไหม มีอะไรพวกเราค่อยพูดคุยกันทีหลัง” เซี่ยเฟยกล่าวก่อนที่เขาจะนั่งลงทำการฝึกฝนท่ามกลางความตกตะลึงของกลุ่มผู้พิทักษ์

‘แปลกมาก! เมื่อกี้เขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรใช่ไหม? หรือว่านี่คือแรงสะท้อนกลับจากการที่เขาสังหารรีเวิร์ส?!’ แพนเดียนีคิดกับตัวเองภายในใจ เมื่อจู่ ๆ เซี่ยเฟยก็นั่งลงไปบนพื้นอย่างกะทันหัน

ทันใดนั้นแสงสีทองก็พุ่งเข้ามาจากระยะไกล ก่อนที่ผู้พิทักษ์คนหนึ่งจะรีบเข้ามากระซิบรายงานแพนเดียนีด้วยความตื่นตระหนก

“อะไรนะ?! ผู้นำสกายวิงทะลวงผ่านระดับกลายเป็นพระเจ้าไปแล้วงั้นเหรอ?” แพนเดียนีอุทานพร้อมกับร่างกายที่สั่นสะท้านด้วยความกลัว ขณะที่ผู้พิทักษ์คนอื่น ๆ ก็แสดงสีหน้าเหลือเชื่อออกมาด้วยเช่นกัน

“ใช่ครับ เซี่ยกู่เฉิงสามารถหยุดสงครามระหว่างสองเผ่าพันธุ์เอาไว้ได้ด้วยเงื่อนไขที่ไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้” ผู้พิทักษ์รายงานอย่างตื่นเต้น

“เขาเสนอเงื่อนไขอะไร?” แพนเดียนีถาม

“เขาขอเวลาเปิดเผยแผนการทั้งหมด 7 วัน ถ้าหากในช่วงเวลานี้ไม่มีสงครามเขาก็เต็มใจที่จะเปิดเผยความลับในเรื่องที่ทำให้เขาสามารถพัฒนาจนกลายเป็นพระเจ้า”

“หา!”

เหล่าบรรดาผู้พิทักษ์ต่างก็ส่งเสียงฮือฮาขึ้นมาอย่างตื่นเต้น เพราะการก้าวข้ามไปเป็นพระเจ้าไม่ได้เป็นเพียงความปรารถนาของจอมกฎในสองเผ่าพันธุ์เท่านั้น แต่มันยังเป็นเป้าหมายของผู้พิทักษ์อย่างเช่นพวกเขาด้วย

อีก 7 วันความลับของการเป็นพระเจ้าจะถูกเปิดเผย ข่าวนี้จึงเหมือนกับการโยนหินอุกกาบาตลงไปในทะเลสาบที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายไปทั่วทั้งจักรวาล

“สกายวิงจะน่าทึ่งมากเกินไปแล้ว! หลังจากนี้คงไม่มีใครสามารถมาขวางความยิ่งใหญ่ของพวกเขาได้อีกแล้ว” แพนเดียนีกล่าวขณะจ้องมองไปทางเซี่ยเฟย

ไม่ว่ากลุ่มผู้พิทักษ์จะประหลาดใจกับข่าวของบรรพบุรุษแค่ไหน แต่เซี่ยเฟยก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับกลุ่มคนเหล่านี้เลย เพราะหลังจากที่เขาใช้เนอร์วาน่าสังหารรีเวิร์ส มันก็ทำให้ทั้งตัวเขาและเนอร์วาน่าต่างก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาพร้อม ๆ กัน

ความรู้สึกนี้คล้ายกับความรู้สึกในตอนที่เขายังเด็กที่กระดูกและกล้ามเนื้อถูกยืดออกในทุกค่ำคืน แน่นอนว่ากระบวนการนี้ไม่ได้สร้างความเจ็บปวดให้กับร่างกาย เพียงแต่เซี่ยเฟยสัมผัสได้ว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นภายในร่างกายของเขา

“อย่ากังวล มันคือพลังวิญญาณ เแค่ค่อย ๆ สัมผัสกับมันไปก็พอ” ลินนิจอธิบายท่ามกลางความประหลาดใจ

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไร

หากลินนิจต้องการจะช่วยเซี่ยเฟยไขข้อสงสัย เขาย่อมอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างออกไปจนหมดแล้ว แต่เขาต้องการที่จะให้เซี่ยเฟยทำความเข้าใจพลังนี้ด้วยตัวเอง เขาจึงไม่อธิบายอะไรออกไปมากนัก

หลังจากเวลาผ่านพ้นไปไม่นานสีหน้าของเซี่ยเฟยก็ค่อย ๆ ผ่อนคลาย แม้แต่การหายใจก็กลับมาราบรื่นเหมือนช่วงเวลาปกติ

“ดีมาก! ดูเหมือนว่าเวลาที่นายจะเปิดโซล์มาร์คคงจะมาเร็วกว่าที่ฉันได้คาดการณ์ไว้” ลินนิจกล่าวพร้อมกับพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

“โซล์มาร์ค?” เซี่ยเฟยอุทานอย่างสงสัย

“โซล์มาร์คคือพื้นที่สำคัญในการเปิดใช้งานพลังวิญญาณเหมือนกับพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ที่ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซับพลังจักรวาล และทำให้นักรบสามารถแสดงพลังออกมาได้เหนือธรรมชาตินั่นแหละ” ลินนิจกล่าว

“คุณจะบอกว่าโซล์มาร์คคืออีกหนึ่งระบบพลังของนักรบงั้นเหรอ?” เซี่ยเฟยถาม

“ถูกต้อง ทุกสิ่งในจักรวาลต่างก็มีข้อดีข้อเสียเป็นของตัวเองเช่นเดียวกับการมีหลุมขาวและหลุมดำ การมีพื้นที่ปกติและช่องว่างมิติที่อยู่คนละด้านกัน สิ่งเหล่านี้จะสร้างสมดุลย์ให้แก่กันและกันจนกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าสมดุลย์แห่งจักรวาล”

“ชีวิตก็เหมือนกับจักรวาลที่มีด้านหนึ่งเป็นร่างกายและมีอีกด้านหนึ่งเป็นวิญญาณ แม้แต่คนธรรมดาที่ไม่อาจเปิดพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ขึ้นมาได้ก็อาจจะสามารถใช้พลังวิญญาณออกมาได้อย่างยิ่งใหญ่ด้วยเช่นเดียวกัน” ลินนิจกล่าว

“เรื่องนี้ผมเข้าใจ ผมมีเพื่อน ๆ มากมายบนดาวโลกที่ภายนอกพวกเขาดูธรรมดามาก แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาจะต้องทำงานของตัวเอง พวกเขาจะระเบิดพลังงานออกมาอย่างมหาศาล ที่แท้ความลับของเรื่องนี้มันก็เป็นความลับในเรื่องที่เกี่ยวกับวิญญาณนี่เอง” เซี่ยเฟยกล่าว

“นายนี่ทำความเข้าใจได้เร็วจริง ๆ อย่างที่ฉันได้อธิบายเอาไว้ในตอนแรกว่าชีวิตประกอบไปด้วยร่างกายและวิญญาณ พื้นที่สมองส่วนที่ 7 เปรียบเสมือนกุญแจที่ช่วยปลดล็อกพลังงานในร่างกาย ขณะที่โซล์มาร์คเป็นกุญแจอีกดอกที่ช่วยปลดล็อกพลังทางวิญญาณ” 

“เมื่อไหร่ก็ตามที่นายสามารถเปิดโซล์มาร์คออกมาได้สำเร็จ ทุกสิ่งที่นายเห็นมันก็จะแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ไม่ต่างไปจากการที่นายสามารถปลดล็อกพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ได้ในครั้งแรกเลย” ลินนิจกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เซี่ยเฟยทำความเข้าใจเรื่องนี้ได้ไม่มากนักแต่มันก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะสิ่งที่เขาให้ความสำคัญมีเพียงเรื่องเดียวนั่นก็คือตราบใดก็ตามที่พลังวิญญาณสามารถทำให้เขาแข็งแกร่งได้แค่นั้นมันก็เพียงพอสำหรับเขาแล้ว

เมื่อเขาพัฒนาพลังเพิ่มมากขึ้นเขาก็รู้สึกว่าร่างกายของตัวเองใกล้ที่จะพัฒนามาจนถึงขีดจำกัดแล้ว การค้นพบพลังวิญญาณก็เหมือนกับการที่เขาได้ค้นพบเส้นทางใหม่ที่มันจะนำทางเขาไปยังโลกใบใหม่ที่แตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

สิ่งที่เนอร์วาน่าดูดกลืนมาจากรีเวิร์สไม่ใช่พลังงานตามปกติ แต่เป็นทั้งพลังจักรวาลและพลังวิญญาณในเวลาเดียวกัน จึงทำให้เซี่ยเฟยสามารถสัมผัสกับพลังวิญญาณได้ในที่สุด

“จำเอาไว้ว่านักรบที่แท้จริงไม่เพียงแต่จะต้องมีร่างกายอันแข็งแกร่งเท่านั้น แต่จะต้องมีพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งด้วย” ลินนิจกล่าวอย่างเคร่งขรึมและเขาก็ค่อนข้างพอใจกับการทำความเข้าใจพลังวิญญาณของเซี่ยเฟย

“ดูนั่น! เซี่ยเฟยกำลังเลื่อน 2 ระดับ!!” ผู้พิทักษ์เกราะทองชี้นิ้วไปยังเซี่ยเฟยพร้อมกับอุทานขึ้นมาเสียงดัง

การเลื่อนระดับพลังมักจะมาพร้อมกับการส่องแสงสว่างอย่างเปล่งประกายอยู่เสมอ แสงสว่างส่งออกมาจากร่างของชายหนุ่ม 2 ครั้งสั้น ๆ ก่อนที่มันจะดับลงกลับสู่สภาวะปกติ

ปรากฏการณ์นี้คือเครื่องพิสูจน์อย่างดีว่าเซี่ยเฟยสามารถเลื่อนระดับถึง 2 ระดับได้ในพริบตา จากราชันย์ขั้นที่ 3 กลายเป็นราชันย์ขั้นที่ 5 เรียบร้อยแล้ว

เหตุการณ์นี้ทำให้เหล่าบรรดาผู้พิทักษ์พูดไม่ออกอย่างแท้จริง เพราะตอนแรกชายหนุ่มก็เริ่มจากการสังหารรีเวิร์สด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว จากนั้นผู้นำตระกูลของเซี่ยเฟยก็ประกาศศักดาว่าตัวเองพัฒนากลายเป็นพระเจ้าเทียบชั้นได้กับผู้สร้างดินแดนกฎทั้ง 13 คน ต่อมาเซี่ยเฟยก็เลื่อนพลังถึงสองระดับต่อหน้าทุกคนจนทำให้กลุ่มผู้พิทักษ์แทบที่จะลืมหายใจ

“สัตว์ประหลาด! สกายวิงเป็นตระกูลของสัตว์ประหลาดแน่ ๆ”

“หากในตระกูลของพวกเขามีแต่สัตว์ประหลาดแบบนี้แล้วใครจะไปท้าทายพวกเขาได้ ไม่เพียงแต่ผู้นำของพวกเขาจะกลายเป็นพระเจ้า แม้แต่สมาชิกภายในตระกูลก็ยังพัฒนาด้วยความเร็วที่บ้ามาก”

“ฉันว่าอีกไม่นานสกายวิงจะต้องต่อต้านดินแดนกฎทั้งหมดได้ด้วยตัวคนเดียวแน่ ๆ”

“เราคงไม่ต้องรอนานนักหรอก ฉันได้ยินมาว่าเป้าหมายของสกายวิงในครั้งนี้คือการเผชิญหน้ากับ 13 ผู้สร้าง”

“อะไรนะ?! สกายวิงต้องการที่จะท้าทายผู้สร้างงั้นเหรอ?”

“มันไม่มีเรื่องอะไรที่พวกเขาทำไม่ได้หรอกต่อให้พวกเขาท้าทายผู้สร้างจริง ๆ แต่ฉันก็ไม่รู้สึกแปลกใจอะไรเลย”

เหล่าผู้พิทักษ์ต่างก็เริ่มซุบซิบพูดคุยกันอย่างตกใจ ซึ่งโดยรวมแล้วพวกเขาก็มีความชื่นชมสกายวิงและปรารถนาที่จะสร้างความสัมพันธ์กับสกายวิงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

หากเมื่อก่อนจักรวาลนี้มี 5 กองกำลังหลักที่ประกอบไปด้วยเผ่าเทพ, เผ่ามาร, กลุ่มผู้พิทักษ์, กลุ่มกบฏและแดนเนรเทศ ตอนนี้กองกำลังของจักรวาลก็คงจะต้องเพิ่มขึ้นเป็น 6 กองกำลังและกองกำลังนั้นก็คือตระกูลสกายวิงที่มีสมาชิกเพียงแค่ 50,000 คน!

“ขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้ทุกคนต้องรอ” ในที่สุดเซี่ยเฟยก็ลุกยืนขึ้นพร้อมกับหันไปคุยกับแพนเดียนีอย่างรู้สึกผิด

“ไม่เป็นไรเลย ถ้าหากวันนี้น้องชายเซี่ยเฟยไม่ได้ลงมือจัดการกับอสูรกาย พวกเราก็คงประสบกับปัญหาอย่างมากมายกว่าจะจัดการกับมันได้สำเร็จ พวกเรารีบกลับไปที่ค่ายแล้วเฉลิมฉลองกับชัยชนะในวันนี้กันเถอะ” แพนเดียนีกล่าวพร้อมกับกอดไหล่เซี่ยเฟยอย่างสนิทสนม

ชายหนุ่มพยักหน้ารับขณะนำวัตถุทรงไข่ออกมาถือไว้อย่างสับสน แต่หลังจากที่เขาได้ลองเปิดมันออกตามคำแนะนำของลินนิจ มันก็ทำให้เขาต้องตกใจเมื่อได้เห็นสิ่งที่บรรจุอยู่ภายในนั้น

***************

อะไร? คริสตัลต้นกำเนิดระดับ 9?

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.