บทที่ 167 ตรงไหนก็ได้'ไม่ติด'

หมับ!!

 

เรียวแขนบางก็ถูกฉุดดึงลงมาจนร่างบางเสียหลักเซทาบทับลงไปบนตัวของเขา

 

เขาที่เหมือนกับรู้สถานการณ์ดี ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเพราะตัวเองได้ตั้งใจเอาไว้แล้ว ถึงกับเตรียมตัวเอนลงนอนรอรับร่างนุ่มนิ่มที่ถาโถมเข้าใส่

 

“ว๊ายยย...” ฉันที่ยังไม่ทันได้ตั้งหลัก ตัวก็ล้มลงไปทาบทับบนร่างเขาในทันที

 

วงแขนอันแข็งแรงทั้งสองข้างของเขาโอบกอดเรือนร่างอรชรที่อยู่บนหน้าอกหนาของเขาแน่น จนเนื้ออกอวบของฉันเบียดบี้เข้ากับแผงอกที่กำยำของเขา

 

“หึหึ...เฮียบอกแล้วไงคะ...ตรงไหนก็ได้...เฮีย...ไม่...ติด...” เขาเอ่ยกระซิบบอกด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ อีกทั้งยังหัวเราะเยาะใส่ฉันในลำคอ ก่อนที่จะเน้นไปยังประโยคหลังจนฉันรู้สึกเสียววูบวาบไปทั่วร่างกาย

 

และก่อนที่สติของฉันจะเตลิดเปิดเปิงไปมากกว่านี้...

 

“ปล่อยนะเฮียปล่อยเอลิซเดี๋ยวนี้นะ...” ฉันดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ในอ้อมแขนของเขา แต่ถึงแม้จะออกแรงดิ้นขนาดไหนก็ดูเหมือนจะเสียงพลังงานไปเปล่า เนื่องจากวงแขนที่แข็งแกร่งของเขากลับไม่ขยับเขยื้อนเลยสักนิด

 

“ไม่ปล่อย...ก็ใครกันล่ะที่มายั่วเฮียก่อน...หื้อ” ฉันถึงกับนิ่งจำนนต่อหลักฐาน เพราะทุกอย่างก็จริงดั่งที่เขาพูดทั้งหมด ถ้าไม่เป็นเพราะว่าฉันที่อยากจะแกล้งเขาฉันคงไม่ต้องมานอนหนักใจบนตัวเขาแบบนี้ และเมื่อถูกเขาจับไต๋ได้ ตอนนี้ก็เลยกลับกลายเป็นว่าฉันโดนย้อนศรเสียเอง

 

“ปล่อยเอลิซเดี๋ยวนี้นะ...เฮียอ่ะขี้ตู่...เอลิซไม่ได้ยั่วสักหน่อย” ฉันที่ยังไม่ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองทำ ยังคงดื้อแพ่งเถียงข้าง ๆ คู ๆ ใส่เขา

 

“ไม่!!” เขาปฏิเสธทันควัน

 

“ทำไมคะ??” ฉันเอ่ยถามเขาทันที พร้อมกับเริ่มไม่สบอารมณ์

 

“ก็เพราะว่า...ตอนนี้ไอ้ลูกชายของเฮียมันผงกหัวเรียกร้องอยากจะทักทายแม่ของมันอีกแล้วน่ะสิ” คำตอบของเขาถึงกับทำให้ใบหน้านวลเนียนของฉันเห่อร้อนขึ้นมาทันที และเมื่อสายตาที่เหลือบมองไปต่ำลงไปยังจุดที่เขาบอก ก็พบว่าไอ้เจ้าลูกชายตัวเขื่องของเขากำลังดุลดันกางเกงจนโป่งพองแทบจะทะลุขาดออกมาอยู่แล้วอย่างที่เขาบอกจริง ๆ

 

ฉ่าาา ~~ (>///<)

 

ใบหน้าสวยแดงแปร๊ดขึ้นมาทันที พร้อมกับหัวที่สายดุ๊กดิ๊กไปมา เนื่องจากตัวเองก็ไม่ไหวที่จะรับตัวตนเขาเข้ามาแล้วอีกแล้วในตอนนี้ (ก็แค่อยากยั่วเล่น ๆ ใครมันจะไปคิดว่าจะจุดติดง่ายขนาดนี้ล่ะค่ะ...อร๊ายยย (>.,<) )

 

เพี้ยะ ~~

 

เรียวบางมือฟาดไปที่ต้นแขนของเขาด้วยความเขินอาย

 

“เฮียทำไมขี้หื่นอย่างนี้ล่ะคะ” ฉันกระเง้ากระงอดใส่เขาทันที

 

“ก็หื่นแค่กับเมียเท่านั้นแหละค่ะ” เขาเอ่ยคำพูดหวานกระซิบกระซาบที่ข้างหู

 

ความอายที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง ยิ่งพอได้ฟังคำหวานจากเขาก็ยิ่งทำให้ฉันไปไม่เป็น

 

“พอเถอะค่ะ...เอลิซไม่ไหวแล้วนะ” ฉันร้องบอกกับเขาด้วยท่าทีที่อ่อนลง

 

“แต่เฮียก็ไม่ไหวเหมือนกันน๊าาา...ใจคอจะไม่คิดสงสารผัวบ้างเหรอจ๊ะเมียจ๋า...หื้มมม” เขาทำท่าทางออดอ้อนพร้อมกับทำหน้าตาน่ารักส่งมาให้ จนฉันเริ่มใจอ่อน

 

“ตะ...ตะ...แต่ว่าตรงนี้มัน...อะ...เอ่อ...เอลิซกลัวคนจะมาเห็นค่ะ” ฉันก้มหน้างุดบอกเขาไปด้วยความรู้สึกกระดากใจ

 

“หึหึ...ไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ เฮียบอกแล้วไงว่าเฮียไล่พวกมันไปหมดแล้ว” เขารีบตอบกลับฉันทันทีอย่างคนมีความหวังจะได้เสพสุข

 

“แต่ว่า...” ฉันที่ยังลังเล

 

“นะ...นะ...น๊ะ...น้าาาา...ช่วยเฮียหน่อยน้าาาา ตอนนี้เฮียปวดหนึบไปหมดแล้วเนี้ย มันทรมานมากเลยรู้ไหม” เขาที่ยังมีฉันอยู่บนร่างอันกำยำของเขาเอ่ยปากขอร้อง พร้อมกับทำท่าทางน่าสงสาร

 

“แต่ว่า...เอลิซไม่ไหวแล้วจริง ๆ นะเฮีย เมื่อเช้าก็เกือบทั้งเช้า ไหนจะเมื่อคืนนี้อีก” ฉันพูดสาธยายวีรกรรมของเขาอย่างเหลืออด โดยในขณะที่พูดไปใบหน้าของฉันก็แดงระเรื่อขึ้นมาเรื่อย ๆ เมื่อนึกไปถึงกิจกามที่ผ่านกันมา

 

และแม้ว่าสิ่งที่ฉันพยายามพูดพยายามอธิบายออกไป จะทำให้ฉันจะรู้สึกกระดากปาก แต่ทว่า...ทุกอย่างที่ฉันพูดก็คือเรื่องจริง ฉันที่ในเวลานี้ไม่พร้อมที่จะตอบรับเพลิงสวาทที่กำลังคุกรุ่นของเขาได้แล้ว นั่นก็เพราะว่าขาของฉันมันยืนแทบไม่ไหวอยู่แล้ว

 

เขาที่เหมือนกับรู้ถึงสิ่งที่ฉันกำลังกังวลอยู่ในใจ ถึงกับรีบเอ่ยปากเสนอหนทางให้ฉันได้เลือกในทันที

 

“มันก็ไม่ได้มีแค่ตรงนั้นที่ช่วยเฮียได้นี่น่า” เขาใช้น้ำเสียงอย่างคนมีเลศนัย อีกทั้งดวงตาสีเทาเข้มยังดูกรุ้มกริ่มผิดปกติ

 

เอ๋.... ~~

 

ใบหน้าสวยทำท่าทางครุ่นคิดไปกับคำพูดของเขา เพราะยังไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อถึง

 

“เฮียหมายความว่ายังไงคะ เอลิซไม่เข้าใจ??” ฉันมองเขาตาแป๋วก่อนจะถามออกไปด้วยความใสซื่อ

 

“ก็...ตรงนี้ก็ทำได้...ตรงนี้ก็ทำได้...” ใบหน้าคมฉายความเจ้าเล่ห์ออกมาอย่างปิดไม่มิด ก่อนที่เขาจะใช้นิ้วมือมาแตะสัมผัสเบา ๆ ที่ริมฝีปากของฉัน พร้อมกับจับมือของฉันขึ้นมาจุมพิตเป็นสัญญาณ

 

การกระทำที่เป็นเหมือนกับการบอกเป็นนัย ๆ ว่าสิ่งที่จะช่วยเขาได้นั้นมีหลายอย่าง...

 

เมื่อความสงสัยของฉันถูกรถแห่งความเจ้าเล่ห์ของเขาขับไปส่งถึงบางอ้อ...ใบหน้าหวานก็ร้อนฉ่าขึ้นมาทันที...หึหึ...เขานี่มันปีศาจบ้ากามตัวพ่อชัด ๆ

 

ฉันส่ายหัวเบา ๆ ให้กับความเจ้าเล่ห์ที่เหลือล้นของเขา ก่อนที่ตัวเองไม่อาจจะปฏิเสธความต้องการของเขาได้อีกแล้ว และยังพร้อมยินดีที่จะปรนเปรอในสิ่งที่เขาต้องการ

 

เมื่อทุกคำถามถูกทำให้กระจ่างแจ้งแจ่มชัดเจนแล้ว ฉันก็ได้ใช้มือของตัวเองค่อย ๆ เลื้อยลากลงไปใต้กางเกงของเขา เข้าไปกอบกุมเจ้าลำเอ็นท่อนยักษ์ที่แข็งชูชันสู้มือนิ่มอยู่ก่อนแล้ว

 

เมื่อมือเรียวเข้ากระชับพื้นที่จับลำเอ็นได้ถนัดมือ ฉันก็ออกแรงสาวขยับหนังห่อหุ้มนุ่มหยุ่นที่ห่อรอบเอ็นลำแข็งด้วยจังหวะขึ้นลงอย่างชำนาญ จนน้ำเหนียวสีใสค่อย ๆ ทยอยหลั่งไหลออกมาจากปลายปากกระบอก

 

“อ๊ะ...อืมมมม...อย่างนั้นแหละ ดีมากเลยจ้าทูนหัว...” เขาเอ่ยชมในขณะดวงตาสีเทาเข้มหลับพริ้มรับความกระสัน ส่วนปากก็ทำหน้าที่ครางกระเส่าเพื่อบรรเทาความเสียวจากรสสัมผัสที่ได้จากมือนุ่มนิ่ม

 

การแสดงออกด้วยความพึงพอใจของเขา ทำให้ฉันถึงกับยกยิ้มขึ้นมาด้วยความภูมิใจ ก่อนที่ไฟแห่งความฮึกเหิมจะเดินเกมนำพา ให้ตัวฉันขยับขึ้นไปใช้ริมฝีปากขบเข้าที่ติ่งหูของเขาพร้อมกับเป่าลมร้อนใส่

 

จากนั้นฉันก็ค่อย ๆ ไล่ริมฝีปากร้อน ละเลียดชิมลงมาตามลำคอแข็งที่ตอนนี้ยืดยกแอ่นหนาเชิดขึ้นเพื่อระบายความเสียวที่แล่นไปทั่วร่าง

 

“อ้าาาา...เสียวมากเลยจ้ะทูนหัวของผัว...อื้มมมมม...” เขาเอ่ยปากชมฉันไม่หยุด และคำชมของเขาก็เปรียบเสมือนของกำนัลที่ทำให้ฉันรู้สึกดี

 

ฉันไม่รอช้าเพราะรู้ดีว่าเจ้าท่อนเอ็นที่ตอนนี้พองตัวจนแทบจะกำมันเอาไว้ไม่มิด คงอยากจะพ่นพิษออกมาเพื่อระบายความรู้สึกอึดอัดจนปวดหนึบ ฉันออกแรงสาวมือที่กำลังกอบกุมแท่งหรรษาด้วยความแรงและเร็วมากยิ่งขึ้น

 

พั่บบบๆๆ แจ๊ะๆๆๆ อ่าาาๆๆ อืมมมๆๆๆ

 

เสียงมือที่สาวแท่งหรรษากระแทกกระทบเข้ากับโคนลำเอ็นบวกน้ำเสียวที่หลั่งไหลออกมาเปรอะเปื้อนจนเต็มมือเล็ก ดังคละคลุ้งประสานเข้ากับเสียงครวญครางของคนร่างโตที่นอนบิดเร่าเกร็งรับความกระสันที่ใกล้จะถึงจุดไคลแม็กซ์เต็มที

กระทั่งมือนุ่มรับรู้ได้ถึงแรงตอดตุบ ๆ ที่มาจากเส้นเอ็นที่อยู่บริเวณรอบ ๆ แท่งหรรษา ทำให้ใบหน้าหวานที่กำลังดื่มด่ำกับลำคอพร้อมกับทำรอยคิสมาร์กอยู่นั้น รีบผละออกจากตรงนั้นทันที แล้วย้ายริมฝีปากอวบอิ่มให้ลงไปหาท่อนเอ็นลำแข็งเพื่อดูดซับของโปรดที่กำลังจะหลั่งไหลออกมาในอีกไม่ช้า...