บทที่ 182 ลูกรัก!!
"แค่กๆๆๆ" เสียงไอสำลักของพ่อผมที่โดนป้อนน้ำแกงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว พร้อมกับคิ้วเข้มของผมที่ขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย
พ่อที่เห็นหน้าผมเป็นแบบนั้น ก็ได้รีบไขข้อข้องใจของผมทันที
“เอ๊า...ก็แม่หนูที่ช่วยแม่เขาไว้ไง เห็นแม่เขาคุยว่าหน้าตาน่ารัก สวย เก่ง กล้า ถูกใจแม่เขามากเชียวแหละ” พ่อผมที่เพิ่งโดนช้อนยัดปากไปเมื่อครู่ดูจะยังไม่เข็ด โพล่งออกมาอีกประโยค
แม่ผมที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจพ่อผมสักเท่าไรที่พูดออกมาแบบนั้น ถึงกับคำรามลั่นจนพ่อผมถึงกับหน้าเจื่อน
“เซบาสเตียน วัน...นี้...นอน...ห้อง...รับ...แขก!!!” แม่ผมที่เหมือนกับว่าอยากจะค่อย ๆ ตะล่อมผมเพื่อให้คล้อยตามเขา แต่กลับโดนพ่อดักทุกแผนการเลยทำให้แม่ของผมหงุดหงิดที่ถูกจับไต๋ได้
“โธ่...เมียจ๋า ปล่อยลูกมันไปเถอะ ชีวิตของมัน มันเลือกใคร เราเป็นพ่อเป็นแม่ก็ควรสนับสนุนไม่ใช่หรอ” พ่อผมที่พูดอธิบาย ก่อนที่จะหันมาขยิบตาให้ผมเล็กน้อย
และการกระทำเพียงแค่นี้ของพ่อผม มันก็ทำให้ผมโคตรตื้นตันใจ พ่อที่เข้าใจและอยู่ข้างผมมาโดยตลอด แค่นี้แหละที่ผมอยากจะได้จากครอบครัว...
สิ้นเสียงของพ่อที่บอกในสิ่งที่ท่านคิดกับแม่ไป ก็ถึงกับทำให้แม่หยุดชะงักไตร่ตรองขึ้นมาทันที
“แต่ว่า...” แม่ผมที่เหมือนจะยังอึดอัดใจ
ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้ว่าแม่ลำบากใจ ท่านเองก็ไม่เคยบังคับผมได้ แต่ผมก็รู้ดีว่าท่านอยากจะให้ผมมีคู่ชีวิตที่ดี ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันได้ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหน ให้เหมือนกับท่านทั้งสองที่อยู่เคียงข้างกันมา เพราะมีหรือที่ท่านจะไม่รู้ว่าผู้หญิงที่จะมายืนแทนที่ตำแหน่งของท่านนั้น จะต้องลำบากมากขนาดไหน
ใครที่คิดว่าตำแหน่งนายหญิงของตระกูลธิพัฒน์เดชะไพศาลจะสุขสบายนั่งสวย ๆ บนกองเงินกองทอง ความจริงแล้วมันไม่ใช่เลย มันมาด้วยภาระหน้าที่หลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่เมีย ที่ต้องยืนหยัดให้ได้ยามเมื่อผัวตกอยู่ในอันตราย และสามารถสั่งการตั้งรับมือกับศัตรูที่จะมาลอบกัดเวลาที่ผู้นำกำลังรักษาตัวอยู่ให้ได้ ไหนจะบทบาทความเป็นแม่ที่ต้องคอยอบรมสั่งสอนให้ลูกหลานอยู่ความดีมีคุณธรรม และยอมรับกฎที่สืบทอดเป็นมรดกตกทอดของตระกูลอีก ถ้าผู้หญิงที่จะมาเป็นนายหญิงไม่มีความอดทน เก่ง กล้า สามารถ โดยเฉพาะความซื่อสัตย์ต่อสามี ถ้าผู้หญิงที่จะมายืนอยู่ตำแหน่งนี้ไม่มี สุดท้ายแล้วคนที่จะได้รับอันตรายมากที่สุด ก็คือผู้สืบทอดหรือลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอเอง...
“เอาน่า...ลูกเราไม่ใช่คนโง่นะเธียร่ามันต้องมีอะไรบางอย่างในตัวผู้หญิงคนนั้นที่ทำให้ลูกเรามั่นใจแล้วเลือกมาเป็นคู่ชีวิตนะ” พ่อผมที่กุมมือแม่ของผมเอาไว้แน่น เพื่อให้แม่ผมได้มั่นใจในตัวผมมากยิ่งขึ้น
“เฮ้ออออ ~~ ช่วยพูดกันขนาดนี้ฉันจะไปพูดอะไรได้ล่ะค่ะ เซฟก็รู้นะว่าแม่หวังดีกับลูก ตำแหน่งนี้ถ้าไม่มั่นคงต่อกันจริง ๆ มันมีหลายอย่างให้มาสั่นคลอนได้นะลูก” แม่มองมาที่ผมด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความหวังดีจนผมเองก็รู้สึกได้ถึงมัน
“ถ้างั้น มีโอกาสก็พามาให้พ่อกับแม่ได้รู้จักบ้างสิ เพราะที่ผ่านมาแม่ก็ให้เกียรติลูกโดยการไม่สืบประวัติแม่ผู้หญิงคนนั้น เพราะแม่เองก็อยากจะให้ลูกมาบอกกับแม่ด้วยตัวของลูกเองนะ” แม่ผมที่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง พร้อมกับผมที่รู้สึกทึ่งที่ได้รู้ความจริงในข้อนี้
เพราะจริงอยู่ที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาที่เราสองคนอยู่ด้วยกัน แม้ว่าส่วนมากเอลิซเธอจะอยู่บนเพนท์เฮ้าส์ของผมเสียส่วนใหญ่ แทบจะไม่ได้ออกไปไหนเลย แถมผมยังคอยกำชับลูกน้องของผมทุกคนไม่ให้ใครให้ข้อมูลหรือรูปภาพของเอลิซให้หลุดรอดออกไปได้ นั่นก็เพราะว่าะเพื่อความปลอดภัยของเธอเอง แต่ทั้งหมดผมรู้ดีว่ามันไม่เกินความสามารถของแม่ผมหรอกถ้าท่านจะต้องการสืบประวัติเอลิซ
ผมที่ได้ยินสิ่งที่แม่ของผมบอก สิ่งเหล่านั้นกลับยิ่งทำให้ผมยิ่งรู้สึกรักและเคารพท่านมากขึ้นไปอีก ผมรู้สึกขอบคุณที่ลึก ๆ แล้วท่านยังคงให้พื้นที่และเอ็นดูเราสองคน ให้ได้ใช้ชีวิตศึกษาดูใจกันโดยที่ท่านไม่ได้เข้ามาแทรกแซง
“ครับ...” เสียงสั่นเครือเล็กน้อยของผมตอบผู้เป็นมารดากลับไป พร้อมกับพยายามกลั้นน้ำตาที่เอ่อคลอ ดวงตาสีเทาเข้มเอาไว้ไม่ให้มันไหลออกมาประจานความอ่อนไหวของตัวเอง
ในขณะที่ผมกำลังซึ้งคำพูดของแม่ผมอยู่นั้น ~~
“แต่ว่า...” เสียงทรงพลังของปีศาจตัวแม่ดังก้องขึ้นมาอีกครั้ง จนผมเสียวสันหลังวาบ
เฮือก ~~ / เฮือก ~~
เสียงกลืนน้ำลายด้วยความรู้สึกหวั่น ๆ ที่ดังขึ้นมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายของทั้งตัวผมและพ่อของผม นั่นก็เพราะพวกเราต่างรู้ดีว่าถ้าแม่ลองใช้น้ำเสียงแบบนี้แล้ว ไม่มีใครที่จะสามารถขัดบัญชาของท่านได้
ผมที่ตั้งใจฟังด้วยหัวใจที่เต้นระรัว...
“แต่ว่า...ถ้าผู้หญิงคนนั้นของแกขาดแม้แต่คุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่งที่ฉันเห็นว่าไม่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้แล้วละก็...เซบาสเธีย แกต้องพิจารณาคนที่แม่เลือกเอาไว้ให้...เข้าใจไหม” เสียงที่เหมือนฟาดลงมาที่กลางใจของผม
“แต่แม่ครับ...!!” ผมยืนกรานเตรียมจะขัด
“ไม่มีแต่...จ้ะ...ลูกรัก...!!”
เฮือก ~~
ลูกกระเดือกผมกระเพื่อมทันทีที่ได้ยินคำว่าลูกรักจากแม่ เพราะนั้นเป็นคำพูดที่ดูอำมหิตที่สุดแล้วในการตัดบทสนทนาของท่าน
แม้กระทั่งพ่อผมเองที่เหมือนจะมองมาที่ผมกลาย ๆ พร้อมกับส่งสายตาเป็นเชิงบอกว่า ให้ผมหยุดเถียงแม่เอาไว้ก่อน
“เฮ้อออ ~~ ผมอิ่มแล้วครับ ขอตัวก่อนนะครับ” ผมที่กินอะไรไม่ลงแล้ว ก็ได้ลุกขึ้นยืนก่อนจะโค้งหัวเล็กน้อยให้กับพ่อแม่ แล้วรีบสาวเท้าเดินออกไป
“ไอ้เซฟ....~~” เสียงเรียกจากพ่อของผมที่ลอยตามหลังมา แต่ทว่า... ณ เวลานี้ผมเองก็ไม่พร้อมจริง ๆ ที่จะหยุดเพื่อฟังพวกท่านพูดอะไรอีก
“ปล่อยเขาไปค่ะป๋า เธียร่าไม่ได้ปิดช่องทางในการพิสูจน์ตัวของแม่ผู้หญิงคนนั้นของลูกมันเลยนะคะ เพราะถ้าลูกของเราเขามีสมองมากพอ เขาก็จะเข้าใจ และทำให้ผู้หญิงของเขาเพียบพร้อมเอง แต่ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้รักลูกเราจริง หรือมาเพื่อหวังปอกลอกเท่านั้นแล้วละก็ ไม่นานเดี๋ยวหางมันก็โผล่ออกมาเองแหละค่ะ” ท่านหญิงเธียร่าแม่แท้ ๆ ของเซบาสเธียเอ่ยเสียงเรียบพร้อมกับนั่งกินอาหารต่อโดยที่ไม่มีแม้แต่อาการสะทกสะท้านต่อการกระทำของลูกชายที่เดินอึมครึมออกไปแต่อย่างใด
ตรงกันข้าม เธอกลับมีท่าทีที่สงบ นิ่ง เพราะทุกอย่างที่เธอทำลงไป เธอเองก็คิดไตร่ตรองมาดีแล้วเช่นกัน ในเมื่อรักกันก็ต้องพิสูจน์ว่าพร้อมจะเคียงข้างกันตลอดไป...ไม่ใช่หรอ
และความเด็ดขาดของเธอในข้อนี้ ก็เป็นข้อสำคัญในหลาย ๆ ข้อที่ทำให้ท่านผู้นำตระกูลธิพัฒน์เดชะไพศาลอย่างเซบาสเตียนหลงรัก และคิดไม่ผิดจริง ๆ ที่เลือกเธอมาเป็นเมียของเขาและแม่ของลูก
จุ๊บ ~~
ท่านผู้นำเซบาสเตียน ลุกขึ้นมาจูบไปที่หน้าผากนวลเบา ๆ ของเธียร่าเมียอันเป็นที่รักของเขา ด้วยความรู้สึกรักและชื่นชมจากใจจนไม่สามารถจะสรรหาคำพูดมาบรรยายได้
ก่อนที่ตาเฒ่า (เฒ่าแค่เพราะเมียเรียกเล่น ๆ) จะโชว์พลังที่ยังแข็งแกร่งอยู่ ช้อนอุ้มเมียคนสวยของตัวเองในท่าเจ้าสาว แล้วพากันขึ้นไปยังห้องพัก ก่อนจะจัดการบอกรักกันจนถึงเช้า...
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 63
แสดงความคิดเห็น