ตอนที่ 947 กุนซือเซี่ยเฟย
ตอนที่ 947 กุนซือเซี่ยเฟย
“ไม่ว่าสถานการณ์ด้านนอกจะเป็นยังไง แต่สกายวิงจะเป็นผู้ควบคุมชะตากรรมของตนเอง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นสารานุกรมดาร์คไนท์ต้องมาอยู่ในมือของเรา ส่วนความตายของคนอื่นมันไม่เคยอยู่ในความคิดของผมเลย” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์
คำพูดของเซี่ยเฟยทำให้เซี่ยเค่อกับเซี่ยเหลียนหนิงเบิกตากว้างขึ้นมาด้วยความตกใจ
“แม้จะมีลมพายุพัดโหมกระหน่ำแต่พวกเราก็จะต้องยืนหยัดอย่างมั่นคง ตอนนี้ทั่วทั้งดินแดนกฎกำลังวุ่นวาย แต่ตราบใดก็ตามที่เราสามารถยืนหยัดด้วยตัวเราเองได้ มันก็ไม่มีใครสามารถเข้ามาคุกคามพวกเราได้ทั้งนั้น”
“เป้าหมายของเราในคราวนี้มีเพียงการนำสารานุกรมดาร์คไนท์กลับไป เราจึงไม่จำเป็นจะต้องกังวลว่าคู่ต่อสู้ของเราจะเป็นใครหรือเบื้องหลังของพวกเขาจะมีความซับซ้อนมากแค่ไหน จะอะไรก็ตามที่กล้ามาขวางทางเรา เราก็แค่ต้องฆ่าพวกมันให้หมด” เซี่ยเฟยประกาศอย่างเด็ดเดี่ยว
การเคลื่อนไหวของฮันนิซีเป็นสิ่งที่ยากจะคาดเดาได้จริง ๆ การเคลื่อนไหวของกองทัพดาร์คไนท์ก็ถือว่ามันเป็นสิ่งที่น่าตกตะลึง อย่างไรก็ตามเรื่องพวกนี้มันก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับสกายวิง ภารกิจของพวกเขาในปัจจุบันคือการนำสารานุกรมดาร์คไนท์กลับไปให้ได้ ไม่ว่าคนนอกจะต้องบาดเจ็บล้มตายไปกี่คนก็ตาม
“เอาล่ะนายพูดถูกแล้ว พวกเราคิดมากเกินไปและมองข้ามแก่นแท้ของปัญหาไปจริง ๆ ตอนนี้พวกเราควรจะทำยังไง นายสั่งการมาได้เลย” เซี่ยเค่อกล่าวหลังจากที่เขาหันไปสบตากับเซี่ยเหลียนหนิง
“ตามการคำนวณของผมกองทัพดาร์คไนท์น่าจะเดินทางมาถึงในช่วงเริ่มต้นการประมูลพอดี แต่พวกเขาคงจะไม่จู่โจมในตอนนั้นเลย เพราะมันจำเป็นจะต้องใช้เวลามากพอสมควรในการจัดเตรียมกลยุทธ์เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับศึกครั้งใหญ่”
“กองกำลังของดาร์คไนท์มีความซับซ้อนน้อยกว่ากองกำลังของพวกเรามาก การเคลื่อนทัพของพวกเขาน่าจะใช้เวลาประมาณ 1 นาที 30 วินาทีถึง 1 นาที 45 วินาที จากนั้นสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์จะเริ่มเคลื่อนไหวติดตามพวกเขามาอย่างใกล้ชิด”
“คราวนี้พวกมันนำสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์มาในกองทัพด้วยถึง 12 ตัว ถ้าหากพวกมันเคลื่อนไหวพร้อม ๆ กัน พวกมันจะมาถึงสนามรบในเวลาประมาณ 15 นาที 20 วินาที”
“ในเวลาเดียวกันกับที่พวกดาร์คไนท์ปรากฏตัว สายลับของตระกูลต่าง ๆ ย่อมสังเกตเห็นถึงความผิดปกติได้อย่างรวดเร็วและรีบรายงานข่าวไปยังต้นทางของตัวเอง กระบวนการนี้ควรจะเสร็จสิ้นภายใน 30 วินาทีขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของสถานการณ์”
“สถานการณ์นี้ผมคิดว่ามีโอกาสเป็นไปได้ 3 กรณี กรณีแรกถ้าหากฮันนิซีวางแผนที่จะจัดการกับทุกคนที่เข้าร่วมการประมูล เธอก็ควรที่จะเดินทางจากไปก่อนที่พวกดาร์คไนท์จะเข้าสู่สนามรบ จากนั้นเธอจะทำการกางเขตอาคมปิดกั้นพื้นที่บริเวณนี้ทั้งหมดเพื่อไม่ให้ใครหนีรอดไปได้”
“กรณีที่ 2…”
ยิ่งเซี่ยเฟยอธิบายแผนการออกมามากเท่าไหร่ ปากของผู้อาวุโสทั้งสองก็ยิ่งอ้ากว้างมากขึ้นไปเท่านั้น เพราะเซี่ยเฟยคำนวณแผนการทุกอย่างจนถึงหลักวินาที ทั้ง ๆ ที่สถานการณ์ในครั้งนี้มีความเกี่ยวข้องกับนักรบจำนวนหลายล้านคน
“โดยสรุปก็คือพวกเราจำเป็นจะต้องใช้ราชันย์ 5 คนที่มีความเร็ว 1 ล้านเมตรต่อวินาทีขึ้นไป เพื่อทำงานร่วมกันกับผมในการขโมยสารานุกรมดาร์คไนท์กลับมา” เซี่ยเฟยกล่าวสรุป
เซี่ยเค่อกับเซี่ยเหลียนหนิงต่างก็พยายามปิดปากของตัวเอง โดยดวงตาของพวกเขายังคงจ้องมองไปยังเซี่ยเฟยอย่างเหม่อลอย
“พวกคุณมีคำถามอะไรไหม?” เซี่ยเฟยถามหลังจากที่ได้เห็นสายตาอันว่างเปล่าของชายชราทั้งสอง
“ไม่... ไม่มี” สองชายชราต่างก็รีบโบกมืออย่างรวดเร็ว
“โอเคครับ ถ้าอย่างนั้นก็ดำเนินตามแผนการที่ผมชี้แจงเอาไว้ได้เลย คราวนี้พวกเราจะไม่ปล่อยให้สารานุกรมดาร์คไนท์ไปตกอยู่ในมือของคนอื่นเป็นอันขาด” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างหนักแน่น ก่อนที่เขาจะตัดการสื่อสารไป
“เซี่ยเฟยเป็นกุนซือที่ดีที่สุดในตระกูลของเราชัด ๆ เขาคิดแผนการที่น่ากลัวแบบนี้ขึ้นมาได้ยังไง?” เซี่ยเค่อกล่าวพร้อมกับกลืนน้ำลายลงไปอึกใหญ่
“เขาไม่ใช่กุนซือ เขามันเป็นสัตว์ประหลาดชัด ๆ!!” เซี่ยเหลียนหนิงส่ายหัวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
—
กาลเวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งในตอนนี้ใกล้จะเป็นเวลาเริ่มต้นของการประมูลแล้ว สมาชิกของงานประมูลส่วนใหญ่ภายในดินแดนกฎต่างก็มารวมตัวกันหน้าสถานที่จัดงาน โดยมันไม่มีใครทันเอะใจเลยว่าพวกเขากำลังตกอยู่ในอันตราย
“โชคดีจริง ๆ ที่ไม่มีคนจากตระกูลฉันมาเข้าร่วม ไม่อย่างนั้นฉันก็คงจะกังวลมากกว่านี้” โอโร่กล่าว
ขณะนี้พวกเขากำลังยืนอยู่ในมุมห้องไม่ไกลจากสถานที่จัดงานประมูลมากนักและเฝ้ามองดูฝูงชนอย่างระมัดระวัง
“ตระกูลของคุณคือตระกูลชั้นยอดภายในเผ่ามารที่มีความสามารถมากพอจะประมูลสารานุกรมดาร์คไนท์กลับไปได้ไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมมันถึงไม่มีใครมาเข้าร่วมการประมูลเลย” เซี่ยเฟยถาม
“พวกเราเป็นเผ่าพันธุ์ที่ไม่เชื่อข่าวลือ ดังนั้นถ้าหากว่ามันไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ว่าสารานุกรมดาร์คไนท์เป็นสิ่งที่มีค่าจริง ๆ บันทึกเล่มนั้นมันก็ไม่ได้มีค่าอะไรสำหรับพวกเราเลย” โอโร่กล่าวพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ
เซี่ยเฟยยักไหล่โดยไม่พูดอะไร เพราะในบรรดาเผ่าพันธุ์มากมายในจักรวาล เผ่าพันธุ์มนุษย์ถือได้ว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่เต็มไปด้วยจินตนาการ ซึ่งแม้แต่ตัวของเขาเองก็ยังชื่นชอบสิ่งอื่น ๆ ที่เขาไม่รู้จักด้วยเช่นกัน
“ฮันนิซีเริ่มเคลื่อนไหวออกจากห้องนอนเข้าไปในลิฟต์แล้ว” เซี่ยเกิงกระซิบรายงานขึ้นมาเบา ๆ
“สารานุกรมอยู่ไหน? คุณหามันพบแล้วหรือยัง?” เซี่ยเฟยถามกลับ
“ฉันยังไม่เห็นสัญญาณของสารานุกรมเลย มีแนวโน้มสูงมากที่มันอาจจะอยู่ภายในแหวนของฮันนิซี บางทีเธออาจจะกำลังนำสารานุกรมมาที่งานประมูลก็ได้” เซี่ยเกิงกล่าว
“บางทีสิ่งที่ผมคิดมันอาจจะไม่ผิดไปจากความเป็นจริงมากนักสินะ” เซี่ยเฟยกัดฟันกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
แม้ในช่วงเวลาปกติชายหนุ่มจะเป็นคนที่มีนิสัยสบาย ๆ แต่เมื่อไหร่ที่เขาเริ่มจริงจังแรงกดดันที่เขาปล่อยออกมามันก็มากพอที่จะทำให้ผู้คนบริเวณโดยรอบแทบที่จะหายใจไม่ออก
“อืม” เซี่ยเกิงรีบพยักหน้ารับตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว เพราะถึงแม้ว่าเขาจะมีอายุมากกว่าเซี่ยเฟยและเป็นนักค้นหาอันดับ 1 ของตระกูล แต่แรงกดดันที่เซี่ยเฟยปลดปล่อยออกมามันก็ทำให้แม้แต่ตัวเขาก็รู้สึกเหมือนหัวใจโดนบีบรัดแน่น
“เดี๋ยวก่อนนะ พวกเขาไม่ได้มุ่งหน้ามาที่งานประมูลชั้น 3 แต่กำลังตรงไปที่ประตูมิติบนชั้น 51” เซี่ยเกิงรีบรายงานทันทีเมื่อเจ้าหน้าที่รอบ ๆ ตัวฮันนิซีกดปุ่มบนลิฟต์
“เซี่ยกวงไห่ ตัวลิฟต์จะใช้เวลาเดินทางจากชั้น 999 มาชั้น 5 ใน 3 นาที 17 วินาที คุณต้องเข้าไปภายในห้องควบคุมลิฟต์หมายเลข 334 เปิดกล่องควบคุมหมายเลข 979 ออกและตัดสายไฟเส้นสีเหลืองภายใน 1 นาที อย่าปล่อยให้ลิฟต์ไปถึงเป้าหมายเป็นอันขาด”
“เซี่ยเย่จื่อ คุณจะต้องจุดระเบิดภายใน 2 นาที 15 วินาที แล้วคุณมีเวลาหลบหนีแค่ 70 วินาทีเท่านั้น”
เซี่ยเฟยเริ่มออกคำสั่งแต่ละคนอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่เพียงแต่เขาจะมอบหมายงานให้กับแต่ละคนเท่านั้น แต่เขายังทำการสั่งการอย่างละเอียดกับทุก ๆ คนอีกด้วย
ชายหนุ่มดูพิมพ์เขียวของโรงแรมจันทร์สว่างเพียงแค่ครั้งเดียว แต่เขากลับสามารถจดจำรายละเอียดได้ทั้งหมด ซึ่งความสามารถของเขาก็ไม่เพียงแต่จะทำให้เซี่ยเกิง, เซี่ยกวงไห่และโอโร่รู้สึกตกตะลึงเท่านั้น แม้แต่เซี่ยเย่จื่อและคนอื่น ๆ ที่พึ่งมีโอกาสได้เข้าร่วมภารกิจกับเซี่ยเฟยเป็นครั้งแรกก็กำลังรู้สึกตกตะลึงอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน
คลื่น…
“เกิดอะไรขึ้น? มันเป็นฝีมือของศัตรูหรือเปล่า?” ฮันนิซีกล่าวถามพร้อมกับขมวดคิ้ว เมื่อลิฟต์ที่เธอโดยสารหยุดชะงักลงอย่างกะทันหัน
“ระบบตรวจสอบพบว่ามันเป็นความผิดพลาดของระบบครับไม่ใช่ฝีมือของศัตรู” หลังจากตรวจดูข้อมูลเจ้าหน้าที่ที่อยู่บริเวณใกล้ ๆ รีบรายงานอย่างรวดเร็ว
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ระดับสูงทุกชนิดต่างก็มีระบบตรวจสอบภายในเป็นของตัวเองอยู่แล้ว วิธีการที่เซี่ยเฟยอธิบายให้เซี่ยกวงไห่ลงมือทำไปนั้นคือการสร้างความขัดข้องให้กับระบบ มันจึงไม่หลงเหลือร่องรอยให้ระบบตรวจสอบตรวจจับความผิดปกติของการลงมือครั้งนี้ได้
ทันใดนั้นฮันนิซีก็ใช้พลังของกฎแห่งสสารเพื่อเปลี่ยนโครงสร้างของลิฟต์และก้าวเท้าออกมายังด้านนอก
“เซี่ยเย่จื่อ สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้คุณต้องจัดการทุกอย่างให้เสร็จภายใน 65 วินาที!” เซี่ยเฟยรีบสั่งการใหม่อีกครั้งหลังจากที่เซี่ยเกิงอัปเดตสถานการณ์ให้เขาทราบ
“ไม่ต้องห่วง ฉันขอแค่ 60 วินาทีก็พอ” เซี่ยเย่จื่อตอบกลับอย่างมั่นใจ
ตูม!
หลังจากที่เซี่ยเย่จื่อพูดจบเพียงแค่ไม่นาน มันก็มีเสียงระเบิดดังสนั่นพร้อมกับฝุ่นควันทรงเห็ดทะยานขึ้นไปบนฟากฟ้า
ระเบิดนี้คือระเบิดคลื่นมิติที่สามารถขัดขวางการเดินทางผ่านประตูมิติได้เป็นการชั่วคราว ประตูมิติของพื้นที่ในบริเวณนี้จึงถูกปิดผนึกเอาไว้โดยสมบูรณ์ และกว่าที่มันจะกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง พวกเขาก็ต้องรอคอยไม่น้อยไปกว่าครึ่งชั่วโมง
“นั่นมันเกิดอะไรขึ้น?!” ฮันนิซีกล่าวถามอย่างหงุดหงิดเมื่อมันมีเสียงวุ่นวายดังขึ้นมาจากนอกโรงแรม
“มีคนใช้ระเบิดคลื่นมิติครับ ตอนนี้เจ้าหน้าที่ของเรากำลังพยายามไล่ตามคนร้ายอยู่” เจ้าหน้าที่ที่อยู่ด้านหลังรายงานอย่างตื่นตระหนก
ฮันนิซีรีบหันกลับไปมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงบริเวณหัวมุม โดยชายคนนี้นั่นก็คือเงามืดที่มักจะพูดคุยกับฮันนิซีนั่นเอง ปัจจุบันชายหนุ่มกำลังเอนตัวพิงมุมลิฟต์อย่างสบายใจราวกับว่ามันไม่ได้มีความวุ่นวายอะไรเกิดขึ้น
“ฝีมือนายเหรอ?” ฮันนิซีตะโกนถามเสียงดัง
ชายหนุ่มส่ายหัวเป็นคำตอบ
“แล้วนี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น?!”
“ผมคิดว่ามันน่าจะมีคนกำลังจับตาดูคุณอยู่” ชายหนุ่มกล่าวอย่างเฉยเมย
“มันเป็นใครถึงกล้าเข้ามาหาเรื่องภายในเขตของฉันแบบนี้” ฮันนิซีตะโกนด้วยความโกรธจนเผยให้เห็นริ้วรอยทั่วทั้งใบหน้า
“แย่แล้วครับ ตอนนี้มีคนร้ายบุกเข้าไปภายในห้องนิรภัยของคุณ” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งอุทานขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ฮันนิซีชะงักค้างไปชั่วครู่หนึ่ง ก่อนที่สีหน้าของเธอจะดุร้ายมากขึ้นกว่าเดิม
ตอนแรกเธอคิดว่าคนร้ายมีเป้าหมายอยู่ที่สารานุกรมดาร์คไนท์ แต่แท้ที่จริงเป้าหมายของอีกฝ่ายกลับกลายเป็นห้องนิรภัยของเธอ
ภาพบนหน้าจอเผยให้เห็นร่าง 3 ร่างที่พุ่งตัวเข้าไปภายในห้องนิรภัยบริเวณใต้ดิน โดยคนทั้งสามเคลื่อนที่ได้รวดเร็วมาก และสามารถสังหารเจ้าหน้าที่หลายร้อยคนภายในห้องนิรภัยได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที จากนั้นพวกเขาก็ทำการปล้นสิ่งของจากห้องนิรภัยพร้อมกับหลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
“ฉันจะฆ่าแก!!” ฮันนิซีร้องคำรามด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร จากนั้นเธอก็ใช้กฎแห่งสสารแหวกกำแพงออกไปเพื่อไปไล่ล่าคนร้ายโดยตรง
“พวกผู้หญิงหน้าอกใหญ่นี่ไม่ค่อยมีสมองจริง ๆ” ชายหนุ่มปริศนาส่ายหัวพร้อมกับถอนหายใจเมื่อได้เห็นการเคลื่อนไหวที่หุนหันพลันแล่นของฮันนิซี
เจ้าหน้าที่ทั้งสี่ที่อยู่ใกล้ ๆ กำลังจะตั้งคำถามว่าทำไมเขาถึงพูดจาดูถูกฮันนิซีแบบนี้ แต่ทันใดนั้นน้ำใส ๆ ก็ไหลออกมาจากแขนเสื้อของชายหนุ่ม ก่อนที่จะมีหยดน้ำขนาดใหญ่ขังเจ้าหน้าที่ทั้งสี่เอาไว้ด้านใน
หลังจากนั้นชายหนุ่มปริศนาคนนี้ก็จากไปในทิศตรงกันข้ามกับฮันนิซี โดยไม่สนใจเจ้าหน้าที่ทั้งสี่ที่กำลังดิ้นทุรนทุรายอยู่ภายในหยดน้ำ
หากเซี่ยเฟยได้มาเห็นหยดน้ำเหล่านี้ เขาย่อมสามารถระบุได้ในทันทีเพราะมันคือหนึ่งในอาวุธมายา ‘วารีเคียดแค้น’
***************
เจออาวุธมายาอีกแล้วววววว
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 306
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น