บทที่ 69 จุดอ่อนของเซบาสเธีย
หมับ!!!
“คุณไม่ได้โดนทำร้ายมาแน่นะครับ” ผมเอื้อมมือไปจับแขนเธอ พร้อมกับโพล่งถามออกไป และเมื่อเธอหันกลับมาด้วยความตกใจ ก็กลับกลายเป็นผมที่ตกใจยิ่งกว่า เมื่อเราสองคนได้สบตากัน
*O*
นี่มันรักแรกเห็นของผมนี่น่า พรหมลิขิตชัดๆ ผมได้เจอเธออีกแล้ว เสี้ยววินาทีนั้นผมดีใจเป็นอย่างมาก เมื่อได้พินิจพิจารณาเธอใกล้ๆ เธอสวยน่ารักยิ่งกว่าที่ผมเห็นในคืนนั้นเสียอีก ผิวขาวเนียนอมชมพู จมูกโด่ง ริมฝีปากอวบอิ่มรับกับหน้าเรียวสวยได้รูป ยิ่งดวงตากลมโตสุกใสคู่นั้นเมื่อใครลองได้เผลอตัวมองก็เหมือนดั่งต้องมนต์สะกด แต่เสียดายที่ในวันนี้รอบดวงตาสวยคู่นั้นดูบวมช้ำจนเห็นได้ชัด น่าจะเกิดจากการร้องไห้มาอย่างหนัก และนั่นมันก็ยิ่งทำให้ผมสงสัย
ในขณะที่ผมกำลังตกอยู่ในภวังค์ความงามราวกับเสกสร้างของเธออยู่นั้น อารมณ์ที่กำลังเคลิบเคลิ้มไปกับความงามก็ต้องหยุดชะงักลงทันที นั่นก็เพราะว่าเธอสลัดแขนผมเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากพันธนาการแล้วรีบวิ่งออกไปจากร้านขายยาจอมปลอมแห่งนี้
กว่าที่ผมจะทันได้ตั้งสติแล้ววิ่งตามเธอออกไป ก็พบว่าเธอได้หายไปแล้ว...
ผมเดินกลับเข้ามาด้วยความเสียดาย อุตส่าห์ได้เจอเธอแล้ว แต่ดันมาคลาดกันได้ซะนี่ ในขณะที่ผมกำลังทอดถอนใจด้วยความเสียดาย ที่ได้เจอกันอีกครั้งแต่ยังไม่ได้พูดคุยหรือทำความรู้จักกันเลย ผมก็นึกอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง...
เอ๊ะ!! เธอมาซื้อยาคุมฉุกเฉิน ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่า...
ดวงตาผมเบิกกว้างทันทีเมื่อนึกถึงเหตุผลที่เธอมาซื้อยาคุมฉุกเฉิน ความคิดผมดำดิ่งลงไปเมื่อเรื่องราวภาพความทรงจำเข้ามาปะติดปะต่อจนครบ คืนวันนั้นเธอออกไปกับเขาเซบาสเธีย แล้วเธอมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ในวันนี้ ในอาณาเขตบริเวณเพนท์เฮ้าส์ของเขา อีกทั้งที่เธอมาร้านขายยาในครั้งนี้ก็เพื่อมาซื้อยาคุมกำเนิด ในฐานะหมอมันไม่สามารถแปลความหมายเป็นอย่างอื่นได้เลยนอกจาก เธอกับเขาคนนั้นเป็นของกันและกันแล้ว
ผมยืนอึ้งให้กับความคิดของตัวเองที่ประมวลผลออกมา ข้อมูลเหล่านั้นยิ่งตอกย้ำความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขา และความเป็นไปได้ของโอกาสที่ผมอยากจะสานความสัมพันธ์กับเธอคำตอบก็คือ’ ศูนย์’
ผมทิ้งตัวลงนั่งกับเก้าอี้ด้วยสภาพสิ้นหวัง ความสิ้นหวังที่เกิดขึ้นตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม ผมนั่งทอดกายหลับตาอยู่สักพัก ก่อนจะนึกขึ้นได้ถึงคำพูดของแม่ ว่าถึงแม้เราจะไม่ได้ครอบครอง แต่เรายังสามารถช่วยเหลือและปรารถนาดีกับเขาได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นผมก็ลุกขึ้นแล้วจัดการเรียกสติตัวเองให้กลับมาอีกรอบ เพราะผมนึกถึงดวงตาเธอที่ดูช้ำจากการร้องไห้ ถ้าเธอถูกทำร้ายมา หรือถ้าเธอไม่เต็มใจล่ะ เขาอาจจะขืนใจเธอก็ได้ เผื่อเธออาจจะกลับมาขอความช่วยเหลือจากผมอีกครั้ง เพราะฉะนั้นผมจะอยู่รอเธอที่นี่ ถ้าหากว่าเธอมีอะไรให้ผมช่วย ผมจะได้ช่วยเหลือได้ทัน
วันเวลาผ่านไป ~~
สิ่งที่ผมคาดหวังและรอคอย ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย หลายวันผ่านมาแล้ว แต่ก็ไร้ซึ่งวี่แววของเธอ เธอไม่กลับมาที่ร้านขายยานี่อีก ประจวบกับมีคำสั่งจากท่านผู้นำ (ผมมักจะเรียกพ่อผมแบบนั้น) ให้จัดการเคลียร์ร้านนี้ทิ้งซะ ผมจึงเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องทำตามคำสั่ง ทั้งที่ใจก็นึกเสียดายที่จะไม่ได้เจอเธออีกและยังมีความหวังเล็กๆ เผื่อเธอจะกลับมาอีก แต่ก็ไม่อาจขัดคำสั่งได้ ซึ่งผมก็รู้สึกแปลกใจอยู่บ้างว่าทำไมท่านผู้นำถึงเลิกล้มภารกิจในการแฝงกายหาข้อมูลของผมในครั้งนี้ หรือว่าเขาได้ข้อมูลที่เขาต้องการไปแล้ว
เมื่อร้านขายยาจอมปลอมแห่งนี้ถูกรื้อทิ้งจนหมดแล้ว ผมก็ได้รู้ข้อมูลเพิ่มเติมมาว่า ตั้งแต่ที่เธอถูกอุ้มออกมาจากผับในคืนนั้น เธอก็อาศัยอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์ของเซบาสเธียมาโดยตลอด และนอกจากวันที่เธอออกมาที่ร้านขายยาในครั้งนั้น เธอก็ไม่เคยได้ออกไปไหนอีกเลย
ผมจ้างนักสืบให้คอยจับตาดูเธอเอาไว้เป็นการส่วนตัว ส่วนหนึ่งผมไม่อยากยุ่งกับท่านผู้นำเลยไม่ได้ใช้คนของเขาและผมรู้ดีว่าถ้าผมรู้ข้อมูลขนาดนี้เขาก็ต้องรู้มากกว่าผมแน่นอน และตอนนี้เขาก็น่าจะให้ลูกน้องมาคอยสังเกตการณ์เอาไว้แล้ว
ถ้าสิ่งที่ผมคาดการณ์ไว้ไม่มีอะไรผิดพลาด จุดอ่อนของเซบาสเธียก็คือ ‘เอลิซ’ (ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมผมถึงรู้ชื่อเธอ ผมนำภาพจากกล้องวงจรปิดในร้านขายยาไปให้นักสืบหาข้อมูลได้มาหมดแล้ว) เพราะจากที่ผมหาข้อมูลจากคนในคอนโดที่ตั้งของเพนท์เฮ้าส์ของเซบาสเธีย ไม่มีใครปริปากพูดอะไรเลย ผมไม่ได้ข้อมูลจากที่นั่นเลย..หึ สมกับเป็นเซบาสเธียจริงๆ ปกปิดได้เงียบเชียบ ข้อมูลไม่มีหลุดแพร่งพรายเลยสักนิด
และอีกส่วนหนึ่ง ผมคิดว่าท่านผู้นำก็น่าจะรู้จุดอ่อนของเซบาสเธียจุดนี้อยู่เหมือนกัน ดังนั้นถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ผมอาจจะสามารถช่วยเหลือเธอได้อย่างทันท่วงที
หลายอาทิตย์ผ่านไป ~~
ผมยังคงรอข้อมูลและความเคลื่อนไหวของเธอจากนักสืบที่ผมให้ไปคอยเฝ้าสังเกตการณ์ ณ บริเวณคอนโดที่ตั้งของเพนท์เฮ้าส์ และแล้ววันนี้ก็มาถึง วันที่นักสืบที่ผมให้ไปคอยเฝ้าจับตาดูความเคลื่อนไหวของเอลิซก็ได้โทรมารายงานว่าเธอได้ออกมาจากเพนท์เฮ้าแล้ว โดยออกมาพร้อมกับเซบาสเธีย ผมสั่งให้นักสืบตามต่อ แล้วคอยรายงานผมเป็นระยะๆ
ผมรีบเคลียร์งานที่โรงพยาบาลให้เสร็จเพื่อเตรียมตัวจะไปคอยดักเพื่อพบเธอ ซึ่งระหว่างนี้นักสืบก็ทั้งรายงาน ทั้งถ่ายรูปมาให้ดูเป็นระยะๆ จนกระทั่งเซบาสเธียพาเธอไปที่บริษัทยักษ์ใหญ่ของเขา และที่นั่นก็นักสืบก็ไม่สามารถหาข้อมูลอะไรได้เลย
นักสือรอจนกระทั่งเห็นเซบาสเธียพาเธอออกมา นักสืบแฝงตัวปะปนเข้าไปกับพนักงานที่อยู่บริเวณหน้าบริษัท เพื่อให้ใกล้กับเขามากที่สุดเพื่อจะที่เก็บข้อมูล มันเลยทำให้ผมรู้ว่าเอลิซมีความสำคัญต่อเซบาสเธียมากขนาดไหน ถึงขนาดแสดงความหึงหวงออกนอกหน้าโดยไม่แคร์สายตาพนักงานนับร้อยคู่ที่จับจ้องมาที่เขาสองคน และแน่นอนว่าข้อมูลนี้ท่านผู้นำก็ต้องรู้แล้วเช่นกัน
และถ้าเขาจะจัดการเซบาสเธียโดยการเล่นจุดอ่อนของเขา ถ้าอย่างนั้นเป้าหมายก็ต้องพุ่งไปที่เธอ...
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 25
แสดงความคิดเห็น