ตอนที่ 993 ผลที่ตามมาของการละเมิดกฎ
ตอนที่ 993 ผลที่ตามมาของการละเมิดกฎ
โกรธ!
เจ็บปวด!
สิ้นหวัง!
นี่คือคำสามคำที่ใช้ในการจำกัดความฟิวรี่ในตอนนี้ได้ดีที่สุด!!
การบุกโจมตีของสกายวิงเพียงแค่ครั้งเดียวทำให้บริษัทเทคโนโลยีอันดับ 1 ในจักรวาลถูกกวาดล้างจนแบนราบเป็นหน้ากลอง
ฟิวรี่มองภาพตรงหน้าอย่างสิ้นหวัง ก่อนที่เขาจะทรุดตัวลงไปกระอักเลือดด้วยใบหน้าอันซีดเผือด
“ฝีมือสกายวิงงั้นเหรอ?” เงาดำเงาหนึ่งปรากฏตัวขึ้นอย่างเงียบ ๆ ขณะมองไปยังบริษัทฟิกส์ที่ถูกทำลาย
“สกายวิงทั้งทำลายบริษัทฟิกส์และทำลายพลังของฉัน สักวันพวกมันจะต้องชดใช้!” ฟิวรี่ร้องคำรามด้วยความโกรธ
ผู้มาใหม่ยังคงมีสีหน้าอันเรียบเฉยคล้ายกับว่าเขาเป็นภูเขาน้ำแข็งพันปีที่ให้ความรู้สึกเยือกเย็นอยู่ตลอดเวลา
“เรื่องแรกบริษัทฟิกส์ไม่ได้เป็นของนาย และเรื่องที่ 2 สกายวิงไม่เพียงแต่จะทำลายบริษัทฟิกส์เท่านั้น แต่ตระกูลของนายก็ถูกทำลายล้างลงไปด้วย”
เมื่อได้ยินคำอธิบายจากผู้มาใหม่ฟิวรี่ก็กระอักเลือดออกมาอีกคำ ความรู้สึกอันโกรธแค้นภายในใจแทบที่จะทำให้เขาเป็นบ้า แต่ด้วยพลังในปัจจุบันมันก็ทำให้เขาไม่สามารถจะทำอะไรได้
—
“ฮัวไป๋ ฮัวเฮย พวกนายพอจะมีแผนการอะไรในอนาคตบ้างแล้วหรือยัง?” เซี่ยกู่เฉิงถามอย่างจริงจัง
“เมื่อผู้อาวุโสปลอดภัยแล้วพวกเราย่อมกลับไปยังที่ที่พวกเราจากมา” เทพขาวตอบ
“พวกนายมีความคิดเห็นยังไงกับฉันที่เป็นผู้นำสกายวิงกับพวกเครนที่เป็นผู้นำกลุ่มกบฏ?” เซี่ยกู่เฉิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เราจะเอาผู้อาวุโสไปเปรียบเทียบกับผู้นำกลุ่มกบฏได้ยังไง ในแง่ของพลังผู้อาวุโสย่อมจัดการกับผู้นำกลุ่มกบฏทั้งสามคนได้อย่างง่ายดาย ในฐานะของผู้นำตระกูลผู้อาวุโสก็เป็นผู้นำตระกูลในอุดมคติของนักรบทุกคน คุณเป็นตัวตนที่ได้รับความเคารพจากทุกหนทุกแห่ง มันจึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถจะนำไปเปรียบเทียบกันได้เลย” เทพดำกล่าวอย่างร้อนรน
“คนพวกนั้นให้ความเคารพหรือกลัวว่าบรรพบุรุษจะฆ่าพวกเขากันแน่?” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาอย่างกะทันหันเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้ในทันที
ท้ายที่สุดเซี่ยกู่เฉิงก็เป็นตัวตนผู้ทรงอำนาจและความเคารพส่วนใหญ่ในดินแดนกฎก็เกิดขึ้นมาจากความกลัวเป็นพื้นฐาน มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่บุคคลทั่วทั้งดินแดนกฎจะทั้งรู้สึกกลัวและให้ความเคารพเซี่ยกู่เฉิงในเวลาเดียวกัน
“ถึงแม้ว่าบรรพบุรุษจะโหดเหี้ยมในสายตาของคนอื่น แต่เขาคือฮีโร่สำหรับตระกูลของเรา แม้สกายวิงจะไม่ใช่ตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนกฎ แต่พวกเราเป็นตระกูลที่มีอิสระและมีความสามัคคีกันมากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งสาเหตุที่สกายวิงเป็นอย่างทุกวันนี้ได้นั่นก็เพราะบรรพบุรุษของพวกเรา” เซี่ยเฟยกล่าวต่อหลังจากรอให้ทุกคนเงียบเสียงลง
“ไอ้หนูอย่ามาเยินยอฉันนักเลย ฉันไม่ชอบให้ใครมาเลียแข้งเลียขาตัวเองหรอกนะ โดยสรุปก็คือถ้าพวกนายสองพี่น้องไม่อยากจะอยู่ในกลุ่มกบฏต่อก็มาอยู่กับฉันสิ ฉันสัญญาว่าฉันจะปฏิบัติต่อพวกนายไม่ต่างไปจากสิ่งที่ฉันทำกับพวกเซี่ยเฟย” เซี่ยกู่เฉิงกล่าวด้วยรอยยิ้มขณะตบไหล่เซี่ยเฟยเบา ๆ
ใบหน้าของเทพขาวและเทพดำเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน และถึงแม้ว่ามันจะฟังดูเป็นประโยคไม่สำคัญ แต่ความจริงแล้วเซี่ยกู่เฉิงกำลังให้คำมั่นสัญญาว่าชายชราคนนี้จะปฏิบัติต่อพี่น้องทั้งสองในฐานะสมาชิกของตระกูล
เทพดำเริ่มเกิดความลังเลขึ้นมาเล็กน้อย เพราะในตอนนี้เซี่ยกู่เฉิงได้พัฒนาจนกลายเป็นพระเจ้าแล้ว ไม่ว่าจะมองยังไงการอยู่กับสกายวิงย่อมดูมีอนาคตมากกว่าการอยู่กับกลุ่มกบฏ ยิ่งไปกว่านั้นตระกูลฮัวกับสกายวิงยังมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาโดยตลอด
“พวกเราสองพี่น้องเคยอยู่กลุ่มกบฏมาก่อน เราเกรงว่าหากเราไปอยู่กับผู้อาวุโสมันจะทำให้สกายวิงมีปัญหาในอนาคต” เทพขาวกล่าว
“ปัญหาอะไร? สกายวิงก็เจอกับปัญหามาตลอดนั่นแหละ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราก็กำลังจะแยกตัวออกจากดินแดนกฎแล้ว พวกมันอยากจะคิดอะไรก็ปล่อยพวกมันไปสิ” เซี่ยกู่เฉิงกล่าว
“สกายวิงคิดจะแยกตัวออกจากดินแดนกฎจริง ๆ เหรอ?!” เทพดำอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ
“ใช่ พวกเราแค่อยู่ฝั่งเดียวกับเผ่าเทพแต่ไม่ได้ขายวิญญาณให้กับพวกมัน ตอนนี้ฉันรู้ถึงเรื่องสกปรกเบื้องหลังดินแดนกฎแล้วเราก็ไม่จำเป็นจะต้องอยู่ร่วมกับพวกมันอีกต่อไป” เซี่ยกู่เฉิงกล่าวก่อนที่จะหันศีรษะไปถามทางเซี่ยเฟย
“พวกนายจัดการเรื่องอพยพแล้วใช่ไหม?”
“เกือบจะเสร็จแล้วครับ ตอนนี้เหลือแค่กลุ่มของผู้อาวุโสเซี่ยเค่อที่นำกำลังพลไปทำลายบริษัทฟิกส์ ส่วนคนที่เหลือก็ไปรวมตัวกันที่จุดหมายปลายทางเรียบร้อยแล้วครับ” เซี่ยเฟยกว่าพร้อมกับพยักหน้า
“ทำลายบริษัทฟิกส์!? นั่นแผนของนายเหรอ?” เซี่ยกู่เฉิงอุทานด้วยความประหลาดใจ
“ในเมื่อฟิวรี่กล้าคิดร้ายกับคุณ เราก็ต้องทำลายรากฐานของมันให้หมด ไม่อย่างนั้นคนอื่นอาจจะคิดว่าสกายวิงยอมปล่อยให้ศัตรูลอยนวล” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างดุเดือด
“การทำลายศัตรูมันไม่ใช่สิ่งที่ผิดปกติอะไรหรอก แต่เบื้องหลังของบริษัทฟิกส์มันไม่ใช่ฟิวรี่” เซี่ยกู่เฉิงกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
—
ณ ดาวเคราะห์สีแดงซึ่งเป็นสถานที่รวมตัวของสกายวิงที่เซี่ยกู่เฉิงได้กำหนดไว้
เซี่ยกู่เฉิงประเมินเซี่ยเค่อเอาไว้ต่ำเกินไป เพราะในระหว่างที่สกายวิงกำลังทำลายบริษัทฟิกส์ มันก็เกิดการแทรกแซงจากกองกำลังลึกลับ แต่ท้ายที่สุดไม่ว่าจะเป็นบริษัทหรือกองกำลังลับต่างก็ถูกทำลายด้วยฝูงหมาป่า
“จอมเทพ? การลงมือในครั้งนี้คงจะยากลำบากมากเลยสินะ” เซี่ยกู่เฉิงกล่าวหลังจากที่ได้เห็นจอมเทพที่ถูกพันธนาการอยู่บนพื้น
“ตอนที่ทุกคนได้ยินว่าคุณกำลังตกอยู่ในอันตราย ความโกรธมันก็ช่วยทวีความแข็งแกร่งของทุกคนเป็นสองเท่า ถึงแม้จู่ ๆ คนพวกนี้จะปรากฏตัวขึ้นมา แต่พวกมันก็ถูกพวกเราจัดการจนหมด” เซี่ยกวงไห่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เหตุการณ์จริงมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอกครับ การต่อสู้ในครั้งนี้ค่อนข้างยากและพี่น้องในตระกูลหลายคนก็ได้รับบาดเจ็บ” เซี่ยเค่อแก้ข่าวแทนเซี่ยกวงไห่ที่พูดโม้เกินไปหน่อย
“ไม่ว่าจะยังไงขอแค่ทุกคนกลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีมากแล้ว บริษัทฟิกส์เป็นหน่วยงานของ 1 ใน 13 ผู้สร้าง การที่เขาไม่ปรากฏตัวขึ้นมาแม้ว่าบริษัทจะถูกทำลาย มันก็เป็นเหตุการณ์ที่ค่อนข้างแปลกมากจริง ๆ” เซี่ยกู่เฉิงกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“มันเป็นเพราะเซี่ยเฟยไปขโมยสถานีวิจัยลับของบริษัทฟิกส์ไปหรือเปล่า? ผู้สร้างคนนั้นเลยไม่ค่อยใส่ใจกับบริษัทฟิกส์เหมือนเดิมแล้ว” เซี่ยกวงไห่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
ทันทีที่เซี่ยกวงไห่พูดจบลงทุกคนต่างก็ส่งเสียงหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน เพราะในตอนที่พวกเขาได้ยินว่าเซี่ยเฟยแอบขโมยสถานีวิจัยลับมา ตอนนั้นมันก็ทำให้ทุกคนรู้สึกตกตะลึงอย่างแท้จริง
“ความจริงแล้วพวกเราก็ได้เรียนรู้ทักษะในการขโมยสิ่งของมาจากศัตรู ทำให้พวกเราปล้นสมบัติจากบริษัทฟิกส์มาได้เยอะมาก สมแล้วที่บริษัทนี้เป็นบริษัทเทคโนโลยีอันดับ 1 ของจักรวาล เพราะสมบัติที่เราได้รับมามันก็มากพอที่จะทำให้เราอยู่เฉย ๆ ได้นานกว่า 100 ปี”
หลังจากพูดจบเซี่ยกวงไห่กับเซี่ยเค่อก็มอบถุงใส่แหวนมิติขนาดใหญ่ให้กับบรรพบุรุษ โดยสิ่งของที่ถูกบรรจุภายในถุงคือสินสงครามทั้งหมดที่พวกเขาได้ขโมยมา ตั้งแต่อาวุธ, ชุดเกราะ, คริสตัลต้นกำเนิดหรือแม้กระทั่งยานรบ
ในอีกด้านหนึ่งพวกเซี่ยเหลียงก็มอบถุงใส่แหวนมิติขนาดใหญ่ให้กับบรรพบุรุษด้วยเหมือนกัน โดยสิ่งของเหล่านี้เป็นสิ่งที่พวกเขาปล้นมาจากปฏิบัติการภายในภูเขาคิ้วแดง ยิ่งไปกว่านั้นจำนวนของแหวนมิติก็แทบที่จะทะลักออกมาจากถุง
“เยอะขนาดนี้เลยเหรอ!? เอาล่ะถึงยังไงพวกเราก็กำลังจะแยกตัวออกไปจากดินแดนกฎอยู่แล้ว ของพวกนี้ถือซะว่าเป็นของขวัญจากลาสำหรับพวกเราก็แล้วกัน” เซี่ยกู่เฉิงกล่าวด้วยแววตาอันเป็นประกาย
นิสัยของเซี่ยเฟยส่งผลกระทบต่อสกายวิงโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้เมื่อไหร่ก็ตามที่มีสงครามฝูงหมาป่าไม่เพียงแต่จะทำการสังหารศัตรูเท่านั้น แต่พวกเขายังจะเก็บเกี่ยวสินสงครามกลับมาในระหว่างการต่อสู้อีกด้วย
ท้ายที่สุดนักรบสกายวิงทุกคนต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นนักรบความเร็วสูง การฉกฉวยของมีค่าในระหว่างการสู้รบจึงไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับการต่อสู้มากนัก
“ทุกคนยกเว้นเซี่ยเฟยช่วยออกไปก่อน” เซี่ยกู่เฉิงกล่าวหลังจากสนทนากับทุกคนอยู่สักพัก
ฝูงหมาป่าถอยกลับไปแต่โดยดีเหลือเพียงเซี่ยกู่เฉิง, เซี่ยเฟยและจอมเทพที่ถูกล่ามโซ่ที่ทำขึ้นมาจากหินพิฆาตมังกร ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำหรับการปิดกั้นพลังโดยเฉพาะ
“นายคือจอมเทพขั้นที่ 3 จีอันใช่ไหม? ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะว่านายขายวิญญาณให้กับพวกผู้สร้างไปแล้ว” เซี่ยกู่เฉิงกล่าว
“อย่าทำมาเป็นพูดดีหน่อยเลย ตอนนี้แกได้ละเมิดข้อห้ามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของดินแดนกฎไปแล้ว ดังนั้นแกไม่มีสิทธิ์มาวิพากษ์วิจารณ์ฉัน” จีอันจ้องมองไปยังเซี่ยกู่เฉิงอย่างดุเดือด
“ฉันแค่เลือกเดินตามทางของตัวเอง แล้วฉันทำอะไรผิดตรงไหน” เซี่ยกู่เฉิงกล่าว
“คอยดูเถอะ ความผิดนี้มันจะไม่ได้จบที่แกคนเดียวเท่านั้น แต่สกายวิงทั้งตระกูลต้องชดใช้ อีกไม่นานตระกูลของแกจะถูกทำลาย ฉันอยากจะเห็นจริง ๆ ว่าตอนนั้นสีหน้าของแกมันจะเจ็บปวดขนาดไหนกันแน่!” จีอันกล่าวอย่างเยาะเย้ย
เซี่ยเฟยที่อยู่บริเวณด้านข้างรู้สึกประหลาดใจมาก เพราะในตอนแรกจีอันถูกเซี่ยกวงไห่ทรมานจนแทบจะตายไปครึ่งหนึ่งอยู่แล้ว แต่หลังจากที่บรรพบุรุษได้ปรากฏตัว จู่ ๆ นักโทษคนนี้กลับมีแรงขึ้นมาใหม่ซะอย่างงั้น
“รู้เรื่องอะไรพูดออกมาซะ ไม่อย่างนั้นวันนี้ฉันจะฆ่าแก!” เซี่ยกู่เฉิงกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ถึงแม้พลังของฉันจะสู้แกไม่ได้ แต่แกอย่าลืมว่าฉันก็เป็นอมตะเหมือนกับแกด้วย ถึงแม้แกจะทำลายร่างกายนี้ลงไป แต่ฉันก็สามารถไปเกิดใหม่ได้ตลอดเวลา” จีอันกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ
ทันทีที่เขาพูดจบเนอร์วาน่าก็เคลื่อนไหวราวกับสายฟ้าตัดแขนซ้ายของจีอันออกมาจากร่างกาย
พลังงานภายในร่างของจีอันถูกดูดออกไปในทันที จนทำให้ชายคนนี้รู้สึกราวกับว่าวิญญาณบางส่วนของเขาได้ถูกตัดขาดออกไปอย่างถาวร
นี่คือพลังของดาบกลืนวิญญาณ!
ภายใต้คมดาบเล่มนี้ไม่มีใครสามารถกลับไปเกิดใหม่ได้ทั้งนั้น!!
จีอันขดตัวลงด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าอันบิดเบี้ยวของเขาจับจ้องมองไปยังเนอร์วาน่าอย่างหวาดกลัว ทั่วทั้งร่างของเขากำลังสั่นขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะการโจมตีครั้งนี้ทำให้เขารู้สึกว่าเขาไม่อาจกลับไปเกิดใหม่ที่เมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตได้อีกแล้ว
“ตอนนี้ยังจะกล้าปากดีอยู่อีกไหม?” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างเย็นชา
“เซี่ยกู่เฉิง! แกไม่รู้ตัวเลยสินะว่าการที่แกเลื่อนระดับกลายเป็นพระเจ้าเป็นการทำลายสมดุลจักรวาล มันจะทำให้อสูรกายนอกประตูจักรวาลบุกทำลายพวกเราทั้งหมด!!” จู่ ๆ จีอันที่ควรจะจำนนก็ตะโกนใส่เซี่ยกู่เฉิงอย่างดุเดือด
***************
การเลื่อนระดับมันเกี่ยวอะไรกับพวกรีเวิร์สด้วย?
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 296
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น